สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 16 มุมมองของนีโร
สถานีอนามัยในเมืองเล็กๆ แห่งนี้มีหมอเพียงแค่คนเดียว แต่กลับมีพยาบาลอยู่หลายคน
แต่นอกจากเด็กสาวคนหนึ่งที่เพิ่งเรียนจบจากโรงเรียนพยาบาลแล้ว ที่เหลือก็มีแต่รุ่นแม่ทั้งนั้น
เพราะเหตุนี้ นับตั้งแต่ที่จางคุนตกหลุมแบบหาสาเหตุไม่พบจนขาหักต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว สิ่งที่น่าสนใจนอกจากการเล่นโทรศัพท์มือถือก็คือการเล่นสนุกกับเด็กสาวคนนี้
เพียะ
จางคุนฉวยโอกาสตอนที่นางพยาบาลสาวกำลังจัดเก็บผ้าห่มอยู่เตียงข้างๆ ตีบนสะโพกของเธอจนเกิดเสียงดังอย่างชัดเจน
นางพยาบาลสาวตกใจรีบหันกลับมา แต่กลับเห็นจางคุนกำลังดูหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งที่ไม่รู้พลิกเปิดดูกี่ครั้งแล้วอยู่
“ไอ้คนเลว” นางพยาบาลสาวร้องด่า รู้สึกอดสูจนตาแดงวิ่งออกไป
เธอรู้ว่าเธอทำอะไรกับไอ้เลวคนนี้ไม่ได้…ทุกคนล้วนแต่กลัวเจ้าคนหน้าไม่อายคนนี้ ทำไมคนแบบนี้ตกหลุมแล้วถึงไม่ตายไปเลย เพียงแค่ขาหักเท่านั้น
“ฮ่าๆๆๆ” จางคุนหัวเราะขึ้นมา ดวงตาเต็มไปด้วยความลามก “ก้นของสาวน้อยคนนี้งอนจริงๆ อีกนิดเดียวเท่านั้น”
“อา…เป็นไอ้ชั่วที่หากตายไปก็ไม่เสียดายจริงๆ”
ในตอนนี้เองจางคุนก็ได้ยินเสียงนี้…เสียงต่ำมาก เหมือนกดเสียงพูด ทำให้แยกไม่ออกว่าเป็นเสียงของผู้ชายหรือผู้หญิง…
เขาหันมองไปยังที่มาของเสียงโดยไม่รู้ตัว เห็นคนสวมชุดคลุมขนาดใหญ่มีหมวก ทั้งยังสวมหน้ากากอนามัยปิดปากกำลังนั่งอยู่ขอบหน้าต่าง…ด้านหลังแบกกระบอกกลมขนาดใหญ่สีดำอันหนึ่ง ไม่รู้ว่าด้านในใส่ของอะไรไว้
แต่ดูจากท่าทางแล้ว ตัวไม่ใหญ่เท่าไหร่ อีกทั้งยังดูผอมบางมากด้วย
แต่จางคุนเป็นใคร ใครในหมู่บ้านพบเห็นก็กลัวแล้ว เป็นคนหน้าไม่อายอีกทั้งยังบ้าอำนาจ จะทนให้คนมาด่าว่าตนเองต่อหน้าอย่างนี้ได้ยังไง
“ไอ้ตัวดี กล้ามาด่าฉันต่อหน้างั้นเหรอ รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร” จางคุนยิ้มเยาะ “เชื่อไหมว่าฉันสามารถบีบแกให้ตายได้ในทันที”
คาดไม่ถึงว่าคนในเสื้อคลุมใหญ่นั้นจะโบกมือ “จางคุน ฉันไม่มีอารมณ์จะพูดเรื่องไร้สาระกับนายที่นี่ ฉันมาบอกนายเรื่องหนึ่ง”
จางคุนไม่สนใจ ยกโทรศัพท์ขึ้นมาคิดจะเรียกคน เขาคิดแก้แค้นแม้กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
“นายไม่อยากรู้เหรอว่าทำไมอยู่ดีๆ ตัวเองถึงตกหลุมขาหักได้” คนในชุดคลุมใหญ่พูด
จางคุนชะงัก นิ้วมือที่กำลังกดหมายเลขหยุดลงชั่วขณะ จ้องมองคนที่อยู่ตรงหน้าหน้าต่างด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย “แกเป็นใคร”
“เรื่องนี้นายไม่ต้องสนใจ” คนคนนั้นพูด “นายรู้เพียงว่าฉันสามารถบอกนายได้ว่าใครทำให้นายตกหลุมก็พอ…อีกอย่าง ฉันยังสามารถช่วยนายให้ได้ผู้หญิงที่นายต้องการอีกด้วย”
“แกพูดถึง…” จางคุนขมวดคิ้วขึ้น “ซานเอ๋อร์?”
“ไม่ใช่ว่านายอยากนอนกับผู้หญิงคนนี้มาตลอดงั้นเหรอ” คนคนนั้นพูด “แต่เธอเป็นแม่หม้ายใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ถึงบ้านนายจะมีเส้นสายอยู่บ้างก็ไม่กล้าใช้กำลังบังคับ กลัวจะปิดไม่มิด ทำให้สังคมโมโห ดังนั้นถึงยังไม่ลงมือบีบบังคับ ไม่ใช่เหรอ”
“ทำไมแกถึงจะช่วยฉัน” จางคุนถาม
“แน่นอนว่ามีเป้าหมาย” คนคนนั้นพูด “แต่นายวางใจได้ ฉันไม่ต้องการเงินของนาย และไม่ได้ให้นายทำอะไรให้ฉัน สรุปแล้วฉันไม่ได้ทำให้นายเสียประโยชน์ อีกอย่างฉันยังสามารถทำให้ขาของนายหายดีในทันทีได้อีกด้วย”
จางคุนยิ้มเยาะ “ชิ แกคิดว่าฉันจะเชื่อแกง่ายๆ งั้นเหรอ”
ทันใดนั้นคนคนนั้นก็โยนลูกกลมๆ เล็กเท่าหัวนิ้วมือให้จางคุน มันดูเหมือนขี้ผึ้ง
“บีบมัน ทายาข้างในบนจุดที่นายบาดเจ็บ หลังจากคืนนี้นายจะสามารถเดินได้ตามปกติ” คนคนนั้นหัวเราะ “เชื่อหรือไม่เชื่อ นายคิดเอง แล้วฉันจะมาอีก”
“รอเดี๋ยว” จางคุนรีบร้องเรียก
แต่คิดไม่ถึงว่าคนคนนั้นจะพลิกตัวลงไปจากหน้าต่างแล้วหายไปทันที ในตอนที่จางคุนพยุงตัวไปถึงข้างหน้าต่างนั้นก็มองไม่เห็นเงาคนอีกแล้ว
เขากลับมาที่เตียงอีกครั้ง ถือเม็ดขี้ผึ้งเล็กๆ และขมวดคิ้วขึ้น
…
เช้าตรู่วันถัดมา จางคุนเหลือบมองนอกหน้าต่างอย่างหวาดกลัว
เขาบีบเม็ดขี้ผึ้ง คิดว่าเพียงแค่ถูเท่านั้นไม่ได้กินลงไปเสียหน่อย คงไม่มีอะไรน่ากลัวจึงลองถูบริเวณที่บาดเจ็บ
คิดไม่ถึงว่าเมื่อตื่นเช้าขึ้นมาเท้าก็ไม่เจ็บแล้ว ลงจากเตียงแล้วลองเดินไปมาก็ไม่เป็นอะไร กระโดดโลดเต้นก็ไม่เป็นปัญหา ทำให้เขาประหลาดใจจริงๆ
ครั้งนี้เขาคาดหวังให้คนสวมชุดคลุมปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาจะต้องถามถึงจุดมุ่งหมายของคนคนนั้นให้ได้
เขาไม่ใช่คนที่เชื่อคนง่ายๆ
ทันใดนั้น ดวงตาก็พร่ามัว มีบางอย่างพลิกกายเข้ามา จางคุนเพ่งมอง หากไม่ใช่คนเมื่อวานแล้วจะเป็นใคร ชั่วขณะนั้นเขาก็ยิ้มเข้าต้อนรับ “น้องชายผู้นี้ นายมาแล้ว”
“เอ๋ ทำไมครั้งนี้ถึงต้อนรับฉันขนาดนี้ละ”
จางคุนหัวเราะและพูดว่า “เมื่อวานฉันไม่รู้ว่าน้องชายร้ายกาจ ตอนนี้รู้แล้ว แล้วทำไมต้องทำสีหน้าไม่ดีใส่ด้วยล่ะ เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึง นายรักษาเท้าฉันหาย พี่น้องอย่างนายฉันจางคุนยอมรับแล้ว ต่อไปถ้านายมาเมืองนี้ก็บอกฉันสักคำ ฉันจะไปหาทันที ถ้าไม่ไปหาถือว่าเป็นไอ้ลูกเต่า”
“อ๋อ ฟังดูแล้วก็ไม่เลว” คนสวมชุดคลุมหัวเราะเบาๆ “แต่มาพูดถึงเรื่องที่พูดไม่จบเมื่อวานกันก่อนดีกว่า”
จางคุนถูๆ มือและพูดว่า “ฉันเองก็อยากรู้ว่าเป็นไอ้สารเลวคนไหนที่ทำร้ายฉันเหมือนกัน แค้นนี้ฉันต้องชำระแน่”
“เขาชื่อว่ามาร์ค” คนสวมชุดคลุมพูด “ตอนนี้อาศัยอยู่ที่ร้านขายเต้าหู้ของซานเอ๋อร์ เป็นคนต่างชาติ”
“คนต่างชาติ?” จางคุนขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็พูดว่า “คงไม่ใช่ คนที่ฉันพบวันนั้น…ที่แท้ก็เป็นไอ้นั่น อยู่ที่นั่นเลยเหรอ…แม่ง ได้กันแล้วแน่ๆ แย่ชิบ กล้าแย่งผู้หญิงของฉัน มิน่าถึงทำร้ายฉัน จะต้องเป็นนังหญิงสารเลวซานเอ๋อร์ฟ้องอะไรแน่เลย แย่จริง หญิงชายสุนัขคู่นี้”
“ดูท่าทางนายคงเริ่มแค้นแล้วสินะ”
จางคุนชกลงบนเตียง พูดอย่างโมโหว่า “แม่ง! ฉันจะเรียกคนไปจัดการกับเจ้าคนต่างชาติคนนั้นเดี๋ยวนี้”
พูดแล้วเขาก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาทันที แต่ในขณะที่กำลังจะโทรติดนั้นก็หยุดมือทันควัน ดูเหมือนกำลังลังเล
คนสวมชุดคลุมเยาะเย้ยว่า “ทำไม ไม่ลงมืองั้นเหรอ”
จางคุนกลับกัดฟันพูดว่า “คนต่างชาติคนนั้น…ไม่รู้ว่ามีที่มายังไง ถ้าจัดการไม่ดีจะเกิดเรื่องยุ่งได้ ฉันต้องคิดให้ดี อีกอย่าง…นายจงใจให้ฉันจัดการคนชื่อมาร์คคนนี้ใช่ไหม”
“ไม่ถือว่าโง่ อย่างน้อยก็ยังดูออก” คนคนนั้นพูด “แต่นายวางใจเถอะ ฉันกับมาร์คคนนั้นมีเรื่องกันนิดหน่อยเท่านั้น อีกอย่าง นายไม่ต้องกลัว เขาไม่มีเบื้องหลังอะไร จะว่าไปก็เป็นคนที่ลักลอบเข้ามาที่นี่ ไม่สามารถเผยตัวตนได้ และก็หมายถึง…”
นัยน์ตาของจางคุนฉายแววดุร้ายและพูดว่า “และก็หมายถึง…ตายไปแล้วก็ไม่มีใครรู้ แต่ทำไมฉันถึงต้องเชื่อนายด้วย”
“ยาเมื่อวานใช้ได้ดีไหม” คนสวมชุดคลุมพูดขึ้นในทันใด
จางคุนพยักหน้าอย่างมั่นใจ
“ฉันยังมีอีกเยอะ” คนคนนั้นพูดและเอาให้จางคุนอีกสองเม็ด จากนั้นก็พูดต่อว่า “การรักษาบาดแผลแบบที่นายเป็นนั้นเป็นเรื่องเล็กมาก บาดแผลหนักกว่านี้แม้จะเป็นบาดแผลจากมีดแทงก็สามารถรักษาหายได้อย่างรวดเร็ว…ฉันเอาให้นายได้”
ไม่ว่าจะเป็นใช้เองหรือเอาไปขายแลกเงิน…นี่ก็เป็นเหมือนสมบัติอย่างหนึ่ง จางคุนที่เคยใช้มาแล้วเชื่อมั่นในฤทธิ์ยาชนิดนี้มาก ชั่วขณะนั้นแววตาก็ปรากฏแววความโลภออกมา
“นายต้องการให้ฉันทำยังไง”
“ง่ายมาก” คนคนนั้นยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “อันดับแรก นายทำตามที่ฉันบอก นาย…”
…
ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่ในห้องประมาณยี่สิบนาที สุดท้ายจางคุนก็เผยแววตาอันชั่วร้ายออกมา ถือเม็ดขี้ผึ้งมหัศจรรย์สองเม็ดนี้ไว้ในมือ ใช้สายตาส่งคนแปลกประหลาดคนนั้นจากไป
เขาโทรศัพท์ทันที…เรียกให้พวกลูกน้องของเขาลงมือ
…
ฟู่
นีโรผู้ครองชื่อทรราชถอดชุดคลุมออก จากนั้นก็ถอดหน้ากากปิดปากและนั่งลงอยู่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำเล็กๆ เพียงหนึ่งเดียวที่มีในเมืองนี้
“โง่เหรอ จะเอายารักษาบาดแผลชนิดทีวีอาร์โฟร์ให้นายง่ายๆ ได้ยังไง สองเม็ดหลังเป็นแป้งทั้งนั้นแหละ” นีโรเผยรอยยิ้มชั่วร้ายเหมือนปีศาจน้อย หรี่ตามองดูเงาสะท้อนของตนเองในแม่น้ำ
ไม่รู้ว่ามองผิดไปหรือไม่ ดูเหมือนเธอจะมองเห็นรัศมีฟ้าอ่อนในนัยน์ตาของเธอ
นีโรขมวดคิ้ว ยื่นหน้าเข้าไปใกล้แม่น้ำมากขึ้น ยื่นมือปัดม่านตาของตนเองลง แต่กลับมองไม่เห็นอะไรเลย
“ไม่มี”
เธอกะพริบตาและไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไร คิดว่ามันอาจจะเป็นเพียงภาพลวงตาจากการสะท้อนแสงของแม่น้ำจึงไม่ได้ใส่ใจอีก
“อืม…นอนกลางวันก่อนดีไหมนะ”
…
…
“นายท่าน ทานอาหารเที่ยงค่ะ”
ในตอนที่เสียงของโยวเย่ดังขึ้น เจ้าของสมาคมลั่วถึงได้ลืมตาขึ้น เก็บวิสัยทัศน์ของเขากลับจากมุมมองของนีโร
ครั้งก่อนตอนที่คุณหนูทรราชผู้นี้ถามราคาซื้อขายกับเจ้าของสมาคมนั้นก็ถูกฝังเมล็ด…และตอนนี้ก็งอกแล้ว