สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 19 เขตหวงห้าม
คุณหนูทรราชแบกกระบอกภาพวาดเดินรอบบ้านซานเอ๋อร์ หลังจากวางของบางอย่างและจากไปอย่างเงียบๆ แล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข เหมือนเด็กที่เพิ่งขโมยแตงโมไปจากบ้านของคนอื่นได้
…
…
ซานเอ๋อร์เปิดไฟในห้องโถงชั้นหนึ่งของร้านขายเต้าหู้ สองมือถือมีดหั่นผักที่ใช้ในครัว มองเข็มนาฬิกาที่แขวนบนกำแพงกำลังเคลื่อนที่ เปลือกตาของเธอตกลงแล้วตกลงอีก ง่วงจนตาจะปิดแล้ว
ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเคาะประตู หลังจากตกใจแล้วก็พบว่าเป็นมาร์คที่กลับมา ซานเอ๋อร์ถึงได้โล่งใจ
“ดื่มน้ำก่อนเถอะ” ซานเอ๋อร์รินน้ำอุ่นให้มาร์ค ส่วนตนเองก็ดื่มด้วย
เธอแตกตื่นมาครึ่งคืนจนไม่ได้แตะน้ำเลยสักหยด
“แถวนี้น่าจะไม่มีใครแล้ว เธอควรพักผ่อนสักหน่อย”
ซานเอ๋อร์กลับนั่งลงอย่างกระวนกระวายใจ “ฉัน…ฉันจะทำยังไงดี หรือพรุ่งนี้ต้องรีบไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเลย”
ดูเหมือนเป็นสัญชาตญาณทำให้คุกหลีกเลี่ยงการติดต่อกับหน่วยงานดังกล่าว เขาจึงพูดว่า “เธอไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำแบบนั้นกับเธอ เรื่องแบบนี้แจ้งความไปก็อาจไม่มีประโยชน์”
“อย่างนั้น…จะทำยังไงดี”
“เธอไปพักผ่อนเถอะ อีกครึ่งคืนที่เหลือฉันจะเฝ้ายามเอง ถ้ามีคนกล้ามาอีกครั้งฉันจะจับเอาไว้ พรุ่งนี้เช้าคนร้ายคงไม่กล้าทำอะไร ดังนั้นตอนเช้าก็สามารถไปสืบข่าวในเมืองได้” คุกคิดและพูดออกมา
ซานเอ๋อร์พยักหน้า คนที่ไม่มีที่พึ่งที่ไหนแบบเธอเชื่อฟังชายที่มีพละกำลังแข็งแกร่งคนนี้ เขาแข็งแกร่งมากจริงๆ เมื่อครู่ตอนที่เขาใช้คานหาบจัดการกับคนสี่คนได้ก็ไม่เหมือนคนธรรมดาแล้ว
ซานเอ๋อร์ย่องมาที่ห้องของเสี่ยวจือ นั่งพิงหัวเตียง คืนนี้เธอตั้งใจจะนอนที่นี่
คุกเคยชินกับการนั่งนิ่งๆ เพียงแค่ตอนนี้ย้ายจากการนั่งในห้องไปนั่งอยู่ในลานเล็กๆ หลังร้านขายเต้าหู้เท่านั้น ถึงจะอยู่กลางแจ้งทั้งยังเป็นช่วงกลางคืน แต่ความเย็นก็ไม่ส่งผลอะไรต่อเขา
เขานั่งอยู่บนพื้น ในมือถือไม้อันหนึ่งไว้
เขาหลับตาลง นั่งนิ่งไม่ขยับ ดูเหมือนรูปปั้น
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เปลือกตาของคุกขยับเล็กน้อยและค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา จากนั้นก็ขมวดคิ้ว
เขาเกิดความรู้สึกอึดอัดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
…
ดึกมากแล้ว
แต่น้ำเย็นที่อยู่บนผิว ไหลลงตามแก้มถึงกระดูกไหปลาร้าและหยุดครู่หนึ่ง จากนั้นก็ไหลผ่านหน้าอกจนถึงหน้าท้อง…น้ำเย็นที่ไหลไปตามแนวทำให้ซานเอ๋อร์อดส่งเสียงครางต่ำออกมาไม่ได้
เธอสะสมความร้อนเหมือนกับเปลวเพลิง ยากที่จะข่มตาหลับได้ แม้แต่อากาศแบบนี้ก็ยังมีเหงื่อซึมเต็มไปหมด…ร่างกายกระสับกระส่าย
ซานเอ๋อร์ไม่เข้าใจการกระสับกระส่ายแบบนี้เท่าใดนัก
บ่อยครั้งที่เธอเลือกอาบน้ำเย็นเพื่อทำให้ตนเองคลายร้อน มีเพียงบางครั้งเท่านั้นที่เธอเลือกแก้ปัญหาด้วยตนเอง แต่คืนนี้คงได้แต่ทำวิธีนี้เท่านั้น
เธอแค้นตัวเองที่เลือกเวลานี้…ครึ่งคืนนั้น ภาพอันแข็งแกร่งของมาร์คในขณะจัดการพวกคนร้ายไปยังติดอยู่ในความทรงจำไม่ยอมหายไปไหน
เธอเงยหน้าขึ้นปล่อยให้สายน้ำพุ่งเข้าใส่ร่างกายตนเอง รู้สึกเพียงว่าหลังเย็นแล้วจะสบายขึ้นหน่อย
ซานเอ๋อร์พิงร่างกายกับกระเบื้องในห้องอาบน้ำ จากนั้นก็ถอดผ้าคลุมออก ปล่อยให้สายน้ำพุ่งเข้าใส่หน้าอกของตนเองอย่างรุนแรง
ผิวที่ได้รับการกระตุ้นอย่างรุนแรงตั้งชันขึ้น ซานเอ๋อร์รู้สึกว่าตนเองหายใจเข้าถี่ ในตอนที่ความอวบอิ่มถูกสายน้ำพุ่งเข้าใส่อย่างรุนแรงนั้นก็เกิดปฏิกิริยาเปลี่ยนเป็นชูชันขึ้นมา
เธออ้าปากกว้างหอบหายใจ ภายในม่านหมอก นิ้วมือได้นวดคลึงอยู่ที่หน้าอกของตนเองแล้ว…ผู้ชายไม่อาจรู้จักร่างกายของผู้หญิงได้ดีเท่าตัวพวกเธอเอง…
สายน้ำไหลผ่านระหว่างฝ่ามือกับส่วนหน้าอกของเธอ
เหมือนสายน้ำที่ไหลผ่านแนวภูเขา พวกมันนำพาความอบอุ่นของร่างกายค่อยๆ ไหลลงมา ไหลลงจากหว่างขาของเธอจากนั้นก็ตกลงพื้นกระเบื้อง
เธอนั่งลงบนพื้น หลับตาลง รู้สึกถึงแรงกระตุ้นอันรุนแรงจากนิ้วมือสู่หน้าอกของตนเอง ริมฝีปากเผยอบ้าง หุบบ้าง ขบกัดบ้าง
สองขาที่แนบไปกับพื้นเริ่มไม่สงบนิ่ง กำลังถูกันไปมาเหมือนงูสองตัวรัดพันกัน
บางทีเพียงแค่น้ำพุ่งใส่หน้าอกและการสัมผัสธรรมดาๆ อาจไม่สามารถบรรเทาความต้องการในหัวใจของเธอได้ ดวงตาของซานเอ๋อร์มีไอหมอก เธอวางผ้าคลุมลง ใบหน้าแดงก่ำและอ้าขาทั้งคู่ของเธอออก
เธอใช้ผ้าคลุมแนบเข้ากับส่วนลึกของร่างกาย…เธอรู้สึกว่าที่นี่ก็คือคานาอัน[1]
เธอจำไม่ได้ว่าทำไมถึงต้องคิดถึงคานาอัน มีบางครั้งระหว่างหลับๆ ตื่นๆ ที่นึกถึงเรื่องราวที่บาทหลวงคนหนึ่งเคยเล่าเมื่อนานมาแล้ว
ที่นั่นมีนมวัวและน้ำผึ้งที่อุดมสมบูรณ์ ที่นั่นคือดินแดนแห่งสัญญา พื้นที่แห่งชีวิต…
“อา…อืม…”
การกระตุ้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ดินแดนแห่งสัญญานี้ค่อยๆ กลายเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์…พื้นที่ที่นำพาชีวิต ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยนมวัวและน้ำผึ้ง
เธอเป็นเหมือนกับคนจรจัดที่ได้เดินข้ามผ่านภูเขาแม่น้ำ จนได้พบกับดินแดนแห่งสัญญาและเห็นน้ำผึ้งแสนอร่อย เธอเอื้อมมือไปคว้าพวกมันด้วยความตื่นเต้นสั่นระริก…คว้าเอาความหวานที่เป็นของเธอ
เธอจินตนาการว่าบนมือของเธอนั้นทาบด้วยมือใหญ่อีกข้าง นิ้วมือพัวพันกัน นวดคลึงเบาๆ
เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน กำลังเปิดเขตหวงห้ามของร่างกายตนเองเพื่อค้นหาความสุข
ซ่าๆๆๆ
ปัง!
ต่อมาก็มีเสียงปังดังขึ้นเบาๆ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ซานเอ๋อร์ผู้อยู่ในภวังค์อันเงียบสงบตื่นขึ้น…นี่เป็นเสียงประตู…แม้จะเบามากแต่เธอก็ได้ยินอย่างชัดเจน
ซานเอ๋อร์มองออกไปนอกประตูห้องอาบน้ำผ่านรอยแยกใต้ประตูและเห็นเท้าคู่หนึ่งยืนอยู่…เวลานี้ซานเอ๋อร์พยายามข่มกลั้นลมหายใจของตนเอง แต่หัวใจกำลังเต้นอย่างบ้าคลั่ง
เท้าคู่นั้นหยุดอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งก็ขยับเหมือนจะจากไป
“อย่าไป”
ซานเอ๋อร์ส่งเสียงร้องเว้าวอนออกไป ทิ้งผ้าคลุมในมือ จับที่กลอนประตูห้องอาบน้ำ “อย่าไป”
เธอรู้ว่าคนที่อยู่ข้างนอกคือมาร์ค…เธอไม่รู้ว่าตนเองหลบอยู่ในห้องอาบน้ำมานานแค่ไหนแล้ว แต่สิ่งเดียวที่สามารถมั่นใจได้ก็คือ ตอนนี้เธอไม่สามารถควบคุมได้อีกแล้ว
จิตวิญญาณและร่างกายมีความปรารถนาอะไรบางอย่าง
เมื่อได้ยินเสียงของซานเอ๋อร์ คุกก็สูดหายใจเข้าลึกๆ…นั่งนิ่งอยู่ครึ่งคืน เขาไม่อาจผ่อนคลายความรุ่มร้อนที่เกิดขึ้นในร่างกายได้ ดังนั้นจึงคิดจะใช้น้ำเย็นล้างหน้าเพื่อเรียกสติ
“อย่าไป”
เสียงเปิดประตูและยังมีแรงปะทะที่ไม่แรงมากนัก เหมือนเป็นการฟุบตัว…ฟุบเข้าที่แผ่นหลังของตนเอง นี่เป็นความรู้สึกของคุก
ร่างกายเปียกชื้นของซานเอ๋อร์แนบเข้ากับแผ่นหลังของคุก เสื้อผ้าบางชุดนั้นไม่สามารถกั้นการซึมผ่านของน้ำได้
“อย่าไป…”
เขาได้ยินเสียงของซานเอ๋อร์ ขณะเดียวกันก็สัมผัสถึงนิ้วมือของซานเอ๋อร์กำลังขยับบนตัวของตนเอง…เหมือนนิ้วมือของเธอต้องการอะไรบางอย่าง…ความต้องการนี้เหมือนเป็นสัญญาณที่กำลังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเขา
เป็นสัญญาณที่สามารถทำลายความสงบในยามปกติของเขาได้อย่างง่ายดาย ความป่าเถื่อนที่ซุกซ่อนอยู่ในร่างกายของเขาเหมือนถูกจุดขึ้น ในที่สุดคุกก็หอบหายใจขึ้นมาและคว้ามือของซานเอ๋อร์
เขาหันไปมองร่างกายอันเปียกชื้นงดงามท่ามกลางแสงไฟในห้องอาบน้ำ…ร่างกายที่พร้อมสมบูรณ์ของคุกแผ่กลิ่นไอความร้อนออกมา ใช้สองมือจับใบหน้าของซานเอ๋อร์แน่น ก้มลงบุกยึดริมฝีปากของเธอ
เหมือนการผสมผสานกันระหว่างลมและฝน ความแตกต่างค่อยๆ กลายเป็นจังหวะหายใจเดียวกัน และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ภายในระเบียงทางเดินเล็กๆ
เขาและเธอจูบกันอย่างดูดดื่ม คุกก้มตัว มือกอบกุมทรวงอกของซานเอ๋อร์ กดเธอเอาไว้บนผนัง จูบที่กระดูกไหปราร้าและคอของเธอ
ซานเอ๋อร์ฉีกเสื้อผ้าบนตัวของเขาออกโดยไม่รู้ตัว ปลดเข็มขัดบนเอวของอีกฝ่ายอย่างตื่นเต้น ยื่นมือออกไปคว้ากุญแจที่สามารถเปิดแผ่นดินแห่งสัญญาในร่างกายของเธอเพิ่มเติมได้
ทันใดนั้นเอง
คุกก็พลิกร่างเธอและออกแรงกดร่างกายของเธอเข้ากับผนัง ใช้มือหนึ่งจับมือซ้ายของเธอ ขยับเอวกดเข้าไปในร่างกายของเธอ
พริบตาเดียวที่ประตูเขตต้องห้ามถูกเปิดออก เขากับเธอก็กลับคืนสู่สภาวะแรกเริ่ม…และก็อยู่ในท่วงท่านั้นตลอด
นี่เป็นท่วงท่าที่ซานเอ๋อร์ไม่เคยลองมาก่อน และก็ไม่เคยคิดว่าจะมีอะไรกับผู้ชายในสถานที่แบบนี้ แม้ว่าที่นี่จะอยู่ในบ้านของเธอก็ตาม
ประสบการณ์ที่ไม่เคยลิ้มลองมาก่อนแต่กลับเข้ากับร่างกายของเธอทำให้เธอเกร็งเส้นเอ็นทุกเส้นในร่างกายของตนเองและปลดปล่อยทุกความรู้สึกออกมา
เป็นความสุข
อีกครั้งและอีกครั้ง เธอดำดิ่งไปกับการปะทะที่แข็งแรงทรงพลังนี้ จนถึงท้ายที่สุดร่างกายร้อนผ่าวของเขาก็แนบอยู่บนหลังของตนเอง ทั้งยังมีความร้อนที่ฉีดพุ่งออกในร่างกายอีก ในที่สุดเธอก็ส่งเสียงร้องออกมา
นี่เป็นเสียงโหยหวนที่สุดที่เคยมีในชีวิตของเธอ
หลังทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว บนทางเดินเล็กนอกห้องอาบน้ำก็กลับคืนสู่ความเงียบสงบ เขาและเธอไม่พูดอะไรกันอีก
[1] คานาอัน ปรากฏอยู่ในคำภีร์ไบเบิ้ล เป็นดินแดนที่พระยาห์เวห์สัญญามอบให้แก่วงศ์วานอิสราเอล