สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 19 อย่ากัดเจ้าของสมาคมสุ่มสี่สุ่มห้า
ห้องครัวของสมาคมดูใหญ่ไม่น้อย…จะพูดให้ถูกคือมันใหญ่กว่าพื้นที่ห้องโถงของสมาคมเสียอีก
ลั่วเพียนเซียนนั่งอยู่บนเก้าอี้สูงหน้าเคาน์เตอร์ วางสองมือบนโต๊ะ กะพริบตามองคุณหนูสาวใช้จัดการกับของภายในนี้เหมือนเล่นมายากล
ถึงจะถูกจ้องมองอย่างนี้ แต่คุณหนูสาวใช้ที่กำลังใช้เครื่องตีส่วนผสมตีไข่อยู่ก็ไม่ได้ใส่ใจ ขณะนี้เองโยวเย่ก็ยิ้มและพูดว่า “คุณหนูเพียนเซียน กำลังกังวลใจเรื่องเพื่อนงั้นหรือ?”
“คะ?” ลั่วเพียนเซียนเบิกตากว้างมองรอยยิ้มของพี่สาวผู้นี้ รู้สึกถึงความอ่อนโยนจึงพยักหน้า พูดอย่างรู้สึกผิดว่า “ขอโทษด้วย พี่จื่อจวินไม่ใช่คนไม่ดี เพียงแค่ปากไม่ตรงกับใจเท่านั้น”
โยวเย่วางเครื่องตีไข่ในมือลงและพูดขึ้นว่า “คุณหนูเพียนเซียน พวกเราไม่ทำร้ายลูกค้าแน่นอนค่ะ”
“จริงหรือ?” ลั่วเพียนเซียนเอ่ยถาม
โยวเย่พยักหน้าเล็กเล็กน้อย “ขอแค่ลูกค้าไม่มีประสงค์ร้ายก็พอ”
ผีเสื้อน้อยคลายความกังวล พยักหน้าพูดว่า “พี่จื่อจวินเป็นคนดี!”
“คุณหนูเพียนเซียนชอบเธอมากงั้นหรือคะ?” โยวเย่ถามเบาๆ
ลั่วเพียนเซียนพยักหน้า จากนั้นก็เริ่มนับนิ้ว “ใช่แล้ว! ไม่เพียงแต่ชอบพี่จื่อจวิน ฉันยังชอบพี่หลง คุณลุงและคุณป้าเจ้าของร้านซาลาเปา ยังมีลุงๆ ป้าๆ ที่โรงพยาบาลสัตว์ ยังมี…ยังมี…”
ผีเสื้อน้อยเหลือบมองคุณหนูสาวใช้ที่อยู่ตรงกันข้ามแวบหนึ่ง จากนั้นก็ก้มหน้าเอ่ยว่า “ยังมีพี่โยวเย่กับเจ้าของสมาคมอีกด้วย”
โยวเย่หัวเราะเบาๆ เอ่ยว่า “เธอชอบทุกคนที่พบเลยใช่ไหม”
“ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว…” ลั่วเพียนเซียนส่ายหน้า
โยวเย่โบกมือขึ้น เรียกให้ปีศาจผีเสื้อน้อยมาตรงหน้านาง
เมื่อลั่วเพียนเซียนเข้าใกล้พี่โยวเย่ที่เหนือจินตนาการผู้นี้แล้วถึงมองเห็นชัดว่า…ผิวพรรณของคุณหนูสาวใช้สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ดผู้นี้ขาวนวลเหมือนหยกไร้ที่ติ
เธออดมองอีกครั้งไม่ได้
ในเวลานี้เอง ลั่วเพียนเซียนก็รู้สึกหวานในปาก หวานมาก
ไม่รู้ว่าคุณหนูสาวใช้ของสมาคมยื่นนิ้วมือเข้าไปในปากที่กำลังตะลึงของปีศาจผีเสื้อน้อยตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้ยินเพียงโยวเย่ถามเบาๆ ว่า “หวานระดับนี้ได้ไหม?”
ที่แท้คุณหนูสาวใช้ก็ใช้นิ้วมือกวาดบนไข่ไก่เบาๆ นิ้วเกี่ยวของเหนียวๆ สีขาวบางอย่างใส่ปากของปีศาจผีเสื้อน้อย
“อืม…” ลั่วเพียนเซียนพยักหน้าด้วยสีหน้าแดงก่ำ
โยวเย่ยิ้มหวาน “งั้นก็ดี”
…
…
รู้สึกเหมือนนานมาก แต่เข็มของนาฬิกาในมุมผนังเพิ่งผ่านไปสามสิบองศาเท่านั้น: เวลาสิบห้านาที
ซูจื่อจวินรู้สึกว่าหากเป็นด้านความอดทนนั้นตนเองน่าจะแพ้…แม้จะผ่านไปแค่สิบห้านาทีก็ตาม
เธอจึงเริ่มพูดก่อนว่า “ที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ดีอะไร แม้แต่ภายในอากาศก็เหมือนมีพลังเวทมนตร์กำลังทำให้คนเกิดความปรารถนาที่ไม่มีสิ้นสุด”
“ตอนนี้คุณหนูจื่อจวินก็ยังสบายดีอยู่ไม่ใช่หรือ” ลั่วชิวยิ้มและพูดขึ้นมา
ซูจื่อจวินกลับส่ายหน้า ไม่คิดจะพูดถึงประเด็นนี้ต่อ
หลังลั่วเพียนเซียนไม่อยู่ชั่วคราว ทำให้เธอไม่มีข้อจำกัดอีก “บนโลกมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพวกนายอยู่เสมอและดูเหมือนจะมีร่องรอยของพวกนายในทุกที่บนโลก…แต่ไม่เคยมีใครรู้ว่าพวกนายเริ่มปรากฏตัวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ จุดมุ่งหมายและท่าทีของพวกนายก็ดูคลุมเครือ”
“คุณหนูจื่อจวินอยากจะพูดอะไร?” ลั่วชิวถาม
“ในเมื่อทุกอย่างล้วนแต่คลุมเครือ…”
ซูจื่อจวินพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “งั้นพวกนายจะอาศัยอะไรมาทำให้ฉันเชื่อถือว่าพวกนายทำตามคำขอของฉันได้? ทรัพย์สมบัติในโลกสำหรับฉันแล้วก็เหมือนกับของไร้ประโยชน์ ขอแค่ฉันไม่ยอมตายก็อยู่ไปจนตราบฟ้าดินสลายได้ อาศัยความสามารถของฉันดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่ฉันเอามาไม่ได้ ของที่ฉันเอามาไม่ได้ พวกนายจะรับรองอย่างไรว่าจะเอามันมาให้ฉันได้?”
ลั่วชิวคิดครู่หนึ่งแล้วถึงพูดขึ้นว่า “ขออภัยด้วย คุณหนูจื่อจวิน ที่นี่ของพวกเราไม่มีกฎให้ทดลองใช้ ทุกการแลกเปลี่ยนล้วนจะเกิดขึ้นในทันที คุณซื้อ พวกผมเพียงแต่ขายก็เท่านั้น แต่ไม่ว่าคุณต้องการอะไร ขอเพียงคุณมีของแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อ พวกผมก็มอบให้คุณได้ทุกอย่าง…ดังนั้นไม่จำเป็นต้องทดสอบและก็ไม่ต้องใช้คำพูดมาเอาชนะกัน เพราะถึงอย่างไรทางร้านเราก็ยืนอยู่ฝั่งลูกค้าอยู่แล้ว”
ชิ
ซูจื่อจวินกระเดาะลิ้น ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “เป็นคนที่หัวแข็งจริงๆ…เอาเถอะ เข้าประเด็นเลยละกัน”
ซูจื่อจวินสูดหายใจเข้าลึกๆ “ฉันต้องการให้รักษาบาดแผลทั้งเก่าและใหม่บนร่างของฉันทั้งหมด อีกอย่าง ฉันยังต้องการข้อมูลเกี่ยวกับเซียงหลิ่ว ละเอียดได้เท่าไรก็ยิ่งดีมากเท่านั้น…ในเมื่อพวกนายลึกลับแบบนี้ อย่าบอกฉันนะว่าพวกนายไม่มีวิธีรู้ว่าเซียงหลิ่วเป็นใครและยังต้องให้ฉันบอก”
“ขอถามว่าคุณลูกค้าจะใช้อะไรมาแลกเปลี่ยน?”
“ของแลกเปลี่ยนงั้นหรือ?” ซูจื่อจวินยิ้ม เธอลุกขึ้นมาจากเก้าอี้อย่างฉับพลัน เดินเท้าเปล่าบนพื้นไม้มาหยุดอยู่ตรงหน้าของลั่วชิว
สาวน้อยครึ่งผีดิบผู้แปลกประหลาดค่อยๆ เลิกกระโปรงของตนเองขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มหวาน เริ่มจากยกขาข้างซ้ายขึ้นไปวางบนขาของลั่วชิวก่อน
ผิวที่ขาวซีดราวกับไร้สีเลือดกำลังเปิดเผยออกมา
เธอค่อยๆ นั่งลงบนขาของลั่วชิว
คุณหนูครึ่งผีดิบใช้สองมือจับใบหน้าของเจ้าของสมาคม ค่อยๆ เขาไปใกล้ พ่นลมหายใจเบาๆ ในขณะที่ริมฝีปากของเธอกำลังเข้าไปใกล้ข้างหูของเจ้าของสมาคมลั่วนั้นถึงได้กระซิบเบาๆ ว่า “ใช้ตัวฉันแลกเปลี่ยน ได้ไหม?”
เหมือนริมฝีปากของเธอกำลังค่อยๆ เลื่อนลงจากส่วนหู ดูเหมือนเธอคิดจะไปจูบคอของลั่วชิว
ร่างกายอันอ่อนนุ่ม เย็นแต่ก็ไม่หนาว สาวน้อยครึ่งผีดิบในอ้อมอกนำสัมผัสที่แปลกใหม่มาให้เจ้าของสมาคมลั่ว
ในขณะที่ซูจื่อจวินค่อยๆ อ้าปากขึ้นเธอก็ได้ยินเสียงลั่วชิวพูดขึ้นว่า
“อืม…คุณหนูจื่อจวินเป็นเชื้อสายราชวงศ์เซวียนหยวนฝั่งตะวันออกคนสุดท้าย แต่วิญญาณที่แท้จริงของร่างนี้กับมีที่มายิ่งใหญ่กว่าหน่อย ความบริสุทธิ์ของคุณนั้นเป็นสมบัติอันล้ำค่าก็จริง แต่หากเทียบกับของที่คุณต้องการแล้วเกรงว่าจะไม่พอ…อาการบาดเจ็บในร่างของคุณหนูจื่อจวินยังมีอย่างอื่นอยู่ ไม่ใช่หรือครับ? แต่สามารถแยกการรักษาอาการบาดเจ็บและข้อมูลออกเป็นสองอย่างได้ คุณหนูจื่อจวินสามารถเลือกได้ว่าจะเอาอย่างไหน? แน่นอนว่าผมขอแนะนำให้เลือกฟื้นฟูอาการบาดเจ็บจะดีกว่า”
ร่างกายของซูจื่อจวินแข็งทื่อขึ้นอย่างกะทันหัน
เจ้าของสมาคมลั่วพูดอีกว่า “อีกอย่างทางที่ดีก็อย่าได้คิดทดลองดื่มเลือดของผมดู แบบนั้นจะเป็นการทำร้ายคุณ…ลูกค้า”
“ไอ๊หยา บอกว่าครั้งแรกของฉันไม่มีค่าพองั้นหรือ น่าเสียใจจริงๆ…ควรชดเชยให้ฉันสักหน่อยไหม?” ซูจื่อจวินหรี่ตาลง พูดอย่างเย็นชาแล้วอ้าปากกัดลงไปอย่างฉับพลัน
ฟันที่แหลมคมกัดลงไปบนคอของลั่วชิว!
ส่วนลั่วชิวก็ค่อยๆ หลับตาลง
ในพริบตานั้นเวลาได้หยุดลง โลกกลายเป็นสีดำกับขาว ร่างของซูจื่อจวินเหมือนถูกอะไรบางอย่างโอบคลุมและดึงออกไป
เธอไม่สามารถหลบ ไม่สามารถหลีกเลี่ยง และไม่สามารถขัดขืนได้เลย ร่างกายของเธอหยุดอยู่กลางอากาศ บนสองมือ สองขาและคอของเธอถูกโซ่สีดำรัดเอาไว้ โซ่เหล่านี้ไม่มีจุดสิ้นสุด เพราะพวกมันโผล่ออกมาจากความว่างเปล่า
ในตอนนี้เธอที่มีสีหน้าตกตะลึงกำลังขับเคลื่อนพลังปีศาจสีแดงในร่างอย่างบ้าคลั่ง ด้วยคิดจะดิ้นให้หลุดออกจากโซ่
แต่ซูจื่อจวินคาดไม่ถึงเลย ไม่ว่าเธอจะระเบิดพลังปีศาจออกมาอย่างบ้าคลั่งขนาดไหน ก็เหมือนกับการทิ้งดินลงไปในทะเล ถูกโซ่สีดำซึมซับไปหมด ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย
ลั่วชิวลืมตาขึ้น มองที่คอของตนเองเล็กน้อย จากนั้นก็ก้มลงไปเก็บฟันแหลมซีกหนึ่งขึ้นมา
ซูจื่อจวินสูญเสียฟันไปซีกหนึ่ง
เธอไม่สามารถดื่มเลือดเจ้าของสมาคมได้เลยแม้แต่น้อย กลับกันเธอสูญเสียฟันของตนเองไปหนึ่งซีก
ลั่วชิวเอาผ้าเช็ดมือออกมาเช็ดฟันซีกนั้นให้สะอาดและค่อยๆ วางลงบนโต๊ะ…เขามองดูซูจื่อจวินแล้วโบกมือให้โซ่เหล่านั้นถอยกลับไป จากนั้นถึงพูดเบาๆ ว่า “คุณหนูจื่อจวิน คุณทดสอบ…พอหรือยัง”
เท้าเปล่าของเธอตกลงสู่พื้น สัมผัสได้ถึงความเย็นและแข็งของพื้นไม้แล้วเธอถึงยื่นมือออกมาเช็ดรอยเลือดที่ไหลออกมาจากช่องฟันตรงมุมปาก ค่อยๆ พูดขึ้นว่า “ฉันมีสุสานแห่งหนึ่ง ด้านในมีวิญญาณชั่วร้ายของปีศาจทะเลลึกสามหมื่น พอหรือเปล่า?”
“ตำแหน่งละ?”
“ละติจูด 24 องศา 14 ลิปดา 48.18 ฟิลิปดา เหนือ ลองจิจูด 129 องศา 38 ลิปดา 43.29 ฟิลิปดา ตะวันออก!”
ลั่วชิวหลับตาลง ไม่นานก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง พูดว่า “สองหมื่นเพียงพอที่จะรักษาอาการบาดเจ็บของคุณหนู หนึ่งพันห้าพอที่จะซื้อข้อมูลที่คุณหนูจื่อจวินต้องการ”
“ตกลง!”
ถึงแม้จะตกลง แต่สายตาของซูจื่อจวินก็ยังไม่เป็นมิตร…เพราะปวดฟันมาก
ปวดจริงๆ…