สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 78 ในตัวคน
“…ขอบคุณคำชี้แนะของอาจารย์ค่ะ และแน่นอนว่ายังมีเอลลีเพื่อนรักของฉันด้วย! เธอให้คำแนะนำฉันเยอะเลย…แล้วฉันก็ขอขอบคุณ…”
กลอเรียลุกขึ้นยืน พร้อมเสียงปรบมือล้นหลามในชั้นเรียน แน่นอนว่าก็เพราะอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกชื่อเธอด้วยเช่นกัน
ในที่สุดรางวัลที่หนึ่งจากการออกแบบหลักสูตร ก็ได้ผลสรุปหลังจากเลือกสรรมาสองเดือนกว่า
เอลลีได้แต่มองกลอเรียเดินขึ้นเวทีไปรับรางวัลแห่งเกียรติยศนี้จากมืออาจารย์ที่ปรึกษา พร้อมกับเผยรอยยิ้มน้อยๆ
แต่สายตาของเธอกลับมองต่ำลงมา
ในมือถือปากกาขีดลงบนเก้าอี้ไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้ว จนเก้าอี้เกิดเป็นรอยลึก
ฉับพลันเอลลีก็หลับตาลง…เหมือนว่าตัวเองหลุดไปอยู่ในโลกอีกใบหนึ่ง โลกซึ่งอาจารย์ที่ปรึกษากำลังเรียกเธอด้วยเสียงดังก้อง ‘ยินดีด้วยนะเอลลี! ขึ้นมาสิ เอลลีที่รัก เธอต้องอยากแบ่งปันความยินดีกับทุกคนแน่เลย”
แล้วเธอก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางเหม่อลอย ก่อนเดินมาหน้าแท่นเวทีท่ามกลางสายตาผู้คนมากมาย จากนั้นยิ้มน้อยๆ มองกลอเรีย “ก่อนอื่น ต้องขอบคุณเพื่อนสนิทที่เคียงข้างฉันมาตลอด…”
…
นับวันเอลลีก็ยิ่งรู้สึกชัดว่าในตัวเธอยังมีอีกตัวตนหนึ่งอยู่ด้วย
ตัวตนที่เห็นแก่ตัว ขี้อิจฉา โมโหง่าย และหมองใจอยู่ตลอด
เธอคนนั้นชอบพูดข้างหูเอลลีว่า ‘นี่มันเพื่อนประสาอะไร เธอคิดว่ากลอเรียดีจริงๆ เหรอ? หล่อนก็แค่อยากอยู่เหนือเธอเท่านั้นแหละ แล้วหล่อนก็ยังโดดเด่นกว่าเธอทุกอย่าง’
ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย
เธอคนนั้นยังบอกกับเอลลีอีกว่า ‘ลองดูสิ หล่อนได้ชื่อเสียงเกียรติยศ ได้รับความรัก แล้วยังเกิดมาพร้อมกับความร่ำรวยอีก ยังไม่พอ หล่อนยังฉลาดอีกด้วย เรื่องที่หล่อนทำได้สบายๆ แต่เธอกลับต้องใช้ความพยายามอย่างมากถึงจะได้มา ถ้าหล่อนยังอยู่ เธอก็เป็นได้แค่เครื่องประดับส่งให้หล่อนเด่นขึ้นเท่านั้นแหละ’
ไม่…ไม่ใช่แบบนั้น
แต่เธอคนนั้นก็ยังไม่ยอมหยุดพูด ‘หรือว่าไม่จริง? ตอนแรกเธอคิดว่าเลห์แมนสนใจเธอจริงๆ เหรอ? ตื่นได้แล้วนะ เขาสนใจแค่กลอเรียเท่านั้นแหละ เขามาคุยกับเธอก็แค่อยากรู้เรื่องกลอเรียมากขึ้น เธอก็รู้เรื่องพวกนี้ดีนี่ แต่ยังเพ้อว่าเขาชอบเธออยู่อีก ก็เห็นอยู่ว่าเขาเอาแต่พูดเรื่องกลอเรียทั้งนั้น แต่เธอก็ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอยู่เรื่อย’
ไม่ใช่แบบนั้น ไม่ใช่…แบบนั้น
เธอคนนั้นพูดเยาะเย้ยต่อ ‘ทำไมเธอถึงคบกับไรอันล่ะ? ต้องการหาคนปลอบใจ? หรือที่จริงแล้วฐานะครอบครัวของไรอันดีกว่าเลห์แมน? เพราะผลการเรียนดีกว่าเลห์แมน? เพราะถึงเขาจะดูซื่อบื้อแค่ไหน แต่นอกนั้นก็เหนือกว่าเลห์แมนทุกอย่าง? เพราะเธออยากอวดว่ามีแฟนเพอร์เฟกต์กว่ากลอเรีย? หรือยอมขึ้นเตียงกับไรอันเพราะอารมณ์ไม่ดี และยอมแพ้กับทุกอย่าง’
ไม่ใช่แบบนั้น!!
ในที่สุด เธอคนนั้นก็ยิ้มเยาะพลางพูดว่า ‘เธอน่ารังเกียจจริงๆ เอลลี น่ารังเกียจมาก’
“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ บอกว่าไม่ใช่ไง!!” ในที่สุดเอลลีก็ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “ไม่ใช่แบบนั้น!!!!”
เธออ้าปากหอบหายใจเฮือกใหญ่ แล้วตัวตนอีกร่างของเธอก็หายไป ไม่ได้ยินเสียงน่ารำคาญพวกนั้นแล้ว แต่ทำไม…
แต่ทำไม…
ฉันถึงใช้มีดแทงท้องกลอเรียล่ะ?
เลือดสีแดงเข้มค่อยๆ ซึมมาปกคลุมชุดเดรสสีฟ้าขาวของเธอ จากนั้นเอลลีก็รีบดึงมีดในมือออกทันที เธอมองดูกลอเรียกุมท้องตนเอง พร้อมมองเธอด้วยแววตาตกใจ
ไม่ใช่แบบนี้
เธอเริ่มมองไปรอบข้างอย่างสับสน แล้วก็เห็นแววตาตกตะลึงของไรอันกับเลห์แมนเช่นกัน…ทันใดนั้นก็สะดุ้งเฮือก
ไม่…ไม่ใช่แบบนี้
ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่!!
ไม่ใช่แบบนี้!!!
เธอกรีดร้องเสียงแหลมแสบแก้วหู
…
…
อ๊า!
มาร์กซ์ร้องเสียงหลงด้วยทั้งตกใจ ร้อนรน และหวาดกลัว เพราะวินาทีหลังจากที่เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงเลื่อนสายตาจากบาดแผลที่ท้องไปมองบนกระจก
เขารีบหันตัวกลับไปมอง จากนั้นความรู้สึกเย็นวาบจากปลายเท้าเหมือนพุ่งปรี๊ดขึ้นมาถึงหนังศีรษะ ขนลุกซู่ไปทั้งตัว
ตั้งแต่ใบหน้า ลำคอ หน้าอก และแขน
“เธอ…เธอเอง!”
ถึงแม้ดวงตาเป็นสีแดงฉาน และปากฉีกออกเผยให้เห็นเขี้ยวแหลมคมราวกับสัตว์ป่า แต่ก็ยังเหลือเค้าร่างให้เขาจำได้ นี่คือเอลลีผู้ป่วยทางจิตที่พบข้างทาง!
ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้…นี่มันเหมือนปีศาจแล้ว! ไม่สิ…เป็นปีศาจจริงๆ ต่างหาก!
“เธอ…เธอคิดจะทำอะไร!!” มาร์กซ์ตกใจกลัวมาก เขาถอยกรูดไปตามสัญชาตญาณ ไม่ทันไรก็ชนเข้ากับผนังห้อง
‘ไม่มีทางให้หนีแล้ว’
“อย่าเข้ามานะ! อย่าเข้า…”มาร์กซ์ตกใจกลัวจนเผลอกัดลิ้นของตัวเอง
แต่เธอกลับเข้ามาใกล้หน้ามาร์กซ์เรื่อยๆ เมื่อความหวาดกลัวคืบคลานเข้ามา ก็ทำให้เขาใจกล้าบ้าบิ่น ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำได้หมด มาร์กซ์ยื่นสองมือออกมาพร้อมกันราวกับเป็นบ้า แล้วรุดเข้าไปบีบคอปีศาจสาวที่ทำให้เขาตกใจจนสติกระเจิงทันที!
เขาบีบคอปีศาจสาวไว้แน่น แล้วก็ผลักออกไปด้วยความเดือดดาลสุดขีด จนอีกฝ่ายล้มไปกองบนพื้น! ก่อนที่มาร์กซ์นั่งคร่อมบนตัวปีศาจสาว และบีบคอของอีกฝ่ายไว้
ผมของเขาร่วงลงมาพร้อมกับเหงื่อกาฬไหลเต็มหัว ดวงตาโกรธแค้นดุร้ายเบิกกว้างสุดขีด “เธอยังกลับมาทำอะไรอีก! ฉันไม่เอาเรื่องกับเธอแล้ว!! ฉันปล่อยเธอไปแล้วนี่!! เธอยังกลับมาทำอะไรอีก!! แก้แค้นฉันเหรอ? ฉันก็แค่เกิดอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้นเอง! แค่อารมณ์ชั่ววูบจริงๆ ! แล้วเธอก็ฟาดฉันสลบไปแล้ว!! เธอยังจะเอาอะไรจากฉันอีก!! เธอถูกพาตัวไปไม่ดีหรือไง!! กลับไปอยู่เงียบๆ ที่โรงพยาบาลก็ดีไม่ใช่เหรอ!! เธอจะมาถือสาสัญชาตญาณชั่ววูบให้มันได้อะไร!! ยัยบ้าเอ๊ย!! ยัยนี่!! แก…ขำอะไรวะ!”
ฉับพลันมาร์กซ์ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ แล้วร่างกายก็เริ่มแข็งทื่อเป็นหิน ราวกับมีบางอย่างกำลังจะลากตัวเขาไป
ก่อนมองรอยยิ้มแสยะบนใบหน้าของเธอ
“เธอยิ้มทำไม! ยิ้มอะไร! ยิ้มหา…”
ฉับพลันนั้น…เสียงเปิดประตูก็ดังส่งมา เป็นเสียงของบานพับประตูที่ฝืดจากสนิมเขรอะ
เขาจึงหันหน้าไปมองทันที แล้วก็เห็นภรรยาของตัวเอง แม็กกี้!
“ฉัน…ได้ยินเสียงบางอย่าง” คุณนายแม็กกี้พูดอธิบาย
เธอเห็นผู้หญิงที่สามีเธอนั่งคร่อมบีบคออยู่ไม่ชัดนัก แต่เธอจำชุดที่หล่อนสวมได้
แค่เห็นภาพตรงหน้านี้ก็มากพอให้เธอว้าวุ่นใจแล้ว…แล้วไหนจะเรื่องที่มาร์กซ์เพิ่งพูดไปเมื่อกี้นี้อีก
อารมณ์ชั่ววูบ…
อารมณ์ชั่ววูบแบบไหนกันแน่?
ในหัวคุณนายแม็กกี้มีแต่คำนี้วนเวียนเต็มไปหมด จนเธอไม่ทันได้คิดว่าทำไมผู้ป่วยที่ถูกจับไปแล้วถึงมาอยู่ที่นี่
“แม็กกี้ คุณฟังผมก่อน…ผู้หญิง ผู้หญิงคนนี้เป็นปีศาจ!” มาร์กซ์รีบขอความช่วยเหลือ “มาเร็ว! ช่วยผมหน่อย!”
“อะไรที่ว่า…อารมณ์ชั่ววูบ?”
คาดไม่ถึงว่าคุณนายแม็กกี้จะหลุดคำถามแบบนี้ออกมา ราวกับสติล่องลอยหายไป
“คุณฟังผิดไปแน่ๆ! รีบมาเร็ว! ผมจะกดตัวเธอไว้ไม่ไหวแล้ว!! นี่มันปีศาจนะ!!”
“ทำไมคุณไม่เอาเรื่อง! เพราะอะไร?” คุณนายแม็กกี้มองมาร์กซ์ด้วยสายตาแปลกใจและไม่คุ้นเคย “ฉันรู้จักนิสัยคุณดี…คุณไม่ชอบให้ตัวเองเสียเปรียบ ถึงแม้จะเรียกหาความรับผิดชอบทางกฎหมายจากผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ แต่ก็รับค่าชดเชยจากคนในครอบครัวเธอได้เหมือนกัน นี่แม้แต่เธอมีครอบครัวหรือเปล่าคุณก็ไม่ถาม…แปลกมากจริงๆ คุณ…คุณจะทำอะไรกับเด็กสาวคนนี้กันแน่”
“เปล่า!! รีบมานี่ ช่วยผมหน่อย!!” มาร์กซ์ตะโกนเรียก “ยัยนี่เป็นปีศาจ! เธอจะทำร้ายพวกเรานะ! มาเร็ว!!”
คุณ…คุณต่างหาก” คุณนายแม็กกี้พยายามข่มความเสียใจที่ประดังประเดเข้ามา “คุณต่างหาก…ที่ฉันเห็นคือคุณต่างหาก! ปีศาจอะไร! คนที่คิดจะฆ่าคนคือคุณต่างหาก! ฉัน…ทำไมสามีของฉันเป็นคนแบบนี้ไปได้! ฉันผิดหวังจริงๆ มาร์กซ์!”
เด็กสาวถูกกดไว้แนบกับพื้น สองมือของมาร์กซ์ยังบีบคอเธอเอาไว้…ใครคิดจะฆ่าใครกันแน่?
“หยุดนะ! มาร์กซ์!” คุณนายแม็กกี้พูดด้วยตาแดงก่ำ “คุณไม่มีสิทธิ์ทำร้ายเด็กคนนี้อีก!”
มาร์กซ์ชะงักมองดูสีหน้าของภรรยา ทันใดนั้นเอง…เขาก็เข้าใจว่าทำไมเมื่อครู่ปีศาจสาวตนนี้ถึงแสยะยิ้ม
เธอกำลังเยาะเย้ยเขา!!
“ปล่อยเธอนะ! คุณทำแบบนี้ได้ฆ่าเธอจริงๆ หรอก! นี่คุณทำผิดกฎหมายอยู่นะ! คุณรู้ตัวหรือเปล่า มาร์กซ์!! ได้สติสักทีสิ!” คุณนายแม็กกี้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง “ถึงฉันจะไม่รู้ว่าเด็กสาวคนนี้หนีกลับมาอีกทำไม แต่ฉันเชื่อว่าตำรวจสองคนนั้นน่าจะยังไปไม่ไกล…มาร์กซ์ ฉันไม่อยากเป็นพยานชี้ตัวคุณนะ คุณไม่คิดถึงลีน่าบ้าเหรอ หยุดสักทีเถอะ!”
“ลีน่า…ลีน่า…ใช่ ลีน่า…ไม่!!”
เขาใจลอยไปชั่วขณะ แต่ไม่ทันไรก็กลับมาคลั่งอีกครั้ง ดูเหมือนว่ารอยยิ้มเยาะเย้ยของเด็กสาว…ของปีศาจสาวจะยั่วโมโหเขาอีกครั้ง ทำให้ภรรยาเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาเอง เขายิ่งเหมือนถูกกลั่นแกล้ง
ภาพลักษณ์สามีที่ดีตลอดมานี้ พลันอันตรธานหายไปเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น
“ฟังนะ!” มาร์กซ์หันกลับมา พร้อมหอบหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตาเบิกกว้างยามพูด “ฉันไม่สนว่าเธอจะเป็นบ้าหรือเป็นปีศาจ! ฉันจะกำจัดเธอ เธอทำอะไรลงไปรู้ไหม? เธอทำลายครอบครัวฉัน! เธอรู้ไหม? ฉันจะไม่ ฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้…ไม่มีทาง…”
ภายในห้อง ดูเหมือนว่าความชั่วร้ายจะถูกปลดปล่อยออกมาจนถึงขีดสุดแล้ว
เหมือนน้ำวน ไหลเร็วและแรง ผลักคนเข้าไปใจกลางวังน้ำวน!
“เธอไม่น่ากลับมาอีกเลย!!!!” มาร์กซ์ใช้แรงทั้งหมดเท่าที่มีบีบคอเธอแน่น!
“มาร์กซ์! หยุดนะ!” คุณนายแม็กกี้เห็นสามีเสียสติโดยสิ้นเชิงแล้ว จึงได้แต่รีบวิ่งมาคว้าแขนเขาเอาไว้อย่างลนลาน ด้วยคิดจะหยุดเรื่องทั้งหมดนี้!
ทันใดนั้นเองมาร์กซ์ก็หยุดชะงัก ก่อนสำลักพ่นเลือดออกมาจากปาก
ไม่รู้ว่าแขนของปีศาจสาวทะลุหน้าอกของมาร์กซ์ไปตั้งแต่เมื่อไร ฝ่ามือที่ชุ่มเลือดอย่างกับกรงเล็บ กำลังกรีดนิ้วไปมาอย่างช้าๆ กลางอากาศ
อ๊า!
คุณนายแม็กกี้ร้องตกใจ หวาดผวาสุดขีดจนล้มพับไปนั่งนิ่งบนพื้น
แล้วเธอก็เห็นเด็กสาวชักแขนออกมา พร้อมสะบัดตัวมาร์กซ์ลอยกระเด็นไปชนมุมกำแพง
จากนั้นเธอถึงได้มองเห็นหน้าตาของเด็กสาวคนนี้เต็มตา!
คุณนายแม็กกี้จึงรีบเหลือบดูตัวชุ่มเลือดของมาร์กซ์ตรงมุมห้อง แล้วร้องไห้คร่ำครวญน่าเวทนา…จากนั้นปีศาจสาวก็เดินเข้ามาหาเธอทีละก้าว ทีละก้าว
“อย่านะ…” คุณนายแม็กกี้ส่ายหัวไร้ทางสู้ พลางก้มหัวพูดวิงวอนว่า “อย่าเข้ามานะ! อ๊า!!”
“คุณแม่ ทำอะไรกันอยู่คะ?”
หนูน้อยยืนมองอยู่หน้าประตู
เธอยืนกอดหมอนในชุดนอนสะอาด แต่เห็นได้ว่ามีรอยย่นเล็กน้อยด้วยเข้านอนมาสักพักแล้ว
หนูน้อยลีน่าขยี้ตาตัวเองแรงๆ มองภาพตรงหน้าคล้ายฝันไป
ทันใดนั้นเอง ปีศาจสาวหันตัวพุ่งไปที่หนูน้อยทันที
ลีน่าเห็นก็ตกใจ เธอมองปีศาจสาวหน้าตาดุร้ายน่ากลัวตนนี้ สองมือกอดหมอนตัวเองไว้แน่น ยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ยอมขยับ
“ไม่! อย่านะ! หยุดเดี๋ยวนี้!” คุณนายแม็กกี้กึ่งกลิ้งกึ่งคลานลุกขึ้นมาทันที สองมือโอบรั้งเอวด้านหลังของปีศาจสาวไว้ “อย่านะ! อย่าทำลูกสาวฉัน! พอที!”
แต่พลังของปีศาจสาวมีมากล้น ไม่ว่าเธอจะดึงหรือเหนี่ยวรั้งไว้อย่างไร ก็ไม่อาจหยุดฝีเท้าของปีศาจสาวไว้ได้
จากนั้นปีศาจสาวก็ปัดแขนไปทางด้านหลังทันที แล้วคุณนายแม็กกี้ก็ลอยกระเด็นไปล้มพับอยู่สุดมุมห้อง
ในที่สุด ปีศาจสาวก็เดินมาถึงตรงหน้าลีน่า พร้อมกับยื่นมือออกมาดึงคอลีน่าไว้