สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 4 ตอนที่ 4 โตกว่า สูงกว่า แข็งแกร่งกว่า
“มารีน่า รีบเก็บข้าวของเร็ว จะออกไปกันแล้วนะ!”
“ค่ะแม่!”
ในอีกด้านหนึ่งของประตู เด็กหญิงกำลังยุ่งกับการจัดกระเป๋าเรียนของเธออยู่ ด้วยแม่ของเธอจะรีบส่งเธอไปโรงเรียน แต่ในตอนนี้เองเด็กหญิงกลับนิ่งเฉย
เพราะมีคนกำลังเคาะหน้าต่างห้องนอนของเธอ เด็กหญิงเอียงศีรษะ จากนั้นจึงเปิดหน้าต่างไปเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
“อันโตนิโอ? ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่?” มารีน่าถามอย่างสงสัย
“มารีน่า ฉันหนีออกจากบ้าน!” อันโตนิโอมองมารีน่าพลางพูดด้วยท่าทางภูมิใจในตนเองนิดๆ ว่า “เธออยากมากับฉันไหมล่ะ?”
มารีน่าพูดอย่างไม่เข้าใจ “แล้วทำไมฉันต้องหนีออกจากบ้านไปกับเธอด้วยล่ะ? อันโตนิโอ หนีออกจากบ้านมามันไม่ถูกต้องนะ เธอทำแบบนี้คุณโอเล็กจะต้องเสียใจมากแน่ เธอน่าจะกลับไปขอโทษเขานะ”
อันโตนิโอบอกว่า “มารีน่า ฉันชอบเธอ เพราะงั้นถึงได้มาหาเธอไง”
มารีน่าส่ายหน้าพูดว่า “แต่ฉันไม่ได้ชอบเธอนะ อันโตนิโอ! ฉันชอบผู้ชายที่อายุมากกว่า เป็นผู้ใหญ่กว่า…นี่แม่ฉันกำลังเร่งฉันแล้ว อันโตนิโอ ลาก่อนนะ หวังว่าจะได้เจอเธอที่โรงเรียน”
“มารีน่า! มารีน่า!”
แต่เด็กหญิงมารีน่าไม่สนใจที่อันโตนิโอตะโกนเรียก เธอปิดหน้าต่างลงอย่างรวดเร็ว พร้อมดึงผ้าม่านปิดสนิท
อันโตนิโอก้มหน้าอย่างผิดหวังอยู่ครู่หนึ่ง ตอนนี้มารีน่าออกจากห้องไปแล้ว และเธอได้อธิบายเรื่องบางอย่างกับแม่ของเธอ
“อะไรนะ? หนีออกจากบ้านเหรอ?”
แม่ของมารีน่าตะลึงงัน รีบร้อนอ้อมไปทางด้านหลังบ้าน แต่ตอนนี้เธอเห็นแค่ตัวอันโตนิโอปีนข้ามรั้วไปเท่านั้นเอง
คุณผู้หญิงคนนี้ตะโกนเรียกก็ไม่ทันแล้ว เธอขมวดคิ้วพูดว่า “มารีน่า ลูกไปเอาสมุดโทรศัพท์มา แม่ว่าต้องติดต่อคุณโอเล็กสักหน่อยแล้ว”
“ได้ค่ะ~”
…
แม้ว่าการสารภาพรักจะล้มเหลว แต่ดูเหมือนว่าอันโตนิโอก็ไม่ได้เสียใจอย่างที่คิด ความรู้สึกของเขากลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
เพราะว่าตอนนี้เขากำลังเดินไปบนถนนเส้นที่คึกคัก
ปกติเวลานี้เขาต้องอยู่ในโรงเรียน และนั่งให้เรียบร้อยจนกว่าคุณครูจะมา
ดังนั้นในเวลานี้ทุกอย่างที่อันโตนิโอได้พบเห็นทั้งหมดจึงแปลกใหม่สำหรับเขา อันโตนิโอส่งเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข สองมือของเขากางออก วิ่งกระโดดโลดเต้นอยู่บนถนนราวกับจินตนาการว่าตนเองกำลังโบยบิน
เขาเอาเงินที่มีทั้งหมดของตนเองออกมาจากบ้าน แปดพันกว่ารูเบิล เพื่อนนักเรียนในโรงเรียนส่วนใหญ่ต่างคุยกันถึง ‘เงิน’ของตนเอง แต่ว่าพวกเขาต่างใช้ ‘เงิน’ ซื้อของเล่นหรือขนมที่ไร้ประโยชน์
เพื่อนร่วมชั้นพวกนั้นอ่อนต่อโลกเกินไป ไม่รู้เลยสักนิดว่าจะใช้ ‘เงิน’ ของตนเองอย่างไรให้ถูกต้อง!
“กาแฟแก้วหนึ่ง แซนวิชที่หนึ่งครับ”
อันโตนิโอนั่งบนเก้าอี้ในร้านกาแฟ นี่คือที่ที่อันโตนิโอต้องใช้ความพยายามถึงจะตะเกียกตะกายขึ้นมาได้ ที่สำคัญคือเก้าอี้ทั้งหมดเป็นเก้าอี้สำหรับผู้ใหญ่
อันโตนิโอคิดว่าตนเองนั่งได้เหมือนผู้ใหญ่ที่อยู่รอบๆ ตัวแล้ว แล้วเขายังถือโอกาสหันไปสั่งอาหารบางอย่างกับพนักงานในร้านอีกด้วย
“หนุ่มน้อย นี่พ่อแม่เธอให้เธอมาซื้อใช่ไหม?”
“ผมกินเองครับ” อันโตนิโอทำเสียงแบบผู้ใหญ่พูดตอบ
สวรรค์รู้ว่าเขาคิดว่าเป็นเสียงผู้ใหญ่ ส่วนพนักงานในร้านได้ยินแล้วรู้สึกอย่างไรกันแน่นั้น เห็นแต่พนักงานร้านขมวดคิ้วพูดว่า “หนุ่มน้อย เธอเชื่อฉันเถอะนะ กาแฟไม่เหมาะกับเธอหรอก เธอเอานมหนึ่งที่ยังดีกว่ากาแฟหนึ่งแก้วอีกนะ แล้วนี่เธอมาคนเดียวเหรอ? พ่อแม่เธอล่ะ?”
เขามองเห็นเด็กชายเดินเข้ามาเอง และปีนขึ้นเก้าอี้สูงแบบนี้ จึงอดเอาใจใส่ไม่ได้
“ขอแค่คุณเอากาแฟแก้วหนึ่งและแซนวิชหนึ่งที่ให้ผมก็พอแล้ว!” อันโตนิโอยื่นมือที่กำเงินมาวางบนโต๊ะ
พนักงานในร้านคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็พยักหน้า แต่เขาก็แอบโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว “สวัสดีครับ คุณตำรวจ ที่นี่ถนน XX เลขที่ 12 เมื่อกี้มีเด็กมาในร้านผมคนหนึ่งครับ เหมือนจะมาคนเดียว…ได้ครับ ได้ครับ ผมจะดูเขาเอาไว้ พวกคุณรีบมาเลยนะครับ”
…
อันโตนิโอหนีออกจากบ้านได้แค่สามชั่วโมงก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
นายตำรวจคนหนึ่งกำลังโทรศัพท์ แต่ตอนนี้นายตำรวจอีกคนกำลังมองดูอันโตนิโอและพูดว่า “พวกเรากำลังแจ้งพ่อของเธออยู่ เขาจะรีบมารับเธอทันที”
อันโตนิโอพิงประตูรถตำรวจลำพังคนเดียว ไม่เถียงอะไรสักคำ
นายตำรวจคนนี้ย่อตัวลง ถามด้วยความใจเย็นว่า “ทำไมเธออยากหนีออกจากบ้านล่ะ? พ่อตีเธอเหรอ?”
อันโตนิโอกลับพูดทันทีว่า “คุณตำรวจครับ ผมอยากเข้าห้องน้ำ ผมปวดท้อง”
นายตำรวจคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็คว้าแขนอันโตนิโอพาเดินกลับเข้าไปในร้านกาแฟ จนกระทั่งส่งเขาถึงประตูห้องน้ำ ก็สั่งกำชับไว้ว่า “อย่าลืมล้างมือด้วยนะ”
อันโตนิโอพยักหน้า ท่าทางว่านอนสอนง่าย
หลังจากนั้นไม่นาน โอเล็กก็เข้ามาอย่างรีบร้อน สีหน้าไม่สู้ดีรีบถามว่า “คุณตำรวจครับ ลูกชายของผมล่ะ?”
“เขาอยู่ข้างใน” คุณตำรวจตบประตูห้องน้ำพลางพูดว่า “เจ้าหนู เธอน่าจะออกมาได้แล้วนะ พ่อของเธอมาถึงแล้ว”
ตบประตูไปแค่สองครั้ง ในนั้นก็ไม่มีเสียงตอบมาเลย โอเล็กขมวดคิ้ว ยื่นมือออกไปบิดลูกบิดประตู เปิดล็อกออกได้อย่างง่ายดาย
ตำรวจนั่นไม่ทันได้ทึ่งกับพลังมือของชายร่างสูงใหญ่คนนี้ ได้แต่มองดูประตูห้องน้ำที่เปิดออกมาแล้ว…แต่ไร้เงาคน
“เขาล่ะ…” นายตำรวจพูดอย่างตกใจ
โอเล็กทอดถอนใจ ชี้ไปทางหน้าต่างบานเล็กๆ แล้วพูดว่า “ปีนออกไปแล้วครับ”
…
“เจ้าหนู ที่นี่เธอเข้าไปไม่ได้นะ ที่นี่ต้อนรับแต่ผู้ใหญ่ ถึงเธอจะมีเงินก็เข้ามาไม่ได้นะ อีกอย่างโทรศัพท์ของพ่อแม่เธอเบอร์อะไร? เจ้าหนู เจ้าหนู? เจ้าหนู…”
…
“เจ้าหนู หรือว่าพ่อแม่ของเธอไม่ได้บอกเธอเหรอ ว่ายังไม่เป็นผู้ใหญ่จะซื้อบุหรี่ไม่ได้น่ะ? เจ้าหนู เจ้าหนู? เจ้าหนู…”
…
“หนุ่มน้อย ทำไมเธอมาเดินเล่นเตร่อยู่บนถนนคนเดียวล่ะ? แล้วพ่อแม่ของเธอล่ะ? เธอหลงทางเหรอ? เจ้าหนู เจ้า…”
…
…
ทันใดนั้นอันโตนิโอก็คิดว่าตนเองไม่มีที่ไป เพราะอะไร เพราะอะไรผู้คนทุกที่มักจะถามถึงพ่อแม่ของเขาทุกครั้งที่อ้าปาก?
เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเขาดูแลตนเองได้เป็นอย่างดี
อันโตนิโอไม่รู้ว่าตนเองจะเดินไปที่ไหนกันแน่ เขารู้แค่ว่า ทุกครั้งตอนที่พบใครเดินมาหาเขาด้วยความสงสัย เขาก็ไม่จำเป็นต้องวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
ไม่อย่างนั้นจะเกิดเหตุการณ์เหมือนตอนเช้าที่ร้านกาแฟอีก แล้วคราวนี้อันโตนิโอคิดว่าตนเองคงจะไม่ได้โชคดีปีนออกมาจากห้องน้ำได้อีก
แต่พอคิดถึงเรื่องเมื่อเช้าขึ้นมา อันโตนิโอก็นึกถึงมันด้วยความหงุดหงิด เขาน่าจะเอาของที่ซื้อจากร้านกาแฟมาด้วย
“ที่นี่ที่ไหนเนี่ย?”
อันโตนิโอไม่เพียงแต่ไม่เจอร้านอาหารเท่านั้น ขนาดร้านสะดวกซื้อก็ยังไม่เห็นสักร้านเหมือนกัน เขารู้สึกหิวจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
แล้วจะให้กลับไปแบบนี้น่ะเหรอ?
ฉันโตแล้วนะ!
‘จำไว้ว่า ตอนที่เธอมีสิ่งที่ต้องการ เธอจะหาฉันพบ…’
ในทันใดนั้นเองในหัวอันโตนิโอก็นึกถึงคำพูดนั้นขึ้นมา เขานึกถึงสองคนนั่นที่มาบ้านเขาเมื่อเย็นวาน สองคนนั่นที่หายตัวไปอย่างน่าอัศจรรย์
อันโตนิโอเงยหน้ามองส่ายไปทั่ว เขากวาดสายตามองไปเรื่อย เหมือนว่าที่นี่จะเป็นเขตโรงงาน
สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเขาเดินมาถึงที่นี่ได้อย่างไร
แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้สิ่งที่อันโตนิโอเป็นกังวลมีแต่คำพูดที่พี่ชายคนนั้นเคยบอกไว้จะเป็นความจริงหรือไม่กันแน่
“คุณอยู่ที่ไหน?”
“คุณอยู่ที่ไหน?”
สองมืออันโตนิโอป้องปากไว้ ตะโกนเรียกเสียงดัง “ออกมานะ! คุณอยู่ที่ไหน! ออกมา!”
“อยากกินช็อกโกแลตเหรอ?”
วินาทีที่อันโตนิโอกำลังจะยอมแพ้ ทันใดนั้นเสียงที่เคยได้ยินเมื่อวานก็ดังขึ้นที่ด้านหลังเขา…แน่นอนว่า ยังเป็นคำพูดที่เหมือนกับครั้งก่อนด้วย!
อันโตนิโอหันกลับมาทันที เจ้าคนลึกลับนี่ยื่นช็อกโกแลตออกมาแท่งหนึ่งเหมือนเมื่อวาน บางทีเพราะว่าเขาหิวแล้วจึงคว้าซองช็อกโกแลตมาฉีกออกอย่างไม่ลังเล แล้วก็ใส่เข้าไปในปาก
“เธอเรียกหาฉันมีเรื่องอะไร?”
อันโตนิโอซึ่งช็อกโกแลตยังเต็มปากเงยหน้าขึ้นบอกว่า “พี่ชาย คุณขายทุกอย่างใช่ไหม?”
“อืม”
“งั้น…งั้น…” อันโตนิโอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ถึงได้ชูนิ้วโป้งข้างหนึ่งพูดว่า “ผมใช้อายุ…ไม่เอา ไม่เอา ผมใช้ ผมใช้ เอ่อ…”
ทันใดนั้น อันโตนิโอก็พูดว่า “มารีน่าไม่ชอบผมแล้ว!ถ้าอย่างนั้นผมก็ใช้ความรักมาแลกเปลี่ยนแล้วกัน!!คุณช่วยเปลี่ยนผมเป็นผู้ใหญ่ที!”
“ผู้ใหญ่?”
อันโตนิโอพยักหน้าพูดว่า “ใช่! ผู้ใหญ่!ผมอยากโต ตัวโตสูงเหมือนพ่อของผม! ไม่สิ ผมจะตัวโตกว่าเขา สูงกว่า แข็งแกร่งกว่า!”
เห็นพี่ชายคนนี้ไม่มีปฏิกิริยาอะไร อันโตนิโอเลยพูดอย่างกังวลว่า “พอ พอไหมครับ? ถ้าไม่พอ ผมยังต้องจ่ายอะไรอีกไหม?”
“ไม่หรอก…พอแล้ว”
…
เหมือนสายลมพัดผ่านไปครู่หนึ่ง
ทิวทัศน์ทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าก็เปลี่ยนไป
ตอนที่ม้วนหนังแกะมหัศจรรย์นั่นคลี่ออกตรงหน้าเขา อันโตนิโอรู้สึกว่าทั้งตัวเขาเหมือนฝังอยู่ในน้ำแข็งหิมะในหน้าหนาว จนเขาอดตัวสั่นเทาไม่ได้
พี่ชายคนนั้นบอกว่า ทำสัญญาข้อตกลงเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็หายตัวไปต่อหน้าเขาอีกครั้งหนึ่ง
แต่อันโตนิโอรู้สึกว่าตนเองไม่เหมือนเดิมแล้ว!
เขายื่นมือออกมาดูแขนของตัวเอง มันใหญ่ขึ้นแล้ว แขนของเขาหนากำยำกว่าต้นขาของเขาเมื่อก่อนเสียอีก กล้ามเนื้อเป้นมัดๆ ขนาดไม่ต้องกำหมัดกล้ามก็เกร็งนูนได้เต็มที่!
ขนาดสองขาของเขายังยาวกว่าความสูงเมื่อก่อนเสียอีก!
อันโตนิโอลูบใบหน้าตนเองอย่างลืมตัว มีหนวดเคราอยู่บ้าง!จริงสิ ยังมีสายตาอีก! สายตาของเขาตอนนี้เหมือนยืนอยู่บนเก้าอี้เลย!
ยังมีอีก เสื้อผ้าของเขาฉีกขาดออกด้วยร่างกายที่ใหญ่โตขึ้น มีแต่ผ้าขาดเป็นริ้วๆ ห้อยบนตัวเขา แต่สายสะพายกระเป๋าเป้ของเขาฉีกขาดไปตั้งนานแล้ว!
อันโตนิโอถอนหายใจอย่างไม่อยากเชื่อ เขาออกแรงหยิกใบหน้ารูปไข่ของตนเอง รู้สึกเจ็บแล้ว เจ็บสุดๆ เลย
แต่เขากลับยิ้ม
“ผมโตแล้ว!ผมโตแล้วจริงๆ! ตอนนี้ผมเป็นผู้ใหญ่แล้ว!”