แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 543 ปลอมทั้งนั้น
เมื่อกี้เสี่ยวเชี่ยนยังโกรธที่เขากล้าขอร้องแทนพ่อเฮงซวยของเธอ ตอนนี้เขากลับทำให้รู้สึกขนลุก
“อย่ามาทำขนลุก มีอะไรก็พูดมา นายพูดซะฉันขนลุกไปทั้งตัวแล้ว” เขามาทำขนลุกในเวลาแบบนี้ รู้สึกความโกรธที่สะสมมาหายไปครึ่งหนึ่ง
“ผมพูดมาจากใจ คุณอย่าหงุดหงิดกับเรื่องนี้เลย ถ้าคุณไม่สบายใจ อาการอย่างน้อยคือทำผมปวดใจ อย่างมากคือทำให้จิตใจของทหารหวั่นไหว”
“ถ้านายไม่อยากให้ฉันหงุดหงิดก็ปล่อยฉันลงจากรถ”
“ผมไม่อยากให้คุณหงุดหงิดถึงไม่ให้ลงจากรถ คุณลืมผมแล้วเหรอ?”
เสี่ยวเชี่ยนมองเขาอย่างสงสัย เขาจัดผมให้เธอแล้วพูดอย่างอ่อนโยน “ตอนนี้พวกเราเป็นคู่หมั้นกัน ครอบครัวคุณก็คือครอบครัวผม คนที่คุณอยากปกป้องก็คือคนที่ผมอยากปกป้องเหมือนกัน ในเมื่อคุณต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ งั้นก็ปล่อยให้ผมจัดการเถอะ คุณอยู่เฉยๆ”
“ฉันจัดการเองก็ได้”
“ผมรู้ว่าคุณจัดการได้ แต่ต่อให้คุณพูดเป็นหมื่นครั้งว่าคุณไม่แคร์ ผมเชื่อว่าจิตใต้สำนึกของคุณแคร์ ดังนั้นให้ผมจัดการเถอะ เชื่อผม นั่งอยู่บนรถอย่าลงไป แล้วก็อย่าคิดว่าการปล่อยเรื่องนี้ให้ผมทำเป็นการปฏิเสธความสามารถของคุณ—ลูกเชี่ยนเคยได้ยินสำนวนกินลูกประทังชีวิตไหม?”
ในฐานะที่เป็นเด็กเนิร์ดเธอถึงกับต้องเตือนเขา “สำนวนนี้มันหมายถึงชีวิตที่แร้นแค้นของชาวบ้าน ไม่ใช่อย่างที่นายคิด”
“แต่เดิมความหมายของมันคือผู้คนอดอยากขั้นหนักเลยต้องแลกลูกเพื่อเป็นอาหาร เพราะทนกินลูกตัวเองไม่ได้ ที่ผมอยากบอกก็คือ เรื่องของครอบครัวคุณมอบให้เป็นหน้าที่ผม ถ้าครอบครัวผมเกิดปัญหา เกิดมีคนทำไม่ดีผมก็จะให้คุณจัดการ พวกเราก็เหมือนสำนวนนี้…”
“นายจะมาเปลืองแรงทำไม?”
เขาลูบใบหน้าเธอ แล้วมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น “เพราะทนเห็นคุณถูกทรมานด้วยเรื่องที่ไม่คุ้มกันไม่ได้ เด็กดี รอผมอยู่บนรถนะ”
อวี๋หมิงหลางลงจากรถ คนพวกนั้นพอเห็นเขามาแล้วก็ทักทายด้วยความเคารพ อวี๋หมิงหลางพยักหน้าเป็นการทักทาย แล้วเดินเข้าไปอย่างไม่รีบร้อน เตรียมจัดการพ่อเฮงซวยคนนั้น
เสี่ยวเชี่ยนไม่ค่อยมีของอะไรที่ทำให้เธอติด เธอเชื่อว่าทุกอย่างต่างมีโทษ
ของจำพวกเหล้าบุหรี่ล้วนเป็นสิ่งที่ควรถูกคนใช้ปลดปล่อยอารมณ์อย่างมีขอบเขต ไม่ใช่กลับกลายมาเป็นสิ่งที่ครอบงำความคิดของคน
เธอสามารถเลือกที่จะใช้ของพวกนี้ตามสถานการณ์เพื่อช่วยให้เธอได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
แต่พออวี๋หมิงหลางเข้าไปแล้ว เธออยู่บนรถตามลำพังกลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
พอได้สติกลับมาเธอก็ยืนอยู่ตรงร้านค้าเล็กๆแถวนั้นแล้ว ในมือถือซองบุหรี่หงถ่าซาน
เธอกลับไปที่รถจุดบุหรี่สูบ อวี๋หมิงหลางยังไม่ออกมา คนที่เขาส่งมาต่างถอยกันไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าข้างในเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ควันบุหรี่คละคลุ้งภายในรถ สูบเข้าไปหนึ่งทีก็รู้ว่าบุหรี่นี่เป็นของปลอม ร้านค้าเล็กๆพวกนี้ชอบขายของปลอม สูบแล้วไม่ตายแต่มันก็ไม่ดี
บุหรี่น่ะปลอม แต่พ่อเฮงซวยน่ะของจริง
ปัญหานี้เสี่ยวเชี่ยนคิดตั้งแต่ชาติที่แล้วมาจนถึงตอนนี้ 95%ของพ่อบนโลกนี้ล้วนรักลูกตัวเอง แล้วทำไมพ่อเธอถึงเป็น5%ที่เหลือ
บางครั้งเธอก็อยากถามเจี่ยซิ่วฟาง ตอนสาวๆไปแอบขโมยลูกใครมาหรือเปล่า จริงๆแล้วเธอไม่ใช่ลูกสาวเขา ไม่อย่างนั้นจะมีพ่อที่ไม่เห็นแก่สายเลือดแบบนี้ได้ยังไง
เธอไม่รู้จริงๆว่าตัวเองทำอะไร แค่เพราะเธอเป็นผู้หญิง แต่เล็กจนโตเลยถูกพ่อมองเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง ถึงขนาดที่บางครั้งเธอยังรู้สึกว่าพ่อมีความแค้นกับเธอ ทำไมนะ?
ถึงแม้ก่อนหน้านี้เจี่ยซิ่วฟางจะพูดกับเสี่ยวเชี่ยนบ่อยๆว่าเธอเป็นผู้หญิงควรจะอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อชาติก่อนเสี่ยวเชี่ยนก็รู้สึกว่าแม่เหมือนกับพ่อ รักลูกชายมากกว่า ไม่ชอบเธอ แต่พอได้กลับมาเกิดใหม่ดูเหมือนเธอจะเข้าใจแล้ว
โดยแก่นแท้คนเป็นแม่แตกต่างกับคนเป็นพ่อ
เจี่ยซิ่วฟางบอกว่าเธอสอนโดยใช้ประสบการณ์ของคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน ถึงเสี่ยวเชี่ยนจะมองว่าประสบการณ์ของเจี่ยซิ่วฟางไม่เหมาะกับเธอ โบราณเกินไป ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง เน้นย้ำให้ผู้หญิงเสียสละและเป็นฝ่ายยอมเสมอ แต่แม่ก็พยายามเต็มที่เพื่ออยากให้ลูกสาวมีชีวิตที่ดีในอนาคต แม่คนบ้านนอกที่ไร้การศึกษาและอ่อนต่อโลกก็คงทำได้แค่นี้
หลังจากหย่ากับเฉินหลินแล้วเจี่ยซิ่วฟางก็ยิ่งให้ความสำคัญกับลูกสาวอย่างเห็นได้ชัด ตอนเสี่ยวเชี่ยนหมั้นได้ยกบ้านที่อยู่ในเมืองให้เป็นของขวัญ นี่ก็พิสูจน์แล้วว่าเมื่อชาติที่แล้วเสี่ยวเชี่ยนมองแม่ตัวเองผิดไป
เสี่ยวเชี่ยนคิดว่าหลังหย่าที่แม่มีท่าทีระมัดระวังเป็นเพราะกลัวเธอ ตอนนี้มาคิดดู อาจเป็นเพราะแม่รู้สึกว่าลูกสาวอยู่ข้างนอกทำงานลำบาก ต้องมาแบกรับเรื่องใหญ่ๆอีกทั้งแม่ก็กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เลยรู้สึกผิดที่ไม่ได้ดูแลเสี่ยวเชี่ยนให้ดี ดังนั้นจะทำอะไรถึงได้เกรงใจเสี่ยวเชี่ยน
เจี่ยซิ่วฟางในตอนนั้นไม่เหมือนกับชาตินี้ ตอนนั้นเธอไม่มีอะไรเลยสักอย่าง ไม่มีเงิน ไม่มีบ้าน แม้แต่เวลาดูแลตัวเองก็ไม่มี ที่ให้ลูกสาวได้ก็มีแค่รอยยิ้ม อยากให้ลูกสบายใจเวลากลับมาบ้าน แต่กลับถูกเสี่ยวเชี่ยนมองว่าแม่ทำไปเพราะอยากได้เงินจากตัวเอง
พอนึกได้ถึงตรงนี้เสี่ยวเชี่ยนก็อัดบุหรี่เข้าปอดฟอดใหญ่ รู้ทั้งรู้ว่าเป็นของปลอมก็ยังอยากสูบ
อยากให้พ่อคนนี้เป็นของปลอมมั่งจัง
เสี่ยวเชี่ยนเปิดลิ้นชักหน้ารถแล้วยัดบุหรี่คุณภาพแย่เข้าไป ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงพ่อกับลูกสาวเดินผ่านมา
เด็กผู้หญิงอายุไม่กี่ขวบมัดผมเปียเล็กๆสองข้าง แผดเสียงร้องไห้จ้า พ่อของเธออุ้มเธอขึ้นมา คุณแม่วัยสาวเดินอยู่ด้านหลังมองด้วยความเป็นห่วง
“ป่าป๊าไม่ดี ไม่ซื้อตุ๊กตางั้นหนูจะไม่กลับบ้าน ฮือๆๆ” เด็กน้อยร้องไห้เสียใจ ปรากฏว่าถูกพ่อตีก้น
“ป่าป๊าไม่เชื่อว่าจะดัดนิสัยหนูไม่ได้ เงียบ ห้ามร้อง กลับบ้านเจอดีแน่” หลังจากที่คุณพ่อวัยหนุ่มขู่ลูกสาวแล้วก็รีบเดินกลับบ้าน ดูเหมือนเด็กน้อยจะถูกตามใจจนเคยตัว พอไม่ได้ของเล่นที่อยากได้ก็ไม่ยอม ดิ้นไปดิ้นมาอยู่ตรงบ่าพ่อ
คนเป็นพ่อรีบระงับอาการของลูกสาว แต่กลับมองไม่เห็นว่าข้างหน้ามีก้อนหิน จึงสะดุดลำตัวโน้มไปข้างหน้า เขารีบกอดลูกสาวแน่นตามสัญชาตญาณของคนเป็นพ่อ พอยืนได้มั่นคงแล้วก็รีบสำรวจเนื้อตัวของลูกสาวว่าบาดเจ็บหรือเปล่า จากนั้นจึงยกมือขึ้นแสร้งทำเป็นโกรธ
“ไม่ตีก็ไม่รู้จักจำ กลับบ้านโดนแน่ ซี้ด เจ็บจัง นิ้วโป้งเท้าจะหักแล้ว…ตัวแสบ ยังจะหัวเราะ เพราะเรานั่นแหละ”
คนเป็นพ่อหยิกจมูกลูกสาวที่เต็มไปด้วยน้ำมูก เด็กน้อยสนุกสนานกับท่าทางของพ่อที่แยกเขี้ยวยิงฟัน หัวเราะคิกๆคักๆ ฝ่ายพ่อจากที่กำลังเจ็บพอเห็นลูกสาวหัวเราะทั้งคราบน้ำตาก็รู้สึกตลก
“ดูหน้าตาซิอย่างกับผี สภาพดูไม่ได้เลย กลับไปล้างหน้าเสร็จต้องโดนลงโทษให้ยืนสักพัก สำนึกผิดได้เมื่อไรค่อยพอ เข้าใจไหม?”
“หนูก็ยังอยากได้ตุ๊กตาโดราเอม่อนอยู่ดี…”
“ยังจะเอา จะบอกให้นะ ป่าป๊าจะสั่งสอนหนู พอไม่ได้ของเล่นก็ลงไปดิ้นกับพื้น เล่นใหญ่เป็นที่หนึ่ง ต้องสั่งสอนให้หลาบจำเสียบ้าง ชักจะเอาใหญ่ขึ้นทุกวัน”
บทสนทนาของสองพ่อลูกลอยออกไปไกลเรื่อยๆ เสี่ยวเชี่ยนเหม่อมอง
แบบนี้สิถึงเรียกว่าพ่อใช่ไหมนะ? เวลาที่ควรเข้มงวดก็เอาจริง เวลาถึงช่วงสำคัญก็ปกป้องลูกอย่างเต็มที่
ความผูกพันแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นระหว่างเธอกับพ่อ บางทีเธออาจมีพ่อตัวปลอม