ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 3013 เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว 3 / บทที่ 3014 ฉากแนบชิดแสดงไม่สำเร็จเสียแล้ว
- Home
- ลำนำบุปผาพิษ
- บทที่ 3013 เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว 3 / บทที่ 3014 ฉากแนบชิดแสดงไม่สำเร็จเสียแล้ว
บทที่ 3013 เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว 3
สตรีชุดขาวยิ้ม “ง่ายมาก เมื่อครู่ตอนเปิ่นจุนครอบงำร่างเจ้า ได้อ่านความทรงจำบางส่วนของเจ้า ทราบเรื่องทั้งหมดระหว่างเจ้ากับเขาแล้ว”
นางเพิ่มแรงบนมือที่กดหัวไหล่ของกู้ซีจิ่วอยู่แล้วเอ่ยว่า “ซีจิ่ว อย่าลืมสิ ข้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของเจ้านะ คิดจะสัมผัสความทรงจำเจ้าก็ง่ายดายนัก”
กู้ซีจิ่วไม่พูดอะไรแล้ว กอดอกมองเหตุการณ์ในภาพลวงตาต่อไป
มองเห็นตี้ฝูอีกับสตรีชุดเขียวนางนั้นเดินเข้าไปในเรือนหลังน้อยที่ตกแต่งอย่างประณีตวิจิตร เมื่อได้ยินตี้ฝูอีเอ่ยชมเชยการตกแต่งของเรือนหลังนี้ เธอก็เม้มริมฝีปากจิ้มลิ้มนิดๆ แล้ว
จิตมารชุดขาวมองกู้ซีจิ่วอย่างได้ใจแวบหนึ่ง “เจ้าเป็นร่างต้นแล้วอย่างไรเล่า? บนตัวเจ้าก็มีข้อบกพร่องมากมายเช่นกัน อย่างเช่นเจ้าออกแบบตกแต่งไม่เป็น มุมมองความงามย่ำแย่เหลือคณา ในจุดนี้เปิ่นจุนเหนือกว่าเจ้าเป็นร้อยเท่า!”
กู้ซีจิ่วสูดหายใจคราหนึ่ง เอ่ยถาม “ในเมื่อเจ้าเป็นจิตมารของเปิ่นจุน ว่ากันตามเหตุผลแล้วก็น่าจะมีข้อบกพร่องเช่นเดียวกับข้าสิ ทำไมเจ้าถึงเชี่ยวชาญในสิ่งที่ข้าไม่เชี่ยวชาญเล่า?”
จิตมารชุดขาวเอ่ยอย่างสบายอุรา “เปิ่นจุนกลืนกินดวงวิญญาณของผู้มีความสามารถเข้าไปมากมาย ในความทรงจำของดวงวิญญาณพวกเขาก็มีเรื่องเหล่านี้อยู่ ปิ่นจุนสามารถเรียนรู้ได้ง่ายดายยิ่ง เปิ่นจุนไม่เพียงแต่เป็นยอดฝีมือด้านการออกแบบตกแต่งเรือนเท่านั้น ยังเลิศล้ำด้านงานครัวด้วย อ่อใช่ ฝีมือการเย็บปักของเปิ่นจุนก็ไม่เลวเลย บุปผาที่ปักออกมาแทบจะได้กลิ่นหอมรวยรินแล้ว เจ้าเห็นชุดเจ้าสาวชุดนั้นไหม? เป็นผลงานที่เปิ่นจุนเย็บปักออกมาเองทีละเข็มเลย!”
นางมองดวงดาวที่ขึ้นโครงอย่างหยาบๆ ดวงนั้นที่อยู่บนเสื้อคลุมสีม่วงของตี้ฝูอีแวบหนึ่ง สีหน้าเดียดฉันท์ “นั่นคือสิ่งที่เจ้าปักรึ? น่าเกลียดจริงๆ!เจ้ามาเกิดใหม่แล้วไม่เพียงแต่มีวรยุทธ์ปวกเปียกเหมือนไก่อ่อนเท่านั้น ด้านที่ไร้ความสามารถก็ยังเป็นเช่นเดียวกับเมื่อหลายแสนปีก่อน เจ้าที่เป็นเช่นนี้ความจริงแล้วไม่คู่ควรแม้แต่จะถือรองเท้าให้เขาด้วยซ้ำ…เหตุใดเขาถึงแต่งเจ้ากันนะ?”
เห็นได้ชัดว่าสตรีชุดขาวชิงชังกู้ซีจิ่วอย่างสุดขีด พยายามเอ่ยเย้ยหยามเรื่องความสามารถอย่างถึงที่สุด แทบจะทำให้ตัวตนดั้งเดิมอย่างกู้ซีจิ่วไร้ค่าไปแล้ว
กู้ซีจิ่วกลับเงียบงันอยู่ตลอด สายตาจับอยู่ในภาพลวงตาตลอด แทบจะไม่ได้ยินถ้อยคำเย้ยหยามที่มีต่อเธอเลย
สตรีชุดขาวเพ่งพิศเธอแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็หัวเราะหยันคราหนึ่ง “เจ้าเปลี่ยนไปนะ!”
กู้ซีจิ่วตอบ ‘อืม’ คำหนึ่ง ยังคงไม่เอ่ยวาจาใด
ความสุขุมของนางทำให้สตรีชุดขาวเดือดดาลอย่างยิ่ง “เจ้าเปลี่ยนไปจนไม่เหลือความเป็นตัวเองแล้ว ราวกับขอนไม้!”
ในอดีตหากว่าเทพผู้สร้างโลกกู้ซีจิ่วประสบกับเรื่องราวเช่นนี้ไม่มีทางสุขุมเยือกเย็นเช่นนี้ได้แน่
กู้ซีจิ่วกล่าวอย่างเฉยชา “อย่าได้เห็นข้าเป็นนาง ต่อให้นางเคยเป็นอดีตของข้า นั่นก็เป็นแค่อดีตเท่านั้น!”
สตรีชุดขาวถูกตอกกลับจนนิ่งทื่อไป ร้องเฮอะคราหนึ่ง “ใช่แล้ว เจ้าในตอนนี้เทียบนางไม่ได้เลย! แต่ท่าทางน่ารังเกียจนี้กลับไม่แปรเปลี่ยนไปเลย!”
กู้ซีจิ่วตอบสั้น “ขอบใจสำหรับคำชม”
สตรีชุดขาวโมโหแทบตายแล้ว! ตนชมนางเสียที่ไหนกัน?!
ขณะที่นางคิดจะเอ่ยอะไรต่อ กู้ซีจิ่วก็ยกนิ้วจรดริมฝีปากแล้ว “ชู่ หุบปากเถอะ เจ้ารู้เรื่องราวมากมายขนาดนี้ เช่นนั้นเจ้ารู้ไหมว่าชมละครห้ามคุยกัน? ในเมื่อให้ข้าชมละครเช่นนั้นก็ให้ชมดีๆ หน่อยเถอะ เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว”
สตรีชุดขาวพูดไม่ออกเลย
สีหน้าของนางค่อยๆ เขียวคล้ำ!
ยามนี้สถานการณ์ในภาพลวงตาค่อนข้างร้อนแรงแล้ว
สตรีชุดเขียวนางนั้นคิดจะผลัดเปลี่ยนชุดเจ้าสาวต่อหน้าตี้ฝูอีเลย…
ถึงแม้กู้ซีจิ่วจะสุขุมเยือกเย็นยิ่งนักอยู่ตลอด แต่พอเห็นฉากนี้ ในใจก็ร้อนรนขึ้นมาบ้างแล้ว
ตี้ฝูอีคงไม่คิดจะมองอีกฝ่ายเปลี่ยนเสื้อผ้าจริงๆ กระมัง?!
ถึงแม้สตรีชุดเขียวนางนั้นจะรูปร่างหน้าตาเหมือนตัวเธอกู้ซีจิ่วทุกประการ แต่ถึงยังไงก็ไม่ใช่เธอนะ! เธอไม่อยากให้เขามองเรือนร่างของหญิงอื่น…
เธอก็หึงเป็นเหมือนกันนะ!
สตรีชุดขาวเห็นว่าในที่สุดเธอก็มีท่าทางร้อนรนบ้างแล้ว ยิ้มเยาะออกมา “ตอนนี้รู้จักร้อนรนแล้วหรือ? ประเดี๋ยวพวกเขาก็จะร่วมหอกันแล้วนะ! มิใช่ว่าเจ้าอยากชมละครหรอกหรือ? เช่นนั้นเจ้าก็มองสามีของเจ้ารักใคร่พะเน้าพะนอหญิงอื่นไปเสียเถิด!”
————————————————————————————-
บทที่ 3014 ฉากแนบชิดแสดงไม่สำเร็จเสียแล้ว
กู้ซีจิ่วเม้มปากแน่น ไม่เอ่ยวาจาสักประโยค ในใจได้ตัดสินใจไว้แล้ว หากว่าตี้ฝูอีมองเรือนร่างของสตรีชุดเขียวนางนั้นจริงๆ เช่นนั้นเธอก็หาทางล้างตาให้เขาเสีย
อย่างเช่นให้เขามองตนมากขึ้นหน่อย
หรือไม่ก็เต้นรูดเสาให้เขาดูสักรอบ หลังจากเขาเกิดความสนใจขึ้นมา ก็ห้ามไม่ให้เข้าใกล้เธอ…ให้เขาได้มองแต่ไม่ได้กิน เป็นการลงโทษอย่างหนึ่ง! ฮึ!
“เห็นสามีของตัวเองโอ๋เอาใจสตรีอื่น เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง?” อย่างไรก็ตามสตรีขาวไม่ยอมปล่อยเธอไปเลย ปลุกปั่นอยู่ริมหูของเธออีกครั้ง
กู้ซีจิ่วไม่ตอบแต่ถามกลับ “เจ้าก็ชอบเขามากเหมือนกันนี่ เช่นนั้นถ้าเห็นเขาเร่าร้อนกับหญิงอื่น เจ้ารื่นรมย์นักหรือ?”
สตรีชุดขาวนางนั้นหัวเราะแล้ว ดวงตาหยีโค้งดุจวิฬาร์ “เปิ่นจุนลืมบอกเจ้าไปเลย นั่นคือร่างอวตารของเปิ่นจุน ไม่ว่าฝูอีจะทำอันใดกับร่างอวตารนี้ เปิ่นจุนล้วนสัมผัสรับรู้ด้วยทั้งสิ้น และกล่าวได้ว่า พวกเราแบ่งปันความรู้สึกกัน ถ้าเขาแนบชิดกับนาง ก็เท่ากับแนบชิดกับเปิ่นจุนด้วย เปิ่นจุนย่อมยินดีนัก”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย
เล่นแบบนี้ได้ด้วยหรือ?!
ภายในภาพลวงตา
ตี้ฝูอีมองสตรีชุดเขียวถอดกระโปรงตัวนอก เสื้อตัวนอกออกไปอย่างสนอกสนใจ…
สตรีที่อยู่ตรงหน้าเขาเปลื้องอาภรณ์ออกจนเหลือเพียงผ้าเอี๊ยมกับกางเกงตัวในแล้ว จู่ๆ ตี้ฝูอีก็เอ่ยขึ้นว่า “ตี้เฮ่าล่ะ? สรุปแล้วเจ้าหาเขาพบไหม?”
นิ้วมือของสตรีชุดเขียวชะงักไปแวบหนึ่ง ถอนหายใจ “ไม่เลย พอข้ามาถึงก็ถูกขังเอาไว้ที่นี่แล้ว ออกไปไม่ได้เลย อันที่จริงข้าก็เป็นห่วงความปลอดภัยของตี้เฮ่ายิ่งนักเช่นกัน แต่น่าเสียดาย…”
นางสูดหายใจนิดๆ คล้ายจะสะกดกลั้นน้ำตาลงไป “ฝูอี ช่วงเวลาเช่นนี้พวกเราอย่าไปนึกถึงเรื่องน่ากลัดกลุ้มพวกนั้นเลย ข้ายังไม่ได้สวมชุดเจ้าสาวตัวนี้ให้เจ้าดูเลย…”
สายตาตี้ฝูอีจับนิ่งอยู่ที่นาง “เสี่ยวจิ่ว เจ้าคิดว่าการตามหาตี้เฮ่าของพวกเราสำคัญ? หรือว่าการร่วมหอกันอยู่ที่นี่สำคัญ?”
สตรีชุดเขียวนิ่งไปครู่หนึ่ง
นางเอ่ยอย่างกระอึกกระอัก “แน่นอน…แน่นอนว่าการตามหาเฮ่าเอ๋อร์สำคัญกว่า แต่ว่า…แต่ว่าถึงอย่างไรพวกเราก็ออกไปไม่ได้ ต่อให้ร้อนใจไปก็ไม่มีประโยชน์นี่นา”
ตี้ฝูอีตัดบทนาง “หากว่าข้ามีวิธีออกไปได้ล่ะ?”
สตรีชุดเขียวตะลึงงันไปแวบหนึ่ง เอ่ยด้วยความประหลาดใจ “เจ้ามีหรือ? เป็นไปได้ยังไง?”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ? เสี่ยวจิ่ว เจ้าอย่าลืมสิ ข้าเป็นยอดฝีมือด้านการทำลายเขตแดน ขอเพียงข้าอยากออกไป ก็ไม่มีสถานที่ไหนที่จะกักขังไว้ได้!”
สตรีชุดเขียวนิ่งงันไปอีกแวบหนึ่ง นางเหลียวมองรอบข้าง “แต่ว่า…ที่นี่สะดวกสบายถึงเพียงนี้…เจ้าไม่รู้หรอก ข้าใฝ่หาสถานที่เช่นนี้มานานมากแล้ว คิดไว้ว่าสักวันหนึ่งจะได้ร่วมครองคู่โบยบินกับเจ้าที่นี่ ไม่สนใจเรื่องแก่งแย่งชิงดีของโลกภายนอก…”
“เสี่ยวจิ่ว ถึงที่นี่จะดีสักแค่ไหนก็เป็นเพียงภาพมายาฉากหนึ่ง ยิ่งกว่านั้นคือพวกเรายังต้องตามหาเฮ่าเอ๋อร์อยู่นะ เฮ่าเอ๋อร์อาจจะกำลังทุกข์ทรมานอยู่ที่ไหนสักแห่งก็ได้ รอให้พวกเราไปช่วยเหลือ เจ้าคิดถึงเขาดูสิ…”
พูดกันมาถึงขนาดนี้แล้ว สตรีชุดเขียวจึงกล่าวเป็นอื่นมิได้แล้ว
นางสะกดกลั้นความไม่พอใจในหัวใจเอาไว้ “เจ้ามีวิธีอะไรที่จะออกไป?”
ตี้ฝูอีวนสำรวจภายในห้องรอบหนึ่ง ลูบตรงนี้ ขยับตรงนั้น คล้ายกำลังตามกุญแจสำหรับทำลายเขตแดนอยู่
สตรีชุดเขียวก็ตามติดอยู่ข้างกายเขาด้วย ตามแบบก้าวต่อก้าว
….
ท่ามกลางทะเลทราย
สตรีชุดขาวมองสถานการณ์ภายในภาพลวงตาเม้มริมฝีปากบางนิดๆ “ไม่นึกเลยว่าเขาจะใส่ใจบุตรชายราคาถูกคนนี้ยิ่งนัก”
กู้ซีจิ่วดีดนิ้วทีหนึ่ง “ฉากแนบชิดแสดงไม่สำเร็จเสียแล้ว!”
สตรีชุดขาวยิ้มเย็น “เจ้าอย่าได้ใจไปเลย ตี้ฝูอีไม่มีทางทำลายเขตแดนนั้นได้ เปิ่นจุนจะรอคอยให้เขาทำลายไปครู่หนึ่งก่อน เมื่อไม่อาจทำลายได้เปิ่นจุนก็จะหาทางให้เขาเข้าพิธีด้วย เมื่อถึงเวลานั้นเขาย่อมสลัดไม่หลุดอีกต่อไป! ”
นางมองกู้ซีจิ่วอีกแวบหนึ่ง “ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเจ้าเท่าไหร่เลยนะ”
————————————————————————————-