สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 86 ใหญ่โตขนาดนี้
หลงซีรั่วตัวแข็งทื่อเป็นเวลาหนึ่งนาทีกว่าๆ
เนื่องจากร่างกายหดเล็กลง ในที่สุดเสื้อผ้าที่ใหญ่เกินตัวก็ต้านทานแรงดึงดูดไม่ได้ ในวินาทีที่มันเลื่อนหลุดลงมาจากตำแหน่งแขนนั้น เธอถึงรู้สึกว่าไม่ดีแล้ว
เธอรีบย่อตัวลงตามสัญชาตญาณทันที
แต่ในตอนที่เธอมองเห็นเจ้าของสมาคม เธอก็เห็นสายตาน่าพิศวงจากดวงตาของเขา ไม่มีร่องรอยเยาะเย้ยเลยแม้แต่น้อย
นี่เป็นสายตายังไงกัน?
เหมือนกับมองเห็นปัญหาอย่างหนึ่ง แล้วก็ครุ่นคิดถึงวิธีจัดการปัญหา…เป็นสายตาที่กำลังครุ่นคิด
แม้จะเป็นเพียงแค่วินาทีเดียว…แต่อย่างน้อยเธอก็รู้ถึงข้อแตกต่างระหว่างเยาะเย้ยและลำบากใจได้ แต่ถึงจะรู้ถึงข้อแตกต่างเหล่านี้ หลงซีรั่วก็ยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เธอรับไม่ได้อยู่ดี
“เอาเป็นว่า…เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะครับ คุณหลง” ลั่วชิวพลันก็พูดขึ้นเบาๆ พร้อมกับดีดนิ้ว
ตรงหน้าของหลงซีรั่ว มีชุดหนึ่งตกลงจากกลางอากาศมาตรงหน้าของเธอ พร้อมกันนี้รอบกายของเธอก็มีเงาวงแหวนสีดำล้อมรอบ
ถ้าหากพูดว่าจะใช้อะไรมาบรรยายอารมณ์มังกรแท้จริงตอนนี้แล้วละก็ สิ่งที่เข้ากับตอนนี้ก็คงมีเพียง…คำว่ายุ่งเหยิงละมั้ง?
บางทีเพิ่มคำว่า ‘อยู่ท่ามกลางความยุ่งเหยิง’ น่าจะเหมาะสมกว่า
ไม่รู้เป็นเพราะร่างกายเล็กลงหรือเปล่า ไอคิวและอีคิวจึงถูกจำกัดอย่างมาก หลงซีรั่วตัวสั่นมองดูชุดตัวนี้แล้วร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา
ชุดแนวนี้ หากวางไว้ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที ตีเธอให้ตายเธอก็จะไม่สวมเด็ดขาด
“เป็นชุดเมด!”
…
“เธอเห็นประตูด้านหลังฉันไหม”
ในฉากสีดำมีความเคลื่อนไหวหรือไม่นั้น ลั่วชิวไม่ได้สนใจมาก ตอนนี้เห็นเพียงโยวเย่จึงถามขึ้นมาอย่างฉับพลัน…
…หรือจะพูดว่าเหมือนกำลังครุ่นคิดถึงสถานการณ์ของตนเอง “ฉันมองไม่เห็น”
“โยวเย่เห็นแค่เงารางๆ ค่ะ” คำพูดของคุณหนูสาวใช้นั้นแผ่วเบามาก
ลั่วชิวครุ่นคิดครู่หนึ่งถึงเอ่ยว่า “แต่ฉันรับรู้ถึงการคงอยู่ของมันได้แล้ว…ในตอนนี้”
เพียงแต่ดูคลุมเครือมาก…
ความคลุมเครือนี้เกิดจากความแตกต่างระหว่างความเล็กของตัวเอง กับความกว้างใหญ่ของความหมายเบื้องหลังประตู
แต่ลั่วชิวยังไม่พูดสิ่งเหล่านี้ออกไป เพียงแต่เอ่ยอย่างเรียบเฉยว่า “หลงซีรั่วโจมตีเข้ามา ฉันไม่คิดจะลงมือจึงมอบให้กลไกป้องกันของสมาคมจัดการ เธอว่าทำไมมันถึงไม่ได้ฆ่าเธอ แต่เปลี่ยนเธอเป็นแบบนั้น”
โยวเย่ครุ่นคิด จากนั้นก็ให้คำตอบคลุมเครือออกมา “บางทีอาจจะมีเหตุผลที่จะไม่ฆ่า…แต่ก็ไม่อาจจกโทษให้ได้มั้งคะ?”
“เธอคิดมากเหมือนเดิมเลยนะ” ลั่วชิวหัวเราะขึ้นในทันใด ส่ายหน้าและไม่ได้พูดเรื่องนี้กับโยวเย่ต่อ
เขาเอ่ยเบาๆ ว่า “ไปชงชามาสักกาเถอะ”
โยวเย่พยักหน้า ยิ้มและหันกายเข้าประตูไป
ลั่วชิวรออีกครู่หนึ่ง ตรงหน้าก็มีเงาร่างสีดำเล็กๆ ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน…มังกรแท้จริงที่เปลี่ยนร่างแล้วเดินออกมาจากฉากสีดำ อารมณ์ดูวุ่นวายซับซ้อน ส่วนท่าทางนั้น…
ท่าทางดูค่อนข้างอาย
“คุณหลงครับ เรื่องในวันนี้ก็ให้จบลงตรงนี้เถอะ” ลั่วชิวเอ่ยอย่างเรียบเฉยว่า “พวกเราเพียงทำการค้าที่นี่ ไม่ได้คิดจะเป็นศัตรูกับใคร”
สุดท้ายหลงซีรั่วก็ถอนหายใจยาว…ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นรูปร่างเช่นนี้นั้นเธอมีความมั่นใจครึ่งต่อครึ่ง ตอนนี้เมื่อเปลี่ยนเป็นแบบนี้แล้วจะทำอะไรได้อีก?
เธอไม่ใช่คนประเภทที่แพ้แล้วพูดแย่ๆ ใส่หน้าคนอื่นเพียงเพื่อกู้หน้ากลับมา
เธอแค่เอื้อมมือไปดึงคอเสื้อชุดเมดที่เธอใส่และขมวดคิ้ว “ชุดนี้พอดีกับขนาดตัวของฉันจนน่าแปลกใจ…ฉันคิดว่าอย่างน้อยก็มีเรื่องหนึ่งที่ฉันพิสูจน์ได้”
ลั่วชิวรู้สึกสนใจจึงส่งสายตาสงสัยไปหาเธอ
หลงซีรั่วสบถและเอ่ยว่า “นายเป็นโรคจิต!”
อืม…เมื่อคุณตัวเล็กลงแล้ว แม้แต่ไอคิวของคุณก็ลดลงด้วยงั้นเหรอ?
…
เจ้าของสมาคมลั่วชะงักอยู่ครู่หนึ่ง ส่วนหลงซีรั่วเดินจากไปสักพัก คุณหนูสาวใช้ก็เดินออกมาพร้อมชาที่ชงไว้แล้ว ลั่วชิวถึงได้เริ่มเก็บของโชว์ที่ตกกระจายจากการโจมตีเมื่อครู่ขึ้นมา
สุดท้ายเมื่อลั่วชิวเก็บลูกบอลหนังสีแดงเก่าขึ้นมาถึงเอ่ยว่า “ถ้าไม่เก่งกว่า…ก็จะเป็นเหมือนคนธรรมดาที่จมอยู่กับสิ้นหวังและสับสน”
ในที่สุดลูกบอลหนังก็กลับขึ้นสู่ที่เดิม
…
ผิดแผนแล้ว…ผิดแผนไปหมด
หลงซีรั่วไม่เคยรู้สึกเลยว่าแม้แต่เดินก็ยังเป็นภาระหนักอึ้งขนาดนี้…เธอเพิ่งจะเดินได้ไม่ถึงระยะทางสามกิโลเมตรเลยด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าเธอไม่ได้รู้สึกเหนื่อย แต่เป็นเพราะได้รับสายตาแปลกประหลาดมากมายมาตลอดเส้นทาง!
ชุดสมควรตายชุดนี้!
เธอนั่งอยู่ในร่องดอกไม้ด้านหน้าของร้านค้าแห่งหนึ่ง ก้มหัวลงกัดเล็บนิ้วโป้งของเธอเบาๆ
แผนการเดิมนั้นง่ายมาก แทนที่จะคาดเดาจากทุกวิถีทางหาความจริงเบื้องหลังร้านค้าแห่งนั้น ไม่สู้เธอใช้โอกาสนี้ลองเชิงอย่างจริงจังจะดีกว่า
ด้วยความสามารถพิเศษของมังกรแท้จริง เธอจึงมีความสามารถในการเผชิญอุปสรรคใดๆ
แม้สู้ไม่ได้อย่างน้อยเธอก็สใช้วิชาลับหนีไปได้ หากสามารถสืบหาส่วนลึกที่สุดของสถานที่แห่งนั้นได้ก็ถือว่าไม่ขาดทุน
แม้จะเห็นเพียงความจริงเล็กน้อยก็ยังดี วันหลังจะได้หาวิธีการตอบโต้
ท่าทางเช่นนี้ไม่สามารถให้คนเห็นได้
โดยเฉพาะซูจื่อจวิน
ไม่งั้นคงเงยหน้าขึ้นไม่ได้ไปชั่วชีวิต…
“เจ้าโรคจิตคนนั้น!”
เธอดูเหมือนอยากจะกัดเล็บบนนิ้วโป้งของเธอให้ขาด เธอต้องการระบายความโกรธ จึงกระโดดขึ้นในทันทีและมุ่งหน้าไปยังร่องดอกไม้ของร้านค้า จากนั้นก็เริ่มทำลายอย่างบ้าคลั่ง
และดุร้าย
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนมีใครบางคนวางมือบนไหล่ของเธอ และ ยังพูดว่า “น้องสาว คุณแม่ไม่ได้บอกเหรอว่าการทำลายดอกไม้ใบหญ้ามันไม่ดี?”
หลงซีรั่วขมวดคิ้ว…เมื่อไหร่กันที่เธอให้คนเข้ามาใกล้ขนาดนี้โดยไม่รู้สึกตัว?
เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ก็ทำให้เธอรู้ว่าสถานการณ์ของเธอในตอนนี้ย่ำแย่ขนาดไหน เธอขมวดคิ้วขึ้นและหันกลับไป
เห็นคนอายุประมาณสามสิบต้นๆ สวมชุดสูทคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า
รอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้าของเขาดูเหมือนจะเต็มไปด้วยหมอกควัน…ผู้ชายคนนั้นนั่งยองๆ ลงมาและยิ้มเอ่ยว่า “พ่อแม่ล่ะ? อาศัยอยู่ที่ไหน? ให้ลุงช่วยไหม? บ้านลุงอยู่แถวๆ นี้? หิวหรือเปล่า?”
หลงซีรั่วขมวดคิ้วอีกครั้ง “นายจ้องดูฉันอยู่นานมากแล้ว น่าจะเห็นว่าฉันนั่งอยู่ที่นี่คนเดียว ไม่เห็นมีคนมาตามหา ไม่ใช่เหรอ?”
ผู้ชายคนนั้นชะงัก ขยับปากและพูดออกมาว่า “น้องสาว พูดอะไรกัน? ลุงไม่ใช่คนไม่ดีนะ…น้องสาวชอบเค้กร้านนั้นไหม?”
ทันใดนั้นหลงซีรั่วก็เปลี่ยนสีหน้า เดินไปข้างหน้าจนเกือบติดกับผู้ชายคนนั้น “ด้านหลังกระโปรงของฉันมีจุดที่ขาดอยู่ นายช่วยฉันจัดการหน่อยได้ไหม?”
“อา…อย่างนั้นเหรอ แบบนั้นก็จัดการยากแล้ว” ดวงตาของผู้ชายคนนั้นฉายแววตื่นเต้นขึ้นมา “แต่ที่นี่คนเยอะ พวกเราไปหาสักที่ดีกว่า แล้วลุงจะดูให้ดีไหม?”
“ดี…” หลงซีรั่วยิ้มหวาน แต่คำพูดต่อไปไม่ใช่ ‘เลย’ แต่เป็น “น้องสาวแกสิ”
อา!
ผู้ชายคนนั้นส่งเสียงร้องเหมือนหมู เพราะเด็กผู้หญิงที่ดูเหมือนจะไม่มีพิษมีภัยต่อเขาเตะเข้าที่เป้าของเขาอย่างรุนแรง
“เป็นเพียงผู้ชายแบบนายก็ยังคิดจะเล่นกับคนจริงงั้นเหรอ? ไปเล่นกับตุ๊กตาเถอะ!”
พูดแล้วหลงซีรั่วก็เตะเข้าไปอีก จากนั้นก็ใช้สองมือยกกระโปรงขึ้น รีบหนีไปก่อนที่จะมีคนมุงดูโดยไม่พูดอะไรอีกแม้แต่คำเดียว
เธอรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่เลวร้ายจริงๆ และดูเหมือนเมื่อได้เริ่มต้นโชคร้ายแล้วก็จะไม่มีวันจบ
หลงซีรั่วครุ่นคิดว่า สภาพนี้คงยังกลับโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงไม่ได้ชั่วคราว
ถ้าหากเรื่องราวของเธอถูกเปิดเผยแล้ว พวกที่ควบคุมยากอยู่แล้วก็จะไร้กฎไร้เกณฑ์ขึ้นมาอีก
แต่ควรไปที่ไหนดี?
เมื่อมองเห็นรถที่วิ่งบนถนนอย่างต่อเนื่องและ ‘มนุษย์’ เดินขวักไขว่ไปมานี้แล้ว…มังกรแท้จริงแห่งแผ่นดินเทพถึงไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีเป็นครั้งแรก
ที่แท้เมืองแห่งนี้ก็…ใหญ่โตถึงขนาดนี้เลยงั้นหรือ?