ยอดเซลล์แมนทะลุมิติ - ตอนที่ 605 - 2 วังหลังของข่านใหญ่
ครั้นลากตัวอ๋องขวาผู้เดือดดาลจากไปอย่างยากเย็น สาวน้อยทูเจวี๋ยผู้นำทางข้างหน้าถึงพ่นลมหายใจออกมายาวๆ ตบหน้าอกอันอวบอิ่ม สาวน้อยคนหนึ่งเลิกผ้าม่านสีชมพูเบาๆ ทำท่าภาษามือพร้อมกล่าวปลอบใจเจ้าใบ้ที่ตกใจจนหน้าถอดสีด้วยเสียงอันอ่อนโยน “ผู้กล้า ไม่ต้องกลัว ท่านเป็นคนของท่านข่านใหญ่ นางต้องคุ้มครองท่านแน่นอน!”
ข้าเป็นคนของข่านใหญ่?! คำพูดประโยคนี้พลันเผยความคิดมักใหญ่ใฝ่สูงของอวี้เจียออกมาจนหมดสิ้นทันที เจ้าใบ้ ส่ายหน้าด้วยความเศร้าใจและโมโห จิตใจรวดร้าวยากจะทานทน
เมื่อเกิดเหตุถูสั่วจั่วขวางหน้ารถ ไม่มีผู้ใดรู้ว่ามันจะโผล่มาอีกหรือไม่ ดังนั้นเสลี่ยงจึงเร่งความเร็วขึ้นมาก เมื่อเดินไปถึงทางเข้าสวนแห่งหนึ่งก็ค่อยๆ หยุดลง สาวน้อยทูเจวี๋ยเชิญเขาลงมาพร้อมยิ้มงามยวนเย้า “ผู้กล้า พวกเราถึงแล้ว!”
ถึงแล้ว?! เจ้าใบ้เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพิ่งเดินลงจากเสลี่ยงก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจำนวนนับไม่ถ้วนแว่วมาจากข้างกาย สาวน้อยทูเจวี๋ยหลายสิบคนไม่รู้ว่ากรูมาจากที่ใด ล้อมเขาอยู่กึ่งกลางอย่างแน่นหนา แต่ละคนต่างเบิกตากว้างมองประเมินเขา เล็งตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ยอมละเว้นสักแห่งเดียว
สาวน้อยที่ถูกเลือกเข้าวังทูเจวี๋ยได้ รูปโฉมย่อมไม่ด้อยกว่าที่ใด สิ่งที่เยี่ยมยิ่งกว่าก็คือสายตาอันเผ็ดร้อนของพวกนางที่ส่งสายตาของชาวต่างชาตินั้น สาวน้อยทูเจวี๋ยเกิดมาก็ขวัญกล้า ไม่ปกปิดการยั่วยวนแม้แต่น้อย สายตาของแต่ละคนต่างแวววาวราวกับจะหยดออกมาเป็นน้ำได้
โอ๊ยๆ ข้าคงไม่ได้เข้ามาดินแดนแม่หม้ายหรอกนะ?! ถูกสตรีชาวทูเจวี๋ยเป็นฝูงโอบล้อมอยู่ตรงกลาง สายตาของพวกนางราวกับจะแก้ผ้าคนจนหมดสิ้น ต่อให้แม่ทัพหลินห้าวหาญชาญชัยเหลือล้น ถึงกระนั้นก็ยังอดตื่นตระหนกจนหลั่งเหงื่อเย็นเยียบทั้งร่างไม่ได้
เบื้องหน้ามีแต่เสียงเจื้อยแจ้วจำนรรจา เรือนร่างสารพัดรูปแบบ เห็นแล้วก็ดวงตาพร่าพราย เจ้าใบ้รีบตบหน้าอก หอบหายใจหนักๆ ยาวๆ
เมื่อเห็นเขามีสภาพเช่นนี้ บรรดาสาวน้อยทูเจวี๋ยก็หัวเราะทันที มีบางคนที่ขวัญกล้าเข้ามาจับมือเขา บางคนยังอดมาจับเอวเขาสักครั้งสองครั้งไม่ได้อีกด้วย
เหมือนแพะเข้าฝูงหมาป่าเสียจริง! ผู้กล้าใบ้ปราศจากเรี่ยวแรงจะโต้กลับ รู้สึกทอดถอนใจ เนื่องจากอับจนหนทาง ดังนั้นจึงทำได้เพียงเปลี่ยนการล่วงละเมิดให้เป็นการเสพสุขเท่านั้น
“ผู้กล้า ท่านไม่ต้องกลัว!” สาวน้อยทูเจวี๋ยที่พาเขามาหัวเราะพร้อมทำท่าภาษามือพูดปลอบโยน “ที่นี่คือพระตำหนักส่วนพระองค์ของท่านข่านใหญ่ นอกจากท่านข่านน้อยจะมาเป็นบางครั้ง ท่านเป็นบุรุษที่มาสถานที่แห่งนี้เป็นคนแรก! มิหนำซ้ำยังเป็นผู้กล้าผู้ชนะเทศกาลชิงแพะอีกด้วย พี่น้องทั้งหลายจึงชอบที่จะมองท่าน! หากเปลี่ยนเป็นบุรุษอื่น ผีสางถึงจะสนใจพวกมัน!”
ที่นี่คือพระตำหนักส่วนตัวของอวี้เจีย? นั่นไม่ใช่วังหลังของข่านใหญ่ในตำนานหรอกหรือ?! เจ้าใบ้รีบเงยหน้ามองไป เห็นว่าสถานที่แห่งนี้ต่างจากพระตำหนักเบื้องหน้า ศาลารายหอเก๋ง สะพานน้อยสายธารไหล ในความหยาบแฝงความวิจิตร ประหนึ่งสวนแห่งเจียงหนานบนทุ่งหญ้า อ่อนโยนละเอียดบรรจง มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นฝีมือของสตรี
เขากำลังมองประเมินไปรอบด้าน สาวน้อยทูเจวี๋ยที่เป็นผู้นำสองคนนั้นจู่ๆ ก็จับมือเขาแล้วชี้ไปยังบ้านไม้หลังหนึ่งซึ่งอยู่กลางสวนข้างหน้าพร้อมยิ้มให้เขาพร้อมกัน ภายในบ้านไม้หลังนั้นมีควันพวยพุ่งลอยเอื่อย ไม่รู้ว่าคือสถานที่อันใด
“เชิญผู้กล้าชำระล้างเปลี่ยนอาภรณ์!” นางกำนัลนางหนึ่งใช้สองมือถือชุดชนเผ่านอกด่านตัวใหม่ตัวหนึ่ง ปรากฏด้ายทองให้เห็นอยู่รำไร สาวน้อยที่เป็นหัวหน้าพูดเสียงเบาพร้อมทำท่าทางประกอบ
ชำระล้างเปลี่ยนอาภรณ์?! หลินหว่านหรงใช้สองมือปิดหน้าอกตามจิตใต้สำนึก! สาวน้อยผู้นั้นหัวเราะคิกคัก ดวงตาเปล่งประกาย ทำภาษามือพร้อมเอ่ยว่า “ไม่ต้องกลัว พวกเราไม่ล่วงเกินท่านแน่!”
มารดามัน นี่มันโลกอะไรกันนี่?! ผู้กล้าแค่นเสียงด้วยความหงุดหงิดโมโห เอื้อมมือไปปลดหน้ากาก
สาวน้อยทูเจวี๋ยตกใจสะดุ้งโหยง รีบขัดขวางการกระทำของเขาไว้ “ไม่ได้นะเจ้าคะ! ผู้กล้า หน้ากากของท่านเป็นสัญลักษณ์อันสูงส่ง มีแค่ท่านข่านดาบทองเท่านั้นถึงมีคุณสมบัติถอดให้ท่านได้!”
สิ่งที่ต้องการก็คือเรื่องนี้! เจ้าใบ้วางใจทันที สาวน้อยทูเจวี๋ยผู้นำทางสองคนจูงมือเขาหนึ่งซ้ายหนึ่งขวา ค่อยๆ เดินไปทางบ้านไม้หลังนั้น นางกำนัลที่อยู่โดยรอบต่างมองพวกนางด้วยสีหน้าอิจฉา
เพิ่งเดินไปใกล้ก็มีไอร้อนปะทะใบหน้า ภายในบ้านไม้ซึ่งอยู่กลางสวนกลับเป็นบ่อน้ำร้อนที่มีตาน้ำผุดขึ้นมา ฟองของน้ำผุดขึ้นไม่หยุด มีกลิ่นหอมสะอาดเจือจางของกำมะถัน ไอน้ำลอยวนอยู่โดยรอบ ราวกับอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ
แม่สาวน้อยเยวี่ยหยาเอ๋อร์คนนี้ช่างรู้จักเลือกสถานที่เสียจริง มีบ่อน้ำร้อนที่ผุดตลอดทั้งปีเช่นนี้ ให้ข้าแช่อยู่ที่นี่ทุกวันก็ยอม
ทั้งสองข้างต่างมีมือน้องสองมือที่กำลังลูบไล้ร่างกายเขาอย่างแช่มช้า เจ้าใบ้ตกใจจนบังเกิดปฏิภาณ กระเด้งออกไปราวกับไฟช็อต หมุนกายพร้อมเบิกตาโพล่ง มือไม้ทำท่าทางเป็นระวิง “เจ้า เจ้าจะทำอะไรน่ะ?!”
“ปรนนิบัติผู้กล้าชำระล้างร่างกาย” สาวน้อยทั้งสองใบหน้าแดงสดใส ก้มหน้าพร้อมเอ่ยว่า “นี่เป็นสิ่งที่ท่านข่านใหญ่ทรงกำชับมา!”
หาสาวสวยมาช่วยข้าอาบน้ำ?! หลินหว่านหรงรู้สึกหน้ามืดตาลายทันที แม้เขาจะมีองค์หญิงเป็นเมีย แต่ตอนอยู่ต้าหัว อาบน้ำก็ยังต้องทำด้วยตัวเองอยู่ ไม่เคยมีเมียคนไหนเป็นฝ่ายหาสาวใช้มาช่วยเขาอาบน้ำมาก่อน ไม่คิดว่าครั้งแรกที่ได้เสพสุขกับเรื่องนี้กลับเป็นที่พระราชวังทูเจวี๋ยซึ่งอยู่บนทุ่งหญ้านอกชายแดน ทั้งยังเป็นสาวงามคู่อีกด้วย อวี้เจียช่างดีต่อข้าเสียจริง!
เมื่อเห็นเขาลังเลอยู่นาน สาวน้อยหน้าแดงสดใสนางหนึ่งรวบรวมความกล้า ยื่นมือน้อยมาที่ชุดของเขา ส่วนอีกคนก็ใช้ภาษามือด้วยท่าทีเขินอาย “ผู้กล้า ท่านไม่ต้องอาย พวกเราก็ครั้งแรกเช่นกันเจ้าค่ะ!”
สาวน้อยทูเจวี๋ยช่างเกิดมาเจ้าชู้เสียจริง ครั้งแรกของนางนี้ยังเชี่ยวชาญกว่าครั้งแรกของข้าเป็นร้อยเท่าเสียอีก! ผู้กล้าร้องอ๊าๆ สองครั้ง สองมือทำท่าทาง ผลักร่างของพวกนางให้หันกลับไป
ช่างเป็นคนซื่อเสียจริ! เมื่อได้ยินเสียงถอดชุดดังสวบสาบจากข้างหลัง สาวน้อยสองคนใบหน้าใบหูแดง หัวเราะพรวดออกมาเบาๆ
“ตูม” ข้างหลังมีเสียงกระโดดน้ำ ผู้กล้ากองเสื้อผ้าให้เรียบร้อย กระโดดลงบ่อน้ำร้อนโดนสวมหน้ากาก กำลังนั่งหดคออยู่มุมหนึ่ง แววตาสาดประกายหวาดกลัว
ไม่เคยเห็นผู้กล้าที่ขี้อายขนาดนี้มาก่อน แต่เขากลับเป็นผู้ที่ทำให้ถูสั่วจั่วพ่ายแพ้ได้! สาวน้อยทูเจวี๋ยทั้งสองบังเกิดความรู้สึกรักใคร่อยากปกป้องผู้กล้าใบ้ ฝืนสะกดกลั้นความอายพร้อมถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก เหลือเพียงชุดน้อยแนบร่าง พลางย่างลงไปในน้ำอย่างแช่มช้า
สตรีทูเจวี๋ยขี่ม้าออกกำลังกายมานานหลายปี รูปร่างค่อนข้างดียิ่งนัก หน้าหลังโค้งเว้า ส่วนสัดยอดเยี่ยม สาวน้อยสองคนนี้เป็นหัวหน้านางกำนัล ดังนั้นจึงยิ่งเป็นสุดยอดของสุดยอด
คราบน้ำชุ่มผิวพรรณที่ขาวนวลดั่งหยกงามอันน่าลุ่มหลงของพวกนาง กระจ่างใสดุจวารี ชุดตัวน้อยบางเบาราวปีกจักจั่น เมื่อลงน้ำก็เปียกชุ่มจนหมดสิ้น แนบชิดสนิทเรือนร่าง ยิ่งขับเส้นสายของเรือนร่างอันแสนจะงดงามและน่าลุ่มหลงของพวกนางให้เด่นออกมาอีก
สาวน้อยทูเจวี๋ยสองคนหน้าแดงระเรื่อ ค่อยๆ เข้ามาใกล้ข้างกายเขา คล้ายมีเจตนาคล้ายไม่มีเจตนา ใช้ขาเรียวยาวทั้งสองข้างแนบชิดกับขาเขา ขณะเดียวกันก็วักน้ำใสสะอาดพร่างพรมลงบนตัวเขา มือน้อยแฝงอาการสั่นเทาอันอ่อนโยนค่อยๆ ลูบไล้
นี่จะทำอะไร?! หลินหว่านหรงตกใจยกใหญ่ ใจจั๊กจี้ยากจะทานทน ถูกสาวงามซึ่งแทบจะไม่ได้สวมอาภรณ์สองคนแนบต้นขา อกอวบอิ่มยังออกแรงเสียดสีอยู่บนร่างอีก เป็นสิ่งที่ผู้ชายทนไม่ได้เลยจริงๆ !
ห้ามเสียมารยาทมอง! ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ศึกบุกยึดเค่อจือเอ่อร์เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เขาไม่กล้าคิดอะไรเลยเถิดแม้แต่น้อย ดังนั้นจึงรีบพ่นลมหายใจออกมายาวๆ นั่งตัวตรงอีกสักหน่อย
เพียงแต่สาวน้อยทูเจวี๋ยสองคนนี้กลับเหมือนไม่ยอมให้โอกาสเขา หน้าแดงด้วยความอาย มือน้อยฉวยโอกาสช่วงที่วักน้ำกดนวดร่างกายเขาทุกแห่งหน เบาบ้าง หนักบ้าง คล้ายต้องการบีบเค้นให้วิญญาณออกจากร่าง
นี่มันคือการเสพสุขหรือว่าการรับทัณฑ์ทรมานกันแน่นะ?! เขายิ้มขืนพลางส่ายหน้า กระแสความร้อนถั่งท้นพุ่งตรงขึ้นมาจากท้องน้อย
สาวน้อยทูเจวี๋ยทั้งสองเมื่อเห็นเขามีท่าทีเขินอายกลับยิ่งขวัญกล้ามากขึ้น ไม่สนใจว่าผ้าตรงอกตนเปียกโชก ภาพอันงดงามปรากฏให้เห็นจนหมดสิ้น ขยับจะแทบจะตะกายอยู่บนร่างเขา ได้ยินเสียงหัวใจเต้นรัวของเขาได้อย่างชัดเจน
สาวน้อยทูเจวี๋ยเนตรงามเปล่งประกาย เหลือบมองลงไปใต้น้ำอันใสสะอาดคราหนึ่ง จากนั้นก็หน้าแดงซ่านขึ้นมาทันที พวกนางหัวเราะยวนเย้า ใช้มือน้อยที่เปียกชุ่มบีบคลึงหน้าอกเขาเบาๆ “ท่านผู้กล้า ท่านช่างกล้าหาญเสียจริงนะ!!”
“เจ้าเองก็กล้ามากนะ!” สายตาของผู้กล้าไปอยู่ที่หน้าอกนางพร้อมคิดในใจ
สาวน้อยทูเจวี๋ยมองเขาพร้อมทำท่าภาษามือ กล่าวด้วยความประหลาดใจออกมาว่า “ท่านข่านใหญ่เคยตรัสไว้ ผู้กล้าทูเจวี๋ยของเรานิสัยเปิดเผยเลือดร้อน ไม่เคยควบคุมตัวเอง แต่ผู้กล้าเหมือนจะต่างจากผู้อื่น มิน่าท่านข่านใหญ่ถึงทรงให้พวกเรา…”
สาวน้อยทูเจวี๋ยไอหลายครั้ง สาวน้อยผู้นั้นจึงรีบหุบปากไป
หลินหว่านหรงตกตะลึงทันที ห้วงสมองกลับเย็นวาบในบัดดล นางหนูอวี้เจียคนนี้ช่างเจ้าเล่ห์เสียจริง เมื่ออยู่ต่อหน้าการยั่วยวนราคะหากทำตัวอยู่ในกรอบในจารีตก็จะมีแต่ทำให้คนสงสัยเท่านั้น ปล่อยเนื้อปล่อยตัวถึงจะถูกต้อง มารดามัน ข้าไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นวิญญูชนจริงๆ ด้วย!
“อ๊า” พอเขาปลดปล่อยก็ร้ายกาจขึ้นมาทันที ลูบคลำตามใจชอบไปสองสามครา สาวน้อยทูเจวี๋ยทั้งสองส่งเสียงร้องด้วยความตกใจอย่างต่อเนื่อง กระโดดหลบออกไปด้วยใบหน้าใบหูแดง
“ผู้กล้า ท่านช่างร้ายนัก!!” สาวน้อยเขินอายยากจะทานทน อดส่งเสียงเบาๆ ไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้ใช้ภาษามือ เพียงแต่บนโลกนี้มีสายตาหลายอย่างที่ใช้ร่วมกัน ไม่จำเป็นต้องแปลแม้แต่น้อย!
ผู้หญิงพูดประโยคนี้ออกมาแสดงชัดว่าเจ้ายังร้ายไม่พอ หลินหว่านหรงจิตใจกระจ่างในสดุจกระจก ดังนั้นจึงบีบคลึงเปะปะจากบนลงล่าง เอารัดเอาเปรียบไปหลายครา สตรีทูเจวี๋ยสองคนนั้นจึงทนไม่ไหว ดวงตาพร่าเลือน หอบหายใจหนักพร้อมเอ่ยออกมาว่า “ผู้กล้า ไม่ได้นะเจ้าคะ ท่านคือคนของข่านใหญ่ พระนางยังไม่ตรัส พวกเราไม่อาจล่วงละเมิดท่านได้!”
ข้าชอบการล่วงละเมิดของพวกเจ้ามากนะ! แม่ทัพหลินรั้งมือกลับ นึกขึ้นได้ทันทีว่านี่คือวังหลังของอวี้เจีย ทุกอย่างจะตรงกันข้าม!
ที่แท้ผู้กล้าใบคนนี้ยังร้ายกว่าคนทั่วไปมากมายนัก สาวน้อยทูเจวี๋ยทั้งสองไม่กล้าดูแคลนเขาอีกต่อไป ช่วยเขาสวมอาภรณ์ด้วยใบหน้าร้อนลวก จัดแจงอย่างเอาใจใส่ จากนั้นจึงเอ่ยด้วยความเอียงอาย “ชำระล้างเสร็จสิ้น ผู้กล้า เชิญท่านตามพวกเรามาเจ้าค่ะ!”
ห่างจากบ่อน้ำร้านไม่ไกลนักมีหออันวิจิตรอยู่หลังหนึ่ง เพิ่งเข้าประตูไปก็ได้ยินเสียงบานประตูที่อยู่ข้างหลังดังขึ้นมาเบาๆ สาวน้อยทูเจวี๋ยสองคนปิดประตูจากข้างนอกแล้ว
ภายในห้องแขวนผ้าโปร่งสีชมพูเต็มไปหมด กำลังโบกพลิ้วตามสายลมเบาๆ พัดผ่านแก้มเป็นระยะ อ่อนโยนเรียบลื่นราวกับมือน้อยของสตรี
ส่วนลึกของผ้าม่านปรากฏเตียงงาช้างอันกว้างใหญ่ให้เห็นอยู่รำไร ในความกระจ่างใสแฝงสีชมพูจางๆ ให้เห็น เปล่งประกายงดงาม วิจิตรบรรจง ราวกับดอกท้อซึ่งเบ่งบานเต็มที่ ผ้าห่มสีเหลืองทองสะอาดอ่อนนุ่ม กลิ่นหอมอ่อนๆ แผ่กำจายไปทั่ว บริเวณกึ่งกลางเตียงแขวนกระดิ่งอูฐสีทองขนาดกระจุ๋มกระจิ๋มไว้อันหนึ่ง มือเรียวยาวข้างหนึ่งค่อยๆ ยื่นไปอย่างแช่มช้า พร้อมดึงแกว่งไกวเบาๆ
“กร๊งกริ๊ง” “กรุ๊งกริ๊ง” เสียงกระดิ่งลมสดใสดังก้องไปทั้งห้องดอกท้อผลิบาน ค่อยๆ แทกรซึมเข้าสู่ใจคนดั่งบทเพลงอันไพเราะเสนาะหูที่สุดบทหนึ่ง
สตรีซึ่งนั่งอยู่กลางเตียงหันหน้ากลับมา ยิ้มให้เขาเล็กน้อยพร้อมเอ่ยว่า “เจ้าใบ้ เจ้ารู้จักข้าหรือไม่?!”