วุ่นรักบุปผาร้อยเล่ห์ - ตอนที่ 7-5
“จะไปไหนหรือพ่ะย่ะค่ะ”
ชานที่เจอเข้ากับรยูฮาบนทางเดินมืดๆ ถามขึ้นอย่างมีมารยาท เส้นผมที่ยังไม่ค่อยแห้งดีของหญิงสาวยึดเอาไว้ด้วยปิ่นปักผมและครึ่งหนึ่งก็ถูกปล่อยลงมาปะไหล่ราวกับว่าเพิ่งอาบน้ำออกมา ตรงแก้มชื้นขึ้นสีและดูน่ารัก สายตาของชานไม่สามารถมองตรงๆ ไปยังรยูฮาได้จึงหยุดสายตาอยู่ที่ปลายเท้าของรยูฮา
“จะไปหาองค์รัชทายาทเพคะ ทรงมาหรือยังเพคะ”
ความโลภอันเป็นไปไม่ได้ตีตื้นขึ้นมาจากหัวใจของชานอีกครั้งและแลบลิ้นดำปี๋ออกมา หากคนที่รยูฮาเรียกว่าฝ่าบาทคือข้า หากห้องที่นางไปหาคือห้องของข้า หากคนที่ได้ลูบไล้เส้นผมและจุมพิตลงบนแก้มนุ่มคือข้า ถึงจะคิดเช่นนั้น หากแต่ก็มีเพียงน้ำเสียงทุ้มต่ำออกมาจากริมฝีปากของชาน
“พ่ะย่ะค่ะ ทรงอยู่ในห้องบรรทม ลองเข้าไปดูสิพ่ะย่ะค่ะ”
รยูฮาโค้งตัวแสดงความเคารพอีกครั้ง แล้วเดินผ่านโถงทางเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องที่ฮอนอยู่ ตอนนั้นเองที่มินอาผู้ที่ตามมาหรี่ตามองชาน ชานรู้สึกได้ว่าสายตานั้นเจาะทะลุเข้าในใจของตัวเอง แต่ก็แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น มินอาเบนสายตากลับมาอีกครั้งแล้วเปิดประตูเพื่อให้รยูฮาเข้าไป
“มีเรื่องอะไรกัน”
ฮอนนั่งจมอยู่ในความคิดตรงโต๊ะพอเห็นรยูฮาที่จู่ๆ เข้ามาก็ตกใจลุกขึ้น
“ต่อไปหม่อมฉันก็จะมาหาอย่างกะทันหันเช่นนี้อีก แค่คิดว่าอยากเห็นหน้ามากจึงมาหาแบบนั้นไม่ได้เลยหรือเพคะ ว่าแต่คิดอะไรอยู่ ขนาดประตูเปิดแล้วฝ่าบาทถึงยังไม่รู้ตัวอีกเพคะ”
ถ้ารยูฮาพรวดพราดเข้ามาเช่นนี้บ่อยๆ หัวใจของเขาคงทำงานหนักแน่ ฮอนยิ้มแล้วเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ จากนั้นจึงเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวนั่ง แล้วตัวเองก็นั่งลงด้วย
“ข้ากำลังนึกถึงเหล่านักเลงที่เจอเมื่อกี้ อย่างไรเสียพวกเขาก็คือราษฎรของพระจักรพรรดิแต่ด้วยความจนเลยทำให้ต้องทำเรื่องเลวร้าย”
น้ำเสียงของฮอนที่นั่งอยู่เงียบๆ นั้นแหบพร่า ตำแหน่งที่เขานั่งอยู่ น้ำหนักของความเป็นองค์รัชทายาท
“ข้าสมควรตั้งสติให้เร็วกว่านี้ สมมติว่าถ้าได้ออกไปข้างนอกเพื่อดูแลที่ที่ฝ่าบาทเอื้อมมือไปไม่ถึงเหมือนเสด็จพี่ได้…”
มือขาวของรยูฮาถูกยกขึ้นวางบนหลังมือของฮอนที่วางอยู่บนโต๊ะ ราวกับจะปกป้อง
“หากทรงไม่ลืมคำว่าราษฎรของพระจักรพรรดิ ตอนที่พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์ ประเทศก็จะกลายเป็นประเทศที่มีความเป็นอยู่ดีขึ้นเพคะ แต่อย่ารู้สึกผิดไปเลยเพคะ พวกขุนนางที่ทำตัวเสื่อมเสียไม่ใช่คนชั้นต่ำหรือคนยากจนแต่เป็นเพียงแค่คนชั่วมิใช่หรือเพคะ การที่คนเหล่านั้นกลายเป็นคนชั่วเช่นนั้นไม่ใช่ความผิดของฝ่าบาทเลยนะเพคะ”
“พระชายา เจ้ารู้อะไรหรือไม่”
ฮอนยกมือขึ้นสอดประสานเข้ากับนิ้วของรยูฮา มือของเขาหยาบกร้านเล็กน้อยแต่อบอุ่นมาก
“บางครั้งข้าก็อยากละทิ้งตำแหน่งรัชทายาท เพราะมันเหมือนกับข้าแย่งมาจากเสด็จพี่ที่ไม่ว่าใครมอง ตำแหน่งนั้นก็ควรเป็นของเสด็จพี่ แต่ว่าพอมีเจ้าอยู่ข้างๆ ข้าถึงได้ตั้งใจรักษาที่นั่งนี้ไว้ ทำให้ได้มาเจอกับงานที่ต้องทำในฐานะเจ้าของที่นั่งนี้”
รอยยิ้มฉายบนแววตาของรยูฮา ฮอนผู้เฝ้ามองสิ่งนั้นก็ยกยิ้มขึ้นมา ท่ามกลางสายตาที่แสดงถึงว่าล่วงเลยเวลาเข้านอนมาแล้ว ใบหน้าของฮอนก็ค่อยๆ ขยับเข้าใกล้รยูฮา แต่ว่าตอนที่ริมฝีปากกำลังจะสัมผัสลงบนริมฝีปาก ริมฝีปากของรยูฮาก็ถอยห่างออกมาทิ้งไว้แค่เพียงลมหายใจ
ถูกโดนทำแบบนี้อีกแล้ว ฮอนรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนโง่ แต่ก็ไม่ได้อารมณ์เสีย
“ยังไม่อาบน้ำหรือเพคะ หม่อมฉันจะสั่งให้มินอาเตรียมให้ นางอยู่ข้างนอก เดี๋ยวหม่อมฉันตามให้นะเพคะ”
“อ้า ข้าเองก็อยากอาบอยู่เหมือนกัน ขอบใจเจ้ามาก”
ฮอนขยับตัวเดินออกประตูไปในสภาพเก็บซ่อนความเสียดายไว้ พอตามมินอาที่รออยู่ข้างนอกมาสถานที่ที่มาถึงคือห้องทรงน้ำที่ตั้งอยู่ด้านในสุดตรงโถงทางเดิน เขากอดเสื้อนอกออกจนหมดแล้วยื่นให้มินอาก่อนจะลงไปในน้ำอุ่นแล้วหลับตา ฮอนรู้สึกแปลกๆ จึงมองไปรอบๆ ไม่เห็นเหล่าคนรับใช้ที่ต้องเข้ามาดูแลเลยสักคน
“มินอา”
“เพคะ ฝ่าบาท”
“ระหว่างข้าอาบน้ำ เจ้าจะดูแลข้าตลอดเลยรึ”
“ไม่ใช่เพคะ ฝ่าบาท”
มินอายิ้มอย่างมีนัยยะแล้ววางเสื้อนอกที่ถืออยู่ไว้ตรงประตูก่อนจะหายไปข้างนอก อืม บางครั้งอาบน้ำคนเดียวแบบนี้บ้างก็ดี ฮอนคล้อยตามพร้อมกับคิดอย่างเห็นด้วย หัวที่วุ่นวายถูกทำให้สงบลงในน้ำ
แล้วต่อมาไม่นาน
“พระชายา! ทำอะไร! ไม่สิ มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!”
เขาผู้ซึ่งโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำอีกครั้งแล้วใช้มือลูบหน้าคิดว่าเห็นผีเป็นครั้งแรกเสียแล้ว ท่ามกลางไอน้ำเลือนรางรยูฮาถือผ้าสีขาวและกำลังมองมาที่ตนอยู่ไม่ใช่หรือ
“การดูแลรับใช้วันนี้ หม่อมฉันจะทำให้เองเพคะ”
ยิ่งรยูฮาเดินเข้ามาใกล้ ใบหน้าของฮอนก็ยิ่งแดงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่สายตาเปิดเผยเหมือนตอนที่มองเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เป็นสายตาที่ดูแปลกประหลาดกว่านั้น เขาคุ้นเคยกับการที่ผู้หญิงมองร่างกายและสัมผัสเพื่อดูแลรับใช้ ตอนอาบน้ำน่ะเคยแน่นอนอยู่แล้ว ตอนเปลี่ยนเสียผ้าก็เคยมี เมื่อครู่ก็ถอดเสื้อผ้าต่อหน้ามินอาอย่างไม่คิดอะไรไม่ใช่หรือ แต่ทำไมแค่รยูฮามองมาหน้าก็ร้อนขึ้นแบบนี้
“เดี๋ยว หยุดอยู่ตรงนั้นก่อน หยุดเดี๋ยวนี้”
“ทำไมล่ะเพคะ”
ในขณะที่รยูฮาหยุดเดิน มือฮอนก็หมุนตัวไปฝั่งตรงข้ามแล้วลูบลงบนหน้าอกที่ตกใจ พวกเราคือคู่สามีภรรยา เขาพูดแล้วพูดอีกเหมือนสวดมนต์ ให้สัญญาว่าจะร่วมชีวิตตลอดไป แล้วแค่ให้เห็นร่างเปลือยจะเป็นไรไป เขาพยายามทำให้ใจสงบแบบนี้และจังหวะที่หมุนตัวกลับไปอีกครั้ง บางอย่างที่อบอุ่นแล้วก็อ่อนนุ่มถูกวางลงบนไหล่เขา
“อยู่เฉยๆ เพคะ ฝ่าบาท”
เสียงอ่อนหวานดังขึ้นข้างหูฮอนพร้อมกับผ้าขนหนูที่รยูฮาเอาชุบน้ำอุ่นแล้วค่อยๆ เคลื่อนไหวขึ้นลงบนร่างกายของฮอน จากไหล่กว้างสู่แผ่นหลังที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและข้ามลำคอเรื่อยไปจนถึงตรงหน้าอกที่เปียกน้ำ ทุกที่ที่มือนั้นเลื่อนผ่านปลุกร่างกายของชายหนุ่มที่อ่อนเพลียให้รู้สึกร้อนรุ่มเหมือนถูกไฟลวก ต่อมาริมฝีปากของฮอนที่เผยอออกก็มีเสียงครางและลมหายใจพ่นออกมาด้วย และสิ่งนั้นก็เข้าไปในปากของรยูฮาที่ประกบกันอยู่
“ไปห้องนอนได้หรือไม่”
การประกบปากอันหอมหวานจบลง น้ำเสียงที่พูดขึ้นอย่างระมัดระวังจั๊กจี้อยู่ตรงใบหูของรยูฮา และตอนที่หญิงสาวพยักหน้า เขาก็อุ้มนางเดินออกนอกประตูไปแล้ว ตลอดทั้งชีวิตนี่เป็นการกระทำที่รวดเร็วที่สุดของฮอน
“ฝ่าบาท ชุด! จะเป็นหวัดได้นะเพคะ!”
แม้แต่น้ำเสียงห้ามปรามของรยูฮาก็ไม่สามารถหยุดเขาได้ ฮอนสวมแค่กางเกงเปียกตัวเดียวอุ้มรยูฮาไว้แน่นแล้ววิ่งกลับไปยังห้องนอน เป็นภาพที่ถ้ามองเห็นส่วนล่างก็คงน่าอายอยู่ไม่น้อย โชคดีที่โถงทางเดินมืดนั้นร้างผู้คน แน่นอนว่าเป็นเพราะมินอาที่ออกมาเมื่อครู่ไล่ออกไปไม่ให้แม้แต่หนูสักตัวเดียวเข้ามาได้
“รยูฮา…”
ฮอนวางรยูฮาลงบนที่นอนแล้วกลืนกินริมฝีปากแดงทั้งอย่างนั้นอีกครั้ง ทั้งที่ฝ่าอากาศเย็นอีกทั้งยังอยู่ในสภาพตัวเปียก แต่อุณหภูมิในร่างกายก็ไม่เย็นลงเลย หัวใจเต้นแรงมากจนดูเหมือนว่าอีกไม่นานมันจะฉีกหน้าอกออกมาและกระเด็นออกมาข้างนอก การประกบปากที่ไล่นับตั้งแต่ริมฝีปากเรื่อยลงมาตามลำคอ จนในที่สุดก็อดไม่ไหวกัดลงไปบนลาดไหล่ขาว
“อ้า ฝ่าบาท…”
น้ำเสียงนั้นที่ผสมระหว่างความทรมานและความสุขสมไม่มีแม้แต่ช่องว่างให้ฮอนได้คิดอะไรอีก มือสั่นเทาโน้มลงมาปลดปมเชือกที่อยู่ตรงหน้าอกอย่างไร้เรี่ยวแรง ตะเกียงส่องลงบนผิวที่เผยออกมาตรงเสื้อผ้าที่ถูกเลิกออก
“ทำไม…ถึงได้งดงามเช่นนี้”
ฮอนมองรยูฮาแล้วสติเลื่อนลอยไปสักครู่ จากนั้นจึงถอนหายใจยาวออกมาเฮือกหนึ่ง รยูฮาค่อยๆ ยื่นมือมาทางเขา ตอนนั้นเองที่ดวงตาของรยูฮามองไปที่ไหล่ของเขา แขนที่เหมือนจะดึงฮอนเข้ามากอดกลับผลักเขาไปด้านข้างอย่างแรงแทน
“เฮือก!”
รอดพ้นจากจุดสำคัญไปได้อย่างหวุดหวิด เลือดของราชวงค์อันสูงส่งไหลออกมาที่หัวไหล่ของฮอน ไม่ทันรู้ตัวมือของผู้บุกรุกก็ลุกล้ำเข้ามาถึงเตียงแล้ว ตรงนั้นดาบกำลังสะท้อนกับแสงไฟ
“เจ้าไม่ได้ตายดีแน่”
รยูฮาหยิบเอาปิ่นปักผมปลายแหลมที่ปักอยู่ในผมออกมาตอนไหนไม่รู้ แล้วพูดเสียงเบาอย่างเย็นชา ผู้บุกรุกมองฮอนกับรยูฮาสลับกัน แล้วหันดาบมาราวกับพยายามจะฆ่ารยูฮาก่อน
“เฮือก!”
ขณะเดียวกันปิ่นปักผมของรยูฮาก็ปักลงบนหลังมือของผู้บุกรุกอย่างแม่นยำ เสียงร้องเพราะความเจ็บปวดดังขึ้นพร้อมกับดาบที่ร่วงลง มินอาพังประตูเข้ามาท่ามกลางเสียงแหลมของโลหะ
“พระชายา!”
ดาบของมินอาที่ไม่มีความเมตตาแม้แต่น้อยจู่โจมเข้าตรงท้ายทอยจนผู้บุกรุก คนผู้นั้นสิ้นสติแล้วล้มลงทั้งอย่างนั้น มินอารับผ้าห่มมาฉีกและมัดผู้บุกรุกไว้ แล้วเสียงอันรีบเร่งของรยูฮาก็ลอยมาทางมินอา
“ไปจับตัวเจ้าเมือง แล้วตามองค์ชายมา!”
* * *