แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 1099 ครั้งนี้เสี่ยวเชี่ยนไม่เกรงใจ
เสี่ยวเชี่ยนดีดนิ้ว “นับตั้งแต่ตอนนี้ ฉันจะพาแกเข้าสู่โลกจิตใจของพวกเรา นายจะไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงของฉัน ทั้งนั้น…”
เสี่ยวเชี่ยนพูดจบก็ค่อยๆเดินเข้าหาคนร้าย อวี๋หมิงหลางอยากเข้าไปจับกุม แต่กลับถูกเสี่ยวเชี่ยนส่งสัญญาณให้ปฏิบัติการ เขาจึงต้องค่อยๆก้าวไปทางหวางเสี่ยวหง
หวางเสี่ยวหงเจ็บจนสลบไปแล้ว อวี๋หมิงหลางเข้าใกล้หวางเสี่ยวหงมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มองเสี่ยวเชี่ยนด้วยความเป็นห่วง กลัวเธอจะเกิดเรื่อง
เสี่ยวเชี่ยนเอาใบคำถามในมือให้คนร้ายจ้อง ซึ่งก็เป็นการบังอวี๋หมิงหลางไปในตัว
อวี๋หมิงหลางเข้าไปถึงตัวหวางเสี่ยวหงแล้ว แต่เขายังไม่ได้ช่วย เขาหยิบผ้ายัดใส่ปากหวางเสี่ยวหง เขารู้ว่าช่วงเวลาสำคัญที่เสี่ยวเชี่ยนกำลังจัดการกับคนร้ายอยู่นั้นถ้ามีเสียงอื่นแทรกจะทำให้คนร้ายตกใจตื่นได้ ผู้หญิงอย่างหวางเสี่ยวหงชอบกรีดร้องเป็นที่สุด ห้ามให้ร้องออกมาเป็นอันขาด
ถึงได้บอกกันว่าเลือกเพื่อนร่วมทีมถูกคนก็สำเร็จไปครึ่งทางแล้ว เสี่ยวเชี่ยนสะกดจิตคนร้ายพลางมองทางอวี๋หมิงหลางไปด้วย พอเห็นเขาอุดปากหวางเสี่ยวหงก่อนก็แอบยกนิ้วโป้งให้ในใจ
สมกับเป็นสามีเธอ ทำอะไรรอบคอบเสมอ รายละเอียดปลีกย่อยแบบนี้เธอยังลืมนึกไปด้วยซ้ำ โชคดีที่มีเขา
“ดูกระดาษใบนี้ไว้ ตอนที่แกเพิ่งเริ่มทำเรื่องพวกนั้นรู้สึกแบบนี้ใช่ไหมล่ะ?” เธอยังไม่หยุดการล้างสมองอีกฝ่าย
เสี่ยวเชี่ยนในเวลานี้อยู่ห่างจากคนร้ายไม่ถึงสามก้าวแล้ว
อวี๋หมิงหลางหัวใจแทบจะหล่นไปที่ตาตุ่มแล้ว แต่เขาส่งเสียงไม่ได้ ทำได้แค่เชื่อใจเสี่ยวเชี่ยน
ตอนที่แก้มัดให้หวางเสี่ยวหง ได้เจอวัตถุที่ไม่อาจบรรยายใต้แขนเสื้อหวางเสี่ยวหงตามคาด
เขามองเสี่ยวเชี่ยน กัดฟัน เวลานี้คงเรียกทีมกู้ระเบิดเข้ามาไม่ได้ เขาต้องลงมือเองแล้ว!
โชคดีที่หน่วยงานของอวี๋หมิงหลางฝึกให้เป็นทุกอย่าง เรื่องพวกนี้เขาเคยได้รับการอบรมมา ทำได้แค่ต้องลองเดิมพันดูแล้ว
เมียจ๋าผมรักคุณ!
อวี๋หมิงหลางคิดแบบนั้นพร้อมกับตัดสายสีน้ำเงินอย่างรวดเร็ว
ฮู่ว ยังไม่ตาย
ต่อมาเขาเริ่มขั้นต่อไป โครงสร้างตรงนี้ซับซ้อนกว่าเมื่อครู่ อวี๋หมิงหลางไม่รู้ตัวเองจะทำสำเร็จหรือไม่ ตอนนี้เขาพูดไม่ได้ มือถือไม่อยู่กับตัวส่งข้อความไม่ได้ แต่เขาเคาะสายไมค์ที่อยู่ข้างหูเพื่อส่งรหัสลับได้ พวกเฉียวเจิ้นได้ฟังแล้วก็จะรู้ว่าต้องถอยให้หมดทุกคน
“มองกระดาษใบนี้ พวกเราย้อนเวลากลับไปตอนที่แกเริ่มทำเรื่องพวกนั้น เห็นเด็กผู้หญิงที่ถูกแกทำร้ายกำลังยิ้มให้แกไหม?” เสี่ยวเชี่ยนเห็นอวี๋หมิงหลางกู้ระเบิด ครั้นแล้วจึงเพิ่มระดับเสียงเพื่อกลบเสียงของเขา
“เห็นแล้ว เขากำลังยิ้มให้ฉัน…”
เสี่ยวเชี่ยนสบตากับอวี๋หมิงหลาง เขากำลังกู้ระเบิด
เธอกำลังวางระเบิดในสมองของคนร้าย
เขามองเห็นความมั่นใจในแววตาของเธอ เธอเองก็มองเห็นความแน่วแน่ในดวงตาของเขา
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วทั้งสองคนถอยไม่ได้แล้ว
ไม่ว่าใครจะทำพลาด ผลที่อาจเกิดขึ้นก็ยากที่จะจินตนาการได้ แต่ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานไม่มีเวลาให้คิดเยอะ
เธอเชื่อใจเขาก็เหมือนกับที่เขาเชื่อใจในความสามารถของเธอ ยืนอยู่บนคมหอกคมดาบเหมือนกัน ต้องใช้ความรักเท่านั้นถึงจะรู้สึกชื่นชมอีกฝ่าย
เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้รู้สึกเครียดอะไรขณะที่กำลังสะกดจิตคนร้าย แต่ตอนที่เขากู้ระเบิด เธอกลับเริ่มรู้สึกกังวล
ไม่ใช่เพราะกลัวเขาพลาด รื้อผิดแล้วทั้งคู่จะตายในวันเดือนปีเดียวกัน แต่อยู่ๆเธอกลับเกิดความรู้สึกเหมือนสาวน้อยวัยแรกแย้ม
นี่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่เธอได้แสดงความสามารถต่อหน้าคนที่เธอรัก คล้ายกับสาวน้อยวัยรุ่นที่เหนียมอายกำลังยื่นจดหมายรักให้คนที่ชอบ เธอกลัวว่าตัวเองจะสร้างความประทับใจให้อวี๋หมิงหลางได้ไม่มากพอ
ถ้าคนร้ายรู้ว่าเสี่ยวเชี่ยนรู้สึกแบบไหนตอนนี้ไม่แน่อาจร้องไห้ออกมาด้วยความสลด
เห้ย!
ช่วยกรุณาอย่าเอาคนร้ายจิตใจโหดเหี้ยมเป็นอุปกรณ์ที่ใช้แสดงความรักได้ไหม ให้เกียรติกันบ้างสิโว้ย!
ไม่ให้เกียรติเลยแม้แต่น้อย เสี่ยวเชี่ยนจัดโหดจัดหนักเต็มที่
ตัวตนของเธอในทั้งสองชาติ ต่อให้ตรงหน้าเป็นลูกค้าสุดเย็นชาที่เห็นคนจะตายแล้วไม่ช่วย เสี่ยวเชี่ยนก็ไม่มีทางใช้วิธีโหดแบบนี้ที่เข้าทำลายลึกในระดับจิตใจทั้งหมด
ครั้งล่าสุดที่เธอใช้วิธีแบบนี้ก็ตอนที่สะกดจิตผู้ชายเลวอย่างหนีเจี้ยนเหรินที่หลอกเธอแต่งงาน หลังจากที่หนีเจี้ยนเหรินถูกเธอใช้วิธีนี้จนสติฟั่นเฟือนก็กลายเป็นโรคซึมเศร้าและฆ่าตัวตายในที่สุด เท่ากับเสี่ยวเชี่ยนได้แก้แค้นให้เสี่ยวเหวยลูกสาวของเธอแล้ว
และครั้งนี้เธอก็จะไม่ไว้ชีวิตคนๆนี้เช่นกัน
ฆาตกรจิตใจโหดเหี้ยมแบบนี้ยังไงก็หนีไม่รอดโทษตายทางกฎหมายอยู่แล้ว
แต่ก็เหมือนกับที่คนอื่นๆพูดกัน เรื่องทั้งหลายที่คนๆนี้ได้ทำ ให้ตายแค่ครั้งเดียวก็ยังเมตตาเกินไป อีกทั้งเมื่อดูจากพฤติกรรมเอาใหญ่ในวันนี้ คนๆนี้ไม่ได้เห็นความตายอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ
ยิ่งไปกว่านั้นไม่ได้รู้สึกผิดต่อเหยื่อบริสุทธิ์ที่ตัวเองเคยทำร้ายเลยแม้แต่น้อย เสี่ยวเชี่ยนจึงเลือกใช้วิธีที่ทารุณที่สุดกับคนแบบนี้
เธอเข้าไปในจิตใต้สำนึกของคนร้าย บีบบังคับให้เขาไปเจอกับดวงวิญญาณที่ตายโดยไร้ความเป็นธรรมเหล่านั้น ในช่วงเวลาที่ชีวิตของเขาเริ่มนับถอยหลังสู่ความตาย ทุกวินาทีจะต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดต่อผู้เสียชีวิต
ไม่เพียงเท่านั้น เสี่ยวเชี่ยนยังใช้วิธีแทรกซึมความคิด ทำให้คนร้ายเหมือนเห็นวิญญาณคนที่เขาเคยฆ่ามาตามล่าเอาชีวิต เนื่องจากคนๆนี้มีความคิดที่หยั่งรากลึก เสี่ยวเชี่ยนจึงไม่อาจทำได้ง่ายๆภายในเวลาอันสั้น แต่ถ้าทำให้คนร้ายรู้สึกหวาดผวาล่ะก็เธอทำได้ไม่มีปัญหา
อวี๋หมิงหลางกำลังยุ่ง การล้างสมองของเสี่ยวเชี่ยนก็ยังคงดำเนินต่อไป สำหรับคนร้ายที่จิตใจโหดเหี้ยมนี้ ทุกอย่างที่เสี่ยวเชี่ยนทำก็เหมือนกับกล่องแพนโดร่า พอเปิดกล่องออก ความรู้สึกผิดและความหวาดกลัวที่เดิมไม่เคยมีอยู่ในจิตใต้สำนึกของเขาก็จะเริ่มออกมาเพ่นพ่าน
ยามที่คนๆหนึ่งไม่รู้จักละอาย ไม่เข้าใจความเจ็บปวดของคนอื่น ไม่เชื่อเรื่องกรรมตามสนองผีสางเทวดา ต่อให้เขาทำร้ายคนมากเท่าไรก็ไม่มีทางรู้สึกผิดหรือหวาดกลัว แต่เมื่อเสี่ยวเชี่ยนกรอกความคิดที่แข็งแกร่งบางอย่างเข้าไป เขาก็จะเริ่มกลัว เริ่มรู้สึกผิด ถึงขนาดที่เขาได้หลับตาลง มองเห็นดวงวิญญาณคนที่ตายไปหลายปีแล้วพวกนั้นกำลังชี้หน้าเขา ตะโกนสาปแช่งให้เขาไม่ตายดี ไม่ได้ผุดได้เกิดอีก คนร้ายเริ่มทุกข์ทรมานมากขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้เขาหวาดผวาทุกวินาที ทำให้ช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตเขาได้ลิ้มรสกับความทรมานที่น่ากลัวกว่าความตาย เสี่ยวเชี่ยนมีความคิดอยู่อย่าง สาวน้อยที่น่าสงสารทั้งหลาย เทพเจ้าเชี่ยนช่วยพวกเธอให้กลับมามีชีวิตไม่ได้ แต่สามารถใช้พลังทั้งหมดที่มีแก้แค้นให้พวกเธอได้
ไม่มีใครรู้ว่าสามชั่วโมงที่เสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางได้เข้าไปทั้งคู่ทำอะไรกันบ้าง
พวกเฉียวเจิ้นพอได้รับคำสั่งจากอวี๋หมิงหลางก็ถอยออกไปนอกตึกกันหมด ทุกคนอยู่ในอาการหวั่นใจ มองไปทางห้องที่เสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางอยู่ด้วยความเป็นห่วง รอฟังข่าวดีจากทางนั้น
เวลาค่อยๆผ่านไป