วุ่นรักบุปผาร้อยเล่ห์ - ตอนพิเศษ 1-5 ฮาแบค
วันนี้ แม้ว่าจะดึกกว่าวันก่อนเล็กน้อย แต่ฮาแบคก็เตรียมตัวเลิกงานเร็วกว่าปกติ คราแรกนึกว่าจะพูดไปอย่างนั้น แต่ดูเหมือนว่าฮอนจะยอมลดงานลงเกือบครึ่งให้จริงๆ แน่นอนว่าเขาต้องรู้สึกทะแม่งๆ และค้างคาใจอยู่แล้ว และยิ่งรู้สึกมากกว่าเดิมเมื่อเจออีกฝ่ายจับจ้องด้วยสายตากดดัน
“…หากฝ่าบาทมีสิ่งใดอยากตรัส ก็รีบกล่าวเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
กะว่าจะไม่สนใจแล้ว แต่สายตาของฮอนก็ตามติดไม่ปล่อยจนทำให้ฮาแบคต้องเงยหน้าขึ้น
“เมื่อวานรีบกลับจวนไปทำอะไรหรือท่านมหาเสนาบดี”
“หลังจากอาบน้ำก็เข้านอนพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้ากำลังถามถึงช่วงเวลาระหว่างหลังอาบน้ำกับก่อนเข้านอน”
ฮาแบคมองพู่กันในมือตนสลับกับพระพักตร์ยิ้มกริ่มขององค์เหนือหัว ถ้าใช้ไอ้นี่ฟาดพระนลาฏจะถือว่าเป็นกบฏหรือไม่นะ
“มอบหมายงานให้แขกพ่ะย่ะค่ะ”
“งานอะไรหรือ”
“กระหม่อมเองก็เป็นเพียงหนึ่งในราษฎรมากมายของฝ่าบาท หากทรงให้ความสนใจกับคนผู้เดียวมากเกินไป กระหม่อมคิดว่าไม่เหมาะสมในฐานะพระราชานะพ่ะย่ะค่ะ”
มันเป็นการเปรยกลายๆ ว่าช่วยเลิกสนใจแล้วทำงานของตนซะ และคนกล่าวดันหน้าตาคล้ายคลึงกับรยูฮาอีก ฮอนจึงไม่กล้าขุดคุ้ยต่อ ตั้งใจจะส่งคนติดตามอยู่ แต่หากทำเช่นนั้นจริงก็เกรงว่าทหารไม่รู้อีโหน่อีเหน่ผู้หนึ่งอาจจะถูกเปลี่ยนโชคชะตาด้วยมือของท่านแม่ยายได้ เมื่ออีกฝ่ายยอมปิดปากสนิทแล้ว ฮาแบคจึงสบายใจขึ้นนิดหน่อยและกลับมาจดจ่อกับการจัดการเอกสารตรงหน้าให้เสร็จ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเพียงใด แต่ขณะฮอนกำลังนวดเอวปวดเมื่อยพลางบิดขี้เกียจ เจ้าของตำแหน่งมหาเสนาบดีก็ลุกพรวดหลังปิดเอกสารม้วนสุดท้าย
“เสร็จหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”
“เสร็จแล้วหรือ”
คิ้วฮอนขมวดเข้าหากันและเปี่ยมความสงสัย ฮาแบคทำงานว่องไวมาก แต่เอกสารสองสามอันที่สุ่มดึงมาเปิดตรวจสอบกลับไม่มีจุดบกพร่องใดๆ แม้แต่เส้นหนึ่งเส้นที่ลากทับเรื่องเพิกถอนก็ยังเป็นระเบียบเรียบร้อยราวกับใช้ไม้บรรทัดวัดอีกต่างหาก
“ทรงตรวจสอบเสร็จแล้วใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“แน่นอน เจ้ากลับจวนไปเถอะ”
ทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิมด้วยสินะ ระหว่างฮอนภาพวาดขนาดใหญ่และตระหนักถึงความจริงข้อนี้ ฮาแบคก็รีบตรงกลับจวนทันทีที่ก้าวพ้นรั้วพระราชวัง
ความจริงแล้ว ชะเอมถือเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้เยอะที่สุด แต่ก็ยังพบได้ง่ายที่สุดด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการสั่งให้นำชะเอมมาตากแห้งจึงเป็นเหมือนการทดสอบไปในตัว จะทำเสร็จแล้วหรือยังนะ เป็นครั้งแรกที่คิดถึงเรื่องอื่นนอกจากอยากพักผ่อนหรืออยากนอนระหว่างทางกลับจวน แต่ร่างสูงกลับไม่รู้ตัว
“กลับมาแล้วหรือขอรับนายน้อย”
“แขกเป็นอย่างไรบ้าง”
“ทานอาหารเย็นและกลับเข้าห้องยาแล้วขอรับ”
เมื่อถึงจุดหมาย ฮาแบคก็ตรงไปยังห้องยาก่อนเป็นอันดับแรกแทนการเปลี่ยนเสื้อผ้าเฉกเช่นปกติ มีเสียงกรอบแกรบบางอย่างดังเล็ดลอดผ่านช่องประตูที่แง้มเล็กน้อยพร้อมกับแสงไฟสลัวๆ
“ข้าเข้าไปได้หรือไม่”
“เจ้าค่ะ นายท่าน”
สตรีผู้นั้นนั่งอยู่เพียงลำพังและกำลังลูบชะเอมที่สั่งให้นำไปตากแห้ง เขามั่นใจว่าฝากงานแค่กล่องเดียว แต่พอเห็นว่ามันเพิ่มเป็นสามกล่องจึงเกิดความสงสัยขึ้นเล็กน้อย
“งานที่ฝากไว้เป็นอย่างไรบ้างขอรับ”
นางวางชะเอมในมือลงกล่องอย่างเป็นระเบียบก่อนจะลุกยืน เศษผงต่างๆ จึงร่วงหล่นจากเสื้อผ้า ดูเหมือนอีกฝ่ายจะนั่งอยู่เช่นนั้นค่อนข้างนานพอสมควร
“ข้านำไปตากแดดในช่วงสายและเก็บเข้ามาหลังจากเลยเที่ยงวันไปเล็กน้อยเจ้าค่ะ แต่พอมาดูอย่างละเอียดก็พบว่าบางอันใหญ่ บางอันเล็ก และบางอันมีสีดำกว่าปกติด้วย ข้าจึงแยกอันใหญ่ อันเล็กและอันที่มีสีดำไว้ต่างหากเจ้าค่ะ เพราะว่ามัวแต่ทำเช่นนี้เลยยังไม่เสร็จสักที”
ฮาแบคยื่นโคมไฟเข้าไปใกล้ๆ และมองในกล่องอย่างละเอียด ระหว่างนั้นนางก็รู้สึกกระวนกระวายใจราวกับเด็กน้อยยืนต่อหน้าอาจารย์พร้อมสังเกตสีหน้าอีกฝ่าย ใบหน้าสะอาดสะอ้านเกลี้ยงเกลาไร้สิ่งที่กังวล ไม่นานเขาก็ใช้มือปัดเพื่อทำที่นั่งแล้วนั่งลง
“โอ๊ะ ชุดของท่านจะเลอะเอาได้นะเจ้าคะ”
“ไม่เป็นไรขอรับ ทำสองคนก็น่าจะเสร็จเร็วขึ้น”
เอ่ยตอบอย่างสุขุมเยือกเย็นและเริ่มแยกชะเอมลงกล่องตามสิ่งนางทำไว้ คำกล่าวนั้นถูกต้อง เพราะเมื่อครั้นทำเพียงลำพังต้องใช้เวลานานพอสมควร แต่พอช่วยกันทำสองคนแล้ว ระยะเวลาก็ลดลงอย่างรวดเร็วทีเดียว ฮาแบคหยิบชะเอมชิ้นสุดท้ายขึ้นมา ทว่าอีกฝ่ายก็ยื่นมือมาหยิบมันเช่นกัน
“ขะ ขออภัยเจ้าค่ะ!”
ร่างบางสะดุ้งโหยงราวกับถูกไฟลวกพร้อมปล่อยมือใหญ่ที่ตนเผลอจับแทนชะเอม แต่ก็ต้องสูดหายใจดังเฮือกเพราะบุรุษตรงหน้าคว้ามือนางกะหันทัน
ไม่รู้ว่ารับรู้ความรู้สึกในใจหรือไม่ แต่ฮาแบคก็พินิจพิจารณามือของสตรีตรงหน้าช้าๆ ก่อนจะวางลงบนกระโปรงที่เต็มไปด้วยเศษผงเหมือนเดิม แม้มันจะมืดจนมองไม่ค่อยชัด ก็เห็นว่าเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเพียงแวบหนึ่ง
“ทำได้ดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยขอรับ เดี๋ยวข้าจัดการเก็บเอง”
กระทั่งเสียงพูดยังเป็นน้ำเสียงแข็งกระด้างและเยือกเย็น ไม่ใช่เสียงนุ่มนวลคล้ายสายน้ำไหลเช่นปกติ โกรธหรือเปล่านะ นางเหลือบมองสีหน้าอีกฝ่ายขณะจัดของให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่อาจอ่านอารมณ์ใดๆ ออกเลย มันสงบนิ่งเหมือนเคย ก่อนจะสรุปได้ว่าเขาโกรธแน่ๆ ตอนได้รับการกำชับเบาๆ พร้อมกุญแจหลังจากปิดประตู
“ไม่ต้องทำงานที่ข้าฝากภายในวันเดียวก็ได้ขอรับ ส่วนวันพรุ่งนี้ไม่ต้องแตะต้องพวกสมุนไพร แต่ช่วยทำความสะอาดพื้นโรงกับบริเวณโดยรอบหน่อยนะขอรับ”
พูดจบก็โค้งศีรษะให้เล็กน้อยแล้วตรงกลับห้องตนเอง ครุ่นคิดว่าเหตุใดถึงรู้สึกไม่สบอารมณ์เช่นนี้ แต่ขณะถอดชุดขุนนางออกก็มีชะเอมชิ้นเล็กๆ ร่วงลงมา มันอาจจะเข้าไปในแขนเสื้อ ฮาแบคจ้องมองสักพักใหญ่ กระทั่งเสียงสาวใช้จากด้านนอกดังขึ้นเรียกสติ
“นายน้อย เตรียมน้ำเสร็จแล้วเจ้าค่ะ”
“เข้าใจแล้ว”
เขาวางเศษชะเอมลงข้างๆ ชุดขุนนางที่พับอย่างเรียบร้อยก่อนจะออกจากห้อง ปล่อยผมและแช่ตัวลงในน้ำอุ่น อาบน้ำด้วยถั่วเขียวบดพร้อมสะสางความรู้สึกติดค้างในใจไปด้วย อะไรกันนะ พยายามนึกย้อนถึงสาเหตุของความค้างคา แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าตนยังไม่ได้ตอบคำถามของฝ่าบาทเมื่อวานเลย ‘สวยพ่ะย่ะค่ะ’ ตั้งใจจะตอบเช่นนั้นเมื่อเข้าวังแท้ๆ
“โอ๊ย!”
สวยพ่ะย่ะค่ะ… แต่แล้วใบหน้าสตรีผู้นั้นก็โผล่ขึ้นมาแวบหนึ่ง หรือจะเป็นเรื่องนั้นนะ สาเหตุของความค้างคาใจ
“เสร็จแล้วหรือเจ้าคะนายน้อย”
สาวใช้ที่รอรับใช้อยู่นอกประตูเอ่ยถามด้วยความตกใจ ฮาแบคในชุดนอนตัวบางจึงพยักหน้าตอบและกลับเข้าห้องนอนตน แต่ผ่านไปไม่นานก็เดินออกมาข้างนอกอีกรอบ ในมือถือกล่องเล็กๆ หนึ่งกล่อง
“แม่นาง นอนหรือยังขอรับ”
“ยังเจ้าค่ะนายท่าน”
อีกฝ่ายเปิดประตูพร้อมเส้นผมเปียกชื้นคล้ายเพิ่งอาบน้ำเสร็จเช่นกัน ฮาแบคกำลังจะเดินเข้าไปด้านในแต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักแทนการก้าวข้ามธรณีประตู อาจจะเป็นเพราะกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ของสตรีส่งกลิ่นอ่อนๆ เป็นความรู้สึกเหมือนว่าเขาไม่ควรเข้าเสียอย่างนั้น
“ข้างนอกหนาวนะเจ้าคะ เข้ามาก่อนเถิด”
เมื่อเห็นผู้มีพระคุณลังเลอยู่ตรงประตูอย่างไม่สมกับเป็นเขา นางจึงเอียงคอสงสัยพลางเอ่ยเชื้อเชิญซ้ำ เมื่อเดินเข้ามาแล้ว ก็พบว่าภายในห้องทั้งสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย ทำเอาฮาแบครู้สึกพึงพอใจ
“ขอดูมือหน่อยขอรับ”