แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 490 อยากเจอจริงๆ
เสี่ยวจ้าวแค่มาลองถามดู ศาสตราจารย์หลิวยื่นคำขาด แสดงจุดยืนชัดเจน เธอต้องปกป้องเสี่ยวเชี่ยน ใครกล้าแตะต้องเสี่ยวเชี่ยนเธอก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
หญิงสูงวัยคนนี้ไม่เคยสนใจเรื่องผลประโยชน์อะไรกับใครทั้งนั้น หากใครกล้ามายั่วโมโหก็พร้อมจะทำลายคนนั้น อย่าว่าแต่คณบดีเลย แม้แต่อธิการบดีเห็นเธอยังไม่กล้าทำอะไร ถึงชีวิตในมหาวิทยาลัยจะไม่ได้โอเคนัก แต่ก็เป็นเบอร์หนึ่งของบุคคลที่ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย
พอเห็นศาสตราจารย์หลิวแสดงท่าทีชัดเจนแบบนี้เสี่ยวจ้าวก็รู้สึกกลุ้มขึ้นมาทันที
“อันที่จริงเรื่องนี้จะว่าเล็กก็ไม่เล็กจะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ ถ้าอีกฝ่ายต้องการทำให้เป็นปัญหาขึ้นมาสถานการณ์คงไม่ส่งผลดีกับพวกเราเท่าไร อาจารย์ต้องเข้าใจพวกเรานะคะ งั้นเอาแบบนี้ดีไหมคะ ให้เฉินเสี่ยวเชี่ยนไปเจอคนๆนั้นเอง? ถ้าเรื่องนี้ไม่เป็นเรื่องจริงก็จะได้คืนความบริสุทธิ์ให้กับเด็กด้วย แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง เราจะไม่สนเรื่องชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยไม่ได้นะคะ”
“สนเรื่องชื่อเสียงเหรอ? แล้วตอนที่พวกเธอทำเรื่องที่คนเป็นอาจารย์ไม่ควรทำเคยคิดถึงชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยไหม? เขาไม่ได้ทำไม่จำเป็นต้องไปเจอใครทั้งนั้น พวกเธอจัดการได้ก็จัดการไป จัดการไม่ได้ก็ต้องทำให้ได้ ถ้ารอให้ฉันออกหน้าล่ะก็เรื่องใหญ่แน่”
ศาสตราจารย์หลิวต้อนจนจนมุม เสี่ยวเชี่ยนแอบชื่นชมอาจารย์ที่ออกหน้าแทนอย่างเงียบๆ หญิงสูงวัยคนนี้พอทำแบบนี้แล้วเท่ห์ไม่เบา
“แต่ว่า คือ คือ…” เสี่ยวจ้าวจะมองไปทางไหนก็ลำบากใจ
เธอเป็นแค่คนกลาง จะล่วงเกินศาสตราจารย์หลิวก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่กล้ากลับไปเผชิญหน้ากับอธิการบดี
เสี่ยวเชี่ยนดูอย่างสนุกสนานจนพอใจแล้วจึงยืนขึ้น
“เรื่องนี้ให้หนูจัดการเองค่ะ หนูรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”
“เฉินเสี่ยวเชี่ยน เรื่องนี้เธอไม่จำเป็นต้องออกหน้า ฉันจัดการเอง” ศาสตราจารย์หลิวคิดว่าเรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของเธอ อย่าว่าแต่เพราะเสี่ยวเชี่ยนเป็นเด็กที่เธอชอบเลย เสี่ยวเชี่ยนรักษาให้หวางย่าเฟยก็เพราะเธอเป็นคนอนุญาต จะให้ปล่อยไปไม่สนใจไม่ได้
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าหนูจัดการไม่ดีอาจารย์ค่อยออกหน้าก็ได้ค่ะ หนูบริสุทธิ์ใจ”
สาเหตุที่เสี่ยวเชี่ยนทำแบบนี้หนึ่งคือ เธออยากจัดการอาหญิงให้เด็ดขาด สองคือเธอสามารถจัดการปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน
แน่นอนว่าการหลบอยู่หลังอาจารย์นั้นย่อมปลอดภัยอยู่แล้ว แต่การไปผิดใจกับผู้บริหารคนอื่นด้วยไม่ใช่เรื่องที่ดี ต่อให้อีกฝ่ายไม่เล่นงานเธอเรื่องนี้ก็ยังมีโอกาสอีกเยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องต้องเพิ่มความวุ่นวาย
“ใช่ค่ะใช่ เธอคิดได้แบบนี้ก็ดี ฉันเชื่อในความสามารถของเธอว่าจะต้องจัดการเรื่องนี้ได้แน่นอน ทางที่ดีพวกเธอจัดการกันเองอย่างเงียบๆดีกว่า” เสี่ยวจ้าวพอใจกับท่าทีของเสี่ยวเชี่ยนมาก พยักหน้าไม่หยุด
เหมือนยกภูเขาออกจากอก โยนของร้อนออกจากมือได้แล้ว~
“งั้นเธอจัดการเรื่องเด็กที่สอบตกแบบเงียบๆด้วยหรือเปล่า? พวกเขาให้เครื่องสำอางหรือว่าให้กระเป๋าล่ะ?” ศาสตราจารย์หลิวพูดอย่างไม่ไว้หน้า เสี่ยวจ้าวรู้สึกอายมาก
หญิงสูงวัยคนนี้ปกติไม่ยุ่งเรื่องแบบนี้ แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรสามารถปกปิดเธอได้
“อาจารย์กินข้าวต่อเถอะนะคะ ฉันขอตัวก่อนค่ะ”
เสี่ยวจ้าวรีบออกไปทันที
เสี่ยวเชี่ยนแอบขำในใจ พอเห็นท่าทางที่ยังโมโหอยู่ของศาสตราจารย์หลิวเธอจึงพูดปลอบ
“อาจารย์จะไปโกรธพวกเขาทำไมคะ เรื่องแค่นี้เอง หนูมีวิธีจัดการค่ะ”
“เห็นคนพวกนี้แล้วหงุดหงิด วันๆทำงานขายผ้าเอาหน้ารอด พอเกิดเรื่องก็พูดจาผลักภาระให้คนอื่น หึ เรื่องแบบนี้อันที่จริงก็ไม่เห็นมีอะไร ทางมหาลัยทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ก็ได้แล้ว ยังจะให้เราจัดการ? เฮงซวย แสดงว่าคนที่มาร้องเรียนเป็นคนมีอิทธิพลพวกเขาถึงไม่กล้ามีเรื่องด้วย…เฉินเสี่ยวเชี่ยน นี่เธอไปก่อเรื่องไว้ใช่ไหม”
ศาสตราจารย์หลิวกำลังโมโห แต่ท่าทางที่โมโหคนนอกกับคนในนั้นไม่เหมือนกัน ประโยคช่วงแรกเป็นการระบายความไม่พอใจกับประชดโลกแห่งความเป็นจริง ส่วนประโยคช่วงหลังเป็นท่าทีของผู้อาวุโสที่โมโหเด็กดื้อที่ไปก่อเรื่องข้างนอกมา”
“เปล่านะคะ อย่ามาปรักปรำหนู หนูจะไปหาเรื่องใครได้? ทางนั้นต่างหากที่ไม่เลิกรากับหนูซักที”
“เธอรู้เหรอว่าใคร?”
“รู้สิคะ อาหญิงของอวี๋ไข่เหล็ก น้องสาวของคุณอวี๋เว่ยกั๋ว น้องสามีของคุณฉีเจียว เขานั่นแหละค่ะ ลูกชายเขาเคยมีปัญหากับหนูมาก่อน คือเรื่องเป็นแบบนี้ค่ะ…”
เสี่ยวเชี่ยนเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ เธอไม่ได้มองว่าอาจารย์เป็นคนนอก อีกอย่างเรื่องแบบนี้ถ้าไม่พูดให้เคลียร์ตั้งแต่แรก หญิงสูงวัยคนนี้ได้เคืองเธอไปอีกหลายปีแน่
เริ่มตั้งแต่เรื่องที่อาจารย์ประจำชั้นมอปลายของเธอรวมหัวกับพ่อเธอเอาใบตอบรับเข้ามหาวิทยาลัยไปซ่อน ตามมาด้วยเรื่องหมั้นกับผู้ชายเฮงซวย แล้วก็ถือโอกาสเล่าเรื่องที่ว่ารู้จักกับอวี๋ไข่เหล็กได้ยังไงไปด้วย ไปจนถึงเรื่องที่ผิดใจกับอาหญิงครั้งแล้วครั้งเล่าจนกลายเป็นพลังแค้นอันยิ่งใหญ่…
ศาสตราจารย์หลิวฟังพลางหน้านิ่วคิ้วขมวด กัดฟันกรอดด้วยความแค้น
พอฟังถึงตอนท้ายศาสตราจารย์หลิวก็หน้าบึ้ง แล้วสรุปเหตุการณ์ชนิดที่เสี่ยวเชี่ยนถึงกับทำหน้าไม่ถูก
“อวี๋ไข่เหล็กตัวแสบนี่ทำเรื่องที่ลูกผู้ชายสมควรทำจริงๆ ดีมาก ได้ช่วยจิตแพทย์ของวงการพวกเราไว้”
เล่ามาตั้งยืดยาวได้บทสรุปแบบนี้ก็ตลกดีนะ
“ดังนั้นนี่เป็นสิ่งที่หนูคิดไม่ตกค่ะ หนูรู้ว่าระหว่างคนเราด้วยกันไม่ควรจะใช้ไม้แข็ง มันก็ยังพอจะมีวิธีที่นุ่มนวลอยู่ แต่หนูเห็นคนแบบอาหญิงเอะอะก็ทำให้เป็นเรื่อง จัดการไปได้ครั้งหนึ่ง เว้นไปสักพักก็เป็นบ้ากลับมาหาเรื่องอีก จัดการเสร็จก็เอาอีก อาจารย์ว่าชีวิตที่สวยงามของคนเราทำไมจะต้องมานั่งปวดหัวกับคนที่มีแนวโน้มเป็นโรคจิตด้วยถูกไหมคะ?”
ครั้งนี้เสี่ยวเชี่ยนตัดสินใจแล้วว่าจะจัดการเอาให้อาหญิงกลับมาหาเรื่องไม่ได้อีก ครั้งเดียวอยู่หมัด ไม่อยากปวดหัวอีกแล้ว น่ารำคาญ
“ผู้หญิงบ้าที่ไม่รู้จักโตแบบนี้สมองไม่ได้เรื่องจิตใจยังเลวร้ายอีก เมื่อก่อนตอนที่รังแกฉีเจียวฉันก็ทนไม่ไหวแล้ว นึกไม่ถึงว่าหลายปีมานี้ยังสำนึกไม่ได้ ฉันจะไปหาเขา ฉันจะไปคุยกับเขาเรื่องเมื่อตอนปี83ที่แฟนของเขาไปทำงานต่างที่แล้วเขาไปเที่ยวกลางคืนกับผู้ชายอายุมาก”
เสี่ยวเชี่ยนหรี่ตา “อาจารย์เป็น007เหรอคะ?”
เรื่องแบบนี้ยังรู้? มหัศจรรย์มาก
“แย่มาก บังอาจมารังแกคนของฉัน ฉันจะไปหาเขา อายุปูนนี้แล้วไม่รู้จักไปทำสวนปลูกดอกไม้ วาดรูปเล่นดนตรีสงบจิตสงบใจ วันๆเอาแต่หาเรื่องคนอื่น”
“อาจารย์อย่าไปเลยค่ะ นี่เป็นเรื่องระหว่างหนูกับเขา หนูไปจัดการเองดีกว่า”
“เธอน่ะเหรอ?”
“ค่ะ มีเหตุก็ต้องมีผล ถึงเวลาที่หนูควรจัดการให้มันจบๆไปเสียที ถ้าหนูไม่ไหวอาจารย์ค่อยยกเรื่องผู้ชายแก่คนนั้นมาพูด…อาจารย์คะ เขามีชู้ตอนสาวๆจริงเหรอคะ?”
ดูไม่ออกเลยว่าอาหญิงจะเป็นคนแบบนั้นด้วย
“หึ ทำอะไรลงไปรู้ดีแก่ใจ ถ้ากล้าทำก็อย่ากลัวว่าคนอื่นจะรู้ เสี่ยวเชี่ยน จิตแพทย์อาจเป็นอาชีพที่รู้ความลับของคนอื่นเยอะที่สุด อีกหน่อยเธอก็จะได้รู้ความลับของคนอื่นมากขึ้น ซึ่งเธอก็ต้องช่วยพวกเขาเก็บเป็นความลับ ห้ามเอาไปพูดส่งเดช มันไม่สมควร”
“…ดังนั้นอาจารย์เลยจะปกปิดความลับแบบให้โลกรู้?” พูดมาเสียดิบดี ตบท้ายด้วยเรื่องจรรยาบรรณซะงั้น อาจารย์ตลกจัง
“หึ” ศาสตราจารย์หลิวหันหน้าหนีด้วยท่าทางเชิ่ดๆ
เสี่ยวเชี่ยนยิ้มมุมปาก ถึงเวลาที่จะได้แสดงความสามารถของตัวเองแล้ว อาหญิง อยากเจอหน้าจริงๆ