สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 15 ปะทะ
ใจเย็น ใจเย็นลงหน่อย
เริ่นจื่อหลิงค่อยๆ สงบสติอารมณ์ลงได้ื่อหลิง็นลงินหลันก็เข้าใจข
พอคิดถึงเบรกรถที่เสียการควบคุม ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก แต่ก็ยังไม่ถึงชีวิตใช่ไหม? ตอนนี้ใจเย็นเอาไว้ เธอปล่อยคันเร่งแล้ว
เธอมีประสบการณ์มากมายบนท้องถนน เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้จึงกดปุ่มสัญญาณไฟฉุกเฉินทันที แล้วนำรถสลับไปบนเลนซ้ายมือ
ถึงแม้ว่าเธอจะตื่นกลัวจนฝ่ามือชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่เธอก็ยังสังเกตสถานการณ์บนถนนอย่างระมัดระวัง
“ไม่เป็นไรนะเริ่นจื่อหลิง! เธอดูสิ รถช้าลงแล้ว…ดีมาก แบบนี้แหละๆ ช้าๆ ช้าๆ …”
เวลานี้รถของเธอแล่นช้าลงอยู่บนเลนซ้าย
หลงซีรั่วที่สังเกตการณ์อยู่ตลอดก็อดแปลกใจไม่ได้ เธอคิดว่าผู้หญิงที่ขับรถคนนี้ตั้งสติดีจริงๆ แต่หลงซีรั่วกลับไม่อยากเห็นภาพเธอใจเย็นในสถานการณ์อันตรายแบบนี้เลย
หลงซีรั่วจึงแตะนิ้วไปบนหลังคารถเบาๆ อีกครั้ง “ถ้าเธอเป็นคนธรรมดา ฉันจะไม่ให้เธอเกิดอุบัติเหตุ…แต่ถ้าเธอไม่ใช่คนธรรมดา ก็ให้ฉันดูความสามารถของเธอหน่อยแล้วกัน”
แล้วท่อไอเสียรถก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นทันที!
เริ่นจื่อหลิงมองมาตรวัดความเร็วที่พุ่งขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ได้แต่อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกสักคำ! วินาทีที่ความเร็วรถเพิ่มสูงถึงระดับหนึ่งแล้ว ความรู้สึกถูกดันให้ติดเบาะหลัง ก็ให้เริ่นจื่อหลิงตระหนักได้ทันทีว่า อันตรายอยู่ไม่ไกล และใกล้เข้ามาแล้ว
“แม่งเอ๊ย…”
ตาเธอมองไปถึงทางข้ามไฟแดงข้างหน้าแล้ว แต่กลับไม่เหมือนทางที่ผ่านมาเลย ด้วยเพราะข้างหน้าเธอมีรถจอดติดเป็นแถวยาวอยู่ด้วย!
เริ่นจื่อหลิงจึงรีบปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองออก แล้วยื่นมือออกไปด้วยคิดจะเปิดประตูรถ แต่คาดไม่ถึงว่า ประตูรถคันนี้กลับเปิดไม่ออก!
เสียงหายใจและเสียงหัวใจเต้นแทบจะเป็นจังหวะเดียวกัน ในหัวของเริ่นจื่อหลิงมีหลายอย่างแวบเข้ามา สุดท้ายเธอก็หลับตาของตัวเองลงช้าๆ
หนีไม่ได้ จอดก็ไม่ได้ เธอทำได้แค่รอเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดด้วยหน้าซีดเผือด
เธอเหยียบเบรกมิดฝ่าเท้าทันที พอเหยียบจนแนบติดด้านล่างสุด ถึงแม้ว่ารู้ดีว่าทำแบบนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่สัญชาตญาณของเธอบอกให้ไม่ยอมละทิ้งความพยายามจนถึงวินาทีสุดท้าย
ทันใดนั้นเอง…รถกลับหยุดลงกะทันหัน!
ด้วยเบรกกะทันหันทำให้ตัวเริ่นจื่อหลิงพุ่งไปข้างหน้าทันที! เธอลืมตาในทันที มือทั้งสองผลักพวงมาลัยอย่างแรง เพื่อหยุดแรงกระแทก
วินาทีที่สุดท้ายรถก็หยุดลงโดยห่างจากรถข้างหน้าไม่ถึงสิบเมตร ทั้งเนื้อตัวเริ่นจื่อหลิงเหมือนไร้เรี่ยวแรง ทิ้งตัวพิงไปบนพนักที่นั่งคนขับ แล้วสูดอากาศเข้าไปลึกๆ
เหมือนจะ…กลับเป็นปกติแล้ว?
หลังจากนั้นสักพัก เริ่นจื่อหลิงถึงกลับมาสงบสติอารมณ์ได้ ขบวนรถข้างหลังส่งเสียงบีบแตรทันที รองบรรณาธิการเริ่นจึงรีบสตาร์ตเครื่องอย่างลุกลี้ลุกลน
แต่เธอไม่กล้าเหยียบคันเร่งเพิ่ม และก็ไม่ได้ขับแบบทิ้งระยะห่างมากนัก แต่พอผ่านไฟสัญญาณจราจรแล้ว ก็จอดรถตรงไหล่ทางที่อยู่ข้างหน้าไม่ไกล
เริ่นจื่อหลิงเปิดประตูลงจากรถไปด้วยมือเท้าไร้เรี่ยวแรง เธอกำลังสูดอากาศสกปรกบนถนนเข้าไป ราวกับได้เกิดใหม่อีกครั้ง
เธอสั่นเทิ้มเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้เธอตกใจมาก
เริ่นจื่อหลิงพิงประตูรถ พร้อมกับสูบบุหรี่มวนหนึ่งด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เธอรู้ว่าตัวเองต้องการสงบใจสักพัก
ส่วนหลงซีรั่วบนหลังคารถเธอก็ได้หายตัวไปนานแล้ว
…
“เป็นแค่คนธรรมดาจริงๆ”
หลงซีรั่วกำลังมองดูปฏิกิริยาของเริ่นจื่อหลิงที่จอดรถอยู่ไกลๆ เธอเชื่อในการวินิจฉัยของตัวเอง
แต่เธอยังไม่เข้าใจเรื่องที่ลั่วเพียนเซียนเล่า หลงซีรั่วพยักหน้า ถึงแม้ว่าจะรู้สึกผิดต่อผู้หญิงคนนี้อยู่บ้าง แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ แค่ตกใจเล็กน้อยเท่านั้นเอง
แต่เธอก็จำเป็นต้องไปกำจัดพวกชอบทำร้ายปีศาจพวกนั้น
“กลับไปทำอะไรให้เธอหายเครียดหน่อยแล้วกัน?”
หลงซีรั่วยักไหล่ ในระยะเวลาเกือบหนึ่งศตวรรษ เธอเคยทำเรื่องทำนองเดียวกันมาไม่น้อย จึงคุ้นชินกับเรื่องแบบนี้มาตั้งนานแล้ว
แต่ตอนที่เธอกำลังหันไปกลับต้องหยุดชะงัก เพราะไม่รู้ว่ามีคนมาอยู่ข้างหลังเธอตั้งแต่เมื่อไร!
ขนาดเธอเห็นกับตา เธอยังไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไรเลย
หลงซีรั่วหันมาเต็มตัว พร้อมกับหรี่ตา พูดอย่างเฉยชาว่า “นี่ไม่ใช่เจ้าของร้านประหลาดนั่นเหรอ? ลมอะไรพัดคุณมาล่ะ?”
ลั่วชิวเพียงแค่มองเธอเงียบๆ
หลงซีรั่วเหลือบมองที่บริเวณไหล่ทางที่รถจอดอยู่เหมือนคิดอะไรได้
“ดูแล้วผู้หญิงที่ขับรถคนนี้คงมีความสัมพันธ์บางอย่างกับร้านของพวกคุณ?” หลงซีรั่วจุดบุหรี่อย่างชำนาญ พอสูบไปครั้งหนึ่งแล้ว ถึงได้พูดอย่างเฉยชาว่า “เป็นลูกค้าของคุณเหรอ?”
ลั่วชิวยังคงไม่ตอบอะไร ไม่ได้เดินเข้าไปใกล้หรือเดินห่างออกไป แล้วยิ่งไม่ได้หนีหายไปไหนเลย เขาแค่ยืนเงียบๆ อยู่แบบนี้
หลงซีรั่วขมวดคิ้วทันที เธอเดาความรู้สึกของเจ้านี่ไม่ออก ความจริงแล้ว เธอก็เพิ่งเคยเจอหน้าเจ้านี่เป็นครั้งที่สองเท่านั้น
แน่นอนว่า ครั้งที่แล้วยังเกิดเรื่องกระอักกระอ่วนอีก
แต่ทว่าความจริงแล้ว เจ้าของสมาคมคนนี้ที่มาปรากฏตัวอย่างกะทันหันต่อหน้าเธอ ให้ความรู้สึกที่แข็งกร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่เป็นมิตร …อันตราย…อันตรายมาก
“ถึงแม้จะเป็นลูกค้าของพวกคุณแล้ว แต่ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรเธอสักหน่อย” หลงซีรั่วพูดอย่างเฉยชา “ฉันแค่กำลังสืบเรื่องบางอย่างอยู่เท่านั้น แล้วก็อย่างที่คุณเห็น ฉันไม่ได้คิดจะทำร้ายเธอตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ใช่เหรอ?”
“แน่นอน ไม่เกิดเรื่องกับเธอหรอก” ในที่สุดลั่วชิวก็ยอมเปิดปาก “ผมก็รู้ว่าคุณไม่มีเจตนาร้ายจริงๆ”
เขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบา แต่กลับทำให้หลงซีรั่วหวาดผวาใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย เขาบอกว่า “ถ้าเกิดเรื่องกับเธอ หลงซีรั่วคงได้จากโลกใบนี้ไปแล้ว…ข้อนี้ผมรับรองได้เลย”
อันตรายเป็นอย่างยิ่ง…เหมือนกับเหวลึก
ความรู้สึกไม่สบายใจของหลงซีรั่วเพิ่มไปจนถึงระดับสูงแล้ว เธอจึงค่อยๆ ขยับเท้าของตัวเองถอยหลังไปตามสัญชาตญาณ
เดิมทีเธอนึกว่าตัวเองกำลังก้าวออกไปข้างหน้า แต่ในความเป็นจริงเธอกำลังถอยหลังไปข้างหลังเล็กน้อย!
“เธอ…ไม่ใช่ลูกค้า” หลงซีรั่วชะงักฝีเท้า แล้วลองพูดหยั่งเชิงดู “เธอเป็นอะไรกับคุณ”
สุดท้ายคำพูดของเธอก็ทำให้เจ้าของร้านลั่วเดินเข้ามาหนึ่งก้าว แต่หนึ่งก้าวสั้นๆ กลับเหมือนก้าวยาวมาอยู่ตรงหน้าเธอ
“ได้ยินว่าคุณเป็นมังกรสายพันธุ์แท้ตัวสุดท้าย…” ลั่วชิวพูดต่ออย่างเฉยเมยว่า “ตอนผมยังเด็กเคยฟังเรื่องเล่ามากมาย อย่างเช่นนาจาถล่มสมุทรในตำนานเทพ…คุณเคยฟังไหม?”
หลงซีรั่วหรี่ตา ลูกตาของเธอกลายเป็นประกายสีทองในทันที
“ทางที่ดีรีบกลับไปตั้งแต่ตอนนี้เถอะ แล้วก็ไม่ต้องพูดอะไรอีก”
ตอนที่หลงซีรั่วตัวขดแน่นไปทั้งตัว เธอกลับได้ยินคำพูดแบบนี้ที่ทำให้เธอรู้สึกต่างไปจากที่คิด เธอถึงขนาดเตรียมพร้อมปะทะกับเจ้าของร้านลึกลับคนนี้แล้ว
ไม่ การปะทะเกิดขึ้นไปแล้ว…การปะทะกันทางอารมณ์เกิดขึ้นแล้วจริงๆ!
ถึงแม้ว่าสัญชาตญาณจะทำให้เธอเข้าใจชัดเจน ว่าเธอต้องอยู่ให้ห่างจากเจ้านี่ ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ความโอหังและความหยิ่งในศักดิ์ศรีของมังกรกลับไม่สามารถยอมให้เธอหนีไปได้ง่ายๆ แบบนี้
“ฉันไม่ใช่ลูกค้าของคุณสักหน่อย และคุณก็ไม่ได้เป็นอะไรกับฉัน” หลงซีรั่วหัวเราะเยาะ “ในเมื่อคุณเข้าใจความตั้งใจของฉันแล้ว ก็น่าจะรู้ว่าฉันต้องสืบเสาะสิ่งอันตรายบางอย่าง ชีวิตปีศาจในเมืองนี้พอเอาตัวรอดไปวันๆ แบบนี้แล้ว ฉันไม่อยากเห็นพวกมันต้องหลบไปตรงนั้นทีตรงนี้ที และใช้ชีวิตอยู่ในมุมมืดไปตลอด”
“คุณไม่มีเจตนาร้าย” ลั่วชิวส่ายหน้าแล้วพูดต่อ “มองจากมุมมองของคุณแล้ว คุณไม่ได้ทำผิดอะไร แต่มองจากอีกมุมหนึ่ง ผู้หญิงที่ขับรถมั่วซั่วคนนี้ก็ควรถูกสั่งสอนจริงๆ หวังว่าหลังจากครั้งนี้ไปจะทำให้เธอปรับปรุงตัว…คุณยังไม่กลับไปเหรอครับ? ผมอาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่…ผมควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว”
ลั่วชิวยื่นมือออกไปกลางอากาศ
แล้วร่างของหลงซีรั่วก็เหมือนถูกอะไรบางอย่างดึงเข้าไป พอมารู้ตัวอีกที คอของเธอก็ไปอยู่ในมือของอีกฝ่ายแล้ว
เขายังยกเธอขึ้นได้สบายๆ อีกด้วย