จอมใจจ้าวพิษ - ตอนที่ 188 เถิงเฟิงออกมาแล้ว / ตอนที่ 189 ตรวจสอบ
ตอนที่ 188 เถิงเฟิงออกมาแล้ว
ฮว่าเหยียนถอนเข็มทองคำออก เค่อหมิงยังคงถูกพวกเขาคุมตัวไว้ เถิงเจินไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาใช้วิชาตรวจสอบวิญญาณกับเค่อหมิงทันที หลังจากเถิงเจินมองดูแล้ว ก็ใช้ฝ่ามือฟาดลงไปบนศีรษะเขาทันที กะโหลกแตกกระจาย กลิ่นเลือดคละคลุ้งน่าสะอิดสะเอียน
“โยนศพลงเขาไป ลบชื่อออกจากป้ายศิลา เขาศึกษาวิชาเงาผีของนิกายเทพมังกรจริง คนทรยศเช่นนี้ไม่ควรมีชีวิตต่อไป”
ฮว่าเหยียนรีบถาม
“เขาทำร้ายอาหรูน่าใช่หรือไม่ ผู้สมรู้ร่วมคิดเป็นใครกันแน่”
เถิงเจินบอกให้นางอย่าเพิ่งวู่วาม ระฆังลายมังกรบนเขาศักดิ์สิทธิ์ดังขึ้นสามครั้ง อิ๋นซานพูดด้วยความดีใจ
“เฟิงเอ๋อร์จะออกจากเขตหวงห้ามแล้ว”
เถิงเจินพยักหน้าพลางพูดว่า
“แม่อาหรูน่า วางใจเถอะ ข้าจะคืนความเป็นธรรมให้พวกเจ้า จะไม่ปล่อยคนผู้นี้ไปได้เด็ดขาด แต่เจ้านี่จะระเบิดวิญญาณ พวกเราล้วนมิอาจรับได้ ในเมื่อรู้ว่าเป็นใครแล้ว เขาไม่เสียดายชีวิตหรอก”
แม้ฮว่าเหยียนจะรู้สึกว่าเถิงเจินพูดบ่ายเบี่ยง แต่สำหรับเรื่องนี้นั้น เมื่อคนตายไปแล้ว หากนางยังดึงดันคงจะไม่เหมาะ จึงต้องทำใจยอมรับ เวลานี้เถิงเฟิงจะออกจากเขตหวงห้ามแล้ว นางเชื่อว่าหากเถิงเฟิงอยู่ จะต้องช่วยถังเฉียนให้รอดชีวิตได้เป็นแน่
เรื่องวุ่นวายในค่ำคืนนี้จึงยุติลงเพียงเท่านี้ ฮว่าเหยียนกลับมาที่ห้องของตน ท้องฟ้าเริ่มสลัวแล้ว ส่วนเถิงเจินพาคนออกไปจากเรือนหลังนี้ แล้วให้คนสนิทไปตามคนผู้หนึ่งมาทันที อิ๋นซานแปลกใจเมื่อเห็นหญิงที่เข้ามา แล้วจึงรู้ว่าเหตุใดเถิงเจินจึงขอให้นางอยู่ก่อน
“หงหลิงเอ๋อร์ เจ้าอาศัยบนเขาศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่เล็ก คงจะรู้วิชาตรวจสอบวิญญาณของเผ่าเรา วันนี้ข้ากุมวิญญาณของเค่อหมิงด้วยตัวข้าเอง เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเห็นสิ่งใด”
ก่อนมาหงหลิงเอ๋อร์รู้ข่าวว่าพวกเขาจับเค่อหมิงได้แล้ว รู้แล้วว่าตนเองถูกเปิดเผย ระหว่างทางนางเฝ้าครุ่นคิดว่าจะรับมืออย่างไรดี
“ท่านลุง ท่านเห็นหลิงเอ๋อร์โตขึ้นตั้งแต่เล็ก ข้าเองไม่ใช่คนที่โหดเ**้ยมอำมหิต แต่อาหรูน่าไม่ใช่ง่ายๆ อย่างที่พวกท่านคิด นางเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก ไม่คู่ควรเป็นฮูหยินแม้แต่น้อย ไม่คู่ควรกับเขาศักดิ์สิทธิ์”
อิ๋นซานได้ฟังเช่นนั้นก็สนใจ นางคุ้นเคยกับหงหลิงเอ๋อร์ดี คิดว่านางไม่ใช่เด็กสาวที่พูดจาเหลวไหล จึงเอ่ยถาม
“อาหรูน่ากับเจ้าต่างเป็นศิษย์ท่านป้า เป็นความจริงที่พรสวรรค์นางอาจจะด้อย แต่เฟิงเอ๋อร์บอกว่านางเป็นหญิงที่จิตใจดีงาม เราเลือกสะใภ้ไม่ใช่เลือกผู้อาวุโสเผ่า ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่สูงส่ง สรุปแล้วที่สำคัญที่สุดคือขอเพียงเฟิงเอ๋อร์ชอบ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร การพูดให้ร้ายคนลับหลังย่อมไม่ถูกต้อง”
หงหลิงเอ๋อร์ร้องหึ แล้วพูดว่า
“ท่านป้าอิ๋น ท่านไม่รู้หรอกว่าอาหรูน่าคนนี้ทำท่าตัวน่าสงสาร แต่ที่จริงแล้วเป็นหญิงหลายใจ เจ้าเล่ห์ นางแอบมีความสัมพันธ์กับจินซิวอ๋องนานแล้ว เหตุใดท่านจึงยอมให้ผู้หญิงที่ด่างพร้อยมาเป็นฮูหยินของเถิงเฟิง ที่ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อเถิงเฟิง ข้าโตมากับเขาตั้งแต่เล็ก ไม่อาจนิ่งดูดายให้เขาถูกหลอกได้”
เสียงหงหลิงเอ๋อร์ดังขึ้นทุกที ประตูถูกผลักเปิดออกดังโครม เถิงเฟิงยืนอยู่ที่หน้าประตู มองหงหลิงเอ๋อร์ด้วยสายตาแข็งกร้าว
“เจ้าบอกว่านางเป็นคนหลายใจ มีหลักฐานหรือ? หงหลิงเอ๋อร์ อาหรูน่าเป็นเมียที่ยังไม่ได้แต่งของข้า ห้ามไม่ให้เจ้าลบหลู่นางตามใจชอบ อย่าอ้างเด็ดขาดว่าเจ้าเป็นเพื่อนข้าแล้วจะทำเช่นนี้ได้”
มีรังสีอำมหิตแผ่ซ่านออกมาจากร่างเถิงเฟิง หงหลิงเอ๋อร์คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาจากด้านหลังเขาได้เร็วเช่นนี้ นางมองอิ๋นซานแว่บหนึ่ง แล้วพูดเสียงแข็ง
“นางเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ให้คนไปตรวจสอบก็จะรู้ อีกอย่างเรื่องนี้ไม่ใช่ข้าพูด เป็นคำพูดของชายารองของจินซิวอ๋อง อาหรูน่าของเจ้าอยู่กับฉู่จิ่งเหยาเพียงสองคนในห้องหนังสือเป็นเวลานาน หลังจากออกมาก็จะเปลี่ยนเสื้อผ้า หากถ้าไม่ใช่เรื่องชู้สาว แล้วพวกเขาทำสิ่งใดกัน”
ตอนที่ 189 ตรวจสอบ
เถิงเฟิงได้ยินเช่นนี้ก็โกรธมาก
“เจ้าพูดเหลวไหล! อาหรูน่าไม่ใช่คนเช่นนั้น”
เมื่อหงหลิงเอ๋อร์พูดเช่นนี้แล้วก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอีกแล้ว สู้พูดให้ชัดเจนไปเลยจะดีกว่า
“ข้าพูดเหลวไหล เจ้าลองจับคนในจวนจินซิวอ๋องมาสักคน แล้วใช้วิชาตรวจสอบวิญญาณ ดูว่าที่ข้าพูดจริงหรือไม่ หรือเจ้าใช้วิธีกุมวิญญาณกับอาหรูน่าก็ย่อมได้ ดูว่านางยังเป็นสาวบริสุทธิ์หรือไม่ ทรยศเจ้าหรือไม่”
“พอแล้ว!”
เถิงเจินฟังจนรู้สึกปวดหัว ห้ามไม่ให้สองคนเถียงกันต่อ แล้วจึงพูดอย่างสงบนิ่งว่า
“คนของจวนจินซิวอ๋องล้วนเป็นแขก เผ่าพีส่าไม่มีธรรมเนียมในการทำร้ายแขก ทั้งอาหรูน่ายังเป็นคนที่เถิงเฟิงเลือกแล้ว เราย่อมไม่สงสัยในความบริสุทธิ์ของนาง ดังนั้นเรื่องนี้รอให้อาหรูน่าฟื้นเสียก่อน แล้วให้พวกเขาจัดการกันเอง”
หงหลิงเอ๋อร์เม้มริมฝีปากแน่น ทั้งสองจ้องมองฝ่ายตรงข้ามด้วยความเคียดแค้น อิ๋นซานเห็นท่าทีของคนทั้งสองก็ถอนหายใจ แล้วพูดปลอบอย่างอ่อนโยนว่า
“ไม่ว่านางจะเป็นอย่างไร หลิงเอ๋อร์ เจ้าไม่ควรลงมืออย่างโหดเ**้ยมเช่นนี้ เวลานี้แม่ของนางก็อยู่ที่นี่ เด็กคนนี้เผชิญความทุกข์ยากไม่น้อย คืนนี้ที่เรียกเจ้ามาไม่ใช่เพื่อตำหนิ แต่เราหวังว่าเจ้าเองคงมีความลำบากใจ เวลานี้ไม่ว่าจะอย่างไร เจ้าต้องปล่อยวิญญาณอาหรูน่าก่อน เรื่องอื่นเราค่อยว่ากันทีหลัง”
อิ๋นซานพูดเรื่องสำคัญ ทั้งสี่คนในที่นี้หงหลิงเอ๋อร์ช่างโดดเดี่ยวเดียวดาย แต่นางไม่กลัว ตั้งแต่เล็กนางก็คือเจ้าหญิงที่หยิ่งยโสที่สุดบนเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ หงหลิงเอ๋อร์พูดเสียงแข็ง
“พวกท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดอาจารย์ข้าจึงยังไม่มา แม้จะบอกว่าท่านงานยุ่งก็เถอะ แต่ที่สำคัญเป็นเพราะท่านกลัวเสียงครหา เราหมอผีศักดิ์สิทธิ์ล้วนบริสุทธิ์และสูงส่งที่สุด อาหรูน่าทำให้หมอผีศักดิ์สิทธิ์เสื่อมเสียจะต้องถูกขับออก เวลานี้ข้ากำลังทำตามกฎสำนัก ตอนนี้ถ้านางตายซะก็สิ้นเรื่องไป แต่ถ้าเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป พวกท่านไม่กลัวเสียหน้าก็แล้วไป แต่จะพลอยทำให้อาจารย์เสื่อมเสียชื่อเสียง”
“เจ้า!”
เถิงเฟิงถูกนางยั่วโมโหอย่างรุนแรง จนอยากบีบคอนางให้ตายคามือ แต่พอเถิงเจินได้ฟังเช่นนี้ก็เริ่มกังวล หากเรื่องนี้เป็นความจริง ที่หงหลิงเอ๋อร์ทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด
“เจ้ากลับไปก่อน เรื่องนี้รอให้เราปรึกษากันก่อนแล้วค่อยตัดสิน”
เถิงเฟิงคาดไม่ถึงว่าบิดาจะพูดเช่นนี้ เขาตกตะลึง ยืนมองบิดาด้วยแววตาครุ่นคิด
“ท่านพ่อ อาหรูน่าไม่ใช่คนเช่นนั้นเด็ดขาด ท่านอย่าเชื่อที่หงหลิงเอ๋อร์พูดจาเหลวไหล สองคนนี้เดิมมีความแค้นต่อกันอยู่ก่อน”
เถิงเจินยื่นมือออกไปห้ามไม่ให้เถิงเฟิงพูดต่อ สิ่งที่เถิงเฟิงจะพูดนั้นเขารู้อยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนออกมา เพราะเขาต้องการสยบหงหลิงเอ๋อร์ไว้ชั่วคราวก่อน
“เจ้าไม่รู้หรือว่าหงหลิงเอ๋อร์มีนิสัยใจคอเช่นไร เจ้าทำได้แค่ฆ่านาง แต่สามารถปิดปากนางได้หรือ คำพูดของคนเป็นสิ่งที่น่ากลัว ถ้าเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป มีแต่จะทำให้ฐานะอาหรูน่าที่เขาศักดิ์สิทธิ์ดิ่งลงเหว ยังส่งผลกระทบต่อเจ้า ดังนั้น…”
เถิงเฟิงจ้องมิดาไม่วางตา เขากลัวว่าบิดาจะพูดในสิ่งที่เขาไม่อาจรับได้ เถิงเจินโบกมือบอกให้เขากลับไปก่อน เขายังไม่ได้คิดให้ดี เรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด
อิ๋นซานมองเห็นความลำบากใจของสามี นางจึงเกลี้ยกล่อมให้เถิงฟังกลับไปก่อน ทั้งคู่อยู่ต่อ สีหน้าทุกข์ร้อน
“เรื่องนี้จำเป็นต้องให้จินซิวอ๋องยืนยันความบริสุทธิ์ต่อหน้าหรือไม่ เรากับเขามีความสัมพันธ์ที่นับว่าไม่เลวเลย ท่านทวดเคยพูดใช่ไหมว่าคนคนนี้เป็นคนซื่อตรง ส่วนเด็กอย่างอาหรูน่าก็ดูไม่เหมือนเด็กเลว อย่าให้เรื่องนี้ทำให้นางต้องเสื่อมเสีย”
ถิงเจินพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม แต่ดวงตายังคงฉายแววลังเล
เถิงเฟิงไม่ได้กลับไปที่ห้องตน แต่รีบไปเยี่ยมถังเฉียนทันที พอเขาเข้ามาในห้องก็ใช้นิ้วเคาะหน้าผากนางทันที แต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้นางไม่ได้ยกมือขึ้นกุมหัวแล้วหันกลับมาตอบโต้เขา และไม่ได้ร้องโอยออกมา นางเพียงแต่หลับตาอย่างสงบนิ่ง เหมือนนอนหลับ
“แม่จอมยุ่ง เตือนเจ้าแล้วว่าให้คอยระวังตัว จนแล้วจนรอดก็ไม่รู้จักดูแลตัวเอง อยู่ในฝันยังสุขสบายดีหรือไม่”
เถิงเฟิงมาอยู่ข้างกายนาง กุมมือถังเฉียนไว้ แล้วเข้าสู่โลกแห่งวิญญาณที่นางอยู่