สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 2 ตอนที่ 127
รถบนถนนน้อยลง เสียงผู้คนก็ค่อยๆ ไกลออกไป กลางดึกเวลาผ่านไปช้าๆ เที่ยงคืน…ตีสอง…ตีสามครึ่ง
ในที่สุดเจสสิก้าก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา
เธอลูบคลำที่ขอบตาของตัวเองอย่างเผลอไผล แต่ก็ค้นพบว่าตัวเองไม่ได้มีน้ำตาไหลออกมาเลย
เจสสิก้ายังคงเงียบอยู่
เธอกำลังมองคนผู้นี้ที่อยู่กลางซอยมืดสายนี้เป็นเพื่อนเธอ พอสังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วจึงค่อยๆ เปล่งเสียงขึ้น “ขอบคุณ”
“คุณลูกค้ายังต้องการอะไรอีกไหมครับ”
เจสสิก้าพยักหน้า “ก่อนอื่นจดหมายสองฉบับนั้นเป็นโมฆะ…แต่ฉันยังคงจะใช้ค่าธรรมเนียมที่ตกลงกันไว้ตามเดิม”
“ว่ามาเลยครับ”
เจสสิก้าสูดลมหายใจลึกๆ หนึ่งครั้ง “ฉันต้องการพลังต่อต้านสมาคมไมเคิล”
“คุณลูกค้าวางแผนแก้แค้นสมาคมไมเคิลด้วยตัวเองเหรอครับ?”
เจสสิก้าพูดเสียงเฉยเมย “การขายของให้ลูกค้า จำเป็นต้องรู้การใช้งานของลูกค้าด้วยเหรอ?”
ลั่วชิวส่ายหน้าพลางพูดว่า “ไม่ใช่ครับ แค่ความอยากรู้อยากเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้นครับ”
เจสสิก้ากลับตัดสินใจพูดอย่างเด็ดขาดว่า “อย่างนั้นก็ไม่ต้องพูดมากอีก…ฉันอย่างได้พลังในการแก้แค้น”
“ตามที่คุณปรารถนาครับ คุณลูกค้าที่เคารพ”
เจ้าของสมาคมแสดงความเคารพเล็กน้อย ก่อนดีดนิ้วกลางอากาศ แล้วม้วนหนังแกะโบราณม้วนหนึ่งก็ค่อยๆ ลอยลงมา
มันกำลังค่อยๆ เปิดอ้าออกตรงหน้าเจสสิก้า รอบด้านราวกับเข้าสู่อีกมิติหนึ่ง ทั้งมืดอึมครึมและว่างเปล่า
เจสสิก้าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง นาทีนี้เธอยินยอมกลายเป็นผู้แก้แค้นคนหนึ่ง
ในเสี้ยววินาทีที่ฝ่ามือของเธอกดไปบนม้วนหนังแกะแผ่นนี้เบาๆ ความเจ็บปวดที่มาจากกระดูกแขนแตกหักก็ค่อยๆ หายไปอย่างรวดเร็ว ส่วนขาที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกหลังคารถทับก็หายดีแล้ว พลันรู้สึกได้ถึงพลังที่มากกว่าเมื่อก่อนมาก เหมือนกับจะทะลักออกมาจากร่างกายแบบไม่ขาดสาย
บนตัวของเจสสิก้าพลันมีเสียงดังเปรี๊ยะเบาๆ ครั้งหนึ่ง นั่นคือลำแสงแปลกๆ สีฟ้าอมม่วง พันล้อมรอบตัวเธอเป็นสายๆ
เจสสิก้าเผลอยื่นมือของตัวเองออกไป เธอกำลังมองดูลำแสงทรงโค้งสีฟ้าอมม่วงที่กำลังหมุนติ้วอยู่ที่ระหว่างนิ้วของเธอ…นี่คือกระแสไฟฟ้า
“ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นมาหน่อยแล้ว” ตอนนี้ลั่วชิวกำลังมองดูสีหน้าตกใจของเจสสิก้าหลังจากได้รับพลังมา พลางพูดอย่างไม่รีบร้อนว่า “พลังกระแสไฟฟ้าประเภทนี้แกร่งกว่าพละกำลังทางกายของคุณ เพราะว่ามันจะเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่หยุดนิ่ง แน่นอนว่าการเพิ่มขึ้นของมันก็จะลดอายุขัยของคุณไปเรื่อยๆ เช่นกัน”
เจสสิก้ามองอีกฝ่ายเงียบๆ “ยิ่งพลังของมันมีอำนาจมากขึ้น ฉันก็จะยิ่งตายไว…ค่าธรรมเนียมก็จะไปอยู่ในมือของพวกคุณเร็วขึ้นใช่ไหม? เป็นพ่อค้าที่เห็นแก่ได้จริงๆ ด้วย”
แต่เธอก็ส่ายหน้าทันที “ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็ไม่เคยคิดว่าพวกคุณจะเป็นพวกขี้ใจอ่อน ได้ครอบครองพลังพวกนี้ สำหรับฉันแล้วก็เพียงพอแล้วล่ะ”
พูดจบ เจสสิก้าก็เดินผ่านข้างตัวของลั่วชิวไป คิดจะวิ่งเข้าไปในซอยลึกนั้นโดยไม่พูดแย้งสักคำ
ลั่วชิวมองสินค้าล็อตนั้นของสมาคมไมเคิลที่ถูกทิ้งไว้อย่างประหลาดใจ เจสสิก้าเหมือนตั้งใจทิ้งเอาไว้ที่นี่ และไม่คิดจะกลับมาเอาแล้ว
ลั่วชิวหยิบถุงใบใหญ่นี้ขึ้นมา แล้วอดครุ่นคิดไม่ได้
…
…
ในห้องพักหลังร้านขายยาจีนเล็กๆ หมอจีนสูงวัยที่ยุ่งอยู่ตลอดทั้งวันกำลังฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ ด้วยได้คำสั่งจากนายตำรวจหม่าผู้เป็นที่ยอมรับจากทุกที่ทั่วเมือง หมอจีนวัยชราจึงทำได้เพียงดูแลคนบาดเจ็บสาหัสที่ส่งตัวมาก่อนหน้านี้อย่างสุดความสามารถ
หมอแผนจีนวัยชราที่หลับอยู่ไม่รู้เลยว่า ตอนนี้ผู้ป่วยคนนี้ได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว
ใช่แล้ว อวี๋หวาได้สติขึ้นมาเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้เอง
แต่ว่าเขาไม่ได้ขยับตัว ประการหนึ่งเป็นเพราะว่าเอ็นและกระดูกที่มือเท้าของเขาถูกตัดขาด สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวทั้งหมดไป อีกประการหนึ่งก็มาจากผลข้างเคียงของยาต้องห้ามประเภทนั้น
เขาไม่ได้ใช้ยาต้องห้ามประเภทนี้เป็นครั้งแรก ตั้งแต่สมาคมไมเคิลปล่อยยาตัวทดลองจำนวนหนึ่งออกมา แล้วอาจารย์อาของเขาได้ลองใช้ยานี้เพิ่มความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ไร้ที่เปรียบนี้ เขาก็รู้ผลข้างเคียงของยาประเภทนี้แล้ว
ผลข้างเคียงของมันจะทำให้คนอ่อนแอถึงขีดสุดช่วงหนึ่ง มีแต่การใช้ต่อเนื่องเท่านั้นถึงจะรักษากำลังวังชาเอาไว้ได้ แต่เขาได้รู้จากอาจารย์อา ว่าการใช้ของประเภทนี้ต่อเนื่องเท่ากับการขูดรีดชีวิตของตัวเอง
พลังที่เกินขีดจำกัดของร่างกาย จะต้องใช้ชีวิตมาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน!
แต่ทว่า แม้จะใช้สิ่งนี้เป็นสิ่งแลกเปลี่ยน เขากลับยังทำในสิ่งที่ต้องการไม่สำเร็จ อีกทั้งยังมีจุดจบเช่นนี้อีก
ในฐานะที่เป็นคนฝึกยุทธ์คนหนึ่ง เขารู้ดีทีเดียวว่าแผลบนตัวจะนำผลลัพธ์ที่ร้ายแรงขนาดไหนมาให้เขากันแน่ แม้ว่าเขาจะเชื่อมต่อเอ็นกระดูกที่ถูกตัดขาดทันที เกรงว่าก็ไม่อาจฟื้นฟูกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ ยิ่งไปกว่านั้นเวลาก็ล่วงเลยมานานขนาดนี้แล้ว
คนไร้ประโยชน์
นี่เป็นคำที่ไม่สามารถลบออกไปจากหัวสมองของเขาได้ เหมือนเป็นฝันร้ายหลังจากฟื้นขึ้นมา
มองย้อนกลับไปดูเรื่องในอดีต อวี๋หวาก็มีความเกลียดชังสุดขั้วผุดขึ้นมาในจิตใจ…เขาไม่ตาย แต่เขาไม่ยอมให้ตัวเองกลายเป็นคนไร้น้ำยาไม่เอาไหนแบบนี้หรอก
ในฐานะที่เป็นคนฝึกยุทธ์คนหนึ่ง ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าการฝึกยุทธ์ไม่ได้อีก
“ฉัน…เป็นคนไร้ประโยชน์ไปแล้วนะ…”
อวี๋หวานอนอยู่บนเตียงคนไข้ ความทรงจำในหลายปีนี้พรั่งพรูออกมาอย่างไม่ขาดสาย
ในใจของเขากำลังตะโกนร้อง
เขาเหมือนถูกขังอยู่ในกรงที่มืดมิด และกรงนี้ก็หดเล็กลงเรื่อยๆ เหมือนกำลังบีบอัดร่างกายของเขาอยู่
ตอนที่เขาผิดหวังจนถึงขีดสุด ทั้งร่างกายของเขาเหมือนจะหยุดหายใจไม่มีผิด ของเหลวอุ่นๆ ไหลออกมาจากหางตาของเขา!
น้ำตา!
นี่ทำให้อวี๋หวาฮึกเหิมมากขึ้นกว่าเดิม ความอ่อนแอแบบนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนหัวใจถูกคมมีดทิ่มแทงอย่างไรอย่างนั้น
ความโกรธ ความเกลียดชัง ความผูกพยาบาท ความอัปยศอดสู…พวกมันระเบิดปะทุอยู่ในใจของเขาอย่างถึงที่สุด
“ฉันเกลียดตัวเองจริงๆ!!!”
สุดท้ายเขาก็ส่งเสียงขู่คำรามออกมา ราวกับผีร้ายที่ปีนขึ้นมาจากขุมนรก อารมณ์บ้าระห่ำ “อ๊า!!! ฉันเกลียดจริงๆ!! อ๊า!!!!”
เขาต่อสู้กับร่างกายของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เพียงแต่เขาที่ไร้สิ้นเรี่ยวแรง สุดท้ายก็ทำได้เพียงพลิกตัวลงมาจากเตียงผู้ป่วย
เขาตกลงไปกองอยู่บนพื้น หน้าของเขาแทบจะแนบอยู่บนพื้นที่เย็นเฉียบ ร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ไม่มีผิด “ฉันเกลียดตัวเองจริงๆ…”
ทันใดนั้น สายตาของเขาก็มองเห็นขาคู่หนึ่ง
มีใครอยู่ด้วย ไม่รู้ว่ามีคนมายืนอยู่ตรงหน้าเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
อวี๋หวาฝืนเงยหน้าขึ้นมา…เขากำลังมองดูคนผู้นี้ ชายผู้นี้ ผู้ชายคนนี้ที่สวมหน้ากากตัวตลกแปลกๆ เอาไว้
คนผู้นี้ย่อตัวลงมาแล้ว ค่อยๆ เอ่ยปากพูดอยู่ตรงหน้าเขา “คุณลูกค้า คุณ…อยากได้อะไรไหมครับ?”
“อยากได้…อะไร?”
“ใช่ครับ ไม่ว่าจะเป็นอะไร ขอแค่คุณจ่ายสิ่งตอบแทนได้ พวกเราจะช่วยคุณทำให้เป็นจริงเอง” เสียงนั้นเบาและนุ่มนวลกว่าเดิม “ไม่ว่าอะไรก็ตาม”
“พลัง…ผมต้องการพลัง! ผมต้องการพลัง! คุณให้ผมได้ไหม?!!” จู่ๆ อวี๋หวาก็ร้องคำราม “พลังมหาศาล พลังที่ทำลายโชคชะตาทุกอย่าง! พวกคุณให้ได้ไหม?!”
เขาเหมือนเป็นคนบ้าไปแล้ว “พวกคุณให้ได้ไหม? ฮ่าๆๆๆ!!!”
“ลูกค้าคิดจะใช้อะไรมาจ่ายครับ?”
“อะไรเหรอ?” อวี๋หวาหัวเราะลั่นอย่างบ้าคลั่ง “ขอแค่ให้ผมยืนขึ้นมาใหม่ได้! ขอแค่ให้ผมมีพลังมากกว่าเดิม! ไม่ว่าอะไรผมก็ให้ได้ทั้งนั้น! ทรัพย์สมบัติของผม! ชีวิตของผม! แม้กระทั่งวิญญาณของผม!!”
“แน่ใจไหมครับ?”
“อย่าพูดมาก!! รีบทำให้ผมเร็วเข้า!!”
“ตามที่คุณต้องการ คุณลูกค้าที่เคารพ”
…
…
“รอเดี๋ยว คุณ…คุณคิดจะทำอะไร?”
ตอนนี้อวี๋หวากำลังมองผู้ชายประหลาดตรงหน้าอย่างหวาดผวา เขากำลังเทผงสีฟ้าละลายในน้ำทีละห่อทีละห่อ
ผงสีฟ้าพวกนี้…เขาคุ้นเคยมาก!!
“แน่นอน ก็สินค้าที่ให้คุณลูกค้าไงครับ”
คนนั้นเอายาที่ละลายแล้วใส่ในเข็มฉีดยา จากนั้นก็ฉีดเข้าไปในแขนของเขาทันที “ปริมาณยาขนาดนี้ เพียงพอให้คุณลูกค้าใช้ชีวิตด้วยพละกำลังที่ยิ่งใหญ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้เลยครับ”
“อย่า…อย่า! ผมไม่ต้องการ!! หยุด! ผมไม่เอาแล้ว!!!”
“ขอโทษด้วยครับลูกค้า…สัญญาที่เซ็นไว้แล้ว จะต้องปฏิบัติตามเท่านั้นนะครับ”
“อย่า…นะ!!!”
พลัง พลังที่ไร้ขีดจำกัดเริ่มปะทุออกจากร่างกายของอวี๋หวาอย่างบ้าระห่ำ…เพียงแต่หัวใจของเขาก็เต้นอย่างรุนแรงบ้าคลั่ง เหมือนกับจะระเบิดได้ตลอดเวลาอย่างนั้น
อีกโดสต่อด้วยอีกโดส แต่ละเข็มฉีดเข้าไปในเส้นเลือดที่แขนอย่างช้าๆ แต่มั่นคง ตามมาด้วยจังหวะการสูบฉีดเลือดของเขา พลังที่ยาผงสีฟ้าพวกนั้นมอบให้กำลังแล่นไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเขาอย่างบ้าระห่ำ
พวกมันแล่นมาถึงหัว แล้วซึมเข้าไปในส่วนสมองของเขา
ในที่สุด อวี๋หวาก็ล้มลงไปแนบกับพื้นอีกครั้ง ตอนนี้กล้ามเนื้อของเขากำลังขยายตัวอย่างรุนแรง เส้นเลือดแต่ละเส้นค่อยๆ ปูดบวมขึ้นทั้งตัว
หลังจากเส้นเลือดแต่ละเส้นขดม้วนอยู่บนร่างกายของเขาแล้ว ก็ทิ้งริ้วรอยเหมือนใยแมงมุมยุ่งเหยิงเอาไว้
ทั้งสองมือของอวี๋หวากดอยู่บนพื้นด้วยร่างกายสั่นสะท้าน ก่อนเริ่มออกแรงกดนิ้วมือกับพื้นอย่างบ้าระห่ำ จนพื้นที่แข็งแรงแตกกระจายอย่างง่ายดาย!
พลังอันไร้ขอบเขตในร่างกายของเขายังคงปรากฏให้เห็นอยู่ ราวกับไร้ขีดจำกัดอย่างไรอย่างนั้น!
“อ๊า*!!!!*”
เขาจำเป็นต้องระบายความเจ็บปวดที่ร่างกายได้รับด้วยวิธีเช่นนี้ หมัดของเขาชกลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง แต่ละหมัดทำเอาพื้นปูนซีเมนต์แข็งแตกร้าว เหมือนกับการขุดเสาเข็มไม่มีผิด!
“พลัง! ฮ่าๆๆๆ!!! ผมมีพลัง! ฮ่าๆๆๆ!!!”
อวี๋หวาหัวเราะบ้าคลั่งพร้อมลุกยืนช้าๆ วินาทีนี้ เขารู้สึกเหมือนว่าไม่มีใครต่อกรกับเขาได้ และเขาสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้
“ความรู้สึกแบบนี้เยี่ยมยอดเสียจริงๆ!” อวี๋หวากำลังมองดูมือทั้งสองของตัวเอง ส่งเสียงหัวเราะดังลั่นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
รอยยิ้มน่าขยะแขยงเกิดขึ้นตามมาไม่หยุด
เขาก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว…แต่ทว่า เพียงแค่ก้าวออกไป ร่างกายของเขากลับทรุดลงพื้นในชั่วพริบตา!
เลือด เลือดสดๆ จำนวนมาก เลือดสดๆ ปริมาณมากเปลี่ยนเป็นสีดำ ตอนนี้กำลังพุ่งทะลุออกมาจากหลอดเลือดทุกส่วนในร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่ง
“อ๊า*!!!!*”
เขาร้องโหยหวนอย่างคนบ้า กล้ามเนื้อ กระดูก ทุกส่วนเหมือนถูกบีบอัดโดยเครื่องจักรทีละเล็กทีละน้อย
อวี๋หวาตาเหลือกทันที เผยให้เห็นส่วนตาขาวที่เต็มไปด้วยเลือด
ชายผู้นั้นที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขามาโดยตลอด และผู้ที่มอบพลังให้กับเขา ค่อยๆ ถอดหน้ากากบนใบหน้าออกมาแล้ว
อวี๋หวาขยับริมฝีปาก เขาเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่สุดท้ายอวี๋หวาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา…คอของเขาก็พับลง ร่างกายเหมือนดั่งรูปปั้นพังทลายลง และจมอยู่ในกองเลือดสีดำบนพื้น
ตอนนี้เจ้าของสมาคมโค้งตัวลงอย่างสง่างามผิดวิสัย พร้อมพูดด้วยเสียงอันแผ่วเบาว่า “คุณลูกค้า ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคุณพอใจไหมครับ? ถ้าอย่างนั้น…ได้โปรดจ่ายค่าธรรมเนียมของคุณด้วยครับ”
ลั่วชิวยื่นมือไปจับที่บนหน้าผากของอวี๋หวาเบาๆ แล้วดึงดวงวิญญาณสีขาวเทาออกมา