จอมใจจ้าวพิษ - ตอนที่ 308 เข้าถ้ำ / ตอนที่ 309 มันบอก
ตอนที่ 308 เข้าถ้ำ
ถังเฉียนและนักพรตหันผ่านปากถ้ำใต้น้ำไปถึงที่ใหม่ ลำบากแทบแย่กว่าที่ถังเฉียนจะจากที่นี่ปีนขึ้นบนฝั่งได้ นางหายใจหอบ พอมองดูหันเทียนซวี่ซึ่งอยู่ข้างๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่าบนตัวเขามีความลับมากมายเหลือเกิน ความลับเช่นนี้ทำให้เขาดูเร้นลับมากเป็นพิเศษ
“ถือว่าเราโชคดีมาก บังเอิญเจอปากถ้ำ ยังดีที่ทางน้ำไม่ยาวมาก ไม่เช่นนั้นคงตายในนั้นแล้ว”
หันเทียนซวี่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า
“ข้าไม่ได้บอกท่าน หลังจากขุดทะลุที่นี่ได้ ข้าลงไปหลายครั้ง รู้จักปากถ้ำนี่ด้วย แต่ถูกปลานางฟ้าบีบให้ถอยกลับ เห็นหรือไม่เราต่างกลัวว่าจะถูกพวกมันฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ”
หันเทียนซวี่ถอดเสื้อออก เผยให้เห็นบาดแผลที่อกและหลัง ถังเฉียนคิดไม่ถึงว่าเขาจะอธิบายให้ตนรู้ ทำให้นางหายสงสัย
ถังเฉียนเองไม่รู้ว่าเพราะอะไร นางมักรู้สึกว่าเขาเข้าใจความคิดนางอย่างยิ่ง ถังเฉียนยืนขึ้น น้ำบนตัวหยดลงมาเป็นสาย นางบิดเสื้อผ้าให้แห้ง สะบัดเส้นผม ขณะที่หันเทียนซวี่ตรวจสอบสภาพรอบๆ อย่างละเอียดแล้วรอบหนึ่ง
“สถานที่แห่งนี้ ดูคล้ายสุสานโบราณ”
หันเทียนซวี่พูดพลางนั่งลงวาดรูปแล้วพูดว่า
“ดูตรงที่เราอยู่ตอนนี้ เหมือนตัวปรับอากาศของสุสาน ดูนี่ น้ำเข้าสามด้าน น้ำออกหนึ่งด้าน เป็นการป้องกันน้ำท่วมสุสานทำให้ที่นี่กลายเป็นทะล”
ถังเฉียนมองดูรอบๆ ทั้งสี่ด้านล้วนเป็นทางน้ำเข้า จึงยิ้มแล้วถามว่า
“ตอนนี้เราจะทำอย่างไร สามด้านเป็นทางเข้า เราจะไปทางใด”
ถังเฉียนมองดูผนังสามด้านซึ่งเหมือนกันทุกอย่าง คราวนี้ไม่สามารถแยกออกได้จริงๆ เสี่ยวจินไม่อยู่กับนาง ทำให้นางกังวลมากเป็นพิเศษ และไม่รู้ว่ามันอยู่ข้างนอกจะถูกแมลงสีดำพวกนั้นกินหรือไม่
“ขอให้ข้าลองทำนายดูก่อน”
หันเทียนซวี่พูดจบก็จัดที่บนพื้น ถือเหรียญทองแดงสามอันไว้ในมือ โยนขึ้นไปในอากาศ จากนั้นก็ใช้มือรับไว้ แล้ววางทีละอันลงบนพื้น ถังเฉียนมองตาปริบๆ ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร
“นักพรตหันรู้จักทำนายดวงชะตาด้วยหรือ”
หันเทียนซวี่เก็บเหรียญทองแดงทั้งสามอันแล้วพูดว่า
“ข้าสันทัดมรรคแห่งฟ้าดิน ศาสตร์แห่งอินหยาง แม้จะไม่มีดาวให้สังเกตดู แต่ข้ายังมีวิชาอื่นช่วยได้ ถึงจะไม่ช่วยให้ชีวิตรุ่งโรจน์ แต่ก็ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้”
ธรรมดาเขาพูดจาถือว่าปกติดี แต่เมื่อพูดเรื่องการทำนายดวงชะตาเขาจึงดูเหมือนบัณฑิตที่รอบรู้
“เอาละ เอาละ ข้าเองก็ไม่ค่อยเข้าใจ ฟังไม่เข้าใจด้วย บอกมา จะต้องไปทางใด”
หันเทียนซวี่ชี้นิ้วไปข้างหน้า ถังเฉียนมองตามไป ปรากฏว่าเป็นประตูกลางที่พวกเขาเข้ามา
“อีกสองด้านสังกัดธาตุน้ำ เพราะที่นี่เป็นทางน้ำจึงไม่แปลก ส่วนประตูบานหลังธาตุไฟรุนแรง เกรงว่าจะมีเรื่องที่คาดไม่ถึง”
ถังเฉียนเดินไปที่กำแพงศิลาตรงหน้า แล้วตรวจดูรอบๆ อย่างละเอียดไม่พบกลไกหรือทางลับใดๆ เมื่อเช่นนี้นางจึงรู้สึกผิดหวัง แล้วมองดูช่องทางเดียวด้านล่างพลางพูดว่า
“หรือว่าเราจะย้อนกลับไปทางข้างล่างอีก”
หันเทียนซวี่ยื่นมือลงไป มีปลานางฟ้าพุ่งเข้ามา แม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่ทางน้ำที่ปิดตาย แต่น้ำไหลช้ามาก ดังนั้นปลานางฟ้าจึงว่ายไปมา ไม่ได้กระจายไปไหน ถังเฉียนเห็นเช่นนี้จึงยื่นนิ้วข้างหนึ่งลงไป ปลานางฟ้ากัดนิ้วมือนางเป็นแผล จากนั้นปลาบริเวณนี้ก็พากันนอนหงายท้อง
ถังเฉียนคลำดูใต้แผ่นศิลา นางรู้สึกว่าศิลาแผ่นนี้ต่างกับที่อื่น น่าจะมีทางรอดชีวิตแล้ว
“เจ้าพบสิ่งใดหรือ”
ตอนที่ 309 มันบอก
ถังเฉียนคลำพบว่าหินด้านล่างก้อนหนึ่งขยับได้ จึงออกแรงกดลงไปบนหินก้อนนั้น ปรากฏว่าประตูศิลาข้างบนเลื่อนขึ้นช้าๆ รอบๆ สั่นไหวเล็กน้อย
ถังเฉียนออกแรงกดอีก ประตูศิลาเลื่อนสูงขึ้นอีก นางออกแรงสุดกำลัง จึงทำให้ประตูศิลาสูงขึ้นจากพื้นเป็นช่องพอให้คนรอดผ่านได้
หันเทียนซวี่ไม่ลังเล รีบมุดผ่านใต้ประตูศิลาเข้าไป จากนั้นเขากดปุ่มกลไกด้านใน ถังเฉียนจึงสามารถมุดผ่านเข้าไปได้ แต่พอทั้งสองเข้าไปแล้วประตูศิลาก็เลื่อนลงมา
“ยังดีที่ครั้งนี้ไม่ต้องบิดเสื้อผ้าให้แห้ง”
ถังเฉียนมองดูรอบๆ ที่นี่มีทางเดินยาวสายหนึ่ง แต่ถังเฉียนไม่กล้าเคลื่อนไหวโดยพลการ ความมืดมิดข้างหน้าทำให้นางรู้สึกว่าถึงความผิดปกติ
หันเทียนซวี่ชูคบไฟขึ้นส่องดูรอบๆ เห็นตะเกียงน้ำมัน จึงขยับเข้าไปจุด ไฟจากจุดที่ใกล้ไหม้ลามไปถึงสุดทางเดิน
“เราคงต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะเดินไปตามทางนี้”
หันเทียนซวี่เดินนำหน้า ก้าวไปแต่ละก้าวอย่างระมัดระวังตัวเต็มที่ แม้ถังเฉียนจะไม่รู้ว่าสถานที่นี้มีอันตรายเท่าใด แต่แมลงสีดำและปลานางฟ้าเหล่านั้นบ่งบอกนางว่าจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด
“โอ๊ย…”
ถังเฉียนเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แต่ดูเหมือนแขนนางจะเหมือนถูกคนกรีดเป็นแผล บนแขนมีรอยเลือดเป็นทางยาวทันที แต่เมื่อหันเทียนซวี่ชะโงกหน้ามาดู รอยแผลสมานแล้ว
“ร่างกายท่าน”
ถังเฉียนผลักเขาออกไป หันเทียนซวี่อุทานออกมาเบาๆ แล้วหันไป บนแผ่นหลังของเขามีรอยเลือดเป็นสาย ถังเฉียนรู้สึกว่าผิดปกติ จึงยื่นมือออกไปคลำดู นิ้วมือนางสัมผัสถูกวัตถุที่เป็นเส้นเล็กละเอียด แต่คมกริบ ถ้าสัมผัสถูกจะทำให้บาดเจ็บ
“นี่คือลวดฟ้า ละเอียดเล็กและเหนียวมาก แต่แปลกที่ห้อยไว้ต่ำขนาดนี้”
ถังเฉียนมองดูระดับความสูงของลวด แล้วไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดนางจึงพูดออกมาว่า
“ถ้าเอามาใช้รับมือกับคนในป้อมปราการของเผ่ากุ้ยลี่ น่าจะเหมาะเลยจริงหรือไม่”
ถังเฉียนย่อตัวเล็กน้อย งอเข่าลง สูงถึงบริเวณลำคอของนางพอดี
“ที่แท้เจ้าเองก็รู้ คนเผ่านั้นรูปร่างไม่สูง เตี้ยกว่าชาวเซวียนกั๋วราวหนึ่งศีรษะ คล้ายกับเผ่าคนแคระในตำนานนั่นเอง”
ถังเฉียนสั่นศีรษะแล้วพูดว่า
“ที่ทำแบบนี้น่าจะเอาไว้ใช้ป้องกันคนข้างในไม่ให้ออกมาหรือ”
ตามบันทึกของพวกเขา เมืองป้อมแห่งนี้ชนเผ่านี้จงใจทำให้จมลงเพื่อหลบภัยไม่ใช่หรือ แต่เมื่อเห็นลวดฟ้าเหล่านี้ก็อดแปลกใจไม่ได้
“เรื่องนี้ไม่มีอะไรน่าแปลกหรอก ประวัติศาสตร์ทั้งหมดถูกเขียนโดยผู้ชนะ ที่เราได้อ่านคือสิ่งที่บรรพบุรุษชาวเซวียนกั๋วทิ้งไว้ บางทีพวกเขาอาจจะไขความลับของชนเผ่านี้ได้นานแล้ว เพียงแต่ไม่อยากให้ชนเผ่าอื่นรู้ จึงแต่งเทพนิยายขึ้น”
ถังเฉียนฟังที่เขาพูดก็รู้สึกว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น จะอย่างไรคนคือผู้เขียนประวัติศาสตร์ ไม่ใช่เขียนโดยเทพบนสวรรค์
“คงจะเป็นเช่นนั้น”
ถังเฉียนตรวจดูรอบๆ ที่อื่นไม่มีลวดฟ้า นางจึงก้มหัวลง เดินลอดใต้ลวดฟ้าไป
“ถ้าเสี่ยวจินอยู่ที่นี่ก็ดีหรอก มันสามารถกัดลวดฟ้าให้ขาด แล้วเก็บรวบรวมไว้”
ถังเฉียนเพิ่งพูดจบ หันเทียนซวี่ก็ถามว่า
“แล้วเสี่ยวจินเล่า”
ตอนที่หันเทียนซวี่พบถังเฉียนครั้งแรก เขาถูกเสี่ยวจินสั่งสอนไปแล้ว ความรู้สึกนี้ยังอยู่ในความทรงจำเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นใหม่ๆ เขาจึงอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเสี่ยวจินมาก แต่ถึงจะอยากรู้แค่ไหน ถังเฉียนกลับเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
“วางไว้ที่ปากถ้ำ มันบอกว่ามันกลัวน้ำ”
“มันบอก”