ยอดเซลล์แมนทะลุมิติ - ตอนที่ 598 - 1 ฝีมือยิงเกาทัณฑ์อันน่าอัศจรรย์
ทุ่งหญ้าซึ่งเมื่อครู่ยังเอะอะมะเทิ่งกลับเงียบสงัดดั่งผิวทะเลสาบอันสงบนิ่งภายในชั่วพริบตา มีเสียงลมหายใจกระชั้นถี่จำนวนนับไม่ถ้วนเบาๆ ชาวทูเจวี๋ยทุกคนต่างจดจ้องดวงหน้าอันงามเฉิดฉันของข่านใหญ่ตาไม่กะพริบ ด้วยกลัวว่าจะพลาดช่วงเสี้ยววินาทีอันแสนจะยอดเยี่ยมไป ข่านน้อยซ่าเอ่อร์มู่ซึ่งยืนข้างกายพี่สาวก็กุมมือทั้งสองข้างแน่นด้วยความประหม่าตื่นเต้นด้วยเช่นกัน
สีหน้าตั้งใจของอวี้เจียดูงดงามเป็นพิเศษ นางน้าวสายอย่างแช่มช้า น้าวจนสุดสาย ลูกเกาทัณฑ์สีทองนั้นเปล่งประกายเจิดจรัสใต้แสงตะวัน
“ผึง!” เสียงสายคันศรดังเบาๆ ช่วงเวลานี้ลมหายใจของทุกคนต่างหยุดชะงัก
เกาทัณฑ์ทองกรีดผ่านอากาศออกไปเป็นเส้นโค้งอันงดงามสายหนึ่ง พุ่งตรงไปยังเชือกที่แขวนร่างแพะ
ยังจะยิงตัดเชือกอีกหรือ?! เรื่องที่แม้แต่ข่านน้อยยังทำได้ เจ้าทำแบบเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง แล้วจะไปชนะถูสั่วจั่วได้อย่างไร?! หลินหว่านหรงส่ายหน้าด้วยความรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง
ลูกธนูอันคมกริบพุ่งเข้าหาพร้อมเสียงลมหวีดหวิว ขณะที่ยังอยู่ห่างจากเชือกสี่ถึงห้าจั้งกลับคล้ายมีกำลังไม่เพียงพอ ความเร็วพลันลดทอนลง เมื่อเห็นว่ากำลังจะร่วงลงไป ทุ่งหญ้าพลันบังเกิดเสียงถอนหายใจลึกๆ ไปทั่ว ไม่ว่าชาวทูเจวี๋ยหรือว่าชาวต้าหัวต่างแอบก้มหน้าลงไป ไม่อาจหักใจทนเห็นภาพที่เกือบจะเป็นความโหดร้ายเช่นนี้ได้!
“ผึง!” อวี้เจียใบหน้าประดับรอยยิ้ม น้าวสายอีกครั้ง ครานี้รวดเร็วและทรงพลัง สายคันศรเสียงดังหึ่งๆ เสียงหวีดหวิวทรงพลังดังขึ้น มีลูกเกาทัณฑ์ทองดอกที่สองยิงออกจากปะรำพิธีอย่างเร็วรี่ ประหนึ่งดาวตกที่พุ่งตัดผ่านท้องฟ้า ไล่ตามดอกที่หนึ่งไป
“หึ่ง!” เสียงขนหางธนูดังแจ่มชัด หึ่งๆ ก้องอยู่ในหูของทุกคน
ธนูทองดอกที่สองใช้ความเร็วที่มีมากกว่าหลายเท่าตัวหมุนวนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ยิงถูกปลายหางขอดอกแรกพอดี หัวและหางเชื่อมประสาน ดอกแรกซึ่งเหมือนจะมีกำลังอ่อนด้อยลงถูกพลังมหาศาลถ่ายเทเข้าไปในบัดดล สองดอกรวมพลัง รวมกันกลายเป็นดอกเดียวยิงถูกกึ่งกลางเชือกเสียงดังฉึกพอดี ร่างแพะส่ายโอนเอนเล็กน้อย จากนั้นก็ร่วงลงพื้น น้ำสาดกระจายไปทั่ว
ทุ่งหญ้าเงียบสงัดราวกับความตาย! ชาวทูเจวี๋ยผู้กล้าแกร่งมากที่สุดตาโตอ้าปากค้าง
ข่านน้อยร่างสั่นเทาอยู่ตลอดเวลา จับมือพี่สาวแล้วส่งเสียงโฮ ร่ำไห้ออกมาอย่างรุนแรง สุดท้ายเขาก็เป็นแค่เด็กอายุห้าหกขวบเท่านั้น ไหนเลยจะเคยทนรับบรรยากาศอันแสนจะตึงเครียดและกดดันเช่นนี้ได้ ไม่ตกใจจนฉี่ราดรดกางเกงก็เก่งมากแล้ว
เมื่อได้ยินซ่าเอ่อร์มู่ร่ำไห้ อวี้เจียก็ทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้างในทันที นางรีบคุกเข่าลงแล้วพูดปลอบโยนเบาๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและเวทนา
ชนเผ่านอกด่านที่อยู่รอบด้านถึงเหมือนเพิ่งตื่นจากห้วงแห่งความฝัน เสียงปรบมือดังลั่นราวกับสายน้ำหลาก โห่ร้องยินดีดังถึงสุดขอบฟ้า
“ดาราคู่ไล่จันทราอันยอดเยี่ยม เยวี่ยหยาเอ๋อร์ เยี่ยม!” แม้แต่หูปู้กุยกับเกาฉิวก็ยังอดปรบมือชื่นชมไม่ได้ สีหน้าตื่นเต้นปรากฏให้เห็นชัดเจนโดยไม่ต้องสาธยาย การโห่ร้องชื่นชมสตรีที่เป็นศัตรูผู้หนึ่ง หากเป็นก่อนหน้านี้ช่างเป็นเรื่องที่แสนจะเหนือจินตนาการได้ ทว่าวันนี้กลับบังเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
หากบอกว่าก่อนหน้านี้อวี้เจียสยบคนในเผ่าด้วยการใช้ความงามและสติปัญญา ช่วงเวลานี้ฝีมือยิงธนูอันล้ำเลิศของนางก็คือสัญลักษณ์ของความสามารถในการสู้รบดาราคู่ไล่จันทรานี้เมื่อเทียบกับการยิงทะลุดวงตาอินทรีของถูสั่วจั่วเมื่อครู่ยังยากกว่าหลายส่วน มิหนำซ้ำยังออกมาจากมือของสตรีผู้อ่อนแอนางหนึ่งอีกด้วย ด้วยธนูสองดอกนี้ อ๋องขวาจืดจางหม่นหมองลงไปทันที
อวี้เจียดึงมือให้ข่านน้อยยืนขึ้น จากนั้นก็โบกมือให้เหล่าราษฎร ชาวทูเจวี๋ยคุกเข่ากราบกรานด้วยความเคารพนบนอบ แสดงการคารวะหมอบราบไปกับพื้น ยอมศิโรราบต่อข่านใหญ่ผู้งดงามจากใจจริงและด้วยความยินดี
ที่แท้แม่สาวคนนี้ยังซุกซ่อนความลับไว้ตั้งมากมายขนาดนี้ ยังมีแรงมาแสร้งทำตัวน่าสงสารต่อหน้าข้าอีก โชคดีที่ข้าไม่ได้ตกหลุมพรางนาง หลินหว่านหรงแค่นเสียงฮึด้วยความเดือดดาล ใจทั้งคล้ายยินดีทั้งยิ่งเหมือนกังวล หากจะพูดถึงความผิดพลาดเพียงหนึ่งเดียวของเยวี่ยหยาเอ๋อร์ นั่นก็คือนางเกิดเป็นสตรี
“ไม่รู้ว่าอวี้เจียฝึกฝนออกมาได้อย่างไร” เหล่าหูส่ายหน้าทอดถอนใจ “ตำนานว่ากันว่าขุนพลใหญ่ผู้บุกเบิกราชวงศ์ บรรพชนของท่านจอมทัพหลี่ไท่เคยมีฝีมือในการยิงธนูอันล้ำเลิศด้วยการยิงทะลุสามดอกต่อเนื่องเข้าเป้า แต่นั่นก็แค่ตำนานเท่านั้น ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ดาราคู่ไล่จันทรานี้ กลับปรากฏตรงหน้าข้าอย่างจริงแท้แน่นอน ทั้งยังออกมาจากน้ำมือของสตรีชนเผ่านอกด่านคนหนึ่งอีกด้วย น่าละอายๆ!”
“น้องหลิน เรื่องฝีมือการยิงธนูนี้เจ้าแพ้อวี้เจียแล้วล่ะ” เหล่าเกากล่าวพลางหัวเราะร่า
“ด่านความต่ำช้า ข้าไม่เคยแพ้ใคร” หลินหว่านหรงเอ่ยพลางหัวเราะฮิฮะ “อีกอย่าง อย่างที่ว่ากันว่าคนเรามีสั้นมียาว ฝีมือการยิงธนูของอวี้เจียดีกว่าข้านั้นไม่ผิด แต่ฝีมือการใช้ทวนของข้าเยี่ยมกว่านางนะ! ต่างฝ่ายต่างเสมอกันแล้ว”
หูปู้กุยผงกศีรษะ “มีเหตุผล ธนูโจมตีระยะไกล ทวนเหมาะกับการสู้ระยะประชิด ต่างฝ่ายต่างมีข้อดี”
“เพียงแต่ข้าคนนี้เป็นคนใฝ่รู้มาตลอด” หลินหว่านหรงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เพื่อไม่ให้เยวี่ยหยาเอ๋อร์ดูแคลน คราวนี้พอกลับบ้านไปแล้วข้าจะฝึกการยิงธนูให้ดี ซ้ายยิง ขวายิง ยิงวันละร้อยรอบ ไม่ต้องพูดถึงดาราคู่ไล่จันทรา สามดอกยิงต่อเนื่องอะไรนั่น ข้าไม่เชื่อหรอก ด้วยความสามารถในการยิงขั้นเทพเซียนของข้าหรือว่าจะหลุดออกจากเป้า?!”
ความสามารถในการยิงขั้นเทพเซียนอะไรกัน พวกของเกาฉิวสองคนได้ยินเขาพูดโม้ก็ต่างหัวเราะร่าเสียงดังด้วยความสนุกสนาน
เสี้ยววินาทีที่ข่านใหญ่ยิงตัดเชือกขาด แพะอ้วนพี่ร่วงหล่นลงพื้น การแข่งขันก็เริ่มขึ้นแล้ว
ฝีมือการยิงธนูทะลุดวงตาอินทรีที่ถูสั่วจั่วภาคภูมิใจนักถูกดาราคู่ไล่จันทราของอวี้เจียทำให้ด้อยลงไปต่อหน้าต่อตาธารกำนัล ชาวทูเจวี๋ยทุกคนต่างถกถึงฝีมือยิงธนูอันพิสดารของข่านใหญ่ด้วยความตื่นเต้น ถูสั่วจั่วสีหน้าไม่น่าดูชมยิ่งนัก เดิมทีมันได้รับการขนานนามว่าผู้กล้าอันเ**้ยมหาญ กำลังจะอาศัยการแข่งขันชิงแพะเพื่อสยบข่านดาบทอง ไหนเลยจะรู้ว่าด้วยความเลินเล่อย่ามใจไปคราหนึ่ง กลับต้องพ่ายแพ้ต่อสตรีที่ตนเองชื่นชอบได้ เมื่อเป็นเช่นนี้คนในเผ่าจะมองมันเช่นไร? อวี้เจียจะมองมันเช่นไร? แล้วอ๋องขวาดาบเงินจะใช้วิธีการอันใดมาสยบข่านใหญ่ผู้สูงส่งและงดงามได้?
ยิ่งคิดก็ยิงหงุดหงิดโมโห ถูสั่วจั่วตวาดเสียงดัง ควบม้าอย่างเร็วรี่ พุ่งปราดออกไปราวกับดาวตก ใบหน้าอันหล่อเหลาสง่างามเต็มไปด้วยไอสังหารเย็นเยียบ มันระบายความอัดอั้นที่สุมอยู่เต็มอกใส่การแข่งขันชิงแพะจนหมดสิ้น
อ๋องขวาคลุ้มคลั่งช่างไม่ธรรมดาจริงๆ มันกับคนในเผ่าของมันต่างเป็นผู้กล้าซึ่งผ่านศึกมานับร้อย ไพร่พลสิบกว่าคนวิ่งห้อตะบึงอยู่ร่วมกัน เมื่อมองไกลๆ ก็เหมือนธนูอันคมกริบที่หลุดออกจากแล่ง ความเร็วไม่อาจมีผู้ใดตามทัน
อีกสองดินแดนที่เหลือไม่ยอมอ่อนข้อเช่นกัน ความเร็วในการขี่ม้าของพวกมันแม้จะด้อยกว่าเล็กน้อย ถึงกระนั้นกลับเตรียมการมา เมื่อเห็นอ๋องขวาทูเจวี๋ยโน้มกายกำลังจะเก็บแพะขึ้นมา ชนเผ่านอกด่านจากฝ่ายตรงข้ามซึ่งวิ่งอยู่หน้าสุดคนหนึ่งพลันบังเกิดเสียงขวับอยู่ในมือคราหนึ่ง ซัดเหล็กแหลมที่ผู้เชือกไว้ออกไปอย่างเร็วรี่ เสียบเข้าไปในตัวแพะพอดิบพอดี
“เฮ!” เหล่าผู้กล้าต่างเปล่งเสียงโห่ร้องยินดี ขยับดึงเชือกอย่างรวดเร็ว ขณะกำลังจะเก็บกระชากแพะกลับมาก็พลันรู้สึกถึงพละกำลังมหาศาลสายหนึ่งส่งผ่านมาจากเส้นเชือก สามคนรวมพลัง ไม่ว่าจะดึงเชือกเช่นไร เชือกก็ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย
ถูสั่วจั่วมือเดียวตัวคนเดียว ดึงเชือกอยู่กับแขน ม้าที่นั่งอยู่ปราศจากการขยับเขยื้อน ระหว่างที่ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อ มันพลันตวาดเสียงดังคราหนึ่ง ดึงกลับไปด้วยมือเดียวอย่างเร็วรี่ ตัวเชือกแฝงด้วยพลังมหาศาล ชนเผ่านอกด่านสามคนที่อยู่ตรงข้ามยังไม่ทันได้สติกลับมาก็ถูกดึงจนพลิกตกจากม้าแล้ว
พลังอันแสนน่าอัศจรรย์ของอ๋องขวาช่างไม่ธรรมดาจริงด้วย! บรรดาชนเผ่านอกด่านที่ชมการต่อสู้ต่างตะโกนเสียงดัง ชมเชยถูสั่วจั่ว
ถูสั่วจั่วมือหนึ่งคว้าร่างแพะ ดาบใหญ่กวัดแกว่งอย่างรุนแรง คนในเผ่าที่อยู่ข้างหลังมันรวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบ ทิศทางนั้นหาใช่จุดหมายปลายทาง กลับบุกเข่นฆ่าไปที่คู่ต่อสู้เบื้องหน้าแทน บรรดาชนเผ่านอกด่านที่อยู่โดยรอบต่างนิ่งงันก่อน จากนั้นจึงกระโดดด้วยความตื่นเต้น กู่ร้องชื่อของถูสั่วจั่วดังลั่น
ชิงแพะแล้วหนีหาใช่ทางเลือกของอ๋องขวา มันต้องการทำให้คู่ต่อสู้พ่ายแพ้ด้วยพละกำลังในการสู้รบที่เ**้ยมหาญดุดันมากที่สุด จากนั้นค่อยมุ่งสู่จุดหมายอย่างผ่าเผยและสง่างาม กู้หน้าที่เสียให้อวี้เจียกลับคืนมาทั้งหมด ความป่าเถื่อนและความมั่นใจเช่นนี้คือสิ่งที่ชาวทูเจวี๋ยชื่นชอบมากที่สุด ทุกคนต่างร้องตะโกนให้ถูสั่วจั่ว
ความมั่นใจของอ๋องขวามาจากพละกำลังที่แท้จริง ผู้กล้าใต้บังคับบัญชาของมันแต่ละคนต่างสู้หนึ่งต่อสิบได้ วิชาดาบอันรวดเร็วและรุนแรงมากที่สุด ไอสังหารที่ดุร้ายและเผ็ดร้อนมากที่สุด พวกมันเฉกเช่นหมาป่าเข้าไปในฝูงแกะ กวัดแกว่งดาบตรงฟาดฟัน ไม่ใส่ใจว่าคู่ต่อสู้จะเป็นผู้ใดแม้แต่น้อย