จอมใจจ้าวพิษ - ตอนที่ 346 น่าสงสัย / ตอนที่ 347 ข่าวผิดพลาด
ตอนที่ 346 น่าสงสัย
ถังเฉียนไม่เคยเห็นเขาเป็นอย่างนี้ นางเลิกคิ้วขึ้น มองดูเขาแกล้งทำเช่นนี้ แต่ที่เขาจงใจแสดงออกอย่างนี้กลับน่าแปลกใจ ถังเฉียนถอยออกมาเล็กน้อยแล้วพูดว่า
“เจ้าต้องมนตร์สะกดหรือ”
เถิงเฟิงตบศีรษะถังเฉียนเบาๆ จากนั้นจึงยืนขึ้นแล้วพูดว่า
“ข้าง่วงแล้ว ขออาศัยที่ของเจ้านอนหน่อย เจ้าอยากรออยู่ที่นี่ก็ตามใจ ถ้าไม่อยากรอ ข้ารอเจ้าบนเตียง”
ถังเฉียนขว้างหมอนใส่เถิงเฟิง แล้วพูดว่า
“เจ้ายังสนุกไม่พอหรือ ไม่ยอมเลิก”
เถิงเฟิงได้ยินก็ลุกพรวดขึ้น แล้วพูดว่า
“พี่ชายข้าบอกว่า ผู้ชายถ้าไม่ร้าย ผู้หญิงจะไม่รัก ข้าเห็นว่าเจ้าว่าง จึงคิดหาวิธีมาแหย่เจ้า เหตุใดเจ้าถึงไม่รับมุขกันนะ”
ถังเฉียนหาบริเวณที่สบาย หรี่ตามองดูเถิงเฟิง ไม่ใส่ใจท่าทางไร้เดียงสาของเขา ถังเฉียนงีบหลับไปครู่หนึ่งฟ้าก็สางแล้ว แม้จะรู้ว่าหวังหลงคงไม่กลับมาเร็วอย่างนี้ แต่ยังรู้สึกกังวลมาก
“ถ้ารู้แต่แรกคงไม่ให้เขาไปตามลำพังหรอก ตอนนี้ร้อนใจข่าวคราวก็ไม่มี”
เถิงเฟิงลุกขึ้นจากเตียง เห็นท่าทางทุกข์ร้อนของนาง ก็ยิ้มแล้วบิดขี้เกียจ จากนั้นจึงพูดว่า
“ถ้าเจ้ากังวล เอาอย่างนี้ดีกว่า เราออกไปพบเสมียนหลี่ในคุกดีหรือไม่ ในเมื่อเจ้าร้อนใจ เช่นนั้นก็หาอะไรทำดีกว่า จะได้ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่าน”
เถิงเฟิงพูดจบก็ออกไปล้างหน้า เหลือเพียงถังเฉียนบิดขี้เกียจอยู่ในห้องคนเดียว คืนที่ผ่านมานางนอนอย่างกระสับกระส่าย คอยนึกว่าหวังหลงจะเผชิญปัญหาที่เขาแก้ไขไม่ได้
แต่เถิงเฟิงพูดถูก ถ้านั่งเป็นทุกข์อยู่ที่นี่ สู้ออกไปข้างนอกทำสิ่งที่ตนเองควรทำดีกว่า อย่างไรก็ช่วยให้นางรู้สึกผ่อนคลายได้บ้าง เถิงเฟิงอยู่ที่ภาคเหนือยังคงวางตัวตามสบายเหมือนอยู่ที่เผ่าม้ง ทั้งเมื่อมาถึงคุกก็ยังวางตัวตามสบายเช่นเดิม
ถังเฉียนคิดว่าคงเข้าไปในคุกได้ยาก คิดไม่ถึงว่าใช้เงินเพียงห้าตำลึงทั้งสองก็เข้าไปได้แล้ว
ได้ยินว่าเสมียนหลี่เป็นคนดีถังเฉียนจึงติดของกินมาฝากเขา แน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่เถิงเฟิงกำชับนาง
ตอนที่เข้ามาถังเฉียนยังไม่รู้ว่าเพราะอะไร ตอนนี้พอเห็นเสมียนหลี่กินอย่างตะกละตะกลามก็เข้าใจทันที ในคุกไม่มีอาหารให้กินหรือ
ในห้องขังดูราวกับเล้าหมู พอเข้ามาก็ได้กลิ่นเน่าเหม็นจนถังเฉียนแทบจะเป็นลม แต่เถิงเฟิงกลับมีท่าทางเป็นปกติ ยังแกว่งแขนตามสบาย
“เสมียนหลี่ เราเป็นญาติของหวังเจียว ได้ยินว่าท่านเคยช่วยนาง ข้อแรกเรามาเพื่อเยี่ยมท่าน ข้อสองอยากถามว่าสัญญาขายตัวของนางอยู่ที่ท่านหรือไม่?”
เสมียนหลี่กินอิ่มแล้ว ยังดื่มน้ำอึกหนึ่ง ใช้ชายแขนเสื้อที่สกปรกเช็ดปาก จากนั้นก็ร้องไห้ออกมา
“ข้าถูกปรักปรำ ข้าแซ่หลี่ทนลำบากร่ำเรียนมาหลายสิบปี ตั้งใจทำงานเพื่อชาวบ้าน ทำเพื่อส่วนรวม แต่กลับตกที่นั่งลำบากเช่นนี้ สวรรค์ไม่ยุติธรรมต่อข้าเลย”
นางคิดว่าคำพูดประโยคแรกของเขาจะเป็นการบอกว่าสัญญาขายตัวของหวังเจียวอยู่ไหน หรือขอเงินบ้าง หรือตอนนี้หวังเจียวเป็นอย่างไร คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดเช่นนี้ ซ้ำยังพูดพล่ามไม่หยุด ร้องไห้น้ำตานองหน้า นางฟังแล้วรู้สึกรำคาญ
เถิงเฟิงต่างออกไป ไม่ใส่ใจว่าเสมียนหลี่จะพูดอะไร แค่ดูเท่านั้น ถังเฉียนโมโหแล้ว นางตบประตูห้องขังแล้วพูดว่า
“พอเถอะ ข้ารู้ว่าเจ้าถูกใส่ร้าย แต่ข้าไม่ใช่ขุนนางใหญ่ ไม่สามารถช่วยอะไรเจ้าได้ เจ้าร้องไห้กับข้าก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเจ้าหาวิธีช่วยหวังเจียวได้ ถ้าข้ามีโอกาส จะช่วยร้องขอความเป็นธรรมแทนเจ้าดีหรือไม่”
เสมียนหลี่ตกตะลึงเพราะคำพูดของถังเฉียน เถิงเฟิงเตะเขาทีหนึ่ง เขาจึงตั้งสติได้ ไม่ถึงกับตาย
“เสียเวลาเข้ามาเปล่าๆ ไม่ได้เรื่องอะไรเลย น่าแปลกจริงๆ”
ถังเฉียนคิดว่าเรื่องนี้น่าจะมีเบื้องหลัง แต่ละคนมีท่าทางลับๆ ล่อๆ รู้สึกน่าสงสัยมาก
ตอนที่ 347 ข่าวผิดพลาด
ถังเฉียนออกมาจากคุก แต่ไม่อาจกำจัดกลิ่นเหม็นตามตัวออกไปได้ ถึงจะอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ยังรู้สึกว่ามีกลิ่นเหม็นตุๆ ติดตัว
นางรู้สึกว่าเสมียนหลี่รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของอำเภอปิดบังอะไรไว้ คนที่ถูกปิดบังคือหวังเจียว แต่นางเป็นแค่สาวใช้คนหนึ่ง มีอะไรที่ต้องปิดบังด้วยหรือ
“บางทีเพราะคนพวกนี้รู้ความลับที่สำคัญบางอย่าง ก็อาจเป็นไปได้”
เถิงเฟิงเพิ่งพูดประโยคนี้ ทำให้ถังเฉียนนึกขึ้นได้
“เหตุใดหวังหลงยังไม่กลับมา หากนับเวลาดู เขาน่าจะกลับมาแล้ว หรือว่าข่าวที่ได้รับนั้นผิดพลาด ไม่เช่นนั้นก็อาจเกิดเรื่องระหว่างทางจนทำให้เสียเวลา”
ถังเฉียนออกมาจากห้อง เตรียมรอรับหวังหลงกลับมา แต่กลับพบสายสืบที่มาส่งข่าวเมื่อคืน
“คุณชายน้อย แย่แล้ว ข่าวเมื่อวานมีข้อผิดพลาดขอรับ”
ถังเฉียนได้ยินเช่นนี้ก็สะดุ้งเฮือก หวังหลงยังไม่กลับมา คงเพราะเรื่องนี้ทำให้เสียเวลา อาจจะเดือดร้อนแล้ว
“เรื่องเป็นอย่างไร”
“คนพวกนั้นจงใจปล่อยข่าวลวงเพื่อล่อให้เราไปติดกับ หรืออาจทำเพื่อใช้ข่าวลวงปิดบังข่าวจริง เดิมเราคิดว่าที่เสมียนหลี่ติดคุกเป็นคนละเรื่องกับที่หวังเจียวจะแต่งกับเสมียนเมิ่ง ตามข่าวล่าสุดของข้า น่าจะเป็นเรื่องเดียวกันขอรับ”
สายสืบยังบอกว่าเสมียนหลี่น่าจะล่วงรู้ความลับของบุคคลสำคัญผู้หนึ่ง เบื้องบนส่งคนมาเพื่อปิดบังข่าว ยังจับกุมเขาด้วย แต่เขารู้ล่วงหน้า จึงบอกความลับนี้ให้คนรับใช้ในจวนรู้ เพื่อให้แยกย้ายกันออกนอกเมือง น่าเสียดายที่หวังเจียวไม่ทันออกจากเมืองก็ถูกจับตัวกลับมา
แต่เพราะหวังเจียวเปลี่ยนชื่อเป็นฮุ่ยเอ๋อร์ ดังนั้นตอนที่พวกเขาไปหา ฝ่ายตรงข้ามยังสับสน พอพวกเขาไปแล้ว ข่าวนี้จึงแพร่กลับไป พวกเขาจึงปิดบังเรื่องนี้โดยอ้างว่าฮุ่ยเอ๋อร์ออกจากเมืองไปแต่งงาน เพราะนางไม่มีญาติ จึงไม่มีใครมาตามหา
ถึงตอนนี้จึงเกิดเรื่องเดือดร้อนขึ้นแล้ว
ถังเฉียนฟังถึงตอนนี้ก็รู้สึกถึงความผิดปกติ
“ถ้าพวกเขาต้องการจับหวังเจียว รู้ว่าเราเป็นญาตินาง จะไม่มาจับเราหรือ”
เถิงเฟิงยืนอยู่ที่สูง พอได้ยินที่ถังเฉียนพูด ก็พูดขึ้นว่า
“เจ้าพูดถูก พวกนั้นมากันแล้ว”
ถังเฉียนมองตามสายตาเถิงเฟิง เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังลอบเข้ามาใกล้ ดูท่าคงจะล้อมโรงเตี๊ยมไว้แล้ว จากนั้นก็จับกุมพวกเขา
“ไม่รู้ว่าหวังหลงเป็นอย่างไรบ้าง อย่าถูกคนพวกนี้จับตัวโดยเด็ดขาด”
เถิงเฟิงคว้าข้อมือนางทันที ร้องบอกให้สายสืบปลอมตัวหนีไปเอง ส่วนเขาพาถังเฉียนเก็บสัมภาระแล้ววิ่งหนีไปทางประตูหลัง
มองดูทิศทางของเถิงเฟิง เป็นการตรงไปยังขบวนลำเลียงสินค้ากลุ่มหนึ่ง ถังเฉียนหันมามองแสงไฟด้านหลัง แล้วมองเถิงเฟิงอีกครั้ง ก็ยิ่งมองเขาไม่ออก ถ้าบอกว่าเขาไร้เดียงสา แต่เขากลับจัดการเรื่องต่างๆ ได้ละเอียดรอบคอบกว่านาง
แต่ถ้าบอกว่าเขาเป็นคนจริงจัง ดูเหมือนจะพูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย ถังเฉียนไม่เข้าใจคนอย่างเถิงเฟิงจริงๆ
นางเพียงแต่คอยตามหลังเถิงเฟิง วิ่งไปตามป่าทึบมุ่งออกไปข้างนอก
“ถ้าหวังหลงกลับมาหาพวกเรา จะทำอย่างไรดี”
ถังเฉียนยังห่วงความปลอดภัยของหวังหลง แต่เถิงเฟิงกลับบอกว่า
“เกรงว่าเขาจะประสบภัยไปก่อนแล้ว ตอนนี้เราห่วงตัวเองก่อนเถอะ คนที่วางแผนใหญ่อย่างนี้ได้ ขุนนางใหญ่จะจับเราขังเมื่อไรก็ได้ คนที่อยู่ข้างบน น่าจะเกี่ยวข้องกับอ๋องอุดร เจ้าเคยได้ยินคำพูดนี้ไหม มังกรผยองยากจะเอาชนะงูเจ้าถิ่น เราอย่าหาเรื่องเดือดร้อนเด็ดขาด”