จอมใจจ้าวพิษ - ตอนที่ 178 เสี่ยวจินโกรธเกรี้ยว / ตอนที่ 179 ปรับตำแหน่ง
ตอนที่ 178 เสี่ยวจินโกรธเกรี้ยว
เจิ้งจยาเฉิงถือมีดสั้นคอยขู่ถังเฉียน แต่แล้วจู่ๆ ก็เจ็บที่มืออย่างรุนแรง เขาพลิกข้อมือ เห็นแมลงสีทองตัวหนึ่งกัดเข้าไปกลางฝ่ามือจนเป็นรูโบ๋
เค่ออี้ดึงตัวถังเฉียนออกมา อีกสามคนใช้ด้ายแดงมัดตัวเจิ้งจยาเฉิงที่บาดเจ็บไว้ คาดไม่ถึงว่าคนเหล่านี้จะประสานกันได้ดีเช่นนี้ เสี่ยวจินที่ไม่ได้แสดงฝีมือมานานแล้ว มันออกมาอาละวาดอีกครั้ง ตีปีกอยู่ตรงหน้าถังเฉียน ท่าทางน่าเกรงขาม
“พวกเจ้าลอบทำร้ายข้า ไม่ใช่วีรบุรุษ!”
ฮว่าเหยียนโกรธ เตะใส่เจิ้งจยาเฉิง
“เจ้าจับอาหรูน่า ก็ถือว่าไม่ใช่ลูกผู้ชาย หรือเจ้าอยากตอนตัวเองเสีย”
ถังเฉียนคลำที่คอ แผลที่คอเจ็บเพียงเล็กน้อย นางใช้นิ้วมือป้ายเลือดที่คอ เป็นจุดที่อยู่ใกล้หัวใจมากกว่ามือ ในเมื่อมีเลือดไหลก็อย่าให้เสียเปล่า นางป้ายเลือดลงบนริมฝีปากฉู่จิ่งเหยา เพียงชั่วพริบตาสีแดงคล้ำบนริมฝีปากเขาก็จางหายไป
จากนั้นก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น ใบหน้าฉู่จิ่งเหยาค่อยๆ มีเลือดฝาด เมื่อถังเฉียนหันมา เขาก็ลืมตาขึ้นแล้ว
“เลือดข้ามีผลต่อท่านอ๋อง”
นางเพิ่งพูดจบ ฉู่จิ่งเหยาก็ลุกขึ้นนั่งได้แล้ว เขาก้มมองซูซิน เชิดมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดว่า
“หญิงผู้นี้จิตใจอำมหิตมาก ข้าอุตส่าห์ไว้ใจนางครั้งหนึ่ง แต่นางกลับตอบแทนความไว้วางใจของข้าเช่นนี้”
ถังเฉียนเห็นฉู่จิ่งเหยาฟื้นก็ดีใจมาก แต่เสี่ยวจินบินไปทันที ตรงมาที่มือฉู่จิ่งเหยา ทำท่าเหมือนจะกัดให้เป็นรู ฉู่จิ่งเหยาไม่ใส่ใจ ยื่นมือออกไปกำเสี่ยวจินไว้ แต่เสี่ยวจินกลับไม่ดิ้นหนีออกมา
เดิมถังเฉียนกลัวว่าเสี่ยวจินจะทำร้ายฉู่จิ่งเหยา แต่เมื่อมองดูก็พบว่าเสี่ยวจินตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“เสี่ยวจินเอ๋ย จะอย่างไรเจ้าก็เป็นแค่แมลง ไม่รู้ถึงความเจ้าเล่ห์ของคนหรอก”
ฉู่จิ่งเหยากางฝ่ามือออก ในนั้นมีกล่องหยกใบหนึ่ง นั่นคือกล่องหยกเวินเซียงหน่วนซึ่งใช้ลงโทษเสี่ยวจิน ในนั้นยังใส่ใบไม้หยกซึ่งมันชอบไว้ ถังเฉียนคิดไม่ถึงว่าฉู่จิ่งเหยาจะเข้าใจเสี่ยวจินละเอียดถึงเพียงนี้
ถังเฉียนรับกล่องหยกจากมือท่านอ๋อง ค่อยๆ เปิดออก พบว่าเสี่ยวจินกำลังพยายามกินใบไม้หยกในนั้น ช่างไม่เอาไหนเสียเลย ถังเฉียนปิดกล่องด้วยความโมโห แสดงว่าจะขังมันไว้ในนั้น
ซูซินมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด นางกรอกตาแล้วพูดว่า
“ท่านอ๋อง ท่านน่าจะเข้าใจดี ที่ต้องการสังหารท่าน ไม่ใช่ข้า แต่เป็นคนที่อยู่เหนือข้าขึ้นไป เพราะฉะนั้นท่านอ๋องคงไม่กล้าทำอะไรข้าจริงหรือไม่”
ฉู่จิงเหยาฟังที่นางพูดก็พยักหน้าเล็กน้อย แล้วบอกว่า
“เท่ากับเจ้ายอมรับว่าตนเองคือซูซินเหลียน เป็นกุ้ยเฟยหรือท่านมหาเสนาบดีที่ส่งเจ้ามาสังหารข้า”
มีรอยยิ้มอย่างดูแคลนผุดขึ้นบนใบหน้าซูซินเหลียน จากนั้นจึงพูดว่า
“กุ้ยเฟย มหาเสนาบดี ท่านอ๋องคิดเองเถอะ จะอย่างไรชนะเป็นเจ้าแพ้เป็นโจร หากท่านไม่ชอบข้าก็ปล่อยข้าไปเถอะ แผ่นดินนี้กว้างใหญ่ไพศาลนัก เหตุใดเราต้องสร้างความลำบากให้กันด้วย ท่านไปหาหญิงงามของท่าน ข้าไปหาผู้ชายของข้า เราไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ไม่ดีหรือ”
ฉู่จิ่งเหยาฟังที่นางพูดก็พยักหน้า
“อย่างนั้นเจ้าก็กลับบ้านไปเสีย ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก”
ฉู่จิ่งเหยาโบกมือ ซูซินเหลียนถูกคุมตัวออกไป เขาเงยหน้าขึ้นมองถังเฉียน นางยืนอยู่ข้างฮว่าเหยียน นางลูบแขนเสื้อถังเฉียนเบาๆ แม้จะไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่อยู่กันนานเข้าย่อมเข้าใจความคิดนาง
“คนเขาคิดจะเอาชีวิตเจ้า เจ้าก็ยังช่วยเขา ไม่เคยเห็นเด็กที่โง่เช่นเจ้าเลย หึ ข้าไม่ยุ่งด้วยแล้ว!”
ตอนที่ 179 ปรับตำแหน่ง
ถังเฉียนไม่ได้นำไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองมาด้วยและไม่มีแมลงปีศาจสีดำชนิดนี้ จึงต้องขอร้องฮว่าเหยียนช่วยเย็บแผลที่ฝ่ามือเจิ้งจยาเฉิง ฮว่าเหยียนเหลือบมองฉู่จิ่งเหยาอย่างเย็นชา แต่ไม่มองเจิ้งจยาเฉิงเลยแม้แต้น้อย
ฉู่จิ่งเหยารู้ว่านี่เป็นการให้ตนแสดงท่าที จึงยืนขึ้นค้อมคารวะแล้วพูดว่า
“อาหรูน่าช่วยชีวิตข้าอีกครั้ง ถือเป็นผู้มีพระคุณของข้า นับจากวันนี้ไป อาหรูน่าจะเป็นแขกคนสำคัญของจวนจินซิวอ๋องตลอดไป ป้ายคำสั่งอันนี้ เสมือนข้ามาด้วยตนเอง นับจากนี้ไป เห็นป้ายคำสั่งนี้เท่ากับเห็นข้า”
ฮว่าเหยียนได้ฟังเช่นนี้ก็ยังไม่พอใจ นางพูดอย่างเย็นชาว่า
“ก็แค่ให้รางวัลตามที่สมควรให้ ชีวิตท่านอ๋องมีค่าเท่านี้เอง แต่ทำผิดก็สมควรถูกลงโทษ ไม่เช่นนั้นคนระดับล่างจะไม่มีวันรู้จักที่ต่ำที่สูง อาหรูน่าเรามีชาติกำเนิดสูงส่ง วันหน้าจะเป็นฮูหยิน จะปล่อยให้เขาลบหลู่เช่นนี้ได้หรือ”
พอฮว่าเหยียนพูดเช่นนี้ ฉู่จิ่งเหยาจึงไม่อาจปกป้องเจิ้งจยาเฉิงได้ต่อไป ครั้งนี้เขาทำเกินเหตุจริง บาดแผลบนคอถังเฉียนยังอยู่ หากไปถึงเขาศักดิ์สิทธิ์ตนย่อมไม่สามารถอธิบายได้
“นับจากวันนี้ให้ลดตำแหน่งเจิ้งจยาเฉิงลงเป็นองครักษ์ซ้าย ตัดเบี้ยหวัดครึ่งปี เห็นแก่ที่เจ้าได้รับบาดเจ็บแล้ว ให้งดโบยตามวินัยทหาร หากทำผิดอีกก็ไม่ต้องมารับใช้ข้างกายข้าอีกแล้ว”
เจิ้งจยาเฉิงไม่มีคำพูดแสดงความน้อยใจต่อการลงโทษครั้งนี้ เขาก้มมองมือตัวเอง ค้อมคารวะแล้วพูดว่า
“เรียนท่านอ๋อง ผู้น้อยลดตำแหน่งได้ แต่จะขาดผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์ไม่ได้ ผู้น้อยคิดว่าหวังหลงทำหน้าที่นี้ได้พ่ะย่ะค่ะ”
ฉู่จิ่งเหยาพยักหน้าแล้วว่า
“ให้หวังลงคงตำแหน่งเดิมควบหน้าที่ผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์ พวกเจ้าไปได้แล้ว”
หมอหลวงจางจัดยาบำรุงร่างกายให้ฉู่จิ่งเหยา เขาจำต้องยอมรับว่าเลือดของถังเฉียนมีผลที่น่าอัศจรรย์ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าสำหรับฮว่าเหยียนและถังเฉียนแล้วที่เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างคาดไม่ถึง
“อืม แมลงสีดำตัวหนึ่งแลกเลือดเจ้าหยดหนึ่ง”
ฮว่าเหยียนกระซิบพูดกับถังเฉียน นางรู้สึกว่าไม่มีอะไรจึงพยักหน้าตกลง แล้วเอาแมลงปีศาจสีดำวางลงบนมือเจิ้งจยาเฉิง นางไม่รู้สึกอะไรต่อสายตาที่ไม่รู้สึกสำนึกในบุญคุณของเขา
เมื่อกลับมาที่ห้องหลังจากจัดการทุกอย่างแล้ว ฮว่าเหยียนก็ซักไซ้ทันที
“เจ้ายังบอกว่าเลือดเจ้าเป็นเลือดแห่งราชาโอสถเพียงครึ่งเดียว ความมหัศจรรย์เช่นนี้มีแต่เลือดแห่งราชาโอสถในตำนานเท่านั้นที่ทำได้ เจ้าโกหก”
ถังเฉียนห้ามฮว่าเหยียนที่เตรียมจะเล่นงานนาง แล้วบอกว่า
“ราชาโอสถเคยบอกว่าเลือดข้ามีภูมิต้านทานต่อพิษอย่างสมบูรณ์ แต่ผลต่อโรคต่างๆ ไม่ชัดเจน”
ฮว่าเหยียนพยักหน้าแล้วพูดว่า
“ตอนเป็นเด็กเจ้ากินยาพิษไปไม่น้อย ยังแช่ในยาพิษด้วยใช่หรือไม่”
ถังเฉียนถอนหายใจแล้วพูดว่า
“ร่างกายข้ามีความพิเศษมาตั้งแต่กำเนิด มีภูมิคุ้มกันต่อพิษค่อนข้างแรง ราชาโอสถพบเห็นจุดพิเศษนี้จึงพาตัวข้าไป”
ใบหน้าฮว่าเหยียนซ่อนอยู่หลังหน้ากาก จึงมองไม่เห็นอารมณ์ความรู้สึกของนาง นางเพียงแต่เอาเลือดหนึ่งหยดจากถังเฉียนแล้วจากไป ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก เรื่องเดียวที่ถังเฉียนแปลกใจก็คือตัวนางไม่ไวต่อยาพิษ หรืออาจพูดได้ว่าไม่รู้สึกเลย แต่เหตุใดนางจึงหมดสติ
พอนางคิดถึงตรงนี้ก็ไปหาถังเวยทันที เดิมนางไม่เข้าใจว่าแววตาของถังเวยหมายถึงอะไร แต่ขณะนี้เข้าใจชัดแล้ว เกรงว่านางคงจะเห็นทุกอย่างที่ซูซินเหลียนทำ
ซูซินเหลียนเป็นอะไรกันแน่
นางแปลกใจ ความแปลกประหลาดนี้เหนือกว่าที่นางคาดคิด เวลานี้ซูซินเหลียนโหดเ**้ยมอำมหิต แม้ท่านอ๋องจะบอกว่าจะไม่ให้นางอยู่ต่อไป แต่ถังเฉียนก็ยังอยากทำให้เรื่องนี้กระจ่าง