วุ่นรักบุปผาร้อยเล่ห์ - ตอนพิเศษ 3-4 ชาน
พ่อกับแม่อาศัยอยู่แคนาดาและมอบอำนาจกับการเงินทั้งหมดให้ยูฮา ยูมินจึงไม่มีอำนาจใดๆ เลย แต่เธอก็รู้ว่าหากยอมแพ้ครั้งนี้ เรื่องมอเตอร์ไซค์ก็จะสิ้นสุดตลอดกาล มันเป็นสิ่งที่เธออยากได้มากจริงๆ สิ่งแรกตั้งแต่เกิดมา
หลังมองโทรศัพท์เงียบๆ พร้อมเรียบเรียงความคิดสักพัก ยูมินก็หันไปถามคนที่เงี่ยหูฟังบทสนทนาทางโทรศัพท์ของเธอ
“เอามอเตอร์ไซค์เข้าศูนย์แล้วใช่ไหม”
“ครับ เขาบอกว่าเครื่องยนต์กับโครงไม่เป็นอะไรเพราะมันแข็งแรงมาก”
เหมือนพี่ ชองอูเติมท้ายเบาๆ แต่ดูเหมือนว่ายูมินจะไม่ได้ยิน
“นายมีเงินไหม”
“มีครับ แต่ถ้าให้พี่ยืม ผมถูกตัดออกแน่”
เหมือนบัตรเครดิตพี่ คราวนี้หลังจากเติมเบาๆ อีกรอบก็เกิดเสียงเพี๊ยะดังขึ้นที่ท้ายทอยชองอู
“ฉันจะไปนอนบ้านนาย ส่วนนายก็ไปนอนบริษัท”
“ท่านประธานส่งข้อความมาหา ให้อ่านให้ฟังไหมครับ”
“ไม่เป็นไร”
ท่านประธานของยูมินกับชองอูก็คือยูฮา พี่สาวแท้ๆ ที่เพิ่งคุยโทรศัพท์เมื่อสักครู่ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ก็คงเข้าต้นสังกัดอื่นแล้ว ยูมินรู้สึกเสียดาย แต่มาเสียใจกับสิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์
“ขายมันให้ศูนย์แล้วกลับบ้านเถอะครับ ไม่งั้นจะไปนอนที่ไหน”
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยกับการตำหนิของอีกฝ่าย สาเหตุของทุกสิ่งทุกอย่างก็คือไอ้ลูกแมวบ้านั่น ถ้าอย่างนั้นต้นเหตุก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบสิ
“โรงแรม”
“ไม่มีเงินนี่ครับ”
“ไปเอามาก็ได้นี่นา”
“จากใครล่ะครับ”
“นายหนวด”
ยูมินตอบพร้อมกับควักโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง
* * *
ตอนนี้อึยชานกำลังสับสนเป็นอย่างมาก อีกใจหนึ่งก็เอาแต่คิดมากเรื่องหนวดกับลุคขอทานบ้าๆ นี่ เพราะยูมินนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพร้อมกับผู้จัดการส่วนตัวของเธอ หลังโทรมาถามกะทันหันว่าเขาอยู่ที่ไหน
“ถ้ารู้ว่าคุณจะมาด้วย ก็คงนัดที่ดีกว่านี้แล้ว”
เขาพยายามทำตัวเหมือนกับสบายๆ แต่มุมปากกลับยิ้มไม่ออกเลย
“ค่ะ ไว้ครั้งหน้าแล้วกัน ชองอู สั่งสิ”
“ป้าครับ ซุปเลือดวัวสองที่ครับ! อันนึงใส่ต้มหอมเยอะๆ”
ชองอูยกมือตะโกนสั่งทันทีที่ยูมินพยักหน้า ท่าทางของเธอเป็นธรรมชาติเหมือนถูกเชิญมาแต่แรก
“ฉันจะพูดแต่ประเด็นสำคัญแบบรวบรัดนะคะ”
ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากซุปเลือดวัวสี่ชามที่เพิ่งนำมาเสิร์ฟสดๆ ร้อนๆ หญิงสาวจ้องมองอึยชานจนจะทะลุผ่านควันนั้น แน่นอนว่าไม่ใช่สายตาเป็นมิตร
“อ๋อ ถ้าเรื่องมอเตอร์ไซค์ ตอนนี้ผมกำลังหาที่ซื้ออยู่…”
“เรื่องนั้นฉันจะซ่อมเอาค่ะ”
“เอางั้นเหรอครับ”
เป็นเรื่องน่ายินดีที่สุดตั้งแต่เคยได้ยินมา อึยชานรู้สึกผิดที่เคยรู้สึกรำคาญยูมินพักหนึ่ง
“ฉันขอเป็นเงินแทนค่ะ ถือว่าเป็นค่าซ่อม”
“ต้องการประมาณเท่า…ไม่สิ คุณขอเป็นเงินสดเหรอครับ”
เขาดีใจมากจนเกือบถามไปแล้วว่าต้องการเท่าไหร่ แน่นอนว่าเงินสดย่อมดีกว่าการต้องหามอเตอร์ไซค์ที่จำกัดจำนวนนำเข้า
“ค่ะ เงินสด ชองอู ค่าซ่อมเท่าไหร่นะ”
“ตั้งแต่ค่าอะไหล่ รวมค่าเสื่อมราคา ประเมินไว้ประมาณสิบห้าล้านครับ อ๊ะ ร้อน”
ผู้จัดการส่วนตัวคนนั้นกำลังเทน้ำกิมจิหัวไชเท้าลงในหม้อร้อนข้างๆ เธอ หมอนี่กวนประสาทเขาแปลกๆ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว แม้จะไม่รู้ว่าตรงไหนแต่ก็กวนประสาทอยู่ดี เหมือนการพูดจาของยูมิน มันน่าอึดอัดใจแปลกๆ ทั้งที่ฟังดูมีมารยาท
“เอามาสิบห้าล้านก็ได้ค่ะ ขอเป็นเงินสดนะคะไม่ต้องโอน ฉันจะเขียนสัญญามาให้ด้วยค่ะว่าจะไม่ถามความรับผิดชอบใดๆ อีก”
“ผมให้ยี่สิบล้านแล้วกันครับ รวมค่าโรงพยาบาลด้วย แต่อย่างที่คุณรู้วันนี้วันศุกร์ ผมจะเอามาให้วันจันทร์ตอนบ่ายนะครับ”
ถึงจะปวดหัวหน่อยแต่มันก็เป็นไปได้ด้วยดี อึยชานตอบอย่างกระฉับกระเฉงและเพิ่มค่ารักษาให้ด้วย แม้เจ้าตัวจะดูไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ใครจะรู้
“เอาตามนั้นก็ได้ค่ะ งั้นวันนี้ฉันขอบัตรเครดิตคุณก่อน แล้ววันจันทร์คุณก็หักค่าบัตรเครดิตไป”
ผู้หญิงขี่มอเตอร์ไซค์มูลค่าหลายสิบล้านวอนจะไม่มีเงินได้อย่างไร แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีเงินจริงๆ ถึงเขาจะยื่นบัตรเครดิตให้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังรู้สึกค้างคาใจอยู่ดี ราวกับอ่านความลังเลของอึยชานออก ยูมินจึงเอากระเป๋าตังค์ออกมาเปิด
“ฉันไม่ทำอะไรให้เป็นปัญหาหรอกค่ะ แต่ไม่อยากบอกเรื่องส่วนตัว นี่ค่ะ บัตรประชาชนฉัน ถึงเอาไปก็คงไม่มีประโยชน์ แต่ถือเป็นหลักประกันทางจิตใจแล้วกัน”
“ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลยครับ”
“งั้นฉันเก็บนะคะ”
ในจังหวะที่บัตรประชาชนในมือกำลังจะถูกดึงกลับ อึยชานก็ดึงมันมาอีกครั้ง
“ขอเก็บไว้หลักประกันทางจิตใจ นี่ครับ บัตรเครดิต”
ยูมินรับบัตรเครดิตของอีกฝ่ายมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ก่อนจะยื่นให้ชองอูโดยไม่มองมันแม้แต่น้อย
“ใช้บัตรนี้จ่าย”
“ครับพี่”
ติ๊ง โทรศัพท์ของอึยชานดังขึ้นสั้นๆ ทันทีที่ชองอูเอาบัตรเครดิตไปจ่ายเงิน หลังจากนั้นยูมินก็เก็บบัตรเครดิตใส่กระเป๋าตังค์พร้อมกับยกมุมปากให้เล็กน้อย อย่าบอกนะว่านั่นคือการยิ้มน่ะ
“อันนี้ไม่หักออกนะคะ เพราะคุณอีอึยชานเลี้ยง”
“ผมว่าจะเลี้ยงอยู่แล้วครับ”
อึยชานเหลือบมองผู้จัดการส่วนตัวของเธอพร้อมตอบ ผู้จัดการคนนี้ดูพิถีพิถันในการกินมากๆ ต่างกับคนรีบกินอย่างจาฮอน ชองอูดูแลไม่ให้แก้วน้ำของยูมินว่างเปล่า ทั้งยังขยับเครื่องเคียงที่เธอชอบมาไว้ตรงหน้าให้อีกด้วย แสดงว่าน่าจะรู้จักเธอดีมากๆ อึยชานรู้สึกอย่างนั้นตั้งแต่ตอนอีกฝ่ายสั่งอาหารให้แล้ว
“ดูเหมือนพวกคุณสองคนจะสนิทกันมากเลยนะครับ”
“ค่ะ”
“ครับ”
คำตอบเหมือนกันราวกับนัดกันมา ดวงตาของยูมินบวมตุ่ยและดุดันยิ่งกว่าตอนเจอกันครั้งแรก เขาจึงไม่กล้าพูดอะไรต่อ อย่างไรก็ไม่มีอะไรจะพูดต่ออยู่ดี
ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์แบบไหนกันนะ ระหว่างที่อึยชานมัวแต่คิดเรื่องไร้สาระอยู่ ชองอูก็สั่งน้ำอัดลมมาหนึ่งขวดและรินให้ก่อนยูมินจะกินเสร็จ
“ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะ เจอกันวันจันทร์ค่ะ”
หลังจากดื่มน้ำอัดลมประมาณครึ่งหนึ่ง ยูมินก็ลุกขึ้นจากพร้อมกับบอกลาอย่างแข็งกระด้างทันที ชองอูก็ลุกขึ้นตามและบอกลาแบบเดียวกัน จากนั้นก็ออกนอกร้านเพื่อขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่แล้ว โดยไม่รอฟังอึยชานตอบกลับ
“พี่ ทำไมไม่พูดอะไรสักคำเลยล่ะครับ”
จาฮอนหยิบน้ำอัดลมที่ยูมินเหลือทิ้งไว้แล้วหัวเราะคิกคักอยู่ข้างๆ นั่นสิ ทำไมเป็นอย่างนั้นไปได้ อึยชานเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงพูดไม่ออก เวลาอยู่ต่อหน้าผู้หญิงคนนั้น
“แล้วนายกินอันนั้นทำไม สั่งขวดใหม่สิ”
“ช่างเถอะครับ ไม่ตายหรอก”
“บอกว่าอย่ากินไง”
สุดท้ายอึยชานก็แย่งน้ำอัดลมมากรอกใส่ปากตัวเอง หลังจากนั้นก็มีข้อความสั้นๆ ส่งมาที่โทรศัพท์เขาขณะเดินออกจากร้านพร้อมจาฮอน มันคือข้อความแจ้งเตือนการใช้บัตรเครดิตที่ยูมินเอาไปเมื่อสักครู่ ดื่มอะไรในร้านกาแฟตั้งสองหมื่นหนึ่งพันวอน
ตั้งแต่ตอนนี้อึยชานก็ได้รับรู้การเคลื่อนไหวของยูมินแบบเรียลไทม์โดยไม่ได้ตั้งใจ ดื่มกาแฟที่คาเฟ่เสร็จ เธอก็ไปช็อปปิ้งในห้าง ซื้ออะไรบางอย่างที่ร้านเสื้อผ้ากีฬา ดูเหมือนว่าจะซื้อเครื่องสำอางด้วย
เขาพยายามจะไม่สนใจ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ เพราะมันคงจะแปลกมากกว่าถ้าไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจกับการแจ้งเตือนที่ส่งมาทุกชั่วโมง และความตะขิดตะขวงใจนั้นก็มาถึงจุดขีดสุดด้วยข้อความสุดท้าย ในเวลาสี่ทุ่ม
“โรงแรม”
อึยชายไม่เชื่อสายตาตัวเองจึงอ่านอีกรอบ แต่ก็ยังเป็นคำว่าโรงแรมอยู่ดี ถึงเธอจะดูทำตัวตามใจตัวเอง แต่ไม่นึกเลยว่าจะใช้บัตรคนอื่นจ่ายค่าโรงแรม ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าข้อความจะส่งมาหาเขา
แต่แล้วภาพของผู้จัดการส่วนตัวกับยูมินที่ดูสนิทสนมกันเป็นพิเศษก็โผล่เข้ามาในหัวอย่างชัดเจน ไม่อยากจะเชื่อ แต่อย่างที่คิดไว้เลย ถึงไม่ใช่ก็อธิบายไม่ขึ้น ตัวติดกันเป็นตังเมทั้งวันขนาดนั้นทั้งที่ไม่ใช่ตารางงานทางการ แถมยังจ่ายค่ากาแฟ ค่าอาหารสำหรับสองคนอีก อึยชานหัวเราะแห้งพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเอนตัวนอนบนโซฟา
“สุดยอดจริงๆ”
เสียงบ่นของอึยชานผสมกับเสียงโทรทัศน์ หลังปิดกล่องข้อความ เขาก็เข้าแอพแชทอัตโนมัติ เพื่อนที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่ ซอยูมิน โปรไฟล์ไม่มีอะไรเลยสมกับเป็นเธอจริงๆ
ลองทักไปดีไหมนะ แต่จะอ้างว่าอะไรดีล่ะ หลังจากลังเลอยู่สักพัก สุดท้ายอึยชานก็ปิดหน้าโปรไฟล์ไปโดยไม่ได้ทำอะไร ซึ่งเขาจงใจทำอย่างนั้น แต่นิ้วดันแตะโดนเบอร์โทรของยูมิน
เขาไม่ได้คิดจะโทรไปหาเลย แต่อีกฝ่ายก็รับสายก่อนจะกดวาง
[ซอยูมินค่ะ]
[ต้องอาบน้ำก่อนนะครับ รีบไปอาบน้ำเลย]
เสียงที่ดังจากปลายสายตรงกับที่จินตนาการไว้เมื่อกี้เป๊ะ เสียงยูมินฟังดูอ่อนเพลียกับเสียงเร่งรีบของผู้จัดการส่วนตัว เลือดที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเขาจึงเริ่มแข็งตัวและร้อนระอุราวกับหินลาวา
* * *