จอมใจจ้าวพิษ - ตอนที่ 208 พูดได้น่าฟัง / ตอนที่ 209 ลงมาจากฟ้า
ตอนที่ 208 พูดได้น่าฟัง
หงหลิงเอ๋อร์ยืนอยู่บนแท่นสูง มองเห็นถังเฉียนสวมชุดดำในกลุ่มคนแล้ว นางจึงจงใจพูดท้าทาย จุดมุ่งหมายนั้นชัดแจ้งโดยไม่ต้องบอก
“หงหลิงเอ๋อร์เจ้าจะทำสิ่งใด ข้าไม่เคยบอกว่าจะฆ่านาง รีบปล่อยนางไปเสีย นางเป็นเพียงผู้ป่วยที่บริสุทธิ์ นางเป็นคนของจวนจินซิวอ๋อง เจ้ามีสิทธิอะไรจะมาฆ่านาง”
หงหลิงเอ๋อร์ได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะเสียงดัง สายตาเปี่ยมไปด้วยการดูแคลนและเย้ยหยัน ทิ่มแทงหัวใจถังเฉียนจนปวดร้าว ชีวิตของพวกนางช่างไร้ค่าในสายตาหงหลิงเอ๋อร์เช่นนั้นหรือ
“บริสุทธิ์ ช่างพูดได้ง่ายดายจริงนะ หากบอกว่านางเป็นผู้บริสุทธิ์ ถ้าเช่นนั้นคนบนโลกนี้ก็ล้วนไม่สมควรตาย”
ถังเฉียนฟังที่นางพูดแล้วแปลกใจมาก ชีวิตนั้นมีค่ามาก เหตุใดจึงสมควรตาย
“แม้โลกนี้ทุกคนจะไม่เท่าเทียมกัน แต่ทุกชีวิตควรได้รับการเคารพ ฮุ่ยฮุ่ยเป็นเด็กที่น่าสงสาร พ่อแม่ละญาติทุกคนถูกนิกายเทพมังกรสังหารหมด เพราะเหตุนี้จิตใจจึงได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ทำให้นางพูดจาสับสน ถูกคนหลอกใช้ นี่ไม่ใช่ความผิดของนาง แต่เป็นความผิดของนิกายเทพมังกร หากเจ้าฆ่านาง เท่ากับช่วยเสริมบารมีให้นิกายเทพมังกร”
“ศิษย์น้องของข้า เจ้าคารมจริงนะ กล่าวหาข้ารุนแรงเช่นนี้ ทำให้ข้าลงมือยากขึ้น นางก็แค่เด็กรับใช้คนหนึ่ง คู่ควรให้เจ้ากับข้าโต้คารมกันนานขนาดนี้เชียวหรือ เรื่องนี้พ่อสามีในอนาคตของเจ้า ท่านหัวหน้าผู้บวงสรวงอนุญาตแล้วข้าแค่ทำหน้าที่เพียงเท่านั้น เจ้าจะโทษก็โทษไม่ถึงตัวข้าหรอก”
จะเป็นเด็กรับใช้หรือไม่ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือนางเป็นชีวิตหนึ่ง ต่อให้นางไม่ใช่ถังเวย ถังเฉียนก็ไม่ยอมปล่อยให้นางถูกหงหลิงเอ๋อร์ฆ่าตาย เรื่องนี้เกินบรรทัดฐานที่นางจะรับได้
“เจ้าปล่อยนางซะ ปล่อยนางเดี๋ยวนี้ อย่าบอกว่าทำเพื่อข้า ข้าไม่เคยให้เจ้าทำเช่นนี้”
เสียงผู้คนรอบข้างดังเป็นพักๆ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังเข้าหูถังเฉียนอย่างต่อเนื่อง คนพวกนี้คิดว่าถังเฉียนเคร่งครัดไม่พอ เพื่อเด็กหญิงคนหนึ่ง ถึงกับโต้เถียงกับศิษย์พี่ซึ่งหน้า ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายทำเพื่อนาง
ถังเฉียนรู้ตัวว่าตนทำเช่นนี้ย่อมขัดใจผู้คน ทั้งยังส่งผลเสียต่ออำนาจบารมีของตนในวันหน้า แต่ขณะนี้นางไม่อาจคำนึงอะไรมากมาย นางเห็นคบไฟค่อยๆ เข้าใกล้ถังเวย มีความรู้สึกหมือนคบไฟจะตกใส่ตัวนางเองไปด้วย
ครั้งนั้นนางไม่มีความสามารถที่จะปกป้องน้องสาวตนเอง นางอยู่ในชุดดำของหมอผี สวมหน้ากากหมอผี ไม่ใช่เพื่อให้เวลานี้มาเฝ้ามองน้องสาวตัวเองถูกคนอื่นจับเผาจนตาย การเติบโตและความพยายามทั้งหมดก็เพื่อปกป้องตัวเองและคนในครอบครัว หากแต่ว่า…
ขณะนี้นางช่างไร้เรี่ยวแรง ถังเฉียนไม่ต้องการให้เป็นเช่นนี้
“เทพหมอผีผู้ยิ่งใหญ่ ข้าจะถวายเด็กคนนี้ให้แก่พระองค์ โปรดชำระบาปบนตัวนางด้วยเถิด”
คำพูดถังเฉียนไม่สามารถทำให้หงหลิงเอ๋อร์หยุดได้ ตรงกันข้ามเมื่อนางเห็นท่าทีร้อนรนของถังเฉียน ก็เริ่มท่องคาถาบวงสรวงอย่างจริงจัง คบไฟถูกโยนเข้าไปในกองฟืน เปลวไฟไหม้ลามพุ่งขึ้นไปในอากาศทันที ฟืนถูกราดด้วยน้ำมัน เมื่อจุดไฟก็ไหม้ลุกลามเป็นวงกว้าง
ถังเวยยืนอยู่กลางกองไฟ ร้องตะโกนอย่างหวาดกลัว
ถังเฉียนผลักเถิงเฟิงออกไป แล้วบุกขึ้นไปบนแท่นบวงสรวงพลางตะโกนว่า
“อย่า เผานางไม่ได้นะ”
ถังเฉียนตะโกนพร้อมกับล้วงมีดสั้นเรียวยาวออกมาจากแขนเสื้อ ไม่รู้ว่านางเอาพละกำลังมาจากไหน ดึงไม้ฟืนที่กำลังลุกไหม้ออกไป นางบุกเข้าไป จะช่วยถังเวย คิดไม่ถึงว่าเพิงแก้เชือกที่มัดออก ก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่เอว นางหันไป เห็นหญิงแก่ที่ซ่อนร่างอยู่ในความมืด ยิ้มอย่างอำมหิตใส่นาง
แต่รอยยิ้มนั้นเลือนรางลงทุกที นางรู้สึกว่าตัวเองอ่อนระทวยลง
“ไม่ได้ ไม่ได้ ฮุ่ยฮุ่ย เจ้าไม่ต้องกลัว ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว”
ตอนที่ 209 ลงมาจากฟ้า
ถังเฉียนแก้เชือกสุดชีวิต ยังดีที่ถังเวยไม่เป็นอะไร เชือกได้คลายออกแล้ว นางกระโดดลงมาจากแท่นบวงสรวง ดึงตัวถังเวยออกไป แต่น่าเสียดายที่ไฟไหม้ลามขึ้นอีก ทั้งสองถูกไฟล้อมไว้
เถิงเฟิงจะบุกเข้าไป แต่ถูกหงหลิงเอ๋อร์ดึงไว้สุดกำลัง
“เจ้าไปไม่ได้ นางยอมตาย หรือเจ้าก็ไม่ต้องการชีวิตแล้ว นี่เป็นคำสั่งของบิดาเจ้า แค่สาวใช้คนหนึ่ง พวกเจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือ”
เถิงเฟิงดึงมือนางออก จะบุกเข้าไป แต่หงหลิงเอ๋อร์มีพละกำลังมาก อาห่าวก็มาช่วยขัดขวาง จนเถิงเฟิงดิ้นไม่หลุด ถังเฉียนเห็นทะเลเพลิงแดงฉาน เบื้องหน้าสายตาเลือนรางขึ้นทุกที ความเจ็บปวดที่เอวทำให้นางยืนขึ้นไม่ได้ ทำได้เพียงจับมือถังเวยไว้ นางคิดว่าบางทีคงต้องพูดสั่งเสียกับน้องสาวที่นี่เสียแล้ว ครั้งนั้นนางรอดจากการที่ฮว่าเหยียนจะใช้นางสังเวยสวรรค์ แต่บัดนี้กลับไม่สามารถรอดจากการที่ หงหลิงเอ๋อร์จะใช้น้องสาวนางสังเวยสวรรค์
“เวยเอ๋อร์ ฟื้นสิ นี่พี่เจ้าเอง เจ้าไม่ต้องกลัว พี่จะอยู่กับเจ้า”
เสียงถังเฉียนไม่ดัง แต่ถังเวยได้ยินชัดเจน ถังเวยบีบแขนถังเฉียนแน่น นางกลัวว่าจะหมดสติ
“ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วยเถอะ…”
ถังเวยหวาดกลัวมาก นางร้องขอความช่วยเหลือกับคนข้างนอก แต่ไม่มีใครคิดจะช่วยพวกนาง เถิงเฟิงซึ่งเป็นคนเดียวที่ต้องการช่วยพวกนางก็ถูกขัดขวางไว้
“ปล่อยข้า หงหลิงเอ๋อร์”
ไม่ใช่เถิงเฟิงไม่อยากช่วย แต่เขาถูกหงหลิงเอ๋อร์ใช้เชือกเอ็นวัวมัดเอวไว้ ทำให้ไม่สามารถบุกเข้าไปในกองเพลิงได้ ถังเฉียนนึกในใจว่าบางทีคงจะวันนี้และที่นี่แล้ว แต่ในใจก็ยังเต็มไปด้วยความเพ้อฝัน หวังว่าจะมีคนลงจากฟ้ามาช่วยพวกนาง
“ท่านพี่ ข้ายังไม่อยากตาย”
ถังเวยกอดถังเฉียนไว้ ถังเฉียนไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืน นางถูกเข็มพิษแทงเข้าที่เอว รู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมร่างกายตนเองได้โดยสิ้นเชิงแล้ว
“หงหลิงเอ๋อร์ ถ้าอาหรูน่าเป็นอะไรไป ข้าจะฆ่าเจ้าให้ตายไปตามกัน”
เถิงเฟิงโกรธแค้น แต่หงหลิงเอ๋อร์ยังไม่ยอมปล่อยมือ นางจ้องเขาอย่างเย็นชา แววตาฉายแววโหดเ**้ยมอำมหิต
“รอให้นางตายแล้ว เจ้าจะทำเช่นไรกับข้าก็เชิญเลย แต่ข้าขอบอกเจ้าอีกครั้ง นี่ไม่ใช่คำสั่งข้า แต่บิดาเจ้าให้ข้าทำเช่นนี้ ข้าแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น”
ถังเฉียนเห็นสองคนข้างนอกกำลังโต้เถียงกัน นางตัดสินใจว่าไม่ต้องการให้ใครมารับผลที่เกิดขึ้นแทนนาง
“เถิงเฟิง ข้ารู้ว่าเจ้าไม่อยากให้ข้าตาย แต่…”
ถังเฉียนรู้ดี นี่เป็นอุบาย เป็นแผนที่นางไตร่ตรองไว้นานแล้ว เป็นนางเท่านั้น แต่ไฟลามมาถึงชายกระโปรงของนางแล้วเสียงถังเวยร้องไห้ทำให้นางปวดใจยิ่งกว่ากาย
“ธนูทะลุเมฆา!”
ทันใดนั้นมีลูกธนูสีดำดอกใหญ่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า พุ่งตรงไปบนแท่นบวงสรวง จากนั้นถังเฉียนก็มองเห็นคนชุดดำบนอากาศ ร่างเขาจากร่างเงาที่ไม่ใหญ่ก็ค่อยๆ ใหญ่ขึ้น สุดท้ายกลายเป็นใบหน้าของผู้ชาย ราวกับเหาะลงมาจากฟ้า คว้าตัวนางและถังเวยเหยียบลงบนธนูทะลุฟ้าแล้วกระโดดออกมาจากกองไฟ
“หงหลิงเอ๋อร์ เจ้ารนหาที่ตาย!”
หงหลิงเอ๋อตกใจ เผลอปล่อยให้เถิงเฟิงหลุดออกจากพันธนาการที่นางเตรียมไว้ เถิงเฟิงเตะใส่เอวนาง หงหลิงเอ๋อร์เซถลาล้มลงบนพื้น นางมองดูฉู่จิ่งเหยาช่วยถังเฉียนออกมาจากทะเลเพลิง แววตานางช่างดูอำมหิต
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เพราะเหตุใดทุกครั้งจะต้องมีคนมาช่วยนาง อาหรูน่า มันเพราะอะไร”
หงหลิงเอ๋อร์ใช้กำปั้นทุบพื้นแรงๆ เถิงเฟิงเตรียมจะเล่นงานนางอีก แต่หญิงชุดดำรีบอุ้ม หลงหลิงเอ๋อร์หายไปต่อหน้าต่อตาเขา เดิมเถิงเฟิงตั้งใจจะใช้หงหลิงเอ๋อร์ระบายความโกรธ เวลานี้ไม่มีเป้าให้ระบายโทสะแล้วจึงหันมาตวาดใส่พวกบ่าวไพร่ที่มุงดูอยู่
“พวกแกไอ้บ่าวชั่วช้า ไปรับการโบยห้าสิบทีทุกคน บังอาจไม่เชื่อฟังคำสั่งคุณชายอย่างข้า หญิงผู้นี้ให้สิ่งใดตอบแทนพวกเจ้ากัน อย่าลืมว่าพวกเจ้าแซ่อะไร”