ยอดเซลล์แมนทะลุมิติ - ตอนที่ 538.2
หน้าอกของหลี่อู่หลิงมีแผลเต็มไปหมด หน้าซีดเผือด หูปู้กุยแตะหน้าผากเขา รู้สึกร้อนลวกจนน่าตกใจ ส่วนเกาฉิวกลับยินดีเป็นล้นพ้น “ร่างกายร้อน แม้จะร้อนเกินไป แต่กลไกทางร่างกายเริ่มแสดงอาการของโรคแล้ว น้องหลิน เสี่ยวหลี่จื่อยังมีชีวิตอยู่จริงๆ เขายังมีชีวิตอยู่จริงๆ แม่นางน้อยเยวี่ยหยาเอ๋อร์คนนี้ช่างน่าอัศจรรย์เสียเหลือเกิน”
เหล่าเกาพูดไม่ผิด แม้หลี่อู่หลิงจะเป็นไข้สูง ถึงกระนั้นก็ยังดีกว่าการไร้ปฏิกิริยาเช่นก่อนหน้านี้มากนัก หลินหว่านหรงประสานมือคารวะอวี้เจีย หัวเราะยิ้มระรื่นพร้อมพูดว่า “ขอบคุณหมอหญิงเทวดาทูเจวี๋ย ด้วยการร่วมมือกันระหว่างเจ้ากับข้า ในที่สุดพวกเราก็สร้างปาฏิหาริย์ได้”
ระหว่างนี้ย่อมมีหูปู้กุยแปล เมื่อยินเขาคุยโวโอ้อวด เยวี่ยหยาเอ๋อร์แค่นสียงอย่างดูแคลน “ข้าไม่ใช่หมอหญิงเทวดา ไม่ต้องให้เจ้ามาชมเชย หวังแค่ว่าเจ้าจะรักษาคำพูด ปล่อยคนในเผ่าของข้า”
“นั่นมันแน่นอน ความจริงใจและดีงามของข้ารู้กันทั้งต้าหัว” หลินหว่านหรงหน้าชื่นตาบาน ผงกศีรษะอย่างต่อเนื่อง “พี่เกา ปล่อยคนในเผ่าของหมอเทวดาเยวี่ยหยาเอ๋อร์อีกคนหนึ่ง อ้อ ข้าจำได้ว่าในนั้นมีคนตาบอดอยู่คนหนึ่ง ก็ปล่อยมันก่อนก็แล้วกัน ต่อให้พวกเราเลวแค่ไหนก็ไม่อาจทารุณกรรมคนพิการได้นะ ขออวยพรให้พี่ชายทูเจวี๋ยผู้นี้สุดท้ายแล้วสามารถใช้จิตใจตามหาโคมประทีปกลางทุ่งหญ้าได้ก็แล้วกัน!”
ครั้นได้ยินโจรต้าหัวคนนี้พูด คนก็ต้องสำลักตายเพราะมัน! เยวี่ยหยาเอ๋อร์เดือดดาล ขณะกำลังจะด่าทอว่าเขาพูดจาไร้ความน่าเชื่อถือ โจรหน้าดำก็โบกมือพลางหัวเราะอย่างไม่แยแส “หมอหญิงเทวดาอย่าร้อนใจไป คำพูดที่ข้าเคยพูดไว้จะต้องทำได้แน่นอน รอให้น้องชายคนนี้ของข้าฟื้นและหายดีแล้ว ข้าย่อมปล่อยคนในเผ่าของเจ้าแน่นอน ตอนนี้ก็แค่แสดงความจริงใจเล็กน้อยเท่านั้น ใช่แล้วล่ะ จะขอให้หมอเทวดาเปิดเผยสักหน่อยได้หรือไม่ว่าน้องชายของข้าคนนี้จะฟื้นขึ้นมาได้เมื่อไหร่”
คนอยู่ใต้ชายคาไหนเลยจะไม่ก้มศีรษะ สาวน้อยทูเจวี๋ยทำได้เพียงกล้ำกลืนโทสะ แค่นเสียงแล้วตอบว่า “ข้าไม่รู้! เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากธนู เลือดคั่งไม่ได้เอาออกทันท่วงที กดทับหน้าอก ทำให้เขาไม่ได้สติ ข้าก็แค่เอาเลือดคั่งออกเท่านั้น ส่วนเขาจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็มีแต่เทพแห่งทุ่งหญ้าที่รู้แล้ว”
หลินหว่านหรงร้องอ้อออกมาคราหนึ่ง ที่แท้นางก็แค่ใช้มีดพกกรีดรอบบาดแผล เค้นให้เลือดที่คั่งอยู่ภายในหน้าอกเสี่ยวหลี่จื่อไหลออกมาเท่านั้น ไม่ได้ผ่าตัดอะไรเลยนี่นา ความกล้านี้ ความหนักแน่นกับสายตากลับไม่ธรรมดาเลย หลินหว่านหรงผงกศีรษะอย่างแรง “เข้าใจ เข้าใจมาก หมอเทวดา ขอบังอาจถามอีกสักประโยค การผ่าตัดแบบนี้เจ้าทำมากี่ครั้งแล้ว”
เยวี่ยหยาเอ๋อร์แค่นเสียง “เจ้าอยากฟังความจริงหรือคำโกหก?”
เอ๊ะ นังหนูคนนี้ก็รู้จักเลียนแบบวิธีของข้าด้วย? หรือว่านางต้องการจะแหย่ข้า? หลินหว่านหรงกะพริบตา “ข้าคนนี้นี่นะ สิ่งที่กลัวมากที่สุดก็คือสาวน้อยแสดงความจริงใจต่อข้า พวกนางหลายคนไม่ได้ตัวข้าก็จะใช้วิธีการรุนแรง ดังนั้น เจ้าพูดโกหกก่อนดีกว่า”
เยวี่ยหยาเอ๋อร์กล่าวพลางหัวเราะเย็นชา “ข้ารักษาเช่นนี้มาหลายร้อยหลายพันครั้งแล้ว เจ้าเชื่อหรือไม่?”
“พูดแบบนี้ แสดงว่าเจ้าเคยผ่าตัดแบบนี้แค่ไม่กี่สิบครั้ง?” หลินหว่านหรงมองนางด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
เยวี่ยหยาเอ๋อร์ส่ายหน้า เหยียดนิ้วเรียวยาวออกมานิ้วหนึ่ง โบกอยู่ตรงหน้าเขา
“สิบคน?” หลินหว่านหรงหน้าซีด
“เจ้าไม่รู้จักตัวเลขหรือ?” สาวน้อยทูเจวี๋ยหงุดหงิดโมโหบ้างแล้ว กล่าวด้วยท่าทีดุดัน “คนแรก!”
ตึง หลินหว่านหรงล้มลงนั่งก้นจ้ำเบ้าลงบนพื้นรถ หน้าผากมีเหงื่อเย็นผุดตลอดเวลา ที่แท้หลี่อู่หลิงกลับกลายเป็นหนูทดลองของเยวี่ยหยาเอ๋อร์ นังหนูคนนี้กลับหนักแน่นจนปราศจากพิรุธแม้แต่น้อย แม่เอ๊ย! ที่แท้ก็เป็นหมอเทวดาจอมปลอม
สาวน้อยทูเจวี๋ยมองเขาอย่างดูแคลน “ทำไม เจ้ากลัวแล้วหรือ?!”
“ข้าไม่กลัวทั้งนั้น ข้ากลัวอะไร?!…พี่เกา พวกเราหลงกลแล้ว รีบหามเสี่ยวหลี่จื่อขึ้นไปที่รถคันนั้น ทำเป็นห้องดูแลฉุกเฉิน เฝ้าทั้งวันทั้งคืน ห้ามปราศจากคนตลอดเวลา สิ่งที่เขาเผชิญอยู่ตอนนี้คืออันตรายที่พวกเราไม่เคยพบมาก่อน! เร็วเข้า!”
สาวน้อยทูเจวี๋ยหัวเราะเสียงดังสดใสมาเป็นชุด หางตาอันงดงามหยักโค้งเล็กน้อย ประหนึ่งจันทร์เสี้ยวอันน่าลุ่มหลง ท่าทางได้ใจของนาง แม้แต่ความอัดอั้นที่มีก่อนหน้านี้ก็ปลาสนาการไปสิ้น กลายเป็นเด็กสาวชาวทูเจวี๋ยผู้สดใสร่าเริง
หลินหว่านหรงกล่าวด้วยท่าทีเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หลายวันนี้ก็ต้องลำบากหมอเทวดาแล้ว น้องชายข้าไม่ฟื้นหนึ่งวัน เจ้าก็อย่าหวังว่าข้าจะปล่อยคนในเผ่าของเจ้า แน่นอนว่าเจ้ามีความจำเป็นอะไรก็จงเสนอออกมาให้หมด แม้จะเกินเลย ข้าก็ยอมรับ พี่หู ท่านไปเตรียมรถม้าที่กว้างขวางมากที่สุดให้หมอเทวดาคันหนึ่ง เตรียมพร้อมเพื่อความจำเป็นพิเศษของนาง”
หมอเทวดาจะมีความจำเป็นอะไรได้? หูปู้กุยไม่เข้าใจอย่างยิ่ง ถึงกระนั้นท่านแม่ทัพสั่งการมาก็น่าจะไม่ผิด ดังนั้นจึงกล่าวลาออกไปทันที
เมื่อทุกคนหามหลี่อู่หลิงออกไปอย่างระมัดระวังแล้ว หลินหว่านหรงก็ก้าวลงจากรถ ทันใดนั้นก็เลิกผ้าม่านขึ้นอีกครา มองเข้าไปข้างในคราหนึ่ง กล่าวอย่างมีเลศนัย “หมอเทวดาเยวี่ยหยาเอ๋อร์ ได้ยินว่าเจ้าฟังภาษาต้าหัวของพวกเราไม่เข้าใจ ใช่หรือไม่?!”
สาวน้อยทูเจวี๋ยอวี้เจียมองเขาด้วยความงุนงง ดวงตาโตอันงดงามกะพริบเร็วรี่ นัยน์ตาสีฟ้าดั่งน้ำทะเลสาบอันกระจ่างใสที่อยู่ในส่วนลึกของทุ่งหญ้า กลับฟังคำพูดเขาไม่เข้าใจจริงๆ
“เช่นนั้นก็ดี” หลินหว่านหรงตบอก หายใจกระชั้นถี่หลายครั้งแล้วพูดว่า “ฉวยโอกาสที่ตอนนี้ปลอดคน ข้ามีคำพูดที่จะพูดกับเจ้า คุณหนูอวี้เจีย เจ้าเป็นหนึ่งในสาวงามจำนวนแปดหมื่นคนที่งดงามมากที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเจอมา แน่นอนว่าที่อยู่ลำดับข้างหน้าล้วนเป็นบรรดาภรรยาของข้า พวกนางเรียงลำดับตามขีดอักษรของชื่อแซ่ ลำดับไม่แยกก่อนหลัง เจ้าสวยมากเช่นกัน แต่ก็อยู่ในระดับหนึ่งในแปดหมื่น สูสีกับสาวใช้ที่บ้านเรา แต่วันนี้ไม่ใช่มาชื่นชมความงามของเจ้า แต่ต้องการพูดถึงส่วนที่น่าเกลียดบนตัวเจ้า”
เยวี่ยหยาเอ๋อร์มองเขาด้วยสีหน้าปราศจากความรู้สึก สายตาเรียบเฉย คล้ายฟังไม่ออกว่าเขากำลังพูดอะไร
“ที่จริงตลอดทั้งตัวเจ้าตั้งแต่หัวจรดเท้าก็ไม่เลวอยู่ จมูกเป็นจมูก ตาเป็นตา แต่มีอยู่ส่วนหนึ่งที่น่าเกลียดเหลือเกินจริงๆ นะ ข้าไม่เคยเห็นอะไรที่น่าเกลียดขนาดนี้มาก่อนเลย หากสนใจ เจ้าลองทายดูก็ได้ว่าส่วนไหนที่น่าเกลียดที่สุดกันแน่?”
สาวน้อยทูเจวี๋ยกัดริมฝีปากแดงไม่เปล่งวาจา กำมือน้อยแน่น ซอกคอที่ขาวกระจ่างใสราวกับห่านฟ้ามีเส้นเอ็นสีเขียว เส้นเลือดเล็กๆ ปูดโปนให้เห็นอยู่รางๆ
หลินหว่านหรงจ้องมองอกอันอวบอิ่มของนาง กลืนน้ำลายอย่างแรง ผงกศีรษะแล้วพูดว่า “เชื่อว่าเจ้าคงเดาออกแล้ว ไม่ผิด ก็คืออาหารแห้งที่เจ้าพกติดตัวมา เจ้ารู้ไหม หมั่นโถวมันทำลวกๆ ไม่ได้ นั่นต้องมีมาตรฐาน เอาอย่างที่บ้านข้ามาพูดก็แล้วกัน หมั่นโถวจะต้องทำเป็นทรงยาวสี่เหลี่ยม ความสูงและความยาวของรูปร่างต่างกำหนดไว้อย่างเข้มงวด นี่คือมาตรฐานของตระกูลหลิน ไม่อาจแก้ไขตามอำเภอใจ หากเปลี่ยนนั่นก็ไม่ใช่หมั่นโถวแล้ว เจ้าลองมองเจ้าดูอีกที หมั่นโถวทั้งสองลูกทั้งกลมทั้งใหญ่ ไม่ได้มาตรฐานเลยสักนิด น่าเกลียดที่สุดเลยนะ!”
สาวน้อยทูเจวี๋ยอวี้เจียหน้าแดงก่ำ กำหมัดทั้งสองแน่น เส้นเลือดที่อยู่บนซอกคอขาวสะอาดพลันบวมเป่ง
หลินหว่านหรงกล่าวด้วยท่าทีจริงจัง “สร้างหมั่นโถวทรงกลมโดยพลการ ทั้งยังสร้างจนกลมขนาดนี้ใหญ่ขนาดนี้ ข้าขอบอกเจ้า เจ้าทำผิดมาตรฐานแล้ว ปัญหานี้หนักหนามาก สร้างความกระทบกระเทือนต่อประสาทสัมผัสทางตาและจิตวิญญาณของข้ามาก ทำให้ยากคาดเดาผลที่จะเกิดขึ้นได้…เจ้าจะต้องแก้ไข แก้ไขอย่างแรง แก้เป็นสี่เหลี่ยม!”
“เมียเจ้าน่ะสิถึงจะสี่เหลี่ยม! เจ้ามารร้ายบนทุ่งหญ้า!” ในที่สุดสาวน้อยทูเจวี๋ยก็ไม่อาจทนได้อีก ใบหน้าลำคอแดงก่ำ ตวาดด่าทอคราหนึ่ง หยิบมีดพกที่ใช้ช่วยคนเมื่อสักครู่นี้ขึ้นมาแล้วโผเข้าหาเขา
หลินหว่านหรงหัวเราะฮ่าๆ เสียงดังคว้าจับมือนางไว้ ทำให้นางไม่อาจขยับเขยื้อน “ของเมียข้าย่อมทรงกลม แถมยังใหญ่กว่าของเจ้า กลมกว่าของเจ้าด้วย อย่างที่ว่ากันว่า น้ำแข็งแข็งสามฉื่อไม่ใช่เรื่องภายในวันเดียว นั่นเป็นผลจากความวิริยะอุตสาหะ ลูบๆ คลำๆ ของข้าทั้งนั้น ส่วนเจ้าน่ะ ยังไม่ได้แต่งงาน แล้วเหตุใดถึงทั้งใหญ่ทั้งกลมขนาดนี้? ผิดมาตรฐานหมั่นโถวอย่างรุนแรง ไร้เหตุผลเกินไปแล้ว…อ๊ะ ทำไมข้าถึงฟังเจ้าพูดเข้าใจ?!”