จอมใจจ้าวพิษ - ตอนที่ 126 ล้อเล่น / ตอนที่ 127 เทพมังกรถูกลักพาตัว
ตอนที่ 126 ล้อเล่น
ถังเฉียนอดหัวเราะไม่ได้เมื่อฟังที่หวังหลงพูด แต่ที่เขาพูดก็ถูก เทพมังกรท่านนี้ดูแปลกจริงๆ
นางให้หวังหลงไปเฝ้าอยู่ข้างๆ นางกรีดแขนตัวเอง ถ่ายเลือดให้เลือดไหลลงไปในหม้อทองคำ เทพมังกรได้กลิ่นคาวเลือดจึงรีบเลื้อยขึ้นมาดูดกินเลือดจากแขนถังเฉียนทันที
ถ้าเป็นก่อนหน้าที่นางจะฝึกไอทิพย์ คงทนไม่ไหวกับการถ่ายเลือดเช่นนี้ บัดนี้ยังพอฝืนทำได้ นางไม่รู้ว่าตนเองจะทำอะไรได้บ้างในพิธีอัญเชิญเทพ แต่นางกำลังทุ่มเทเต็มกำลัง
“อ้า…”
เทพมังกรดื่มเลือดจนพอแล้วจึงปล่อยถังเฉียน นางรู้สึกหน้ามืดจนเกือบเป็นลมล้มลง ยังดีที่หวังหลงซึ่งอยู่ด้านหลังรู้สภาพนางจึงยื่นมือมาประคองนางไว้ พยุงให้นั่งพักอยู่ข้างๆ ครู่หนึ่ง
แผลบนแขนถังเฉียนหายไปแล้ว นางหลับตาพักผ่อน ใช้ไอทิพย์เล็กน้อยในร่างโคจรรอบร่างกายหนึ่งรอบ พอทำเช่นนี้แล้วก็ฟื้นกลับมาเป็นปกติ
“ท่านหมอ ที่แท้ก็อาศัยเลือดท่านมาเลี้ยงเทพมังกร ท่านต้องระวังสุขภาพด้วย อย่าทุ่มเทชีวิตจนเกินไปเด็ดขาด”
หวังหลงนึกถึงที่นางยังเยาว์วัยมากก็รู้สึกสงสาร แค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง กลับต้องถ่ายเลือดที่นี่ทุกวัน ไม่เคยมาสายหรือพร่ำบ่นแม้แต่วันเดียว หรือนางไม่รู้สึกเจ็บปวด ไม่รู้สึกกลัวเลยหรือ
“ไม่เป็นไร ข้าเคยชินแล้ว ยังดีที่อาจารย์สอนวิธีที่จะฟื้นฟูได้เร็วขึ้น ไม่เช่นนั้นคงทนให้มันกินทุกวันอย่างนี้ไม่ไหวจริงๆ”
ถังเฉียนรู้สึกดีขึ้นบ้าง จึงลุกขึ้นปัดเสื้อผ้า แล้วยกฝาขึ้นปิดหม้อทองคำ มองดูเทพมังกรที่ขดตัวอยู่ในนั้น ยิ้มแล้วพูดว่า
“ท่านเทพ หงอนแดงของท่านมีสีแดงเข้มขึ้นเรื่อยๆ อาจารย์บอกว่ารอให้หงอนกลายเป็นสีม่วงแดงก็ถึงเวลาแล้ว ตอนนี้ใกล้แล้ว ท่านอดทนหน่อยนะ”
ถังเฉียนพูดปลอบแล้วปิดฝา งูมังกรตัวนี้ยาวเท่ากับแขนข้างหนึ่ง ใหญ่เท่าแขนผู้ชายเท่านั้น เถิงเสวี่ยบอกว่านี่เป็นลูกงูที่เกิดจากแม่งูมังกรในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เลือกลูกแห่งเทพมังกรที่แข็งแรงที่สุดมา เพราะมีเพียงลูกงูที่แข็งแรงที่สุดจึงจะใช้ทำพิธีบวงสรวงที่ยิ่งใหญ่นี้ได้
ถังเฉียนเหยียดเอวแหงนมองซ้ายขวา นางพูดกับหวังหลงว่า
“ถ้ามันอยู่ในนั้นไม่เชื่อฟัง เจ้าก็ร้องเพลงให้มันฟัง มันคิดถึงแม่ ร้องให้อ่อนโยนหน่อย”
พอหวังหลงได้ฟัง ควงตาที่โตก็เบิ่งกว้าง แล้วพูดว่า
“ข้าเป็นคนนิสัยหยาบกร้านเช่นนี้ จะร้องเพลงเป็นได้อย่างไร ท่านหมอ อย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย ให้พวกเราเฝ้ายามก็พอจะไหว เดินทัพสู้รบก็ยังได้ แต่เรื่องร้องเพลง ทำไม่ได้ ทำไม่ได้จริงๆ…”
ถังเฉียนพยักหน้า นางไม่ฝืนใจ เพียงแต่ถอนหายใจแล้วพูดว่า
“ถ้าเจ้าร้องเพลงไม่เป็นก็ไม่เป็นไร ถ้ากลางคืนมันเลื้อยออกมาขดรอบตัวเจ้า เจ้าพยายามอย่าหายใจ อย่าใจเต้น ไม่อย่างนั้นมันจะเข้าใจว่าเจ้าไม่ใช่แม่ของมัน คิดว่าเจ้าเป็นอาหารแล้วก็จะกลืนเจ้าลงไป”
หวังหลงหน้าซีดเผือดทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ แล้วขยับยืนห่างจากหม้อทองคำใบนั้น ถังเฉียนเห็นท่าทางหวาดกลัวของเขาก็หัวเราะ
“เจ้าเชื่อที่ข้าพูดหรือ ฮ่าฮ่า ข้าล้อเจ้าเล่นต่างหาก”
หวังหลงเพิ่งถอนหายใจ เทพมังกรก็แลบลิ้นแปลบๆ เสียงดังซู่ๆ ทำให้หวังหลงตกใจจนเสียวสันหลัง
ฮ่าฮ่าฮ่า…
ถังเฉียนหัวเราะอย่างสบายใจ ห่างออกไปมีคนเฝ้ามองนางอยู่ น้อยมากที่จะได้ยินเสียงหัวเราะใสราวกับเสียงระฆังเช่นนี้ของนาง บางทีคนที่ซ่อนอยู่ในที่มืดก็ไม่รู้ว่าที่แท้เสียงหัวเราะของนางเป็นเช่นนี้
“เทพมังกรเลื้อยออกมาแล้ว!”
ตอนที่ 127 เทพมังกรถูกลักพาตัว
ถังเฉียนยังคงสนุกอยู่กับการล้อเล่นเมื่อครู่ แต่ถัดมาสีหน้าหวังหลงก็ตื่นตระหนกทันที เพราะเทพมังกรซึ่งที่ผ่านมาทำตัวดี ได้เลื้อยออกมาแล้ว ถังเฉียนรู้สึกว่าที่ด้านหลังของตนมีเสียงขลุ่ยที่เร็วมากดังแว่วมา นางจึงรีบหันไปมอง
ขณะนั้นเองเทพมังกรก็ชูหัวสีแดงออกมาจากหม้อทองคำ ดวงตาเรียวยาวจ้องมองรอบๆ ด้วยความระแวดระวัง แลบลิ้นแปล่บๆ แล้วเลื้อยออกมา เลื้อยคืบคลานไปตามผนังศิลาเข้าไปในพงหญ้า ถังเฉียนฟังเสียงขลุ่ยเป่าเป็นเพลงแล้วหันไปมองดูเทพมังกร นางยกฝาปิดออก ในนั้นไม่มีร่างเทพมังกรแล้ว
“เร็ว เทพมังกรถูกคนลักตัวไปแล้ว เจ้ารีบไปบอกอาจารย์ ข้าจะตามมันไป!”
ถังเฉียนปล่อยเสี่ยวจินออกมา คราวนี้เสี่ยวจินร่วมมือเป็นอย่างดี มันแปลงร่างเป็นเหมือนหิ่งห้อยทันที บินออกไปพร้อมกับหางที่ส่องสว่าง เทพมังกรเลื้อยไปเร็วมาก ถังเฉียนไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว นางมองตามเสี่ยวจินมุ่งหน้าไปที่เรือนเซียงหานของซูซินเหลียน
“เหตุใดถึงเป็นซูซินเหลียน”
เสียงขลุ่ยไพเราะนั้นดังมาจากเรือนเซียงหาน ถังเฉียนยิ่งรู้สึกมากขึ้นว่าเสียงแสบแก้วหู นางมาถึงหน้าประตูใหญ่เรือนเซียงหาน รู้สึกว่าทรวงอกราวกับถูกกดทับ หายใจลำบาก ปวดหูมาก
“อะไรกันนี่ เสี่ยวจิน เสี่ยวจิน…”
ถังเฉียนก้าวเข้ามาในเรือนเซียงหาน แต่ตัวนางทนไม่ไหวกับความรู้สึกหายใจไม่ออก แล้วล้มลงในห้องเล็กด้านข้าง ประตูใหญ่เรือนเซียงหานปิดเข้าหากันดังปัง
มีคนเดินเข้ามาจากทั้งซ้ายและขวา ตรงเข้ามาหมายจะดึงตัวถังเฉียนขึ้น แต่เสี่ยวจินไม่ยอมให้ใครรังแกได้ง่ายๆ มันทะลวงทรวงอกของคนทั้งสองเป็นรูโบ๋ ถังเฉียนช่วงชิงโอกาส ใช้ผ้าเช็ดหน้าอุดหูตัวเอง แล้วตะเกียกตะกายลุกขึ้นนั่งพิงเสาประตูสีแดง
“ข้าเป็นอะไรไป”
ขณะที่ถังเฉียนไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี ก็นั่งขัดสมาธิโคจรไอทิพย์ในตัวพยายามต้านทานการโจมตีจากเสียงขลุ่ย เมื่อนางรู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้างแล้ว จึงอาศัยไอทิพย์หยัดตัวขึ้น เห็นเสี่ยวจินขวางอยู่ข้างหน้านาง ท่าทางดุร้าย เผชิญหน้ากับหญิงในชุดดำทั้งตัว
“ซูซินเหลียน ทำไมเจ้าจึงกลายเป็นเช่นนี้”
ถังเฉียนมองหญิงตรงหน้า ใบหน้าขาวซีด ดวงตาสองข้าง จมูกและปากมีเลือดไหลออกมา นางเป็นเหมือนนางปีศาจที่เป่าขลุ่ยทำนองเดิมซ้ำไปซ้ำมา ถังเฉียนอยู่ห่างจากนางราวสิบเมตร แต่ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าแม้แต่ครึ่งก้าว แล้วเห็นว่าพอซูซินเหลียนหยุดเป่าขลุ่ยก็จะมีเลือดไหลออกมา ร่างนางเหมือนจะยิ่งอ่อนแอลง ส่วนเทพมังกรอยู่ตรงหน้านางนั่นเอง
ถังเฉียนตะโกนบอก
“ซูซินเหลียน เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ถ้าท่านอ๋องรู้ จะไม่ปล่อยเจ้าไว้ รีบหยุดเสีย!”
ถังเฉียนเห็นเสี่ยวจินดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ นางจึงร้องสั่งในใจว่า
“เสี่ยวจิน ช่วยหน่อยนะ ช่วยยับยั้งนางด้วย นางกำลังเรียกอะไรมาแน่ๆ…”
ถังเฉียนเพิ่งคิดถึงตรงนี้ก็ได้ยินเสียงนกอินทรีดังมาแต่ไกล แล้วเห็นเงาดำพุ่งทะยานมาทางเทพมังกร ถังเฉียนร้อนใจมาก แต่นางไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ จึงฟันกระบี่ในมือออกไปตรงๆ ฟาดถูกกลางหัวอินทรีดำ มันเจ็บปวด แต่มันบินขึ้นอีกครั้ง คราวนี้พุ่งเป้ามาที่ถังเฉียน ตรงดิ่งลงมาหานาง
ถังเฉียนล้มตัวนอนลงไปด้านหลังเพื่อหลบ แล้วใช้มือยันตัวลุกขึ้นอย่างยากเย็น อินทรีดำตัวนั้นบินโฉบไปแล้วย้อนกลับมา ถังเฉียนทำได้เพียงวิ่งหนีไปตามสองข้างของโถงทางเดิน
“ช่วยด้วย!”