สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 2 ดวงชะตาพลิกฟ้า?
อาจารย์หวง…สามารถเรียกง่ายๆ ว่าเหล่าหวง
พูดแล้วอาจารย์หวงก็เป็นผู้น่านับถือคนหนึ่ง…พูดกันว่าตอนอายุยังน้อยนั้นถูกพ่อแม่ส่งขึ้นภูเขาบู๊ตึ๊งเพราะความยากจน เป็นนักพรตยี่สิบกว่าปี ต่อมาไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรถึงมาใช้ชีวิตปกติ
อาจารย์หวงที่ใช้ชีวิตปกติเริ่มดูดวงให้คนรวย พูดแล้วก็ถือว่าแม่นมาก มีคนจำนวนไม่น้อยที่ดูดวงหาอุปสรรคแล้วแก้ปัญหาได้
มีการพูดอีกว่ามีนักธุรกิจที่ใกล้จะล้มละลาย หมดหนทางจึงลองไปพบอาจารย์หวง
ต่อมาอาจารย์หวงก็ตั้งค่ายกล ‘ดึงดูดความร่ำรวย’ ในบ้านนักธุรกิจที่ใกล้จะล้มละลายคนนั้น จากนั้นไม่นานเขาก็ได้พบกับวิกฤตการณ์ทางการเงิน…แต่นักธุรกิจคนนั้นไม่เพียงแต่ไม่แย่ลง แต่ยังเป็นเพราะป้องกันถูกทางทำให้สามารถพลิกตัวได้ ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัว
ถึงการดูดวงแต่งงานจะไม่ต้องใช้อะไรพิเศษ…แต่ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
แต่เริ่นจื่อหลิงกลับทำท่าว่าอาจารย์คนนี้แม่นมาก ไม่อยากดูก็ต้องดู ดูแล้ว…ดูแล้วก็จะดีเอง
พูดว่าวันเวลายาวนานขนาดนั้น จะรู้ได้ยังไงว่าทั้งสองคนเหมาะสมกัชนไหม หากว่าชะตาไม่เข้ากันก็ต้องรีบหาวิธีแก้ไข เธอกำหนดไว้แล้วว่าต้องได้โยวเย่เป็นสะใภ้
…
“อา ฮ่าๆ อาจารย์หวง ต้องขอโทษด้วย ให้คุณรอนานขนาดนี้”
เริ่นจื่อหลิงลากเจ้าของสมาคมลั่วกลับไปยังที่นั่ง ทั้งยังพูดอย่างเสียใจว่า “ลูกบ้านฉันคนนี้ ตั้งแต่เล็กก็ไม่มีมารยาท โปรดอย่าได้ถือสา”
“ไม่เป็นไร คนหนุ่มมักใจร้อน จิตใจไม่สงบเป็นเรื่องปกติ” อาจารย์หวงพูดขึ้นในตอนนี้ว่า “รอโตขึ้นแล้วก็จะดีขึ้นเอง ตอนนี้เป็นช่วงเวลามุทะลุ ยังหนุ่มแน่นนั้นดีจริงๆ”
“ใช่ๆๆ อาจารย์หวงพูดถูก ถูกจริงๆ!”
รองบรรณาธิการเริ่นยังไม่ทิ้งท่าทางของแม่สื่อ ตอนนี้รีบพูดว่า “ใช่แล้ว อาจารย์ วันเกิดของเด็กคนนี้ฉันเตรียมไว้ให้คุณก่อนแล้ว มีผลสรุปหรือยัง”
อาจารย์หวงพยักหน้า และพูดในทันใดว่า “คุณเริ่น ดูเหมือนคุณยังไม่ได้เอาวันเกิดของคุณหนูคนนี้ให้ผมเลย”
เริ่นจื่อหลิงยิ้มอย่างกระดากใจ…ฉันคิดว่า
ฉันคิดจะถามลั่วชิวถึงวันเกิดของโยวเย่…แต่เจ้าเด็กนี่มีสัมผัสไวเหมือนกับหนู เพียงแค่เธอถามก็เดาออกแล้วว่าเธอคิดจะทำอะไร หากเอาให้เธอสิถึงจะแปลก
แต่รองบรรณาธิการเริ่นก็หน้าด้านพอจึงหัวเราะและพูดว่า “อาจารย์หวง ได้ยินว่าคุณดูโหวงเฮ้งกับดูลายมือควบคู่กัน ความจริงแล้ว…ฉันก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง…อาจารย์ คุณอย่าโทษฉันนะ เพราะฉันมีความสงสัยอยู่เล็กน้อยจริงๆ”
อาจารย์หวงนิ่งไปและพูดว่า “ไม่เป็นไร เรื่องฮวงจุ้ยดูดวงพวกนี้ ล้วนแต่เป็นความว่างเปล่า คนธรรมดาสงสัยก็เป็นเรื่องปกติ ก่อนหน้านี้ มีลูกค้าจำนวนไม่น้อยของผมก็เป็นแบบคุณเริ่น ผมก็เห็นมาจนชิน ไม่มีวันเกิดก็ดูดวงได้ไม่ต่างกันมาก เช่นนั้นวันเกิดของน้องชายคนนี้ผมก็จะไม่ดูแล้ว ดูโครงหน้ากับลายมือแล้วกัน”
“ขอบคุณอาจารย์” รองบรรณาธิการเริ่นยิ้มจนตาหยี “ลั่วชิว ยื่นมือออกมา…โยวเย่รอเดี๋ยว อีกเดี๋ยวจะถึงตาเธอ”
คุณหนูสาวใช้ยิ้ม พยักหน้า ยังคงเชื่อฟังเช่นเดิม
สิ่งนี้ทำให้รองบรรณาธิการเกิดภาพลวงตา นั่นก็คือหญิงสาวคนนี้ไม่มีทีท่าจะปฏิเสธเลย ถึงก่อนเกิดเรื่องจะไม่ได้บอก แต่ก็ยังใจดีอย่างนี้อีก
ไม่สนแล้วว่าจะยิ้มเพื่อไม่ให้เสียมารยาทหรือเป็นคนมีนิสัยไม่คิดอะไรอยู่แล้ว…แต่สะใภ้แบบนี้จะทำยังไงก็ต้องได้มา เยี่ยมยอดมากเลยใช่ไหม
แต่เจ้าของสมาคมลั่วกลับเหมือนมองไม่เห็นคน เดินไปส่องออกนอกหน้าต่าง มองใบไม้สีเหลืองต้นฤดูใบไม้ร่วง แต่มือของเจ้าของสมาคมลั่วกลับถูกแม่สื่อเริ่นหนีบเอาไว้แล้ว
ในที่สุดแม่สื่อเริ่นก็นำฝ่ามือของลั่วชิวมาวางบนโต๊ะได้สำเร็จ ดวงตาเปล่งประกาย “อาจารย์! เชิญใช้…ไม่ใช่ๆ ช่วยดูด้วยค่ะ”
ลั่วชิวมองท่าทีคลั่งไคล้ของแม่สื่อเริ่นแล้วถอนหายใจ ถึงจะไม่สนใจแล้ว แต่มือก็ถูกวางไว้แบบนั้น ไม่รู้จะพูดอะไรดีจึงมองออกไปยังใบไม้สีเหลืองบนต้นไม้แก่ด้านนอกต่อ
นั่นคือต้นไทร ไม่รู้ว่ามีอายุได้กี่ปีแล้ว มีกิ่งก้านมากมายจนยื่นไปบนถนน เลื้อยขึ้นชั้นสามของที่นี่แล้ว
ต้นไทรขนาดใหญ่กลายเป็นร่มเงาที่ใหญ่มาก ถึงจะอยู่ในฤดูร้อนก็ยังรู้สึกเย็น…ขอเพียงแค่อยู่ใต้ร่มเงาของมันเท่านั้น
มีคนแก่คนหนึ่งกำลังนั่งกอดเด็กพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ พวกเขาเหมือนกำลังพูดคุยอะไรกัน ชี้ไปยังกิ่งก้านบนต้นไม้ น่าพูดถึงของที่อยู่บนกิ่งไม้ใช่ไหมนะ
บนกิ่งไม้มีริบบิ้นสีเหลืองอยู่มากมาย ปลายหนึ่งของริบบิ้นมีป้าย…ปลิวไหวไปตามลม
นี่เป็นวิธีอธิษฐานที่เป็นที่นิยมมากในระแวกนี้ นำริบบิ้นผูกป้ายจากนั้นก็โยนขึ้นไปไว้บนต้นไม้
ในบรรดาริบบิ้นเหล่านี้ มีคำอธิษฐานจำนวนมากเท่าไหร่ที่สามารถโยนขึ้นไปบนต้นไม้ได้สำเร็จ
“พ่อหนุ่ม ดูแล้วคุณคงไม่มั่นใจในตัวผมใช่ไหม”
แต่เสียงอาจารย์หวงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนี้…รบกวนการดูต้นไม้เจ้าของสมาคมลั่ว
…
ลั่วชิวค่อยๆ หันหน้าไปเผชิญหน้ากับอาจารย์หวงและพูดขึ้นอย่างฉับพลันว่า “ผมควรมีความมั่นใจงั้นเหรอ”
ท่าทางเหม่อลอยของเจ้าเด็กนี่ เดิมทีก็แสดงออกทุกอย่างแล้ว…แต่ฉันก็เป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านอะไรมาเยอะ เด็กหัวร้อนแบบนายจะจัดการยากแค่ไหนกันเชียว
อาจารย์หวงพูดด้วยท่าทีที่สงบว่า “พ่อหนุ่ม ของที่บรรพบุรุษถ่ายทอดมาถูกสังคมแบบใหม่ในปัจจุบันทำลายไปมาก ทั้งประเทศก็ยังแนะนำพวกคุณให้เชื่อในวิทยาศาสตร์…แต่คุณเคยคิดไหม ว่าทำไมของบางอย่างถึงถูกสืบทอดมาโดยตลอด”
เจ้าของสมาคมลั่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ยิ้มและพูดว่า “อาจารย์ เชิญดู”
เปลี่ยนท่าทีเร็วเกินไปจนทำให้อาจารย์หวงต้องหยุดคำพูดที่ตนเองคิดจะพูดออกไป แต่อาจารย์หวงก็ยังสงบอยู่
เขาเคยดูดวงให้ลูกหลานคนรวยมาไม่น้อย ซึ่งล้วนแต่ถูกญาติผู้ใหญ่ผู้หญิงลากมาจึงมักท่าทีหงุดหงิดอยู่เสมอ
ท่าทีตอนดูดวงของลูกหลานคนรวยเหล่านั้นมักไม่แตกต่างกัน ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็จะต่อต้านตลอด
อาจารย์หวงไม่เคยโกรธบรรดาคนที่ถูกลากมาดูดวงแล้วต่อต้านทุกอย่างพวกนี้…เพราะพวกเขามักจะเจอแต่พวกต้มตุ๋
แต่เขาไม่ใช่!
เขามีความสามารถบางอย่างจริงๆ…เขาเคยพบกับโอกาสใหญ่ครั้งหนึ่งบนภูเขาบู๊ตึ๊ง
ตอนนี้อาจารย์หวงระลึกถึงความหลัง…ผู้หญิงแซ่เริ่นคนนี้เอาวันเกิดของเด็กหนุ่มคนนี้มาให้เขาก่อนแล้ว อาจารย์หวงคิดถึงผลสรุปที่ตนเองได้จากการคำนวนวันเกิดของเด็กหนุ่มคนนี้แวบหนึ่ง และพูดอย่างสงบว่า “ชะตาชีวิตของคุณไม่ค่อยดี”
ไม่รอให้ลั่วชิวกับเริ่นจื่อหลิงมีการตอบสนอง อาจารย์หวงก็พูดว่า “ชะตาของคุณแข็งเกินไป ชะตาชีวิตที่แข็งเกินไปนั้นจะไม่ดี ง่ายที่จะกดทับญาติสนิท ดังนั้น พ่อแม่ของคุณจึงอายุสั้น”
ลั่วชิวไม่มีอาการตอบสนองต่อเรื่องนี้
แต่แม่สื่อเริ่น…เริ่นจื่อหลิงขมวดคิ้วขึ้น เธอไม่ยินยอมให้ลั่วชิวคิดถึงความทรงจำที่เจ็บปวด จึงพูดว่า “อาจารย์หวง เรื่องพวกนี้ถ้าจะหาจากข่าวก็หาเจอหรือเปล่า”
อาจารย์หวงพูดว่า “อย่าร้อนใจไป นี่เพิ่งเริ่มต้น อืม พูดถึงเรื่องในอดีตนั้นง่ายเกินไป พวกเรามาพูดถึงปัจจุบันและอนาคตเถอะ พูดถึงปีนี้ดีกว่า”
พูดแล้วอาจารย์หวงก็ถอดแว่นตาดำของตนเองออก เผยให้เห็นดวงตาสองคู่ที่มีสีดำหนึ่งและสีขาวหนึ่ง
“อาจารย์ ดวงตาของคุณ…” เริ่นจื่อหลิงตกใจ
อาจารย์หวงปิดดวงตาข้างที่ปกติ เหลือไว้เฉพาะดวงตาด้านที่นัยน์ตาเป็นสีขาวและพูดว่า “นี่ไม่ใช่ต้อกระจก เพียงแต่ผมเกิดมาไม่เหมือนคนอื่น ดวงตาข้างนี้สามารถมองเห็นของที่พวกคุณก็ไม่รู้ได้ พ่อหนุ่ม ผมต้องการดูลายมือให้คุณ ช่วยแบมือออกเถอะ”
ลั่วชิวแบมือตามคำขอ
คุณหนูสาวใช้มองดวงตาสีขาวของอาจารย์หวงผู้นี้อย่างสนใจและคิดว่า ดูเหมือนการดูดวงจะเป็นเรื่องทั่วไปของทางตะวันออก แต่ทว่า ไม่ว่าจะมีความสามารถจริงหรือว่าหลอก…ในโลกนี้ไม่มีใครสามารถคาดการณ์อนาคตของนายท่านได้
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่คุณหนูสาวใช้เห็นการดูดวงจึงรู้สึกสนใจขึ้นมา ไม่รู้ว่าอาจารย์หวงคนนี้จะพบอะไรบ้าง
อาจารย์หวงค่อยๆ ก้มหน้าลง ดวงตาสีขาวจ้องไปบนฝ่ามือของลั่วชิวอย่างจริงจัง ผ่านไปไม่นาน “อืม ลายมือแบบนี้ผมเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่ผิดแน่…ไม่ผิดแน่…นี่เป็นดวงชะตาโดดเดี่ยว! เป็นดวงชะตาโดดเดี่ยว! มีชีวิตที่หดหู่!”
ทันใดนั้นอาจารย์หวงก็เงยหน้าขึ้นมา มองไปยังลั่วชิวอย่างตกใจ ดวงตาสีขาวเปล่งประกาย พูดอย่างตกใจว่า “วัดเทียนจี เทียนเหลียงวั่ง…วัดหลิงซิง ไม่ใช่ๆ นี่ไม่อาจเป็นดวงชะตาโดดเดี่ยว…ไม่ถูกๆ…จื่อเวยวั่ง ชีซาผิง จั่วฝู่เสียน เทียนหม่าผิง…เป็นอย่างนี้ได้ยังไง…มีบุญ มีบุญ! ดวงอยู่วังตะวันตกอายุยืนยาว…ร่ำรวยสูงส่ง…ยังไม่ถูกต้อง ไม่ถูก…นี่เป็นดวงฮ่องเต้! เป็นดวงฮ่องเต้! ถึงกับมีดวงที่สูงส่งเช่นนี้…คุณ…ทำไมลายมือของคุณกับโหวงเฮ้งของคุณถึงไม่เหมือนกันแบบนี้!”