สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 56 ความสมดุล (1)
“นี่…นี่มีผู้ก่อการร้ายชาวเชชเนีย*บุกมางั้นเหรอ?”
เพิ่งเข้าไปในคฤหาสน์นี้ได้เพียงไม่กี่นาที วิคก้าพลันก็รู้สึกขนพองสยองเกล้า
ระหว่างทางเห็นศพคนตายน่าสยดสยอง แล้วเวร่ากลัวไหม?
แต่เห็นได้ชัดว่าเวร่าไม่กลัวเลยสักนิด…แม้จะรู้ว่าหญิงสาวคนนี้มีบางส่วนที่เป็นอมนุษย์อยู่บ้าง แต่วิคก้าก็อดพูดโน้มน้าวไม่ได้ว่า “คุณเวร่า! คุณก็เห็นสถานการณ์ที่นี่แล้ว พวกเราถอนตัวกันเถอะ!”
คาดไม่ถึงว่าเวร่ากลับขมวดคิ้ว
จมูกของเธอได้กลิ่นเหม็นเน่าในอากาศ “ฉันได้กลิ่นน่าขยะแขยง”
วิคก้ามองศพที่อยู่บนพื้นนี้ ก่อนพยักหน้าแล้วพูดว่า “ที่จริงผมก็เกลียดกลิ่นคาวเลือดมากเหมือนกัน…เดี๋ยวก่อน นี่คุณจะไปไหน?”
ทว่าเวร่ากลับตอบเนิบๆ เพียงประโยคเดียวว่า“ที่ฉันพูดหมายถึงกลิ่นหมาป่าต่างหาก”
“หมาป่า?” วิคก้าอึ้งไป แล้วเหมือนจะคิดอะไรออก สีหน้าจึงเปลี่ยนไปทันทีพร้อมพูดว่า “คุณพูดถึงหมาป่า แบบหมาป่าที่เป็นสัตว์น่ะเหรอ?”
แต่เขาก็ไม่ต้องการคำตอบจากเวร่าอีกแล้ว เพราะวินาทีต่อมาก็มีเงาหนึ่งปะทะเข้ากับกำแพงอย่างจัง แล้วก็กลิ้งอยู่บนพื้น ตรงหน้าเวร่าและวิคก้า!
ร่างที่ปกคลุมไปด้วยเส้นขน สองมือสองเท้าหมอบอยู่บนพื้น มันเงยหน้าขึ้นแยกเขี้ยว เหมือนไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะ…นั่นคือมนุษย์หมาป่า!
“นี่…นี่มันอะไรกัน!”
แล้วเวลานี้เงามหึมาอีกเงาหนึ่ง ก็เดินออกมาจากกำแพงช้าๆ เช่นกัน มันทำให้วิคก้าเผลอนึกถึง ‘ยักษ์ตัวเขียว!’ เวอร์ชันย่อส่วน
“ยังมีคนขวางอยู่เหรอ!”
ฉับพลันนั้น ‘ยักษ์’ แข็งแกร่งตนนี้ก็เปิดปากพูด…เสียงดังคำรามเหมือนนักโทษขังคุกที่กำลังโกรธจัด
และแล้ว…’ยักษ์’ ตนนี้ก็เห็นวิคก้ากับเวร่า
“วิคก้า นายหลบไปก่อนเถอะ”
เวลานี้เวร่าพูดอย่างใจเย็น แล้วดวงตาของเธอก็ค่อยๆ เปลี่ยนสีไป
…
…
“คุณจะพาพวกผมไปที่ไหนกันแน่?”
ยูริไม่ได้พูดอะไรเลยตลอดทาง เยฟิมเริ่มหมดความอดทน “หนึ่งนาที! ถ้าอีกหนึ่งนาทีคุณยังไม่พาผมไปหาทายาทตัวจริงล่ะก็ คุณได้ลงนรกแน่!”
“ถึงแล้ว”
ยูริที่เหงื่อท่วมหัวค่อยๆ หันมาทางเยฟิมและชายหนุ่มกำยำอีกคนที่ด้านหลัง “ห้องข้างหน้านี้แหละ คฤหาสน์นี้มีทางลับสำหรับหลบหนี”
เทียนไป้พยักหน้าเล็กน้อยแล้วออกคำสั่งทันทีว่า “เปิดประตูห้อง”
ยูริพยักหน้า แล้วค่อยๆ เปิดประตูห้อง ห้องที่ว่านี้คือห้องหนังสือ
“ทางหนีอยู่ที่ไหน?” เยฟิมพลันขมวดคิ้วถาม
ยูริชี้ไปที่โต๊ะหนังสือในห้องแล้วพูดว่า “กลไกอยู่บนโต๊ะ…เห็นโคมไฟนั่นไหม? เลื่อนโคมไฟออกก็จะเห็นปุ่มเปิด ทางลับอยู่หลังชั้นวางหนังสือ”
เยฟิมเหล่ตามอง แล้วพูดขึ้นทันทีว่า “ดีมาก คุณไปเลื่อนโคมไฟออกเดี๋ยวนี้!”
เยฟิมเห็นท่าทางลังเลของยูริ จึงจ่อปืนไปที่หัวของเขาแล้วพูดเสียงขรึมว่า “เดินไป!”
ยูริทำได้เพียงยกมือทั้งสองขึ้นสูง แล้วเดินทีละก้าวไปยังโต๊ะหนังสือช้าๆ พอเขามาถึงโต๊ะหนังสือ ยูริก็หันกลับมามองเยฟิมและเทียนไป้ หยดเหงื่อจากจอนผมไหลลงไปที่ลำคอ
เขากลืนน้ำลายไปอึกหนึ่ง
“เร็วๆ สิ!” เทียนไป้สบถเสียงเย็นชา พร้อมกับยกเบนเนลี่ M1 ที่อยู่ในมือขึ้นมา เสียงบรรจุกระสุนดังมากเป็นพิเศษ
เวลานี้แหละ!
ยูริย่อตัวลงอย่างว่องไวไปหลบอยู่ใต้โต๊ะหนังสือ พร้อมกับดึงลิ้นชักโต๊ะออกมา ตรงนี้มีปืนพกซ่อนอยู่
ความจริงแล้ว คฤหาสน์แห่งนี้มีมุมลับที่ซ่อนอาวุธอยู่ไม่น้อย แต่ว่าอยู่ที่ไหนบ้าง ทายาทสวมรอยอย่างเขาไม่มีทางรู้ได้ทั้งหมดหรอก
แต่เขาเคยเห็นปืนในห้องหนังสือนี้แล้ว!
ยูริถือปืน หอบหายใจยกใหญ่ เขาใช้พลังที่มีทั้งหมดเพื่อทำให้ตัวเองสงบลง
“แกเล่นตุกติก!”
เสียงฝีเท้า ใกล้เขาเข้ามาทีละก้าว ทีละก้าว!
“อ๊า!!!!”
ยูริตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด สักพักก็พุ่งตัวออกมาจากข้างโต๊ะหนังสือ พร้อมลั่นไกปืน!
ปังๆ…ปังๆๆ!
…
…
แอนนาพุ่งตัววิ่งผ่านลั่วชิวและโยวเย่ไปอย่างเผลอไผล แต่ก็หยุดฝีเท้าอย่างรวดเร็วเช่นกัน
เพราะเธอเพิ่งตระหนักได้ว่าเธอวิ่งนำหน้าเจ้าของสมาคมและคุณสาวใช้ไปแล้ว…แม้ว่าเธอไม่เต็มใจนัก แต่จำต้องยอมรับ
“นี่คุณ…เดินให้ไวหน่อยไม่ได้เหรอ?”
“คุณแอนนาครับ” ลั่วชิวพูดเสียงเรียบเฉย “คุณแน่ใจว่าต้องการแบบนี้ใช่ไหม? คุณยูริเป็นคนที่มีอายุขัยไม่ถึงหนึ่งเดือน…คุณยังยืนยันที่จะมอบจิตวิญญาณส่วนหนึ่งของตัวเองเป็นค่าธรรมเนียมให้เขาผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปเหรอครับ?”
แอนนาแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันขอแลกเปลี่ยนเรื่อยๆ ไม่หยุด แบบนี้พวกคุณก็จะได้รับจิตวิญญาณของฉันเร็วขึ้น นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณต้องการมากที่สุดหรอกเหรอ?”
ลั่วชิวส่ายหน้าเล็กน้อย: “ไม่ใช่ครับ ผมหมายความว่า คุณแอนนาสามารถใช้ค่าธรรมเนียมที่เหลือทั้งหมดแลกซื้อสิ่งที่ดีกว่าให้ตัวคุณเองได้ อย่างเช่น อายุขัย”
ลั่วชิวมองหน้าแอนนา แล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า“คุณแอนนาต้องรู้นะครับ เดิมทีคุณควรตายไปแล้ว แต่ที่คุณยังมีชีวิตอยู่ ก็เพราะใช้จิตวิญญาณทุกวินาทีเป็นค่าธรรมเนียม…ผมหมายความว่า ทุกวินาทีที่คุณใช้ไป ก็เท่ากับว่าอายุขัยที่คุณสามารถแลกได้ก็จะลดลง แน่นอนว่าสำหรับคนที่ควรตายไปแล้ว ต่อให้ใช้จิตวิญญาณไปแค่ไหน อายุขัยที่ได้รับก็ไม่มากนัก แต่ก็ด้วยเหตุนี้เอง จิตวิญญาณจึงล้ำค่ามากครับ”
ลั่วชิวเห็นแอนนาไม่พูดไม่จา จึงพูดช้าๆ ว่า “ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณยังสามารถซื้ออายุขัยได้อีกสามปี แต่เมื่อใช้แลกกับเรื่องอื่นไปแล้ว ก็จะเหลือที่แลกอายุขัยได้เพียงสองปี…แน่นอนว่าผมแค่ยกตัวอย่าง”
“ใช่! ยืนยัน! ตกลงแล้ว! คุณทำได้ไหม?!”
“ผมเข้าใจแล้ว” ลั่วชิวพยักหน้าเล็กน้อย “เราจะทำตามความปรารถนาของคุณ”
ลั่วชิวเดินผ่านแอนนาไป แต่ไม่ได้ก้าวเข้าไปในห้องที่ปิดประตูอยู่นี้แม้แต่ก้าวเดียว เวลานี้เขาเพียงแค่ยกมือขึ้น
แล้วเปลี่ยนแปลงเรื่องราวในประตูบานนั้นไปอย่างช้าๆ
ปังๆๆ…ปังๆ!!!
เสียงกระสุนปืนห้านัดดังขึ้นในห้องนั้น
วินาทีที่เสียงปืนดังขึ้น แอนนาก็มองไปทางประตูห้องอย่างรวดเร็ว
พอเสียงปืนเงียบไปหมดแล้ว แอนนาก็บีบมือทั้งสองของตัวเองไว้แน่น ก่อนยกขึ้นมาปิดปากของตนเอาไว้
เงียบมาก เงียบมาก…เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว
เธอไม่กล้าที่จะก้าวเดินแม้เพียงก้าวเดียว และยิ่งไม่กล้าที่จะไปเปิดประตูตรงหน้า เธอเพียงแค่…มองมันอยู่อย่างนั้น
เวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้วนะ?
เสียงประตูห้องดังแกร็ก เป็นเสียงเปิดประตูห้องที่ล็อกอยู่ จากนั้นเงาหนึ่งก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้น
นั่นคือยูริ
หน้าของเขาชุ่มไปด้วยเลือด หยดติ๋งๆ ราวกับสีหมึกที่สาดออกมาจากพู่กัน ดวงตาของเขาว่างเปล่า เขาถือปืนในมือ โดยที่ปากกระบอกปืนชี้ลงพื้น
เขาเดินไปทีละก้าว ทีละก้าว เหมือนกำลังลากร่างไร้เรี่ยวแรงของตัวเองเดินออกมา
เขาเห็นว่าตรงระเบียงนี้ยังมีเงาคนอยู่อีกสามคน ไม่ว่าจะเป็นลั่วชิว คุณสาวใช้ หรือแม้แต่แอนนา แต่เขากลับไม่ได้เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา
เขายังคงเดินทีละก้าวทีละก้าว อยู่อย่างนี้
เขาเดินผ่านร่างของแอนนาไป โดยไม่รู้ว่ามีคนกำลังมองเขาอยู่ตรงนี้ เธอรู้ว่าเขามองไม่เห็นตัวเธอ เธอจึงยื่นมือออกไป อยากจะปัดผมที่ปรกใบหน้าเขาเบาๆ หรือเช็ดรอยเลือดบนใบหน้าของเขาออกไป
แต่เธอไม่กล้า นิ้วมือของเธอชะงักกลางคัน
เธอให้เขาจากเธอไป เดินผ่านไปแบบนี้…เหมือนศพเดินได้ ในที่สุดเขาก็หายไปจากระเบียงนี้
ในที่สุดก็ผ่านอันตรายครั้งนี้ไปแล้ว
เธอใช้สองมือปิดปากตัวเองแน่น พยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ แล้วพิงผนังอย่างหมดเรี่ยวแรง
จนกระทั่งเธอมองเห็นลั่วชิว เธอพูดด้วยความโศกเศร้า“ฉันอยากบอกเขาเหลือเกิน ว่าฉันไม่เคยคิดฆ่าเขา ไม่ว่าฉันจะอยากบอกเขามากแค่ไหน…อยากจะบอกเขา…”
“แต่ฉันก็ทำไม่ได้ ฉันให้เขารู้ไม่ได้…”
“ฉันให้เขารู้ไม่ได้…ว่าการแก้แค้นของเขาไร้ความหมาย”
“เพราะฉันรู้ว่า ตั้งแต่วินาทีที่ฉันตัดสินใจยิง ตั้งแต่วินาทีที่เจอเขาหน้าประตูแกลเลอรีตอนนั้น…”
“ฉันไม่คู่ควรที่จะถูกรัก”
*เชชเนีย หรือสาธารณรัฐเชเชนเป็นสาธารณรัฐหนึ่งของสาธารณรัฐของประเทศรัสเซีย หลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย แบ่งออกเป็นสองสาธารณรัฐ คือ สาธารณรัฐอินกูเชเตียและสาธารณรัฐเชเชน สาธารณรัฐเชเชนได้รับการประกาศเป็นสาธารณรัฐอินกูเชเตียเชเชน ซึ่งแสวงเอกราช หลังสงครามเชเชนครั้งที่หนึ่งกับประเทศรัสเซีย เชชเนียได้รับเอกราชโดยพฤตินัยเป็นสาธารณรัฐอินกูเชเตียเชเชน