สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 73 ความผิดพลาดและการชดเชย
ฝั่งซ้ายของถนนไม่ไกลออกไปเป็นทางโคลน ข้างบนเต็มไปด้วยต้นหญ้า ไกลออกไปอีกหน่อยเป็นหาดริมแม่น้ำ อีกด้านก็เป็นป่าที่ยังไม่พัฒนา
“รายงาน ตำแหน่งหมายเลขหนึ่งล็อกเป้าหมายชุดดำ”
“รายงาน ตำแหน่งหมายเลขสองล็อกเป้าหมายชุดขาว”
“รายงาน ตำแหน่งหมายเลขสามล็อก…”
…
“รายงาน นอกรถตู้มีเป้าหมายทั้งหมดห้าราย เพศชาย ล็อกเป้าหมายไว้หมดแล้ว ทีมนักแม่นปืนสิ้นสุดการรายงาน!”
“รายงาน ทีมซุ่มโจมตีซ่อนตัวเรียบร้อย!”
พอเลี้ยวข้างหน้า ขับไปสักพักก็จะเห็นรถตู้คันนั้น คนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจอดรถสายตรวจไว้ที่นี่ พวกเขาใช้ต้นไม้เป็นตัวกำบัง เซอร์หลินฟังรายงานจากวิทยุสื่อสาร พลางพึมพำว่า “แล้วโดรนล่ะ?”
“เซอร์หลิน เริ่มส่งภาพเป้าหมายมาแล้วครับ ดูสิครับ…ตอนนี้พบผู้ชายห้าราย มือเปล่า ยืนยันแล้วว่าหนึ่งในนั้นชื่อหลงเฉียง สถานการณ์ในรถตู้ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด สันนิษฐานว่าตัวประกันน่าจะถูกซ่อนไว้ในรถตู้ครับ”
หลินเฟิงพยักหน้า เคาะนิ้วไปบนหน้าจอ “ทุกหน่วยระวังตัวด้วย คนร้ายอาจจะซ่อนอาวุธไว้ในรถ! ตอนนี้เตรียมปฏิบัติการช่วยเหลือ ฟังคำสั่งฉัน! จำไว้ว่าเป้าหมายแรกของปฏิบัติการครั้งนี้คือช่วยคนออกมาให้ได้ รองลงมาคือจับตัวคนร้าย พยายามจับเป็น ห้ามจับตาย”
“วางใจเถอะ เซอร์หลิน พวกผมใช้กระสุนยางความเร็วต่ำครับ”
หลังจากออกชุดคำสั่งแล้ว เซอร์หลินก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ หลังจากสวมเสื้อเกราะกันกระสุนแล้ว เขาก็เข้าไปแอบอยู่ในรถของโจวจื่อเหาพร้อมกับตำรวจอีกนาย
พื้นที่ในรถเอสยูวีคันนี้เพียงพอสำหรับเซอร์หลินและตำรวจอีกนายไปแอบอยู่เบาะหลัง แล้วหลินเฟิงก็พูดเสียงเบาๆ ว่า “คุณโจว อีกเดี๋ยวถ้าคุณเห็นคนร้ายหยิบอาวุธออกมา หรือว่ามีท่าทีใช้ความรุนแรงละก็ คุณต้องรีบหลบมาเลยนะครับ”
“ขะ เข้าใจแล้วครับ” โจวจื่อเหาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ด้วยสีหน้าตื่นเต้น
เซอร์หลินครุ่นคิดอยู่สักพัก จู่ๆ ก็หยิบของบางอย่างออกมา “เพื่อเป็นการป้องกัน คุณถือนี่ไว้”
“นี่คือ…”
“ระเบิดแสง สตั๊นบอมบ์แบบนี้ไม่ทำให้ถึงตาย แต่ทำให้มึนงงและบาดเจ็บได้ ใช้ง่ายมาก แค่ดึงสลักแล้วโยนออกไป แต่จำไว้ว่าคุณต้องหลับตาและอุดหูเอาไว้ให้ดี”
โจวจื่อเหาสงบสติอารมณ์สักครู่ แล้วจึงค่อยๆ รับระเบิดมา
แล้วหลินเฟิงก็พูดเสียงขรึมว่า “งั้น ลงมือได้!”
…
…
“ผมขอถามหน่อย คนที่หัวหน้าพูดถึงจะมาจริงๆ ใช่ไหม นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว พวกเราโดนเบี้ยวหรือเปล่า ผู้หญิงคนนี้ขายบริการ ผู้ชายของเธอเชื่อถือได้ใช่ไหม ไม่งั้น ผมลองโทรไปถามดูไหม ว่าเทปูนซีเมนต์เสร็จหรือยัง”
“ฉันจะไปรู้ได้ไง?”
เฉียงจื่อใช้ฝ่ามือพัดให้เกิดลม “แต่ดูแล้วน่าจะยังเทปูนไม่เสร็จนะ เขตก่อสร้างเองก็กำลังเร่งมืออยู่…เฮ้ย มีรถมา พวกเราออกไปดูหน่อยว่าใช่หรือเปล่า!”
หลงเฉียงนำกลุ่มคนงานที่นั่งยองๆ ตากลมอยู่ข้างถนนปัดก้น ลุกขึ้นยืน แล้วโบกมือ
เวลานี้เขาเห็นเพียงรถเอสยูวีสีดำคันหนึ่งเริ่มลดความเร็ว แล้วจอดเลยรถตู้ไปประมาณสามเมตร
หลงเฉียงและพวกมองดูชายหนุ่มท่าทางสุภาพคนหนึ่งลงมาจากรถด้วยท่าทางตื่นเต้น
“หัวหน้า ดูเจ้าหน้าอ่อนนี่สิ รถที่ขับมาไม่เลวเลยนะ!” ลูกน้องวิจารณ์เสียงเบา “เสื้อผ้าก็ดูดีทีเดียว ผมว่านะ ยัยนั่นต้องได้เงินจากเจ้าหน้าอ่อนนี่ไปไม่น้อยแน่ๆ”
“แต่ผมเป็นพวกเกาะผู้หญิงกิน!” ลูกน้องอีกคนถือโอกาสบ้วนน้ำลาย
“เอาล่ะๆ แกจะไปสนใจมันทำไมกัน! ต่างฝ่ายต่างสมยอมไม่ใช่หรือ” หลงเฉียงเคาะกะโหลกทั้งสองคน แล้วก็เดินมาทางโจวจื่อเหา
เขาเพิ่งเดินได้แค่สองก้าว กลับเห็นโจวจื่อเหาถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันที ท่าทางเขาหวาดกลัวสุดขีด
หลงเฉียงขมวดคิ้ว พูดเสียงดังว่า “แกคือคนที่เพิ่งโทรมาใช่ไหม”
โจวจื่อเหาข่มความหวาดกลัว ตอบกลับว่า “ใช่ ผมเอง…ซย่ามั่นล่ะ? ผมอยากเห็นเธอ!”
หลงเฉียงโบกมือแล้วพูดว่า “อย่าเพิ่งรีบร้อน ของที่ฉันให้แกเอามา ได้เอามาไหม ฉันต้องรีบใช้!”
“อยู่ อยู่ในรถ” โจวจื่อเหาตอบ “แต่ว่า…คุณ คุณต้องให้ผมเห็นซย่ามั่นก่อน ผมถึงจะให้คุณ”
“บ้าเอ๊ย! อย่าพูดถึงยัยนั่น แค่พูดฉันก็โมโหแล้ว!” จู่ๆ หลงเฉียงก็สบถขึ้นมาอย่างโกรธแค้น
โจวจื่อเหาถามด้วยท่าทีหวาดกลัว “พวกคุณ…พวกคุณทำอะไรเธอ!”
“ทำอะไร ถามว่าเธอทำอะไรพวกฉันดีกว่าไหม”
หลงเฉียงชี้ไปที่หูตัวเองแล้วพูดว่า “แกดูสิ! นี่คือแผลที่ผู้หญิงคนนั้นกัดฉัน! ฉันเป็นพวกใช้แรงงานแต่ไม่ใช้ความรุนแรงนะเฟ้ย ฉันรับรสนิยมแบบนี้ไม่ได้! ถ้าไม่ใช่เพราะลูกพี่ฉันบอกว่าอยากนอนกับเธอ ฉันคงไม่พาเธอมาหรอก!”
หลินเฟิงที่กำลังตั้งใจฟังอยู่ในรถได้ยินมาถึงตรงนี้ ก็รีบพูดเสียงทุ้มต่ำว่า “ลูกพี่? ยังมีลูกพี่อีก…ดูท่าหัวหน้าของพวกมันน่าจะกำลังซ่อนตัว อาจจะอยู่บนรถ…ทุกคนระวังตัวให้ดี!”
“รับทราบ!”
เซอร์หลินฟังมาถึงตรงนี้แล้วยังคงวิเคราะห์ได้อย่างใจเย็น แต่โจวจื่อเหากลับใจเย็นไม่อยู่แล้ว
เขาพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว คว้าคอเสื้อหลงเฉียงไว้ด้วยความโมโห กัดฟันแล้วพูดว่า “พวกคุณ! พวกคุณพูดอะไร! พวกคุณมันเดรัจฉาน! พวกคุณทำอะไรซย่ามั่น! ไอ้เดรัจฉาน ผมจะฆ่าพวกคุณ!”
“คุณโจวใจเย็นไว้!”
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้น หลินเฟิงก็รีบพูดใส่ไมค์ข้างหูเพื่อเตือนสติโจวจื่อเหา
แต่โจวจื่อเหาที่ได้ยินว่าว่าที่ภรรยาอาจจะถูกข่มขืนกลับไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น เขาตะโกนอย่างโกรธแค้น “ฉันจะตายไปพร้อมพวกแก! อ๊าก…!”
โจวจื่อเหาดึงสลักระเบิดสตั๊นบอมบ์ออก
บึ้ม…!
เสียงระเบิดดังกังวานไปทั่ว หลงเฉียงและลูกน้องมองเห็นดาวเต็มไปหมด พวกเขารู้สึกคล้ายโลกหมุน สักพักก็เหมือนหูดับ ได้ยินเพียงเสียงหึ่งๆ แล้วทุกคนก็ล้มลงบนพื้น
หลินเฟิงกัดฟัน “สถานการณ์เปลี่ยน! ทีมซุ่มโจมตีลงมือได้”
“รับทราบ!”
ขณะออกคำสั่ง หลินเฟิงก็ถีบประตูรถแล้วพุ่งตัวออกมาทันที เขาถือปืนพุ่งตรงมาแล้วประเมินดูพวกหลงเฉียงที่ไร้เรี่ยวแรงขัดขืนไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็รีบไปทางรถตู้ เล็งปืนไว้ แล้วค่อยๆ เข้าไปใกล้รถ!
เวลานี้ทีมซุ่มโจมตีทั้งหมดแปดคนถือปืนกลมือ LS2 เข้ามา ทุกคนต่างจ่อปืนกลมือไปที่รถตู้คันนี้!
เวลานี้นายตำรวจที่แอบอยู่ในรถกับหลินเฟิงก็รีบพาโจวจื่อเหาออกจากที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันทีมซุ่มโจมตีอีกสามนายก็จ่อปืนไปที่พวกหลงเฉียงที่นอนกองบนพื้น
ในที่สุดหลงเฉียงที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา เขาตบหัวตัวเอง ส่ายหัวแล้วยกหัวขึ้นมา “บัดซบ นี่มันบ้าอะไรกัน…อะไรกันวะเนี่ย! นี่ นี่ๆๆๆ…นี่กำลังถ่ายหนังกันอยู่หรือไง”
แต่พอเขาเห็นปากกระบอกปืนสีดำทะมึนชี้มาทางตัวเอง ก็ตกใจกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหน่วยซุ่มโจมตีสวมชุดเกราะที่กำลังล้อมตัวเองอยู่เลย
ทำไมจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงบึ้ม พอตื่นมาอีกทีก็เห็นภาพประหลาดพวกนี้แล้วล่ะ
“โธ่เอ๊ย! อะไรกัน หรือว่า…หรือว่าพวกฉันทะลุมิติในตำนานเข้าให้แล้ว? แต่ว่า เปิดเรื่องได้ห่วยไปหน่อยนะ”
ฉับพลันนั้น ทีมซุ่มโจมตีก็เปิดประตูรถตู้อย่างแรง รีบตอบกลับมาว่า “ทีมหลิน ในนี้ว่างเปล่า! ไม่มีคน ไม่มีอาวุธ”
“ว่างเปล่า!”
หลินเฟิงตะลึงไปชั่วครู่
…
…
ลั่วชิวเบนสายตากลับมาจากด้านข้าง
ที่นี่เป็นหาดริมแม่น้ำ
“มะ…เมื่อกี้เสียงอะไรน่ะ” เหล่าเฝิงกลับมองไปที่เจ้าของร้านตรงหน้าอย่างกระวนกระวายใจ เขาไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ที่นี่ได้…เพียงช่วงเวลาสั้นๆ เขาก็ออกจากบ้านมาโผล่ที่นี่แล้ว เหมือนครั้งแรกที่เขาออกจากคุกมาโผล่บนถนนใหญ่
เขาไม่เคยสงสัยในพลังของเจ้าของร้านคนนี้เลย
เจ้าของร้านลั่วส่ายหน้า ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจ แต่น้ำเสียงที่ตอบกลับไม่ปกติ “ไม่มีอะไร ก็แค่เกมยิงปืนน่ะครับ”
จู่ๆ เขาก็ชี้นิ้วไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “ลูกสาวคุณอยู่ที่นั่น อยู่ข้างหลังหินก้อนนั้น”
พอได้ยินเรื่องของลูกสาว เหล่าเฝิงก็ไม่สนใจเกมยิงปืนอะไรนั่นแล้ว เขารีบเหยียบไปบนก้อนหินบนหาด วิ่งโซซัดโซเซไปข้างหลังก้อนหินก้อนนั้น
ถาวซย่ามั่น หลบอยู่หลังก้อนหินใหญ่ด้วยท่าทางหวาดกลัว
ร่างของเธอเปียกโชก เธอแช่ตัวพิงก้อนหินอยู่ในน้ำ คล้ายกำลังจะเป็นลม
“ซย่ามั่น! ซย่ามั่น!” เหล่าเฝิงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขารีบลากเธอขึ้นมา แล้วเรียกเธอ “ทำไมลูกสาวผมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้”
“คุณซย่ามั่นไม่ทันระวังตอนที่วิ่งหนีจึงล้มลงไป” ลั่วชิวชี้ไปที่เนินแห่งหนึ่งในแม่น้ำ “ตอนที่ตกลงไปจึงหมดสติ จากนั้นก็จมอยู่ในน้ำ คุณลุงวางใจเถอะ เธอไม่ได้เป็นอันตราย เพียงแค่หมดสติไปเท่านั้น”
เหล่าเฝิงถอนหายใจโล่งอกในที่สุด ตอนที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เจ้าของสมาคมที่อยู่ตรงหน้ากลับโบกมือทันที…แล้วภาพตรงหน้าของเหล่าเฝิงก็เปลี่ยนไป
ที่นี่ ดูเหมือนจะเป็นถ้ำ
เขารีบหันไปมองข้างๆ ตัว ก็พบว่าลูกสาวตนยังอยู่ที่นี่ จึงวางใจขึ้นมาหน่อย เขาถามด้วยความสงสัยว่า “ทำไมถึงพาพวกผมมาที่นี่ล่ะ”
เจ้าของสมาคมเพียงพูดเนิบช้าว่า “อ้อ คุณลุง ตอนนี้พวกคุณพักผ่อนที่นี่ไปก่อนนะครับ ผมจะไปจัดการอะไรหน่อย ใช้เวลาไม่นานหรอก อีกอย่าง คุณไม่อยากคุยกับลูกสาวหน่อยหรือ…โอกาสแบบนี้หายากนะ”
ตอนที่เจ้าของร้านกำลังพูดอยู่ เหล่าเฝิงก็รู้สึกได้ว่าถาวซย่ามั่นเริ่มขยับตัว ดูเหมือนว่าเธอใกล้จะฟื้นแล้ว
เหล่าเฝิงจึงพูดด้วยท่าทางตกใจ “ไม่ได้ๆ ผมยังให้เธอเห็นตอนนี้ไม่ได้!”
“คุณซย่ามั่นจะมองไม่เห็นคุณสักพัก วางใจได้ครับ”
“หมายความว่ายังไง”
เงาของเจ้าของร้านลั่วกลับเริ่มเลือนหายไป “คุณลุง ผมขอโทษที่ทำให้คุณลุงกับลูกสาวต้องมาลำบาก…นี่เป็นความผิดพลาดของพวกผม ดังนั้น นี่ถือว่าเป็นการชดเชยเล็กๆ น้อยๆ นะครับ”
เขาหายไปแล้ว
…
เหล่าเฝิงตะลึง แล้วก็ได้ยินเสียงถาวซย่ามั่นร้องอย่างอิดโรย น้ำเสียงเธอดูหวาดกลัว “ใคร…ใครอยู่ตรงนี้…ฉัน ฉันมองไม่เห็น! ที่นี่มืดมาก…”
เหล่าเฝิงนึกถึงคำพูดของเจ้าของร้านก่อนจากไป จึงยื่นมือออกไปโบกตรงหน้าถาวซย่ามั่น …แม้ว่าในถ้ำนี้จะมืดไปสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้มืดจนมองไม่เห็นอะไรเลย
สูญเสียการมองเห็นชั่วคราว…จริงๆ หรือ