วุ่นรักบุปผาร้อยเล่ห์ - ตอนพิเศษ 3-6 ชาน
มุมปากของอึยชานที่ไม่ค่อยจะยิ้มนักเว้นเสียแต่ในที่สาธารณะยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่อึยชานกำลังแต่งตัวและจัดผมอยู่ จาฮอนก็เก็บเสื้อผ้าต่างๆ ที่เขาโยนทิ้งไว้อย่างคร่าวๆ พร้อมเอ่ยถามเหมือนถามเรื่องปกติ
“พี่ พี่ชอบซอยูมินตรงไหนเหรอครับ”
อึยชานทาแวกซ์บนปลายนิ้วและกำลังจะเอามาป้ายผมต้องหยุดชะงัก แววตาสะท้อนในกระจกเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย
“อะไรนะ”
“ผมถามว่าพี่ชอบเธอตรงไหน จากที่เห็นคราวก่อน นิสัยไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ”
“ทำไมฉันต้องชอบซอยูมินด้วย”
“ผมกำลังถามอยู่นี่ไง ว่าทำไมถึงชอบ”
“ไม่ ฉันไม่ได้ชอบ นี่นายรู้ตัวไหมเนี่ยว่ากำลังพูดเรื่องอะไรอยู่”
“ตอนนี้พี่กำลังจะไปเจอผู้หญิงก็เลยจัดเต็มทั้งแฟชั่นโชว์ ทั้งแฮร์โชว์ ที่พี่ทำแบบนี้ก็เพื่อให้ดูดีต่อหน้าคุณซอยูมินไม่ใช่เหรอครับ”
“ใช่ซะที่ไหน ก็แค่เป็นศักดิ์ศรีในฐานะแฟชั่นนิสตาต่างหาก”
อึยชานขมวดคิ้วอย่างแรงพร้อมกับเช็ดแวกซ์บนนิ้วมือด้วยทิชชู่ แต่ความจริงเขาก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเองทำตัวผิดแปลกจากปกติ เมื่อเวลานัดกับยูมินใกล้มาถึงก็ทำได้แค่เพียงวิตกกังวล ซึ่งไม่รู้ว่าทำไมและไม่อยากแม้แต่จะยอมรับ
“รู้ไหมว่าคราวก่อนผู้หญิงคนนั้นมองฉันแล้วพูดว่าอะไร”
เขาอยากเสริมเหตุผลทั้งๆ ที่ไม่จำเป็น จะต้องหาข้ออ้างว่าทำไมตัวเองเป็นแบบนี้ ซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน
ชอบงั้นเหรอ ฉันเนี่ยนะ ฉันคืออีอึยชาน ผู้ชายที่มีผู้หญิงมากมายมาต่อแถวตั้งแต่สะพานฮันนัมจนถึงยางฮวา ใครชอบใครนะ อีอึยชานชอบผู้หญิงแปลกที่ขี่มอเตอร์ไซค์แล้วทำท่าทางผาดโผนน่ะเหรอ
“แล้วเธอว่าไงล่ะครับ”
“ที่รุนแรงคือหนวดเคราของคุณต่างหาก เธอว่าอย่างนี้ ก็ฉันยุ่งจนไม่มีเวลาโกนหนวด แล้วหนวดนี่มันก็โอเคไม่ใช่หรือไง มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
ที่รุนแรงคือหนวดเคราของคุณต่างหากค่ะ น้ำเสียงเย็นชาเป็นเอกลักษณ์วนเวียนอยู่ในหูของเขา ในขณะเดียวกันก็จัดผมข้างหนึ่งที่เด้งด้วย อึยชานก็รีบปาดแวกซ์ที่ผมอีกครั้ง ส่วนจาฮอนก็แขวนชุดเก็บเข้าตู้เสื้อผ้า
“พี่ถึงได้ถามว่าตัวเองหนวดเยอะเกินไปเหรอ ตอนเจอผมใช่ไหมครับ”
“อืม หลังจากได้ยินอะไรแบบนั้น ครั้งนี้ก็เลยต้องไปแบบเป็นผู้เป็นคนหน่อย มันเป็นมารยาทไง”
เป็นผู้เป็นคน คำนั้นคือหลักฐานของความกังวลใจที่มีมากจนเกินไป มารยาทเนี่ยนะ เขามีมารยาทตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
จาฮอนถอนหายใจหน้ากองเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายไปทั่วและไม่ได้พูดอะไรต่อ ถึงจะพูดออกไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะนอกจากจะไม่เข้าหูอึยชานแล้ว แถมเขายังได้เสื้อเชิ้ตที่ถูกใจมาแล้วด้วย
“ไม่มีตรงไหนแปลกใช่ไหม”
ระหว่างจาฮอนกำลังจัดกองเสื้อผ้าอยู่ อึยชานก็ออกห่างจากกระจกหลังจากฉีดน้ำหอมกลิ่นอ่อนๆ ตรงต้นคอ
“ครับ โอเคเลยครับ”
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อึยชานก็ดูมีออร่าของการเป็นนักแสดงผิดกับเมื่อไม่กี่วันก่อน ร่างสูงเพรียวและไหล่กว้างปรากฏเด่นชัดแม้อยู่ภายใต้เสื้อไหมพรมหลวมๆ ดวงตาที่มีเสน่ห์ดูลึกลงไปอีกเพราะแพขนตาหนา อึยชานมองดูตัวเองที่สะท้อนในกระจกเต็มตัวเป็นครั้งสุดท้ายและรู้สึกพึงพอใจ ก่อนจะหยิบกุญแจรถออกมาโยนให้จาฮอน
“ไปกันเถอะ”
ไม่ว่าจะตอนถอนเงินที่ธนาคารหรือตอนมาร้านกาแฟที่นัดกันไว้ อึยชานก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยตลอดเวลา มันเป็นสีหน้าสดใสที่จาฮอนไม่ได้เห็นมานาน แต่สุดท้ายสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นแข็งตึงและเย็นชากว่าปกติทันทีที่เห็นผู้ชายคนที่มารอก่อนแล้ว
“สวัสดีครับ คราวที่แล้วยุ่งมากก็เลยไม่ได้ทักทายกันอย่างเหมาะสมเลยครับ ผมยูชองอู ผู้จัดการส่วนตัวของคุณซอยูมินครับ”
ชองอูยิ้มกว้างพร้อมกับทักทายอย่างอัธยาศัยดี แต่ข้างๆ เขากลับไม่มีใครอยู่เลย แถมกาแฟบนโต๊ะก็มีแค่แก้วเดียว ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าเธอให้ผู้จัดการส่วนตัวมาแค่คนเดียวอย่างนั้นเหรอ อึยชานเป็นฝ่ายนั่งลงก่อนหลังจากจับมือกันเสร็จด้วยใบหน้าแข็งตึง
“อีอึยชานครับ ส่วนนี่คือผู้จัดการส่วนตัวของผม อีจาฮอน”
“ยินดีที่ได้พบครับ งั้นเดี๋ยวผมไปซื้อกาแฟมาให้นะพี่”
จาฮอนรับรู้ได้ถึงบรรยากาศอันน่าอึดอัดจึงรีบหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วหายตัวไป อึยชานมองปราดชองอูด้วยสายตากราดยิงจากทางด้านหลัง หน้าตาของเขาที่ถ้าหากผ่านมือของผู้เชี่ยวชาญก็น่าจะเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ใช้ได้ได้เลยทีเดียวก็ยิ่งรบกวนจิตใจมากขึ้นไปอีก ไม่ชอบหน้าตานั่นเลย เขาหาเรื่องจับผิดไร้สาระในใจพร้อมกับเปิดกระเป๋าที่โยนไว้ข้างๆ
“ค่าบัตรเครดิตที่คุณยูมินใช้เมื่อสุดสัปดาห์ ผมจ่ายให้เองครับ แต่ว่าเจ้าตัวไม่มาเหรอครับ”
โอ้โห ใจกว้างจริงๆ เลยแฮะ ชองอูตบมือในใจ
“พี่เขาไม่ค่อยสบายน่ะครับ”
ฉันไม่อยากเห็นหน้าแล้ว นายไปจัดการเอาเองแล้วกัน ถึงยูมินจะพูดอย่างนั้น แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดตามความจริงนี่นา
“หรือว่ามีอาการตามมาหลังเกิดอุบัติเหตุ?”
“ก็แค่ ช่วงนี้หนักไปหน่อยน่ะครับ”
ก็คงจะต้องหนักแหละ อึยชานคิดถึงข้อความของโรงแรมที่ถูกส่งมาทุกวันพร้อมกับหยิบซองที่มีเงินสดบรรจุอยู่ออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้อย่างอารมณ์เสีย
“นี่ครับ ยี่สิบล้านวอน”
“ขอบคุณค่ะ”
ภายในชั่วพริบตาซองก็หายขึ้นด้านบนไม่ใช่ฝั่งตรงข้ามพร้อมกับเสียงไม่คุ้นหู เมื่อหันมองก็เห็นผู้หญิงผมยาวในชุดสูทยืนอยู่ตรงนั้น ดวงตาชองอูเบิกโตขึ้นเป็นสองเท่าแล้วลุกขึ้นพร้อมกับตะโกนออกมา ก่อนที่อึยชานจะได้เอ่ยปากถาม
“ทะ ท่านประธาน!”
“ฉันคิดไว้แล้ว คุณชองอู ไปเขียนหนังสือขอโทษมาด้วยนะคะ”
“ครับ แต่ผมแค่ทำตามที่พี่ยูมินสั่งเองนะครับ”
ชองอูรู้สึกไม่ยุติธรรมจริงๆ และพยายามโต้แย้งอย่างเต็มที่ แต่ใบหน้าของคนต้อนเขาเข้ามุมกลับไม่มีความเห็นใจใดๆ
“ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าช่วยเรื่องเงิน ถ้าโดนจับได้อีกครั้งเดียวล่ะก็ ไม่จบแค่ที่หนังสือขอโทษแน่ๆ ค่ะ”
หญิงสาวข่มขู่ชองอูอย่างนิ่งๆ แต่การทักทายอึยชานกลับสุภาพอ่อนน้อมไร้ที่ติ
“ขอโทษที่ทักทายช้านะคะ ฉันซอยูฮา เป็นประธานบริษัทต้นสังกัดของคุณยูมินค่ะ”
ทำไมพอเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นทีไรจะต้องมีแต่เรื่องน่าสับสนทุกที อึยชานซ่อนความงงงวยภายใต้ใบหน้าแข็งทื่อพร้อมรับนามบัตรที่เธอยื่นมาให้
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมอีอึยชาน”
ซอยูฮา ซอยูมิน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจากจ้องนามบัตรอย่างละเอียด แล้วมองผู้หญิงตรงหน้าอีกครั้ง พอเห็นอย่างนี้แล้ว หน้าตาก็เหมือนกันมากทีเดียว
“ขอโทษนะครับ แต่ว่าทั้งสองคน…”
“ค่ะ เป็นพี่น้องกัน ฉันเป็นพี่สาว”
จาฮอนเดินกลับเข้ามาจากข้างหลังพร้อมกับกาแฟสองแก้ว สถานการณ์เหนือความคาดหมายทำให้คนมาใหม่มีสีหน้าตกใจนิดหน่อยเช่นกัน
“ก่อนอื่นเรามานั่งคุยกันเถอะครับ นายเองก็นั่งตรงนี้”
ยูฮาพยักหน้าให้เบาๆ แล้วนั่งลงข้างๆ ชองอู จาฮอนยืนจ้องยูฮานิ่งโดยไม่กะพริบตา
“มัวทำอะไรอยู่”
อึยชานตีขาจาฮอนที่มัวแต่ยืนเหม่อ หลังจากนั่งลงอย่างมึนงงเหมือนเพิ่งกลับมาโลกแห่งความเป็นจริง จาฮอนก็ยังละสายตาจากยูฮาไม่ได้เลย ก่อนจะยื่นกาแฟของตัวเองให้เธอ
“คุณดื่มอเมริกาโน่ไหมครับ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
ยูฮาไม่ปฏิเสธและรับกาแฟนั้นมาจิบหนึ่งอึก จากนั้นพลิกซองเอกสารไปมา
“เตรียมมาอย่างดีเลยนะ แต่ว่าคุณอึยชาน มอเตอร์ไซค์คันนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของฉันค่ะ”
“ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ของคุณยูมินหรอกเหรอครับ”
“ค่ะ เพราะซื้อมาด้วยชื่อฉัน ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นฉันก็ต้องเป็นคนจัดการเอง แต่ไม่นึกเลยว่ายัยนั่นจะพยายามแอบจัดการเองด้วยวิธีแบบนี้ เพราะฉะนั้นเงินนี่ ฉันจะเก็บไว้เองค่ะ”
ยูฮาเก็บซองเงินด้วยความมั่นใจและส่งหนังสือสัญญากับเอกสารให้อึยชาน
“ท่านประธาน แต่ถึงยังไงก็น่าจะต้องให้เงินใช้จ่ายบ้าง… ไม่มีอะไรครับ”
ชองอูเสนอแนะอย่างใจกล้า แต่แล้วก็เป๋ไปเพราะสายตาของยูฮา ภาพนั้นทำให้อึยชานรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก และในทางกลับกันก็ทำให้รู้สึกตัวเองน่าสมเพชเช่นกัน
“ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับ ท่านประธานก็น่าจะต้องเซ็นชื่อเหมือนกันนะครับ”
หลังจากตรวจสอบหนังสือสัญญาที่มีเนื้อหาว่าจะไม่ถามเรื่องความรับผิดชอบอีก ใบเสร็จ ลายเซ็นตัวเองและหนังสือรับรองทนายความอย่างละเอียดเรียบร้อยแล้ว อึยชานก็วางกองเอกสารลง
“ใช่ค่ะ เป็นคนละเอียดดีนะคะ”
ยูฮาตอบกลับทันที แล้วหยิบปากกาหมึกซึมออกมา ลายเซ็นที่ถูกเขียนเพิ่มบนเอกสารนั้นเรียบง่ายและชัดเจน
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ หากมีอะไรช่วยติดต่อหาฉันได้เลยนะคะ อ๋อ ขอบคุณสำหรับกาแฟด้วยค่ะ”
ยูฮาพูดปิดท้าย ส่ายแก้วกาแฟให้ดูพร้อมส่งยิ้มให้จาฮอน อึยชานคิดว่าถ้าเงี่ยหูฟังอีกสักนิดก็คงจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นของจาฮอนแน่ๆ เพราะตอนนี้อีกฝ่ายมีสีหน้าที่ใครมองก็รู้เลยว่ากำลังตกหลุมรัก
* * *