แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1070 แมลงวันไม่เจาะไข่ที่ไร้รอยแตก
ต่อให้รักกันปานจะกลืนกินแค่ไหน แต่ต้องมาอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกันเป็นสิบปี เป็นไปได้หรือที่จะไม่มีปัญหาหรือกระทบกระทั่งกันเลย? มีปัญหาเกิดขึ้นยังไม่น่ากลัวเท่าไร สิ่งที่น่ากลัวก็คือมีความสามารถที่จะแก้ไขความขัดแย้งนี้หรือเปล่า
อย่างเช่นพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ที่ถึงจะรักกันดี แต่ก็ยังมีทำสงครามเย็นกันบ้างเพราะเรื่องเล็กๆน้อยๆ
พี่ใหญ่เป็นนักธุรกิจที่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว แต่ทำไมถึงได้หลงกลติดกับดักของคนอื่นได้? นั่นก็เพราะตอนนั้นอยู่ในช่วงทำสงครามเย็นกับพี่สะใภ้ ในใจเอาแต่คิดเรื่องพี่สะใภ้เลยไม่ได้ระวังเรื่องอื่น
“อ๊า! พี่นึกออกแล้ว! สาเหตุที่พี่ทำสงครามเย็นกับหมิงลี่เป็นเพราะก่อนหน้านี้เฝิงม่านม่านมาหาพี่ แล้วก็พูดยุให้พี่กับพี่ใหญ่ทะเลาะกันหลายเรื่องมาก ดังนั้น—” พูดถึงเรื่องสงครามเย็น พี่สะใภ้ใหญ่ก็นึกรายละเอียดที่มองข้ามก่อนหน้านั้นได้ทันที
พอเอามาปะติดปะต่อกันก็สอดคล้องกันหมด
เฝิงม่านม่านพูดจายุยงพี่สะใภ้ก่อน เพื่อให้พี่สะใภ้ไม่พอใจในตัวพี่ใหญ่ เพื่อให้พี่สะใภ้คิดว่าพี่ใหญ่ไม่ให้ความสำคัญกับบ้านแม่ยาย ไม่ให้ความสำคัญกับครอบครัว จากนั้นก็ทำสงครามเย็นกับพี่ใหญ่ พี่ใหญ่อารมณ์ไม่ดีเพราะทะเลาะกับเมียก็เลยประมาท
รายละเอียดเหล่านี้ที่ตอนแรกมองข้ามได้ถูกยกขึ้นมาประกอบเรื่องราว พอมาคิดๆดูแล้วก็น่ากลัว
เสี่ยวเชี่ยนพูดเสริม “พี่สะใภ้ใหญ่คะ วันนั้นน่าจะเป็นช่วงที่ประจำเดือนใกล้มาหรือมาอยู่หรือเปล่าคะ? ถ้าไม่ใช่ก็อาจเป็นช่วงหงุดหงิดเพราะไม่สบาย?”
“ช่วงนั้นพี่หงุดหงิดใจเพราะปวดฟันน่ะ—อ๋า เธอหมายความว่าเขาใช้ประโยชน์จากโอกาสแบบนี้ด้วยเหรอ?!” พี่สะใภ้ใหญ่ตกใจ
เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้า
“ถึงทางนั้นจะไม่เก่งเรื่องจิตวิทยา แต่เห็นได้ชัดว่ารู้จักใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนนิสัยคน เขารู้ว่าพี่อารมณ์ไม่ดีก็เลยจงใจพูดจายุยง แล้วให้พี่ไปอาละวาดกับพี่ใหญ่—พี่ใหญ่ ช่วงนั้นงานพี่ไม่ค่อยราบรื่นหรือเปล่าคะ?”
“ก็ใช่น่ะสิ ช่วงนั้นพี่หงุดหงิดเรื่องงานมาก” พี่ใหญ่พยักหน้า
ยิ่งคิดก็ยิ่งน่ากลัวจริงๆ เรื่องที่พวกเขามองว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่มันกลับกลายจุดอ่อนให้คนอื่นใช้ประโยชน์!
“เรื่องเล็กๆน้อยๆของพวกพี่ล้วนมีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นเหยื่อของคนอื่น ฉันยอมรับว่าการเป็นคนที่มีทั้งเงินและอำนาจนั้นลำบากพอตัว เพราะมีคนไม่รู้ตั้งเท่าไรที่ใช้แว่นขยายคอยจับตาดู คิดจะวางแผนเล่นงานพวกพี่อยู่ แน่นอนว่าถ้าพวกพี่อยากกำจัดสิ่งรบกวนพวกนี้ก็ง่ายนิดเดียว—”
เธอรู้สึกได้ถึงสายตาของพี่ทั้งสองคนที่จ้องมา เสี่ยวเชี่ยนยิ้มเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็หันไปขยิบตาให้เสี่ยวเฉียง ช่วงเวลาทดสอบความรู้ใจมาถึงแล้ว!
“เอ่อ…พี่ใหญ่พี่สะใภ้ใหญ่ พวกพี่เอาเงินที่สร้างความลำบากพวกนี้มาให้พวกเราได้นะ พอไม่มีต้นตอของปัญหาพวกพี่ก็ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ ผมพูดถูกไหมเมียจ๋า?”
เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้า ใช่ ที่รักแย่งพูดตลอดเลย!
พี่ใหญ่ยิ้มแหยๆ
“นี่มันเวลาไหนแล้ว พวกนายยังจะมาเล่นมุก? พี่เข้าใจที่เสี่ยวเชี่ยนพูดแล้ว ต่อไปพี่จะระวังเรื่องพวกนี้ให้มากขึ้น แต่เธอยังไม่ได้บอกเลยนะว่าจะทำไงกับเฝิงม่านม่าน?”
เสี่ยวเฉียงคิดว่าเสี่ยวเชี่ยนจะใช้วิธีการสะกดจิตแบบแทรกซึมที่เพิ่งเรียนมาไม่นานไปล้างแค้นเฝิงม่านม่านเสียอีก แต่ไม่นึกว่าเสี่ยวเชี่ยนจะคิดอีกแบบ
“เคยได้ยินคำพูดนี้ไหมคะ แมลงวันไม่เจาะไข่ที่ไร้รอยแตก[1]” เสี่ยวเชี่ยนพูดอย่างมั่นใจ
พี่ใหญ่คิดว่าเสี่ยวเชี่ยนชมตัวเอง “อืม พี่ก็คือไข่ที่ไร้รอยแตก เขาถึงได้เจาะพี่ไม่ได้”
พี่สะใภ้ใหญ่ผลักพี่ใหญ่ “ยังจะมีหน้ามาพูด ถ้าไม่ได้เสี่ยวเชี่ยนกับหมิงหลาง ตอนนี้คุณคงยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยเป็นพ่อลูกคนอื่นอยู่เลยด้วยซ้ำ!”
ก็จริง พี่ใหญ่ไม่กล้าภูมิใจแล้ว
เขาหันไปมองเสี่ยวเชี่ยน รอคอยคำตอบ
“เท่าที่ฉันรู้จักเฝิงม่านม่าน ถึงเขาจะมีนิสัยเปิดเผย แต่เป็นคนอ่อนไหวเกินไป คนแบบนี้เป็นโรคหวาดกลัวได้ง่ายๆ ดังนั้น—”
“ดังนั้นคุณก็เลยจะเป็นแมลงวันไปตอมเขาใช่ไหม?” อวี๋หมิงหลางช่วยพูดแทนให้ จากนั้นก็โดนเสี่ยวเชี่ยนซัดกระหน่ำ
“ไปไกลๆเลย นายสิแมลงวัน! แถมยังเป็นแมลงวันหัวเขียวตัวยักษ์ด้วย! ต่อไปเวลาฉันพูดอยู่ไม่ต้องแทรกขึ้นมาไม่งั้นฉันเอานายตายแน่!”
เสี่ยวเชี่ยนยกนิ้วกลางให้เสี่ยวเฉียงอย่างสุภาพ หุบปากไปซะ!
อวี๋หมิงหลางทำท่ารูดซิปปาก เสี่ยวเชี่ยนยังไม่ทันจะได้พูดต่อก็ได้ยินเสี่ยวเฉียงพึมพำ
“เป็นแมลงวันอะไรก็ได้ทำไมต้องเป็นแมลงวันหัวเขียวด้วย น่าขยะแขยงดูอัปมงคลจะตาย เมียจ๋าให้ผมเป็นแมลงวันทั้งทีไม่น่า—โอ๊ย!”
เสี่ยวเชี่ยนเอาเบาะรองนั่งฟาดหน้าเสี่ยวเฉียง จากนั้นเขาก็นั่งเงียบๆทันที
เมื่อกี้พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่ยังเครียดๆกันอยู่ แต่พอเห็นตัวสร้างสีสันของบ้านเล่นกันแบบนี้อยู่ๆก็อยากขำ
“อะแฮ่ม กลับเข้าเรื่องต่อ พูดเรื่องผู้หญิงอย่างเฝิงม่านม่านที่ตัวเองมีแต่จุดอ่อนแต่กลับคิดจะเล่นงานคนอื่นแล้วกัน”
พอได้ยินแบบนั้นสมองของพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่ก็ปรากฏภาพไข่ไก่เหม็นเน่าที่มีแต่รอยแตก คิดเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย มีเสี่ยวเชี่ยนบินไปบินมารอบไข่พร้อมเข็มฉีดยาในมือทำท่าเตรียมฉีด
จึ๊ๆ เสี่ยวเฉียงล้างสมองเก่งใช้ได้
“ดังนั้นพี่ใหญ่เลือกมาค่ะ จะเป็นไวรัสตับอักเสบ วัณโรคปอด หรือเอดส์ดี? อืม ส่วนตัวฉันชอบโรคเอดส์ที่สุด ได้ผลดี ขู่ให้กลัวได้ในระดับที่น่าพอใจ”
“เสี่ยวเชี่ยน เธอพูดพวกโรคติดต่อขึ้นมาทำไม?”
เสี่ยวเชี่ยนยิ้มเห็นฟัน “เพราะพี่ใหญ่ต้องเลือกเป็นสักโรคไงคะ เพราะต้องแกล้งเป็นสักโรคที่ว่ามาถึงจะกระตุ้นให้เฝิงม่านม่านเป็นโรคได้”
“โรคอะไร?”
“ถ้าพี่ใหญ่ปล่อยข่าวไปว่าตัวเองติดเชื้อเอดส์เข้า จากลักษณะเด่นนิสัยของเฝิงม่านม่าน ฉันมั่นใจเลยว่ามีความเป็นไปได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่เขาจะเป็นโรคกลัวติดเอดส์ นี่เป็นอาการป่วยที่เกิดจากจิตใจหวาดกลัวจนทำให้ป่วยกาย น่าสนใจอยู่นะคะ”
“งั้นถ้าเขาเป็นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือล่ะ?” ลักษณะงานของเสี่ยวเฉียงเป็นตัวกำหนดให้เขาเป็นผู้ชายที่ชอบความมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์
เสี่ยวเชี่ยนเหล่มองเขาด้วยความมั่นใจและภูมิใจ “ถ้าไม่มีฉัน เขามีอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ให้หนี แต่ถ้ามีฉันอยู่ ฉันมั่นใจร้อยยี่สิบเปอร์เซ็นต์เลยล่ะว่าทำให้เขาเป็นโรคกลัวเอดส์ได้ ฉันจะทำให้เขาเหมือนตายทั้งเป็น—พี่สะใภ้ใหญ่คะ ฉันต้องขออนุญาตจากพี่ พี่อนุญาตไหมคะ?”
อันที่จริงเสี่ยวเชี่ยนจะลงมือโดยไม่ขออนุญาตจากพี่สะใภ้ใหญ่ก็ได้ แต่เธออยากให้พี่สะใภ้ได้เห็นด้านที่โหดร้ายของเรื่องนี้ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก
พี่สะใภ้ใหญ่ตอบมาแค่ประโยคเดียว
“ล้านนึงพอให้เขารักษาโรคกลัวเอดส์ไหม?”
เสี่ยวเชี่ยนยิ้ม “ตัดศูนย์ออกไปสองตัวค่ะ จิตแพทย์ทั่วไปก็รักษาโรคนี้ได้—หรือบางทีตัดศูนย์แล้วอาจลดไปอีกครึ่งหนึ่งก็ได้นะคะ”
โรคเล็กน้อยแค่นี้ จิตแพทย์ทั่วไปก็รักษาได้
แต่ปัญหาคือ รักษาหายแล้วก็ใช่ว่าจะจบ เห็นเป็นโรคเล็กน้อยแบบนี้ แต่ผลที่ตามมากลับรุนแรงเอาการ
เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว อวี๋หมิงหลางมั่นใจว่าเมียเขาคุมเกมไว้หมดแล้ว ไม่มีงานของเขา เธอคนเดียวเอาอยู่
[1] คนไม่ผิดก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร