แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1081 เธอไปเห็นอะไรมา
เสี่ยวเชี่ยนถึงขนาดที่กำลังคิดว่าตัวเองมีญาณรู้ล่วงหน้า?
นี่มันจะแม่นไปหรือเปล่า?
เมื่อกี้เธอยังคิดเรื่องมือที่สามอยู่เลย ตอนคุยกับอวี๋หมิงหลางเมื่อครู่เธอยังคิดเล่นๆอยู่เลยว่าถ้าเรื่องนอกใจมาเกิดขึ้นกับเธอ เธอจัดการทั้งเมียน้อยทั้งผู้ชายเลวไม่เหลือซากแน่
แต่พอได้มาเห็นกับตากลับรู้สึกว่าเรื่องไม่ได้ง่ายแบบนั้น
ประธานเชี่ยนรู้สึกว่าถ้าเอาความตกตะลึงของเธอในชาตินี้ทั้งหมดมารวมกันยังไม่เท่าตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
คงเป็นความบังเอิญมากกว่า เขาไม่น่าจะโกหกเธอ
ถ้าคนอย่างอวี๋หมิงหลางนอกใจแล้วจะมีใครให้เชื่อใจได้อีก?
เวลานี้สมองของเสี่ยวเชี่ยนว่างเปล่า มีอยู่ความคิดเดียว ถ้านี่เป็นเรื่องจริง ไม่แน่เธอสามารถทำถึงขั้นระเบิดพลีชีพให้ตายพร้อมกันไปเลยยังได้—ความคิดที่ไร้เดียงสานี้เป็นความรู้สึกเดียวของเธอในตอนนี้
ความรู้ที่เรียนมา ความใจเย็นที่เคยมี การคิดวิเคราะห์อย่างมีสติ…
ไม่เหลืออยู่เลย
เหลือเพียงแต่ความผลีผลามบุ่มบ่าม
เสี่ยวเชี่ยนแทบอยากจะลงจากรถแล้วไปถามอวี๋หมิงหลางให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้
การหึงเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งของผู้หญิง ไม่เกี่ยวกับไอคิวและอีคิว พอเธอเห็นเหตุการณ์สิ่งแรกที่คิดได้คือลงไปถามอวี๋หมิงหลางให้รู้เรื่อง เธอไม่มีทางยอมให้เขาสวมเขาให้ได้ง่ายๆ ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่านไปเอง ไปถามให้รู้เรื่องเลยดีกว่า
ขณะที่เสี่ยวเชี่ยนกำลังจะเคลื่อนรถก็มีรถบรรทุกขนาดใหญ่ขับเข้ามาบังเธอหมด
กว่ารถคันนั้นจะไปทิ้งไว้เพียงฝุ่นตลบอบอวล เสี่ยวเชี่ยนก็เห็นรถของอวี๋หมิงหลางขับออกไปไกลแล้ว
พอเธอขับตามไปก็คลาดกับรถของเขา
ข้างหน้าเป็นทางแยก ไม่รู้ว่าเขาไปทางไหน
สมองของเธอเหมือนปรากฏคำพูดหนึ่ง
ผู้หญิงไม่ต้องไปตามสืบร่องรอยของสามีตัวเองหรอก เว้นเสียแต่เตรียมหย่าไว้แล้ว
เชื่อใจหรือสงสัย นี่คือปัญหา
เสี่ยวเชี่ยนหลับตาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
ควรจะเชื่อใจเขาดีไหม
เธอจอดรถข้างทางแล้วกดโทรออก
“เมียจ๋ามีอะไรเหรอ?”
“ฉันคิดถึงนาย”
เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากปลายสาย “ทำไมอยู่ๆก็ทำตัวอ้อนแบบเด็กๆล่ะ?”
“อืม วันนี้ไปจัดการเคสมีชู้มาเลยเครียดๆ อยากคุยกับนายน่ะ”
“เครียดก็กลับบ้านสิ เดี๋ยวผมกินเหล้านั่งคุยเป็นเพื่อนเอง ทำไรก็ได้แล้วแต่คุณ”
ถ้าไม่มีเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เธอเห็นกับตา นี่จะเป็นคำพูดที่แสดงถึงความห่วงใย แต่ในเวลานี้เสี่ยวเชี่ยนมีแต่ความไม่แน่ใจ
“อยู่ๆฉันก็นึกเคสนึงออกอยากคุยกับหัวหน้าหน่วยจิตวิทยาของนาย นายช่วยเรียกเขามาคุยหน่อยได้ไหม”
“เอ่อ…”
ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในหน่วยนี่ แล้วจะให้เรียกมาคุยได้ไง
“เอาแบบนี้ เดี๋ยวผมให้เขาโทรกลับหาคุณดีไหม? ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ใกล้เขา”
เสี่ยวเชี่ยนหึหึในใจ ไม่ได้อยู่ใกล้เหรอ ก็นายไม่ได้อยู่ในหน่วยนี่
“งั้นไม่ต้องละ เดี๋ยวฉันโทรหาเขาเอง” ก่อนเสี่ยวเชี่ยนวางสายได้ถามขึ้นมาหนึ่งคำถาม
“เคสที่ฉันเจอในช่วงสองวันนี้เป็นเคสให้คำปรึกษาเกี่ยวกับมือที่สามที่เข้ามาทำลายครอบครัวคนอื่น นายมีความคิดเห็นยังไงกับการนอกใจ?”
“คนที่นอกใจหลังแต่งงานเป็นพวกกากเดนทั้งหมด การแต่งงานเป็นพันธะสัญญาที่มีผลทางกฎหมาย สัญญาแล้วว่าจะซื่อสัตย์ต่อกัน การนอกใจไม่เพียงแต่จะทำร้ายความรู้สึก ยังเป็นการทำผิดต่อสัญญาที่ให้กันไว้ด้วย เมียจ๋าเกิดความรู้สึกร่วมกับคนไข้แล้วเดินออกมาจากความรู้สึกนั้นไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม?”
อวี๋หมิงหลางเหลือบมองที่นั่งด้านข้าง ถ้าไม่มีคนสวยข้างๆนี่ล่ะก็ ตอนนี้เขาคงลางานไปหาเมียแล้ว น้ำเสียงเสี่ยวเชี่ยนดูแปลกๆ เขาไม่วางใจ”
“ก็ใช่น่ะสิ ครั้งนี้ฉันใช้ความรู้สึกไปมาก...”
ความรู้สึกที่มีให้เขามันมากเกินกว่าที่เธอคิด ผู้ชายคนนี้มีอิทธิพลต่อเธอเยอะกว่าที่คาดการณ์ไว้ เธอควบคุมความรู้สึกไม่ได้
และก็เพราะทุ่มเทความรู้สึกไปมาก ทำให้หลังจากที่รู้ว่าเขาโกหกเธอถึงได้สูญเสียการไตร่ตรองโดยใช้สติ เสี่ยวเชี่ยนเม้มปาก พยายามอดทนต่อความโกรธที่ถูกเขาหลอก
คนที่สามารถทำให้เธอขาดสติได้แบบนี้ก็มีแค่เขาเท่านั้นแหละ
ทำไมเธอสามารถแก้ไขปัญหาให้คนอื่นได้ง่ายๆ แต่กลับหมดหนทางจัดการกับเรื่องกลุ้มของตัวเอง?
“งั้นให้ผมลาไปหาคุณดีไหม”
เขาไม่วางใจจริงๆ
“ไม่ต้องหรอก ฉันจัดการเรื่องของตัวเองได้ อวี๋หมิงหลาง ฉันอยากให้นายจำไว้เรื่องหนึ่ง”
“อะไรเหรอ?”
ทำไมอยู่ๆก็ซีเรียสขึ้นมา?
“ฉันไม่ชอบให้ใครโกหกฉัน โดยเฉพาะคนที่รักฉันมาโกหกฉัน ฉันไม่มีทางให้อภัยเด็ดขาด”
“…” อวี๋หมิงหลางสะดุ้งหันไปมองเบาะข้างคนขับ เมียคงไม่ได้รู้เรื่องคนสวยแล้วนะ?
เขาหันไปมองรอบตัว ทำไมรู้สึกเหมือนถูกเมียจับได้แล้วก็ไม่รู้?
บนถนนที่มีรถผ่านไปมาอย่างคับคั่ง ไม่เห็นแม้แต่เงาของเสี่ยวเชี่ยน
“ฉันพบว่าคนเรานี่ห้ามพูดโกหกจริงๆนะ โกหกทีนึงก็ต้องโกหกเรื่อยไป เดี๋ยวฉันจะโทรหาอาเพียว อย่าให้เขาพูดมีพิรุธก็แล้วกัน…”
อาเพียวก็คือหัวหน้าทีมจิตวิทยาของหน่วยเสินเจี้ยน เสี่ยวเชี่ยนบอกจะโทรหาเขา อวี๋หมิงหลางกลัวว่าอาเพียวจะเผลอหลุดปากบอกเสี่ยวเชี่ยนว่าเขาไม่ได้อยู่ที่หน่วย ถ้าเสี่ยวเชี่ยนรู้เข้าเป็นเรื่องแน่
เสี่ยวเชี่ยนมองนาฬิกาด้วยสีหน้าเรียบเฉย กะเวลาประมาณหนึ่งแล้วจึงโทรหาอาเพียว
สายไม่ว่าง
ดีมาก อวี๋เสี่ยวเฉียงกำลังโทรไปเตี๊ยมอยู่ใช่ไหม?
รังสีอำมหิตแผ่ซ่านออกมาจากตัวเสี่ยวเชี่ยน ถ้าอวี๋เสี่ยวเฉียงกล้านอกใจเธอล่ะก็ หมอนี่ตายแน่!
เธอให้โอกาสเขาพูดความจริงแล้วแต่เขาก็ยังเลือกที่จะปิดบังเธอ
ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็อย่าโทษที่เธอต้องตามสืบ!
ก่อนหน้านี้ต้าอีเคยโทรหาเธอแล้วอ้ำๆอึ้งๆ เดิมเสี่ยวเชี่ยนไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ตอนนี้อยู่ๆเธอก็นึกขึ้นได้
ต้าอีคงไปเห็นอะไรมาถึงได้จะมาเตือนเธอหรือเปล่า?
ซึ่งก็หมายความว่า อวี๋เสี่ยวเฉียงแอบทำเรื่องบางอย่างลับหลังเธอ คนอื่นๆรู้กันหมดแล้วมีแค่เธอไม่รู้?
เสี่ยวเชี่ยนกำโทรศัพท์นั่งคิดอยู่สักพัก
สืบหรือไม่สืบดี นี่คือปัญหา
ความรักที่เธอมีให้เขาบอกว่าให้เชื่อใจอวี๋หมิงหลาง แต่สติบอกเธอว่าให้เชื่อแค่สิ่งที่ตาเห็น
โดยเฉพาะก่อนหน้านี้เธอเพิ่งไปช่วยบำบัดจิตใจให้พี่สะใภ้ใหญ่ อีกทั้งยังเป็นพยานเห็นพี่ใหญ่เกือบถูกคนหลอกจนต้องเสียครอบครัวมากับตา เสี่ยวเชี่ยนในเวลานี้จิตใจกำลังอ่อนแอ เธอเข้าใจความรู้สึกสับสนของพี่สะใภ้ใหญ่ในตอนนั้นแล้ว
เพราะให้ความสำคัญมากเกินไป ดังนั้นพอเกิดปัญหาขึ้นมาหัวใจถึงได้เจ็บขนาดนี้
ห้านาทีต่อมาเสี่ยวเชี่ยนกดโทรหาต้าอี
ในใจของเธอยังคงเชื่อใจอวี๋หมิงหลาง สืบก็เพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้รักคนผิด ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนอื่นที่กลุ้มเรื่องสามีจะรู้สึกเหมือนเธอในเวลานี้หรือเปล่า แต่เสี่ยวเชี่ยนก็ยังเชื่อว่าอวี๋หมิงหลางไม่มีทางทำเรื่องที่ผิดต่อเธอ
เธออยากได้แค่คำตอบเดียว คำตอบที่ไม่ทำให้เธอเสียใจ
โทรติดแล้วเสี่ยวเชี่ยนก็เข้าประเด็นทันที เธอรู้จักนิสัยของต้าอีดีว่าควรใช้วิธีพูดแบบไหน
“ต้าอี ฉันรู้เรื่องที่อวี๋หมิงหลางปิดบังไว้หมดแล้ว เธอช่วยบอกฉันมาตามความจริงว่าวันนั้นเธอเห็นอะไร”