ยอดเซลล์แมนทะลุมิติ - ตอนที่ 576 - 1 พบนางเซียนอีกครา
ชั่วพริบตาที่หิมะถล่มลงมานั้นก็นำเสียงร้องหวีดหวิวรุนแรงตามาด้วย กลิ้งไหลลงมาเป็นชั้นๆ หิมะที่มีอยู่เต็มภูเขาหิมะและน้ำแข็งซึ่งมีอยู่เต็มภูเขาเหมือนดั่งคลื่นยักษ์สูงเทียมฟ้าซึ่งกวาดม้วนขึ้นไป ส่งเสียงคำรามกึกก้อง ไหลกลิ้งลงมา ก่อเป็นคลื่นหิมะที่สูงขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่า เพียงชั่วพริบตาก็กลืนกินไปจนหมดสิ้น การถล่มของหิมะซึ่งเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนเช่นนี้ทำให้ทำคนอกสั่นขวัญผวา
เงาสีขาวซึ่งแทบจะสังเกตไม่เห็นเงาหนึ่งขยับวูบผ่านราวกับสายฟ้าแลบ พุ่งตรงไปยังระเบิดหิมะ เพียงชั่วพริบตาก็หายวับไป
“น้องหลิน (แม่ทัพหลิน)!” ครั้นเห็นเงาร่างของหลินหว่านหรงถูกระลอกคลื่นหิมะกลืนกินจนไร้ร่องรอย พวกของเกาฉิว หูปู้กุยที่หันร่างกลับมาทุกคนต่างกู่ร้องออกมาพร้อมเพรียงกัน ตกตะลึงพรึงเพริด กู่ร้องออกมาคราหนึ่ง จากนั้นก็พุ่งไปยังหิมะและน้ำแข็งที่ถล่มลงมา
พละกำลังของหิมะถล่มครั้งนี้มิใช่ธรรมดา ระลอกหิมะที่ถูกกวาดม้วนขึ้นแทบจะกลบท้องฟ้า เกล็ดหิมะซึ่งเดิมทีอบอุ่นอ่อนโยนกลายเป็นอาวุธลับอันคมกริบหาใดเปรียบภายในชั่วพริบตา พุ่งเข้าหาอย่างมืดฟ้ามัวดิน กระทบปะทะทั้งร่างกายและใบหน้า เจ็บปวดอย่างยิ่ง การถล่มของหิมะทำให้ตัวภูเขาไถลลงมาเป็นระลอก เชิงเขาซึ่งมีหิมะและน้ำแข็งปกคลุมอยู่นับไม่ถ้วนถล่มลงมาภายในชั่วพริบตา เสียงดังครืนๆ สะเทือนเลื่อนลั่น ดังต่อเนื่องไม่ขาดสาย
ท่ามกลางลมพายุหิมะที่พัดอยู่เต็มไปหมดนั้นไม่อาจลืมตาขึ้นได้แม้แต่น้อย แม้แต่ยืนก็ยังยืนได้ไม่มั่น ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการปีนขึ้นทวนลม พวกของหูปู้กุยไหลล้มลงนับครั้งไม่ถ้วน แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจยิ่งกว่ากลับเป็นสาวน้อยทูเจวี๋ยผู้อ่อนแอที่อยู่ตรงหน้า เรือนผมงามสีดำขลับขอนางกำลังโบกสะบัดท่ามกลางสายลมเหนืออันหวีดหวิวรุนแรง นางจับแท่งน้ำแข็งที่มีอยู่เต็มพื้นแน่น ปีนป่ายทวนลมขึ้นไปด้วยความยากลำบาก หิมะที่ไหลลงมาปะทะศีรษะและใบหน้านาง ไม่นานนักก็กลบร่างนางจนมิด แต่นางกลับยังปีนป่ายออกมาจากกลางหิมะและน้ำแข็งด้วยความดื้อดึง เดินไปข้างหน้าทีละก้าวทีละก้าว
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด เสียงครืนๆ ถึงค่อยๆ สงบลง กองหิมะที่ไหลบ่าค่อยๆ ช้าและหยุดลง เกล็ดหิมะซึ่งโปรยปรายลงมากลับอ่อนกำลังลงไปมาก อวี้เจียฝังตัวอยู่ในโพรงหิมะ กลายเป็นมนุษย์หิมะไปตั้งแต่แรก นางพยายามเงยหน้าขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าที่หนาวเย็ฟนจนแดงก่ำ ภายในดวงตาพร่าเลือนด้วยไอน้ำ นางออกแรงส่ายศีรษะ เกล็ดหิมะที่อยู่บนเส้นผมทยอยกันร่วงหล่นตกลงบนใบหน้าและมือนาง เย็นเยียบจับใจ
ยอดเขาเทียนซานถูกตัดไปส่วนหนึ่งภายในชั่วพริบตา กองหิมะหนาเตอะซึ่งมีอยู่แต่เดิมมลายไปสิ้น นับตั้งแต่ยอดเขาลงไป บนเนินเขานั้นบัดเดี๋ยวสูงบัดเดี๋ยวต่ำ จะพบกองหิมะสูงกับหลุมลึกได้เป็นระยะ ไอหมอกหิมะลอยฟุ้งไปทั่วจนปกคลุมท้องฟ้าเป็นสีขาวไปหมด ยอดหิมะที่สุมกันขึ้นมาใหม่นี้สูงราวหลายสิบจั้งได้ ส่วนโพรงน้ำแข็งที่ถล่มลงไปก็ยิ่งลึกจนมองไม่เห็นก้น ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็สัมผัสความหนาวเย็นยะเยือกได้แล้ว
หลังหิมะถล่มผ่านพ้นไป หิมะขนาดใหญ่เท่าขนห่านยังคงร่วงหล่นโปรยปรายมาไม่หยุด ท่ามกลางเนินหิมะและโพรงน้ำแข็งนั้นกลับเงียบสงัด ไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวหรือร้องตะโกนแม้แต่น้อย
กองหิมะหนาสูงจนถึงเอว การเดินหน้าไปแต่ละก้าวต่างยากลำบาก อวี้เจียเหมือนไม่รับรู้ นางใช้มือและเท้าควบคู่กัน ใช้ร่างกายซึ่งเกือบจะเย็นเฉียบตะกายจนเกินเป็นเส้นทางสายหนึ่งมุ่งตรงไปยางยอดหิมะที่กลืนกินหลินหว่านหรงไป
ทิศทางนั้นถูกหิมะและน้ำแข็งปกคลุมหนาเตอะ เจ้าโจรที่เมื่อครู่ยังกระหยิ่มยิ้มย่อง ยามนี้กลับอันตรธานไปแล้ว ไม่ได้ยินหัวเราะทะเล้นของเขา ไม่ได้ยินเสียงลมหายใจของเขา ได้ยินเพียงเสียงลมเหนือดังหวีดหวิว รอบกายเงียบสงัดจนน่ากลัว
สีเขียวซึ่งถูกฝังอยู่ท่ามกลางกองหิมะดึงดูดความสนใจของอวี้เจีย นั่นคือใบไม้สีเขียวสดทั้งยังใช้เถาวัลย์แห้งพันเอาไว้ เมื่อแหวกกองหิมะหนาออกไปนางก็นิ่งงันทันที
เสื้อคลุมขาดวิ่นตัวหนึ่งถูกลมพายุหิมะฉีกกระชากเป็นเสี่ยงๆ จนไม่อาจเห็นสภาพเดิมได้อีก ใบไม้ทุกใบ เถาวัลย์ทุกเส้นที่อยู่บนนั้นเป็นนางที่ถักทอด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่เจ้าโจร ‘ใช้สิ่งของแลกสิ่งของ’ หลอกเอาไป เมื่อลูบไล้ใบไม้เถาวัลย์ที่ขาดวิ่นนั้น นางก็มีหน้าราวกับบื้อใบ้ไป น้ำตาร้อนไหลทะลักราวกับน้ำท่วม ไหลหยดลงมาตามแก้มนางอย่างเงียบงันโดยไม่รู้ตัว
นางพูดพึมพำกับตัวเองอยู่หลายประโยค ทันใดนั้นก็โยนใบไม้ที่อยู่ในมือออกไป สองมือเสียบเข้าไปในหิมะเย็นที่หนาเตอะ จากนั้นก็เริ่มขุดราวกับเสียสติ สะเก็ดหิมะปลิวว่อนตกกระทบร่างนาง เพียงชั่วพริบตาก็ทำให้นางกลายเป็นมนุษย์หิมะ ถึงกระนั้นนางกลับไม่รู้สึกรู้สาเลย
แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าอวี้เจียผู้นี้เป็นสตรีต่างชนชาติ มิหนำซ้ำยังเป็นศัตรูอีกด้วย แต่พวกของเกาฉิวก็ยังอดมองด้วยความรู้สึกปวดใจไม่ได้
“ขุด!” หูปู้กุยตวาดคำรามคราหนึ่ง สลัดเสื้อคลุมที่อยู่บนร่างทิ้ง เหล่านายทหารที่กรูกันเข้ามาสองตาแดงก่ำ ล้อมรอบกองหิมะสูงนี้ จากนั้นจึงเริ่มขุดด้วยมือเปล่า
ลมหิมะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ สถานที่เงียบสงัดไปหมด นอกจากเสียงหิมะแล้วก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีก นายทหารห้าพันนายร่วมแรงร่วมใจ อาศัยสองมือที่แดงก่ำ ใช้เวลาถึงสองชั่วยามเต็มๆ ถึงแหวกกองหิมะนี้ออกไปได้กว่าครึ่ง
ใจของทุกคนเต้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ตามกองหิมะที่ขุดออกไปพวกเขาคาดหวังการมาถึงของช่วงเวลานั้น ถึงกระนั้นก็ยังกลัวการมาถึงของช่วงเวลานั้นด้วยเช่นกัน
“ใกล้จะเห็นก้นแล้ว!” เกาฉิวร้องด้วยความตกใจ ทำให้ใจของทุกคนหยึดชะงัดในบัดดล
อวี้เจียร่างหยุดชะงัก จ้องมองกองหิมะที่กองสุมขึ้นมานั้น สองตานางว่างเปล่าเลื่อนลอย ประหนึ่งไม่มีสิ่งใดอยู่ในนั้น ทันใดนั้นนางก็ยืนขึ้น แหวกกองหิมะที่สุมหนานั้นออกอย่างบ้าคลั่ง เศษหิมะที่หอบขึ้นมาถูกนางเขวี้ยงไปด้านหลังอย่างรุนแรง
ทุกคนต่างรวมพลัง เมื่อเห็นว่ากองหิมะลดลงไปทีละส่วนจนใกล้จะเห็นก้น ร่างของอวี้เจียก็สั่นเทาเล็กน้อย การเคลื่อนไหวแผ่วเบาอ่อนโยนลงไปโดยไม่รู้ตัว แหวกกองหิมะออกไปทีละคืบๆ ด้วยความระมัดระวัง สุดท้ายพอใกล้จะเห็นก้นน้ำตาก็ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างพร่ามัวขึ้นมาทันที นางกลับไม่กล้าขยับแล้ว
“เอ๊ะ?” เสียงประหลาดของหูปู้กุยแว่วเข้ามา “แม่ทัพหลินไม่ได้อยู่ตรงนี้?!”
อวี้เจียรีบลืมตา เห็นว่าใต้กองหิมะลึกนั้นปราศจากสิ่งใด อย่าว่าแต่เงาคนเลย แม้แต่รอยเท้าก็ยังไม่มีเสียด้วยซ้ำ นางแหวกกองหิมะที่อยู่ข้างกายออกไปทีละกองๆ เพราะยังไม่เชื่อ ไม่รู้ใช้เวลาไปนานเท่าใด ถึงกระนั้นกลับไม่ได้อะไรกลับคืนมา เจ้าโจรนั่นกลับหายวับไปราวกับอากาศธาตุ
ทุกคนต่างนิ่งงัน ใช้เวลาไปตั้งครึ่งค่อนวัน แม่ทัพหลินกลับไม่ได้ถูกฝังอยู่ที่นี่! ทำไปทำมาคราวนี้เสียเวลาไปตั้งหลายชั่วยาม ต่อให้หาเขาพบ เกรงว่าคงร้ายมากกว่าดีแล้ว
หลี่อู่หลิงตามหารอบด้าน จากนั้นก็ร้องเสียงดังด้วยดวงตาแดงก่ำออกมาทัน “รีบดูเร็ว ตรงนี้!”
สายตาของทุกผู้เคลื่อนมองไป เห็นว่าห่างจากกองหิมะไปไม่ไกลนัก มีโพรงน้ำแข็งที่ลึกไม่เห็นก้นอยู่โพรงหนึ่ง ยาวประมาณสามสิบจั้ง กว้างประมาณสองถึงสามจั้งได้ ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็มีเสียงลมเย็นพัดหวีดหวิวโหยหวนออกมาจากโพรงดังอยู่ข้างใบหู เย็นเยียบเสียดแทงกระดูก
โพรงน้ำแข็งนี้เกิดจากการปริแยกหลังจากหิมะถล่ม แม้ทุกคนจะเห็นมาตั้งแต่แรก แต่ด้วยความร้อนใจคิดจะช่วยคนจึงไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก จวบจนไม่คนพบร่องรอยของหลินหว่านหรงใต้กองหิมะ ทุกคนถึงเคลื่อนสายตามาที่จุดนี้
“ถ้าหากน้องหลินถูกกวาดเข้าไปในโพรงน้ำแข็งนี้…” เกาฉิวเพิ่งพูดได้ประโยคเดียวก็สะอึกสะอื้นพูดต่อไปไม่ได้ ทุกคนต่างหน้าซีดเผือด เบ้าตาแดงภายในชั่วพริบตา ท่ามกลางลมหิมะ คนนั้นไม่อาจยืนได้อย่างมั่นคง ในเมื่อเขาไม่ได้ถูกหิมะกลบฝัง เช่นนั้นก็ต้องถูกลมหิมะกวาดม้วนจากไป และสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือร่วงลงไปในโพรงน้ำแข็งซึ่งลึกจนมองไม่เห็นก้นนี้ เมื่อลองมองความลึกของโพรงน้ำแข็ง ไม่ว่าผู้ใดก็รู้ว่าหากตกลงไปแล้วไม่มีใครที่รอดชีวิตกลับมาได้
“เป็นไปไม่ได้! อัวเหล่ากงไม่มีทางตาย!” เสียงตวาดเจื้อยแจ้วเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ผู้ที่เอ่ยปากกลับเป็นเยวี่ยหยาเอ๋อร์ผู้นั้น นางหน้าซีด ฝืนกลั้นน้ำตาด้วยท่าทีแข็งกร้าว ริมฝีปากสีแดงสดใสถูกกัดจนแตก มีโลหิตไหลซึมออกมา นางพูดพึมพำกับตัวเอง “เขาเป็นคนเลวขนาดนั้น สวรรค์ไม่มีทางรับเขาแน่! เขาไม่มีทางตาย จะต้องไม่ตายแน่!”
เกาฉิวกัดฟันส่งเสียงอืมคราหนึ่ง ว่าง่ายอย่างน่าประหลาด รอบด้านเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหวีดหวิวที่ผัดผ่านโพรงน้ำแข็งนั้นที่ดังก้องวนอยู่ในหูไม่หยุด
อวี้เจียค่อยๆ นั่งลงข้างโพรงน้ำแข็ง นิ่งงันเหม่อลอยอยู่นาน จู่ๆ ก็ควักดาบทองซึ่งทะนุถนอมราวกับชีวิตเล่มนั้นออกมาจากอก กรีดลงบนนิ้วก้อยอันขาวสะอาดเนียนนุ่มของตนคราหนึ่ง หยดโลหิตสีแดงเข้มหยุดลงมา หยดลงไปในโพรงน้ำแข็งอันเวิ้งว้างล้ำลึกนั้น…