แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 530 ต้องการเจอเสี่ยวเฉียง
“พวกเราอยู่ด้วยกันมาตลอด คุณก็คือผม ผมก็คือคุณ พวกเราไม่เคยแยกจากกัน ทิ้งตัวตนนี้ไว้ให้ผม แล้วคุณก็กลับไป กลับไปอยู่เคียงข้างคนที่คุณแคร์…”
เสียงของหลิวส่วงค่อยๆห่างออกไปเรื่อยๆ หูเหม่ยจิ้งมองเขาพาตัวเธออีกคนหนึ่งไป ค่อยๆเดินหายไปท่ามกลางความมืดที่ว่างเปล่า น้ำเสียงที่นุ่มนวลของเสี่ยวเชี่ยนชัดเจนขึ้นเรื่อยๆอยู่ข้างหู
อยู่ๆหูเหม่ยจิ้งก็อยากเห็นสีหน้าของหลิวส่วง เธออยากรู้ว่าใบหน้านั้นแสดงอารมณ์อย่างไรต่อเธอ จะโกรธเกลียดหรือไม่ให้อภัยหรือเปล่า?
คล้ายกับล่วงรู้ความคิดของเธอ หลิวส่วงที่พาหูเหม่ยจิ้งอีกหนึ่งตัวตนไปทันใดนั้นก็หันมา ในขณะเดียวกันบรรยากาศรอบตัวจากที่มืดมนก็ปรากฏแสงสว่าง
เหมือนกับยามบ่ายตอนเจอกันครั้งแรก เขาที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวยิ้มสดใสให้เธอ เหมือนกันทั้งน้ำเสียงและสีหน้า
“เหม่ยจิ้ง ผมหวังว่าคุณจะมีความสุข ลืมผมแล้วกลับไปยังที่ที่คุณควรอยู่ การที่คุณมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างมีความสุขก็คือความสุขที่สุดแล้วของผม ลาก่อนเหม่ยจิ้ง”
เขาไม่เกลียดเธอ…น้ำตาของหูเหม่ยจิ้งไหลออกมา เธอยังอยากเหนี่ยวรั้งคนรักเก่า แต่เขากลับค่อยๆลอยขึ้นไปท่ามกลางเสียงเพลงอันแผ่วเบา พาตัวตนเดิมของเธอไป ความว่างเปล่าที่อยู่รอบตัวกลับกลายเป็นมีดอกไม้เบ่งบานประกอบเพลงที่เขาชอบ ในที่สุดจิตใต้สำนึกอันว่างเปล่าของเธอก็กลับสู่ฤดูใบไม้ผลิ
และในโลกของจิตใต้สำนึกที่เต็มไปด้วยความเขียวชอุ่มนี้ เสียงของเสี่ยวเชี่ยนคล้ายกับเส้นทางกลับบ้านอันแสนอบอุ่น ค่อยๆเรียกเธอ กลับบ้านเถอะ
หูเหม่ยจิ้งลืมตา สมองของเธอว่างเปล่า
“หมอเฉิน…? มาอยู่ที่นี่ได้ไงคะ?”
“ฉันอยู่ตรงนี้มาตลอด เหม่ยจิ้ง จำได้ไหมว่าเมื่อครู่คุณทำอะไรไป?”
เสี่ยวเชี่ยนไม่รู้ว่าในโลกจิตใต้สำนึกของหูเหม่ยจิ้งเกิดอะไรขึ้น ตอนที่ถามหูเหม่ยจิ้งมือของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญของการทดสอบผลลัพธ์
ล้มเหลวหรือสำเร็จก็อยู่ที่ครั้งนี้
“ฉัน…มันเหมือนกับเป็นความฝันที่ยาวนาน…” หูเหม่ยจิ้งพยายามนึก แต่กลับนึกไม่ออกว่าเธอเจอกับอะไรบ้างในความฝัน
“มันเป็นความฝันแบบไหนพอจะบอกได้ไหมคะ?” เสี่ยวเชี่ยนแทบหยุดหายใจ
“มันเป็นฝันแบบ…เศร้าหน่อยๆ แต่กลับอบอุ่น…” หูเหม่ยจิ้งมองหยาดน้ำตาบนมือด้วยความสงสัย เธอร้องไห้เหรอ? เธอลูบใบหน้าตัวเอง ทำไมเธอถึงร้องไห้ล่ะ?
“หมอเฉิน ฉู่เซวียนไปไหนเหรอคะ? ฉันจำได้ว่า…ดูเหมือนพวกเรามาโรงพยาบาลด้วยเรื่องบางอย่าง” ตอนนี้หูเหม่ยจิ้งกำลังสับสน
ในส่วนลึกของจิตใจเธอมีความเจ็บปวดบางอย่าง แต่ก็รู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อย มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก คล้ายกับว่าได้รับชีวิตใหม่ จิตใต้สำนึกบอกเธอว่า ต้องพยายามอยู่ต่อไป จะต้องอยู่ต่อไปอย่างมีความสุข แต่ทำไมตัวเธอถึงพูดไม่ออก
“เขารอคุณอยู่ตลอด” เสี่ยวเชี่ยนพอได้ยินหูเหม่ยจิ้งพูดแบบนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก สำเร็จแล้ว
เธอหันไปโบกมือให้ด้านนอก ฉู่เซวียนรีบผลักประตูเข้ามาชนิดที่แทบทนรอไม่ไหว เขาอยากพุ่งเข้าไปหาหูเหม่ยจิ้งแต่ใจหนึ่งก็ไม่กล้า ยืนลังเลอยู่ตรงนั้น สายตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“ฉู่เซวียน คุณยืนทำอะไรน่ะ เข้ามาสิ” หูเหม่ยจิ้งพูด
ประโยคนี้ทำให้น้ำตาลูกผู้ชายของฉู่เซวียนไหลออกมา เขาเข้าไปจับมือหูเหม่ยจิ้งไว้แน่น
“จิ้งจิ้ง คุณจำผมได้แล้ว”
“ไร้สาระ คุณเป็นสามีฉัน ฉันจะลืมคุณได้ไง? เอ๊ะ ทำไมฉันถึงพูดอะไรแบบนี้?” หูเหม่ยจิ้งเอามือปิดปากด้วยความสงสัย เธอควรจะเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนไม่ใช่เหรอ?
“จะเป็นไงไม่สำคัญหรอก คุณกลับมาก็ดีแล้ว จิ้งจิ้งผมคิดถึงคุณมาก” ฉู่เซวียนกอดหูเหม่ยจิ้งร้องไห้ใหญ่
ขณะที่เสี่ยวเชี่ยนทำการรักษา คนที่เครียดที่สุดก็คือเขา
“จะเป็นพ่อคนอยู่แล้วอย่าบุ่มบ่ามสิคะ เดี๋ยวคนท้องตกใจจะทำไงคะ?” เสี่ยวเชี่ยนเห็นภาพตรงหน้าแล้วก็ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเป็นห่วงดี
ลืมแล้วถึงเป็นความสุข หอบเอาความรักของคนที่ตายไปแล้วมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง
“คนท้อง?” ความทรงจำบางอย่างของหูเหม่ยจิ้งยังคงเลือนราง
“คุณจะเป็นแม่คนแล้วยินดีด้วยนะคะ คลอดเมื่อไรอย่าลืมบอกฉันนะคะ ฉันจะไปกินไข่มงคล[1]ที่บ้านพวกคุณ” เสี่ยวเชี่ยนพูดจบก็เตรียมเดินออก
ในที่สุดก็จัดการได้ เรื่องนี้จบลงอย่างสวยงาม แต่ทำไมในใจเธอถึงได้รู้สึกเหนื่อยล้าแบบนี้ เห็นหูเหม่ยจิ้งกลับมาสู่ครอบครัวได้ แต่เสี่ยวเชี่ยนกลับรู้สึกอึดอัดในใจอย่างบอกไม่ถูก
“หมอเฉิน ขอบคุณนะครับที่ดูแลเหม่ยจิ้งของผม ผมสามารถจากไปอย่างหมดห่วงได้แล้ว คุณเป็นจิตแพทย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด สู้ๆนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ—หืม?” เสี่ยวเชี่ยนหันไปมองฉู่เซวียนที่กำลังกอดกับหูเหม่ยจิ้งด้วยความสงสัย
เสียงของฉู่เซวียนเพราะขนาดนี้เลยเหรอ?
“เมื่อกี้คุณพูดอะไรหรือเปล่าคะ?” เสี่ยวเชี่ยนถามฉู่เซวียน ฉู่เซวียนที่กำลังอยู่ในห้วงแห่งความสุขเงยหน้าด้วยความสงสัย
“เปล่านี่ครับ มีอะไรเหรอ?”
เสี่ยวเชี่ยนหันซ้ายหันขวา ทันใดนั้นก็นึกถึงคำพูดของหูเหม่ยจิ้ง หลิวส่วงเป็นคนที่มีเสียงไพเราะ เธอรู้สึกเสียวสันหลังทันที…
พอออกจากห้องผู้ป่วยก็เห็นสองสามีภรรยารออยู่ไม่ไกล เนื่องจากบุคลิกที่สองของหูเหม่ยจิ้งเพิ่งจะถูกปลุกขึ้นมา ศาสตราจารย์หลิวกลัวการปรากฏตัวของตัวเองไปทำให้อารมณ์ของหูเหม่ยจิ้งไม่มั่นคง จึงไม่ได้เข้าไป
พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนเดินมา ศาสตราจารย์หลิวก็ตบบ่าเสี่ยวเชี่ยน
“เสี่ยวเชี่ยนเธอเก่งมาก”
เสี่ยวเชี่ยนยังไม่ได้สติจากเสียงที่เพิ่งได้ยิน พอถูกอาจารย์ตีบ่าก็ได้สติทันที
“อาจารย์ว่า หลังจากที่สะกดจิตระดับหกแล้ว ตัวนักสะกดจิตจะมีอาการภาพหลอนหรือหูแว่วหรือเปล่าคะ?”
“ก็เป็นไปได้ เพราะตอนที่สะกดจิตให้คนอื่นเธอก็อาจเข้าสู่ห้วงสะกดจิตตนเองก็เป็นได้ มีอะไรเหรอเสี่ยวเชี่ยน?”
เสี่ยวเชี่ยนส่ายหน้าไม่พูดอะไร เสียงอ่อนโยนเมื่อครู่ ไม่ว่าจะเป็นอาการหูแว่วจากการสะกดจิตของเธอหรือว่า…
เอาเป็นว่าเรื่องนี้ในที่สุดก็จบลงอย่างสมบูรณ์แล้ว
แต่ในใจยังคงรู้สึกโหวงๆนิดหน่อย ก็เหมือนกับเมื่อชาติก่อนหลังจากที่เธอรักษาอาการที่มีความซับซ้อนเป็นพิเศษแล้วได้เกิดความกดดันอย่างรุนแรงจากคนไข้ที่ส่งมาให้เธอ…
“เสี่ยวเชี่ยน เธอไม่เป็นอะไรนะ?”
“หนูอยากได้เหล้าเหมาไถสักขวด—ไม่สิ หนูต้องการอวี๋หมิงหลางค่ะ”
“เธอต้องการ…อะไรนะ?” หัวหน้าใหญ่ได้ยินไม่ชัด
“หนูจัดการเรื่องในหน่วยของหัวหน้าใหญ่ให้แล้ว ยังไงก็ต้องเก็บค่าใช้จ่าย หนูไม่ต้องการเงิน เอาอวี๋หมิงหลางมาใช้หนี้หนึ่งวันหนึ่งคืนพอค่ะ”
“เสี่ยวเชี่ยน ล้อฉันเล่นเหรอ?” เป็นครั้งแรกที่หัวหน้าใหญ่ได้ยินเอาคนใช้หนี้
“ทำตามที่เธอบอก” ศาสตราจารย์หลิวพูด
หัวหน้าใหญ่ยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่พอเห็นสายตาของศาสตราจารย์หลิว เป็นสามีภรรยากันมาตั้งหลายปี เขาพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ได้ ฉันจะตามเขามาเดี๋ยวนี้”
“ให้เขาไปหาหนูที่ร้านคาราโอเกะเย่กวง นับแต่นี้ไปเขาเป็นของหนูคนเดียว ห้ามหาข้ออ้างมาพาเขาไป เช้าวันมะรืนหนูจะปล่อยเขากลับหน่วยเองค่ะ”
“เสี่ยวเชี่ยน มีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่า?” ศาสตราจารย์หลิวพอจะเข้าใจอาการของเสี่ยวเชี่ยนในตอนนี้แล้ว จึงถามด้วยความเป็นห่วง
เสี่ยวเชี่ยนโบกมือ “ไม่เป็นไรค่ะ พอหนูเห็นอวี๋หมิงหลางก็ไม่เป็นไรแล้ว หนูไปก่อนนะคะอาจารย์”
เธอเดินออกโดยไม่หันกลับไปมองอีก สถานที่แห่งนี้ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจ
หัวหน้าใหญ่โทรศัพท์พลางบ่น “นี่ผมถือเป็นการเอาเรื่องส่วนตัวมาเบียดบังงานหรือเปล่า? ถึงเช้าวันมะรืนมันหนึ่งวันหนึ่งคืนที่ไหน สองคืนหนึ่งวันต่างหาก…”
[1] ไข่มงคล ตามธรรมเนียมโบราณของจีน หากบ้านไหนคลอดลูกก็จะมีการแจกไข่มงคลให้กับคนที่มาเยี่ยม โดยคำว่าไก่พ้องเสียงกับคำว่าศิริมงคล ดังนั้นจึงใช้ไข่ไก่มาทำเป็นไข่มงคล