สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 2 ตอนที่ 120
หม่าโฮ่วเต๋อยันตัวขึ้นจากพื้น สะบัดหัวเล็กน้อย หลังจากหายหน้ามืดตาลายไป ก็เดินไปทางเยี่ยเหยียนทันที
“เยี่ยเหยียน นายไม่เป็นไรใช่ไหม!”
พอได้ ไม่ถึงตายหรอก” เยี่ยเหยียนกระอักเลือดที่เหลือออกมา
ทั้งสองคนที่ล้วนแต่เป็นชายวัยกลางคนต่างก็สบตากัน ทั้งคู่ยังมีรอยยิ้มเมื่อครั้งวันวาน เซอร์หม่ายื่นหมัดออกมา เยี่ยเหยียนเองก็ยื่นหมัดออกมาเช่นกัน
หลังจากผ่านไปสามปี หมัดของชายมีอายุทั้งสองก็ชนเข้าหากันเบาๆ อีกครั้งในวันนี้
“เจ้านี่…เกิดอะไรขึ้น?”
ตอนนี้เซอร์หม่าขมวดคิ้วขึ้น กำลังมองดูอวี๋หวาที่นอนฟุบอยู่บนพื้น อวี๋หวาพลันชักกระตุกไปทั้งตัว เขาถึงกับสำลักเอาฟองน้ำลายสีขาวออกมาไม่หยุด กล้ามเนื้อทั้งร่างกายที่กำยำล่ำสันผิดปกติกำลังแห้งเหี่ยวลงไปทีละน้อยทีละน้อย
เยี่ยเหยียนย่อตัวลงมาแตะชีพจรที่ข้อมือของอวี๋หวา “อ่อนมาก แต่ไม่ถึงกับตายในทันที…ก่อนหน้านี้เจ้านี่คงจะใช้ยาพิเศษอย่างพวกยากระตุ้นประสาทหรือเร่งฮอร์โมนอะไรพวกนี้? จากท่าทางของเขาแล้ว ก่อนพวกเรามาคงไปเจออะไรมา…”
“เขาอาจแค่เดาว่านายจะมาก่อน?” หม่าโฮ่วเต๋อก็พูดราวกับมีความหวาดกลัวอยู่ในใจ “อยู่มานานแล้วถึงจะได้เห็นจริงๆ! เมื่อกี้นี้เจ้านี่เหมือนกับสัตว์ป่าไม่มีผิด…เหล่าเยี่ย ที่เจ้านี่เพิ่งพูดถึงก็คือปั้นเรื่องใส่ร้ายนายให้ตกอยู่ในสภาพแบบนี้เหรอ?”
เยี่ยเหยียนครุ่นคิดอยู่สักครู่ ฉับพลันก็ยื่นมือไปค้นกางเกงของอวี๋หวา เจอแค่โทรศัพท์เครื่องหนึ่งและกระเป๋าสตางค์ธรรมดาๆ ใบหนึ่งเท่านั้น
เยี่ยเหยียนเผลอย้อนกลับไปนึกถึงสถานการณ์ที่ตัวเขาถูกคนช่วยออกมาในครั้งที่สอง…ถึงแม้จะมองเห็นลักษณะของคนนั้นไม่ชัดเจน แต่เห็นได้ชัดว่ารูปร่างของอวี๋หวาถูกทำให้ผอมลงไปเล็กน้อย
แต่ระหว่างที่ได้พูดคุยกับอวี๋หวาไปเมื่อสักครู่ เยี่ยเหยียนก็พอรู้ได้ ไม่ใช่เขาที่ยื่นมือเข้ามาช่วยตัวเอง…แล้วเป็นใครกันแน่ที่ช่วยออกมา?
“พี่ชาย ช่วยผมหน่อยได้ไหม?” เยี่ยเหยียนพูดขึ้นทันที
หม่าโฮ่วเต๋อตบหน้าอกเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เยี่ยเหยียนมองดูอวี๋หวาที่อาการร่อแร่อยู่บนพื้นพร้อมกับพูดว่า “อย่าให้เจ้านี่ตายไปเลย และจะให้คนอื่นรู้ไม่ได้ว่าเขาอยู่ในมือพวกเรา…เขาอาจจะเป็นโอกาสให้ฉันพลิกเกมได้”
เซอร์หม่าพยักหน้า “ฉันมีหมอพื้นบ้านที่รู้จักอยู่”
เยี่ยเหยียนพยักหน้า
ทั้งสองคนรีบยกตัวอวี๋หวาที่สลบไปขึ้นมา ก่อนจะจากไปพวกเขากลับมองป้ายหลุมศพอยู่พักหนึ่ง แล้วชายมีอายุสองคนก็พูดพร้อมกันว่า “พี่ใหญ่ ครั้งหน้าจะมาหาและดื่มเหล้าขาวกับพี่!”
…
“นายท่าน คุณเยี่ยและนายตำรวจหม่าพาตัวอวี๋หวาออกไปจากสุสานแล้ว”
ตอนที่โยวเย่กลับมาที่หลุมฝังศพ เห็นเพียงแค่เจ้านายของตัวเองกำลังถือไม้กวาดปัดกวาดฝุ่นผงไปทั่วบริเวณนี้เพียงลำพัง
ที่นี่เพิ่งจะผ่านการต่อสู้ไป ทิ้งร่องรอยเอาไว้ไม่น้อย แม้กระทั่งหลุมฝังศพก็สกปรกไปหน่อยแล้ว
“รู้แล้ว”
ต่อมาทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดจากัน
ลั่วชิวปัดกวาดตรงรอบๆ หลุมฝังศพเงียบๆ จับตาดูแสงท้องฟ้าสว่างขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ
…
…
ตอนนี้เจสสิก้าและคิงคองกำลังยืนอยู่ข้างหน้าแท็บเล็ตเครื่องหนึ่ง
บนจอของแท็บเล็ต มองเห็นเพียงแค่คางของชายคนหนึ่ง รอบด้านนั้นมืดมาก มองไม่เห็นอะไรมากเลยแม้แต่น้อย
ชายคนนั้นพูดขึ้นอย่างเฉยชา “คิงคองนี่เป็นครั้งที่สองแล้วนะที่ปล่อยคนหนีไปได้ ฉันล่ะสงสัยความสามารถในการทำงานของแกจริงๆ”
คิงคองก้มหน้าลง ไม่ได้พูดอะไรสักคำ
ไม่ใช่แค่กลุ้มใจเท่านั้น ยังถึงกับโกรธมากด้วย นี่เป็นเรื่องจริงก็จริง เพียงแต่เขาถูกเบื้องบนตำหนิแบบนี้ ย่อมรู้สึกไม่พอใจแน่นอน
คิงคองพูดขึ้นทันที “คุณซุนครับ ผมคิดว่าแปลกมาก ว่ากันตามเหตุผลที่นี่มีแค่ผมกับเจสสิก้าที่รู้! พอดีกับตอนที่เธอออกไปไม่นาน ก็มีคนมาช่วยทันที ผมรู้สึกว่ามันประจวบเหมาะเกินไป”
พูดไป เขาก็หรี่ตามองเจสสิก้าที่อยู่ข้างๆ
เจสสิก้าไม่ขยับเขยื้อน นิ่งเหมือนเป็นรูปปั้นอย่างนั้น
ผู้ชายบนหน้าจอปรับโทนเสียงให้สูงขึ้นมาทันที “พอแล้ว เจสสิก้าจะไม่หักหลังพวกเราแน่นอน อย่าหาข้ออ้างให้ความประมาทเลินเล่อของแก แกใช้สมองคิดดูหน่อย เธอเปิดเผยตัวตนต่อหน้าเยี่ยเหยียนแล้ว ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยคนไป สิ่งนี้ไม่ได้เกิดประโยชน์กับเธอเลย”
คิงคองก็รู้ว่าเรื่องเป็นแบบนี้ เพียงแต่จู่ๆ ก็ถูกผู้หญิงคนนี้บีบคั้น มีคิดไม่ตกบ้างไม่มากก็น้อย…เขาขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า “ผมจะลากตัวคนมาให้เร็วที่สุด รวมถึงไอ้คนที่ช่วยอยู่เบื้องหลังด้วย ผมจะลากตัวออกมาพร้อมๆ กัน นอกจากเจสสิก้าแล้ว พวกคุณมีคนอื่นมาที่นี่เงียบๆ อีกหรือเปล่า? ดูจากสถานการณ์ก่อนหน้านี้ ในองค์กรของพวกคุณ เหมือนจะมีคนแอบช่วยเยี่ยเหยียนมาตลอด…คนติดต่อของเขา?”
เจสสิก้าส่ายหน้าพูดราวกับไม่สามารถยืนยันได้ “ตอนนี้ฉันยังไม่ได้ข่าว แต่ก็ไม่อาจตัดเรื่องมีคนปฏิบัติการอย่างลับๆ ไปได้ ตัวฉันไม่ได้อยู่สำนักงานใหญ่ มีเรื่องบางเรื่องที่ไม่สามารถเข้าใจได้ในทันที”
ผู้ชายคนนั้นเงียบไปครู่หนึ่ง “ยังมีคนลึกลับช่วยเยี่ยเหยียนออกไป นี่เปรียบได้กับตัวแปรที่ไม่อาจควบคุมได้ตัวหนึ่ง คิงคอง แกบอกฝ่ายผู้ซื้อ ให้ออกสินค้ามาล่วงหน้า ให้อีกฝ่ายเตรียมพร้อมไว้สักหน่อย…เรื่องแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ ให้เจสสิก้ารับผิดชอบก็แล้วกัน”
“ครับ”
ไม่ค่อยอยากจะยินยอมเท่าไหร่ แต่ก็ทำได้เพียงตอบตกลงเงียบๆ
…
…
ราวๆ ช่วงย่ำรุ่ง เซอร์หม่าถึงได้ผ่อนคลาย แล้วนั่งลงพักชั่วครู่ ส่วนเยี่ยเหยียนที่อยู่ข้างๆ กำลังพันข้อมือให้ตัวเองอยู่
ที่นี่คือตึกที่มีห้องยาจีนในห้องห้องหนึ่ง คนที่พักอยู่ที่นี่เป็นหมอแผนจีนสูงวัยคนหนึ่ง
หมอจีนคนนั้นล้างมือแล้วจึงเปิดผ้าม่านเดินออกมา “นายตำรวจหม่า ชีวิตคนบาดเจ็บถือว่ารักษาเอาไว้ได้แล้ว ลูกกระสุนผมก็เอาออกให้แล้ว แต่ว่าเขาเสียเลือดมาก เกรงว่าจะไม่ได้ฟื้นขึ้นมาไว้ขนาดนี้ อีกอย่างเอ็นข้อมือ เอ็นข้อเท้าของเขารวมถึงอวัยวะสำคัญถูกทำร้ายอย่างน่าสยดสยอง ผมแนะนำให้คุณรีบพาเขาส่งโรงพยาบาลไปผ่าตัดเถอะ ไม่อย่างนั้นอาจพิการไปชั่วชีวิตได้…คนที่ลงมือโหดร้ายมากเกินไปแล้ว!
เซอร์หม่าไม่กล้าพูดว่าจริงๆ คนที่ลงมือก็นั่งอยู่ข้างๆ นี่แหละ เขาจึงกระแอมไปเบาๆ พร้อมพูดขึ้น “ผมจะจัดการเอง เจ้านี่พิการไปก็ยิ่งดี ไม่อย่างนั้นคงมีผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่”
หมอจีนสูงอายุก็ไม่ได้พูดอะไรอีก “ผมไปต้มยาก่อนนะ ทั้งสองคนค่อยๆ คุยกันไปแล้วกัน”
เยี่ยเหยียนพูดขึ้นมาทันที “ผู้อาวุโสครับ คอมเครื่องนั้นใช้ได้ไหม?”
“อ้อ คุณใช้สิ”
เยี่ยเหยียนพยักหน้า เดินไปที่ข้างหน้าคอมพิวเตอร์ พอหาสายชาร์จเจอบนโต๊ะ เขาก็รีบเสียบไปที่มือถือของอวี๋หวา จากนั้นก็เริ่มขยับกลับไปกลับมา
“น้องชาย นี่นายกำลังทำอะไร”
“แฮกรหัสผ่านโทรศัพท์อวี๋หวา” เยี่ยเหยียนท่าทางจดจ่อ “ในเมื่อเขาเป็นคนของฝ่ายผู้ซื้อ ในนี้คงจะมีเงื่อนงำหลงเหลืออยู่บ้างไม่มากก็น้อย เมื่อกี้นี้ฉันเห็นข้อความใหม่ข้อความหนึ่ง ฉันอยากจะดูเนื้อหาแบบเต็มๆ หน่อย”
หม่าโฮ่วเต๋อกะพริบตาเล็กน้อย แล้วจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เลื่อนไปมั่วๆ อยู่หลายครั้ง “โทรศัพท์มือถือไม่ได้ล็อกเหรอ?”
เยี่ยเหยียนขมวดคิ้ว เขารับมือถือมา…ตอนที่เพิ่งมาเขายังดูไปแล้วนิดหน่อย เห็นได้ชัดว่าตั้งรหัสผ่านเอาไว้
“แปลก…” แต่เขาก็ยังเข้าหน้าข้อความ
เนื้อหา ‘พรุ่งนี้สองทุ่มครึ่ง ที่จอดรถชั้นใต้ดินศูนย์การค้าซีซาร์ A-105 ใส่หมวกเบสบอลสีดำ จำหน่ายสินค้าก่อนเวลา ระวังตัวด้วย’
“จำหน่ายสินค้าก่อนเวลา!” น้ำเสียงเยี่ยเหยียนเข้มขึ้นมาเล็กน้อย
“จำหน่ายสินค้าก่อนเวลาเหรอ…” มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหม่าโฮ่วเต๋อ
เยี่ยเหยียนพูดเข้าประเด็น “ใส่หมวกเบสบอลสีดำ!”
หม่าโฮ่วเต๋อยิ้มพร้อมกับพูดว่า “เป็นไปได้มากว่าอวี๋หวาและฝ่ายขายจะไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน!”
เยี่ยเหยียนและหม่าโฮ่วเต๋อสบตากันสักพักหนึ่ง ชายสูงวัยทั้งสองคนหรี่ตาลงพร้อมๆ กัน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “โอกาสมาแล้ว!”