สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 30 คนต้องสาป
“ท่านอา!”
ซูจื่อจวินเปล่งเสียงร้อนใจและดังก้องไปทั้งถ้ำ เห็นเพียงหลงซีรั่วก้มลงมองบาดแผลที่หน้าอกของตนเอง
เธอดูทุลักทุเลมาก ร่างกายโน้มไปข้างหน้าเหมือนจะล้มลงกับพื้น
ในพริบตาเดียวที่ร่างกายของเธอจะล้มลง หลงซีรั่วก็ก้าวออกมาหนึ่งก้าว ยันไม่ให้ตนเองล้ม! เธอกัดฟัน สะบัดมือออกไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว แล้วตัดของแหลมที่แทงร่างกายของเธอจนขาด!
ดูเหมือนมีเสียงร้องของมังกรดังก้องไปทั่วทั้งถ้ำ!
การสะบัดแขนไปด้านหลังนี้ไม่เพียงแต่ตัดของแหลมที่ลอบทำร้ายเธอจนขาด แต่ยังเกิดเป็นคลื่นอากาศตัดไปบนร่างของก้อนเนื้อแปลกประหลาดอันนั้นด้วย!
ส่วนหนึ่งของก้อนเนื้อถูกคลื่นอากาศตัดครึ่ง และมีของเหลวเหนียวสีเขียวไหลออกมา
เสียงกรีดร้องหลากหลายเสียงปะปนกันดังขึ้น จากนั้นก้อนเนื้อชิ้นนี้ก็ดำดิ่งลงไปในน้ำทันที
เพื่อหนี
ในที่สุดสายน้ำก็ท่วมหลงซีรั่วและซูจื่อจวิน!
ภายในน้ำไม่มีแสงสว่าง
บรรดาอักษรเวทมนตร์ที่ใช้ผนึกก็ไม่รู้ว่ามืดทึบลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่
ซูจื่อจวินทำได้เพียงอาศัยพลังปีศาจที่เหลืออยู่ไม่มากขยับร่างกายอันเหนื่อยล้า แล้วลากร่างกายของหลงซีรั่วออกไปจากถ้ำ
คิดไม่ถึงว่าเซียงหลิ่วจะทิ้งการโจมตีเอาไว้ด้วย…
ซูจื่อจวินคลานขึ้นไปบนฝั่งและมองไปรอบๆ ที่นี่เหมือนเป็นสันดอนแห่งหนึ่ง มีเรือหาปลาและแพไม้ไผ่จอดอยู่ไม่กี่ลำ
ซูจื่อจวินลากหลงซีรั่วขึ้นไปไว้บนแพไม้ไผ่และตรวจดูรอยแผลของหลงซีรั่ว
หลงซีรั่วหลับตา สีหน้าซีดขาว บาดแผลบนหน้าอกดูเลวร้ายมาก…ซูจื่อจวินเห็นดังนั้นก็กัดฟันกรอด หลังจากฉีกกระโปรงของตนเองพันรอบตัวของหลงซีรั่วอย่างเรียบง่ายแล้วก็แบกเธอขึ้นมา
ขอเพียงยังอยู่บนแผ่นดินนี้ มังกรแห่งแผ่นดินเทพจะต้องไม่ตาย!
แต่ซูจื่อจวินก็รู้ดีกว่าใคร ว่าหลงซีรั่วอาจจะหลับลึกไปทั้งอย่างนี้เลย และไม่รู้จะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่
และหลังจากตื่นขึ้นมาแล้วจะยังเป็นเธอหรือไม่
“เจ้าอย่าหลับนะ หากเจ้าหลับแล้ว ข้าไม่ดูแลโรงพยาบาลให้เจ้าหรอกนะ…ดังนั้นเจ้าต้องตื่นขึ้นมา! ยายเฒ่า!”
ซูจื่อจวินแบกหลงซีรั่วขึ้นมาและรีบวิ่งไปบนฝั่งแม่น้ำ…ถึงพลังปีศาจของเธอจะเหลือน้อยแต่ก็ยังวิ่งเร็วกว่าคนธรรมดาอยู่ดี
เร็วแค่ไหน?
ระดับวิ่งแข่งมาราธอนระยะสั้นระดับโลกจนชนะได้เลย
…
…
ส่วนอีกด้านหนึ่งของฝั่งก็มีเงาร่างสองสายคลานขึ้นมาบนฝั่งอย่างทุลักทุเล
เป็นคุกและเซียงหลิ่ว
เวลานี้คุกล้วงกล่องเล็กๆ กล่องหนึ่งออกมาจากเสื้อ เมื่อเปิดออกก็เห็นแคปซูลสีแดงในแถวบนและแคปซูลสีฟ้าในแถวล่าง
คุกรีบใส่แคปซูลสีฟ้าเม็ดหนึ่งเข้าไปในปาก จากนั้นก็หายใจอย่างหนักหน่วง
สีฟ้านั้นใช้รักษาบาดแผล ส่วนสีแดงก็คล้ายอาหารเสริมที่จะเพิ่มพลังความร้อนให้ร่างกายอย่างรวดเร็ว
เซียงหลิ่วเหลือบมองแวบหนึ่ง เขารู้ว่านี่เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีของสมาคม…แต่ของสิ่งนี้ไม่มีประโยชน์กับปีศาจ
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง เซียงหลิ่วถึงยืนขึ้นมาและถามว่า “คุก เจ้าขยับได้หรือยัง?”
คุกพยักหน้า “พอได้…ผนึกจุดที่สามอยู่ที่ไหน?”
เซียงหลิ่วเดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่งและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ไม่ไกล แต่พวกเราต้องดูสถานการณ์ให้แน่ชัดก่อนค่อยว่ากัน พวกเราออกมาได้สักพักแล้วแต่พลังของกระบี่เซวียนหยวนกลับหายไปกะทันหัน…หรือซูจื่อจวินจะควบคุมมันได้?”
“พลังที่เหนือจินตนาการแบบนั้นกลับ…” คุกขมวดคิ้วขึ้น
เขาไม่มีสัมผัสแข็งแกร่งแบบปีศาจ แต่มีหอกแห่งความตายในมือ…ตอนนี้มันสงบลงและไม่รู้สึกถูกคุกคามเช่นนั้นอีก
“การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ทำให้สมาคมไปล่วงเกินศัตรูที่ตึงมือเข้าแล้ว ซูจื่อจวินรู้ถึงการคงอยู่ของสมาคม…” คุกพูดเสียงเข้ม “เซียงหลิ่ว สุดท้ายก็หวังว่าจะนำเส้นสายพลังวิญญาณไปได้ มิเช่นนั้นพวกเราจะต้องสูญเสียมากกว่าที่เคยได้รับ…เพราะนั่นเป็นปีศาจเฒ่าที่ถือครองอาวุธน่าหวาดกลัว”
“นางเพียงแต่ฝืนเรียกมันออกมาเพื่อเอาตัวรอดก็เท่านั้น”
เซียงหลิ่วยิ้มเยาะจากนั้นก็พูดเสียงเข้มว่า “แต่ให้พูดตามจริง หากไม่เป็นเพราะข้าแบ่งแยกความสนใจของนางออกไป และหอกมารของเจ้าลอบโจมตีได้อย่างไร้ซุ่มไร้เสียง คงบีบให้นางเรียกกระบี่เซวียนหยวนออกมากะทันหัน จนครั้งนี้พวกเราทั้งสองคนต้องหนีออกมากลางคันแบบนี้ไม่ได้หรอก คิดไม่ถึงจริงๆ ว่านางจะมีพลังปีศาจน่ากลัวขนาดนี้…”
คุกเข้าใจอย่างลึกซึ้ง พยักหน้าพูดว่า “ปีศาจเฒ่าทางตะวันออกร้ายกาจจริงๆ ในบรรดานักรบเทพสิบสองคน คนที่สามารถต้านทานพลังระดับนี้ได้มีไม่เกินสองคน ไม่พูดเรื่องเหล่านี้แล้ว…”
คุกส่ายหน้า “พวกเรารีบเคลื่อนไหวเถอะ…ไปทางไหน?”
เซียงหลิ่วชี้ไปด้านข้าง “อยู่เขตชานเมืองทางใต้ ที่นั่นมีโรงกำจัดขยะแห่งหนึ่งและมันอยู่ใต้ดินลึกลงไปประมาณสี่ร้อยเมตร”
คุกมองไปทางด้านนั้น เห็นอยู่ไกลๆ พยักหน้าและพูดว่า “มีทางไปถึงไหม?”
“มี” เซียงหลิ่วยิ้มพร้อมขยับเข้าไปใกล้ “ทางไปนั้นอยู่ที่…”
คุกกำลังตั้งใจฟังแต่กลับสีหน้าเปลี่ยนในทันที!
“…เซียงหลิ่ว นาย!”
คุกมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง เซียงหลิ่วเลิกคิ้วสีม่วงของเขาขึ้นเหมือนกำลังหัวเราะเยาะ ตอนนี้แขนของเซียงหลิ่วแทงทะลุหน้าอกของเขาแล้ว!
เจาะหน้าอกแหวกท้อง!
เซียงหลิ่วยิ้มเยาะ ออกแรงที่แขนยกตัวคุกขึ้นมา
เซียงหลิ่วหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าคิดจะพูดว่าข้าทรยศเจ้างั้นหรือ? ฮ่าๆๆๆ! คุก เจ้าโทษข้าไม่ได้! หากจะโทษก็โทษสมาคมของพวกเจ้า! ข้าไม่เคยลืมมาก่อนว่าตอนที่ข้าถูกขับไล่ออกมานั้นข้าถูกสมาคมของพวกเจ้าจับมาอย่างไร และถูกพวกเจ้าทำการทดลองต่างๆ ทุกวันอย่างไร! สิ่งที่พวกเจ้าทำกับข้า ข้าจะคิดบัญชีกลับทีละน้อยๆ แล้วกัน…ฮ่าๆๆๆ!”
คุกกัดฟัน ออกแรงยกหอกแห่งความตายในมือขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าเซียงหลิ่วจะพลิกมือกลับแย่งหอกแห่งความตายไป “หอกมารเล่มนี้ถือว่าเป็นดอกเบี้ยให้ข้าก็แล้วกัน!”
พูดแล้วเซียงหลิ่วก็สะบัดมือโยนร่างของคุกออกไปบนพื้น
เขายกเท้าขึ้นวางบนหัวของคุก ก่อนเหยียบให้จมลงไปในโคลนริมฝั่งแม่น้ำ ยิ้มเยาะและเอ่ยว่า “นักรบเทพทั้งสิบสองอะไรกัน? เป็นเพียงสุนัขเฝ้าประตูเท่านั้น!”
“เจ้าโกหก…เรื่องเส้นสายพลังวิญญาณ…”
“โกหก?”
เซียงหลิ่วหัวเราะและพูดว่า “ไม่ ไม่ ไม่ เส้นสายพลังวิญญาณนั้นมีอยู่จริงๆ เจ้าก็มองเห็นผนึกแล้วไม่ใช่หรือ?”
เซียงหลิ่วยิ้มเยาะเอ่ยว่า “แต่ข้าไม่เคยคิดจะเก็บมันแล้วมอบให้พวกเจ้ามาก่อน! คุก เจ้ายังไม่เข้าใจงั้นหรือ? ถ้าหากข้าไม่พูดเรื่องเส้นสายพลังวิญญาณให้สมาคมของพวกเจ้าสนใจ สมาคมของพวกเจ้าจะปล่อยข้าออกมาจากห้องทดลองที่เหมือนกับนรกง่ายๆ อย่างงั้นหรือ? ก็ยังไม่แน่…พวกเจ้าจึงยอมประนีประนอมส่งเจ้ามาจับตาดูข้า”
“ข้ายอมรับว่าหอกมารของเจ้านั้นร้ายกาจ หากต่อสู้ซึ่งหน้าข้าก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหอกมารเล่มนี้…แต่โอกาสได้มาถึงแล้วมิใช่หรือ?”
เซียงหลิ่วเหยียบหัวของคุกลงไปลึกอีก “เส้นสายพลังวิญญาณเป็นของข้า ส่วนบรรดาปีศาจในเมืองนี้ก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งของข้า…คุก อีกไม่นานข้าจะส่งคนในสมาคมของเจ้าทุกคนตามเจ้าไปอยู่ในนรก…”
พูดแล้วเซียงหลิ่วก็พลิกมือที่ถือหอกแห่งความตายแทงเข้าที่หัวของคุก คิดไม่ถึงว่าหอกแห่งความตายจะกู่ร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง สั่นแขนของเซียงหลิ่วจนเขาโมโหขึ้นมา!
“เจ้าว่าข้าจะไม่ใช้เจ้าฆ่าเจ้านายของเจ้างั้นหรือ?” เซียงหลิ่วยิ้มเยาะ ยกเท้าขึ้นและเหยียบลงไป!
เสียงกระดูกแตกหัก!
นั่นเป็นกะโหลกของคุก!
คุกหยุดทุรนทุรายลงในทันที เขานอนนิ่งอยู่ในโคลน หอกแห่งความตายในมือก็หยุดสั่นและมืดทึบลงพร้อมกัน
มันไม่มีสีแดงเข้มสดใสอีกแล้ว แต่กลายเป็นสีเทามีสนิมเกาะ!
“ชิ จงรักภักดีจริงๆ แต่ข้าจะสร้างเจ้าขึ้นมาใหม่ เจ้าจะต้องเชื่อฟังข้า!”
เซียงหลิ่วสบถอย่างเย็นชา และเตะร่างของคุกลงไปในแม่น้ำ จากนั้นก็หยิบหอกแห่งความตายขึ้นสนิมมาแล้วจากไป
เขาก็ได้รับบาดเจ็บหนัก…แน่นอนว่าจะไม่ไปจุดผนึกแห่งที่สามด้วยสภาพเช่นนี้
เรื่องที่ต้องทำนั้นง่ายดายมาก นั่นก็คือรักษาอาการบาดเจ็บให้เร็วที่สุด
วิธีอะไรที่เร็วที่สุดงั้นหรือ?
นั่นก็คือการกลืนกินปีศาจตนอื่นนะสิ…แล้วที่ไหนมีปีศาจเยอะที่สุด?
หากเป็นเมืองนี้ก็มีเพียงสถานที่เดียว…เอลิเซียมบาร์
…
ที่จริงแล้วเป็นเพราะพลังของกระบี่เซวียนหยวนรั่วซึมออกมาด้านนอก และแม่น้ำเป็นตัวดูดซับพลังนั้นส่งให้อุณหภูมิของแม่น้ำสูงขึ้นเล็กน้อย…แต่ก็ไม่ร้อนถึงขั้นเดือด
เป็นเหมือนกับการทำให้น้ำเย็นอุ่นขึ้นเท่านั้น
เหยื่อปลาเริ่มล่องลอยเพราะเงาร่างหนึ่งค่อยๆ จมลงมาในน้ำ…ฝูงปลาก็ไม่รู้ว่ามันเป็นตัวอะไรแต่พวกมันก็หลบหลีกออกไปไกล
เพราะในเงาร่างนี้ปรากฏความมืดดำที่ดำทะมึนเสียยิ่งกว่าน้ำลึก…เป็นบางอย่างที่ดำมืด
มันคล้ายสายยาวๆ ที่มีรูปร่าง…สสารสีดำแผ่ออกมาจากเงาร่างนั้นและโอบล้อมเงาร่างนั้นไว้
ทันใดนั้นภายในแม่น้ำก็เกิดเงามายาสายหนึ่งขึ้นมา มันค่อยๆ โอบอุ้มร่างไร้วิญญาณที่หน้าอกทะลุ กะโหลกเสียรูปของคุก
เธอเป็นเงามายาที่ปรากฏตัวขึ้น
เธอเหมือนจะพูดว่า ‘ลูกหลานของอาณาจักรแห่งเงาจะต้องไม่ตาย’
…
“อาจารย์…”
ริมฝีปากของคุกขยับ…ลืมตาขึ้นมา ร่างกายกลับคืนสู่สภาพเดิม แต่เขากลับสลบลงไปอีกครั้งปล่อยให้ร่างกายไหลไปตามแม่น้ำ
ไม่รู้ว่าไปที่ไหน