สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 25 อิสระกับตัวตลก
ยามรุ่งสาง วิคเตอร์ถูกโทรศัพท์สายหนึ่งปลุกให้ตื่น ในขณะที่เขากำลังโอบกอดภรรยา และดื่มด่ำกับความฝันอันงดงามในบ้านพักตากอากาศเขตชานเมือง
โทรศัพท์จากสถานีตำรวจ
เขากำลังอยู่ในช่วงลาพักร้อน แต่หลังจากรับโทรศัพท์แล้ว ก็จำต้องยุติวันหยุดของตนเองอย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้วรีบมุ่งหน้าไปพิพิธภัณฑ์เทียทยาคอฟแกลเลอรีที่อยู่ใจกลางเมืองแบบไฟลนก้น
“กาแฟ? หรือนมไหมครับ?”
ตอนที่วิคเตอร์ลงจากรถ คู่หูคนหนุ่มของเขาก็ชูเครื่องดื่มสองแก้วพลางวิ่งเหยาะๆ เข้ามา แต่ วิคเตอร์กลับยื่นมือบอกปัด แล้วเดินฝ่าฝูงชนมุ่งตรงสู่เทปกั้นพื้นที่หวงห้ามโดยไม่หยุดชะงัก
นายตำรวจจ่าหนุ่มเยียร์เกอร์คนนี้ได้แต่ยักไหล่ตามความเคยชิน แล้วถือโอกาสเปิดนมแก้วนั้นดื่มเอง หลังจากดื่มหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็วก็เรออิ่ม ก่อนดื่มกาแฟไปอีกหนึ่งแก้ว แล้วจึงเดินตามไป
จะให้เสียของเปล่าๆ ไม่ได้หรอก ยังไงก็ต้องดื่มกาแฟไปด้วย
วิคเตอร์ที่ทำงานอยู่ข้างหน้าตบมือ พลางตะโกนเสียงดังรีบร้อนราวกับไฟลามทุ่งว่า “ผมต้องการพบผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์แกลเลอรีแห่งนี้ รวมทั้งผู้รักษาความปลอดภัยภายในครึ่งชั่วโมง นอกจากนี้ให้ทางสถานีตำรวจตรวจสอบพวกที่เวียนเข้าเวียนออกที่นี่ รวมถึงพวกที่ถูกประกันตัวออกมาเมื่อคืน และพวกที่เพิ่งออกจากคุกมาไม่นานให้ชัดเจนด้วย ว่าพวกนั้นทำอะไรอยู่ที่ไหน! อีกอย่าง อย่าปล่อยให้นักข่าวคนไหนเล็ดลอดเข้ามาได้เด็ดขาด! เร็วเข้า เร็วๆ!!”
พูดจบ วิคเตอร์ถึงได้หันไปทางเยียร์เกอร์ซึ่งเดินมาทางด้านหลัง แล้วดีดนิ้วหลายครั้ง
เยียร์เกอร์จำต้องเดินจ้ำอ้าวมาหยุดตรงหน้าวิคเตอร์ ตอนที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง วิคเตอร์ก็คว้าแก้วกาแฟที่เปิดฝาออกแล้วในมือเขาไป พอดื่มไปอึกหนึ่งก็เข้าไปในแกลเลอรี หรือก็คือที่เกิดเหตุ
เดิมทีเยียร์เกอร์คิดจะพูดอะไรบางอย่าง…แต่เขาคิดว่าไม่พูดคงดีกว่า
เยียร์เกอร์จ้ำอ้าวตามฝีเท้าของวิคเตอร์ไป เขาพูดรัวๆ ว่า “เรื่องของที่ถูกขโมยไป ยามเดินตรวจพบเมื่อเช้าตอนตีห้าครับ แต่ผมถามเบื้องต้นแล้ว ตอนอยู่กะดึกตีสามไม่ได้ยินเสียงน่าสงสัยอะไร และไม่พบร่องรอยของขโมย เงียบมากครับ”
“เวลาช่วงตีสามถึงตีห้าเหรอ” วิคเตอร์พยักหน้าเล็กน้อย “ไม่พบอะไร… คิดอยากจะหลบกล้องวงจรปิดในพิพิธภัณฑ์ก็เป็นไปไม่ได้ พบเบาะแสอะไรในที่เกิดเหตุบ้างหรือเปล่า?”
“ไม่มีครับ ขนาดรอยเท้าสักรอยก็ไม่พบครับ” เยียร์เกอร์ขมวดคิ้วบอก “ผมดูบริเวณรอบๆ ไปรอบหนึ่งแล้วครับ หน้าต่างของพิพิธภัณฑ์ก็ล็อกจากด้านในทั้งหมด ด้านนอกก็ไม่มีร่องรอยผิดปกติเช่นกันครับ เหมือนว่าภาพนี้หายไปเฉยๆ อย่างนั้นแหละครับ”
“หายไปเฉยๆ?” วิคเตอร์หยุดฝีเท้า ทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจแล้วพูดว่า “นายคิดว่าเป็นการแสดงของพวกนักมายากลงั้นเหรอ?”
“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกจริงๆ ครับ”
ทั้งสองคนเดินมาถึงจุดแขวนภาพ ‘สุภาพสตรีนิรนาม’ ที่ถูกขโมยไปอย่างรวดเร็ว หลังจากวิคเตอร์สวมถุงมือและถุงคลุมเท้าแล้ว ก็เข้าไปใกล้ผนัง หรี่ตาตรวจดูอย่างละเอียด
เยียร์เกอร์ดูจุดเกิดเหตุนี้ไปแล้วไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมง ตอนนี้จึงไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น แต่กำลังคิดว่าหัวขโมยใช้วิธีไหนขโมยภาพนี้ไปกันแน่
อีกอย่าง ที่ขโมยไปก็เป็นแค่ภาพในกรอบเท่านั้น…ส่วนกรอบภาพยังอยู่ที่นี่อย่างดี!
“คุณวิคเตอร์ครับ คุณคิดว่าครั้งนี้เป็นฝีมือเจ้า F&C ไหมครับ?” เยียร์เกอร์ถามลอยๆ
วิคเตอร์นิ่งตะลึง ขมวดคิ้วมีสีหน้าไม่น่าดู
…
…
“Freedom&Clown?”
เจ้าของร้านลั่วตื่นเช้าอย่างสดใส
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์หลักของการมามอสโกครั้งนี้ ซึ่งก็คือการมาท่องเที่ยว หลังจากเที่ยวจุดชมวิวหลายแห่งในช่วงเช้าแล้ว ลั่วชิวก็นั่งลงที่ร้านน้ำชากลางแจ้งร้านหนึ่งตามคำแนะนำของโยวเย่ เห็นบอกว่าขนมร้านน้ำชานี้ก็พอใช้ได้
เจ้าของร้านลั่วรู้ว่าคุณสาวใช้ไม่ต้องกินอาหารอะไร จึงเกิดคำถามขึ้นในใจว่า คุณสาวใช้ใช้อะไรมาตัดสินว่าขนมชื่อดังของร้านนี้รสชาติใช้ได้ล่ะ?
คำตอบก็คือ ดูจากภายนอกเอา…ประมาณนั้น
เพื่อให้ขนมเค้กตักเข้าปากได้พอดีคำ โยวเย่ที่ร่วมโต๊ะด้วยจึงกำลังใช้ส้อมเล็กๆ ตัดแบ่งเค้กเป็นคำเล็กๆ ขนาดพอดีตักเข้าปากได้อย่างประณีต แต่ลั่วชิว…เอ่อ ว่างมากเกินไปแล้วจริงๆ ตอนนี้เขาเลยถือโอกาสอ่านหนังสือพิมพ์
ตามหลักแล้วคุณสาวใช้ที่น่าจะคุ้นเคยกับมอสโกเป็นอย่างมากนั้น ครั้งนี้กลับไม่ได้ให้คำตอบในทันที เธอรับหนังสือพิมพ์จากมือลั่วชิวมา หลังจากกวาดสายตาอ่านแล้วก็พูดเบาๆ ว่า “น่าจะเป็นหัวขโมยที่เพิ่งมีชื่อเสียงเมื่อเร็วๆ นี้นะคะ”
ถ้าเพิ่งโผล่มาหลังจากสมาคมย้ายออกไปแล้ว จะไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ก็ไม่แปลกอะไร
ลั่วชิวกลับพูดอย่างสนใจยิ่งว่า “แต่ใช้ชื่อ ‘อิสระกับตัวตลก’ มาเป็นนามแฝงของตัวเองก็น่าสนใจดีเหมือนกันนะ”
เจ้าของร้านลั่วพูดอย่างนึกสนุกว่า “เธอว่าคุณหัวขโมยคนนี้จะใส่หน้ากากตัวตลกตอนก่อคดีด้วยหรือเปล่า?”
โยวเย่อ่านหนังสือพิมพ์ในมือใหม่อีกครั้งหนึ่ง คิดพลางพูดว่า “หนังสือพิมพ์รายงานว่า ตอนนี้ F&C ได้ก่อคดีสำเร็จมามากกว่าสิบครั้งแล้วค่ะ ทุกครั้งก็หนีไปได้อย่างง่ายดาย…อืม มีหลายครั้งที่ประกาศข่าวการขโมยให้รู้ล่วงหน้าแล้วค่อยไปขโมยของ ที่เหลือก็ไปขโมยก่อน แล้วค่อยประกาศแสดงตัวในภายหลัง ดังนั้นแทบจะจับแนวทางการก่อคดีไม่ได้เลย และไม่มีใครรู้เพศของเขาแน่ชัดด้วยค่ะ คราวนี้ ‘ภาพสุภาพสตรีนิรนามหายไป’ ก็อาจเป็นฝีมือเขา บางทีผ่านไปไม่นานก็อาจจะเห็นประกาศของเขาค่ะ”
จากคำแนะนำของโยวเย่เมื่อครู่นี้ เจ้าของร้านลั่วซึ่งสมัครบัญชีผู้ใช้ VK ไว้แล้ว จึงถือโอกาสตอนนี้เปิดใช้ดูเสียเลย พบว่าในโซเชียลเน็ตเวิร์คกำลังพูดคุยกันเรื่องภาพมีชื่อเสียงที่หายไป
“ ที่แท้ ‘อิสระกับตัวตลก’ คนนี้ก็มีแฟนคลับเยอะมากเลยนะ” ลั่วชิวเริ่มอ่านผลงานของหัวขโมยผู้ยิ่งใหญ่คนนี่ผ่านๆ “…อืม ทุกครั้งหลังจากก่อคดีก็จะบริจาคเงินให้กับการกุศลในนามของตัวเอง? ในสังคมนี่ยังมีการขโมยแปลกๆ ที่ไปปล้นคนรวยช่วยคนจนอยู่อีก อ๋อ…แถลงการณ์ต่อสาธารณชนแล้วด้วย”
นี่คือวิดีโอช่วงหนึ่งที่อัปโหลดในเว็บ VK
ด้านหน้าฉากสีขาวบริสุทธิ์ เห็นเพียงแค่ภาพครึ่งตัวที่สวมหน้ากากตัวตลกและสวมหมวกทรงสูงสีดำ แม้แต่เสียงก็ถูกดัดแปลง แท้จริงแล้วไม่อาจแยกแยะได้เลยว่าคนนี้เป็นชายหรือหญิงกันแน่
“ฉันคือ F&C เมื่อคืนภาพ ‘สุภาพสตรีนิรนาม’ ที่หายไปในพิพิธภัณฑ์ได้มาอยู่ในมือฉันแล้ว”
มีแค่ประโยคเดียว คลิปสั้นๆ ไม่กี่วินาที ชั่วพริบตาก็เล่นจบแล้ว แต่ความคิดเห็นด้านล่างกลับพูดกันสนั่น
มีคนสงสัยว่านี่ไม่ใช่ F&C ตัวจริง เพราะว่าการแถลงการณ์ครั้งนี้มาเร็วเกินไป
และก็มีคนโต้แย้งว่านี่จะเป็น F&C หรือเปล่าก็ไม่แน่เหมือนกัน เพราะว่าแต่ไหนแต่ไร F&C ก็ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว มักจะทำให้คุณตกใจได้เสมอ
แต่ที่มากกว่านั้นกลับเป็นการพูดคุยกันว่าครั้งนี้ F&C จะบริจาคให้กับองค์กรการกุศลไหน พวกเขาถึงขั้นประเมินราคากันแล้ว ด้วยมูลค่าที่ไม่อาจประเมินได้ของภาพ ‘สุภาพสตรีนิรนาม’ จำนวนเงินบริจาคครั้งนี้จะมากมายเพียงใด
“สุภาพสตรีคนสวย ไม่ทราบว่าจะให้เกียรติฉันแสดงมายากลให้คุณชมสักครั้งไหมคะ?”
ด้านหน้าที่นั่งดื่มชา ลั่วชิวและโยวเย่ที่ได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกัน สิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกก็คือนิ้วมือเรียวยาว และขาวสะอาดมากคู่หนึ่ง