แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 546 หาคนช่วยดูแล
เฉินหลินไม่เข้าใจทำไมอยู่ๆอวี๋หมิงหลางก็ลงมือ เขามองอวี๋หมิงหลางด้วยความหวาดหวั่น
อวี๋หมิงหลางเหยียบเศษกระจกเดินไปหาเฉินหลิน แล้วใช้กระบองในมือเชยคางเฉินหลินขึ้นมา
“คนแบบแก จะเหมาะเป็นพ่อเขาได้ยังไง?”
“ฉัน…มันติดเงินแกไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันโกหก”
เฉินหลินงง
“ตอนนี้เฉินเสี่ยวเชี่ยนไม่ใช่แฟนฉันแต่เป็นคู่หมั้นที่ฉันรักที่สุด แกจะเอาผู้หญิงที่ฉันแคร์ที่สุดไปให้พวกเสือมันขย้ำแกคิดว่าฉันจะปล่อยแกไปเหรอ? ถ้าแกยังกล้าหาเรื่องเสี่ยวเชี่ยนกับแม่อีกล่ะก็ ฉันจะให้แกเป็นเหมือนกระจกบานนี้”
เฉินหลินมองเศษกระจกบนพื้นด้วยความหวาดกลัว อวี๋หมิงหลางเก็บกระบองแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ฉันจะทำให้แกแตกเป็นเสี่ยงๆอย่างทรมาน”
ตอนที่เดินผ่านเฉินหลินอวี๋หมิงหลางได้หยุดเท้าแล้วพูดเสริม
“ถ้าในใจแกยังมีเขาคงมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ‘ขอบคุณ’ความไร้เยื่อใยของแกที่ทำให้ฉันลงมือได้โดยไม่ลังเล ฉันไม่อยากให้มือของเสี่ยวเชี่ยนต้องมาแปดเปื้อน แต่ฉันลงมือแทนเขาได้ แกฆ่าจิตใจส่วนดีของเขา ฉันเลยต้องปกป้องโลกอันบริสุทธิ์ให้เขา”
เฉินหลินยังไม่เข้าใจถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของอวี๋หมิงหลางเท่าไร เขามองอวี๋หมิงหลางอย่างงงๆ
ตอนที่อวี๋หมิงหลางเดินเข้ามากระซิบข้างหูได้ทำให้จิตใจของเขาพังทลาย เฉินหลินเข่าทรุดลงกับพื้น อวี๋หมิงหลางเดินออกจากห้องไป
อันที่จริงอวี๋หมิงหลางก็ไม่ได้พูดจาโหดเ**้ยมอะไร ปกติเขาไม่ชอบพูดชอบทำมากกว่า
“มาจับคนหน่อยครับ ต้องตัดสินยังไงก็ว่าไปตามนั้น นับแต่นี้ไปคนๆนี้ไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัวผมอีกแล้ว ว่าไปตามกฎหมายครับ”
หลังจากที่อวี๋หมิงหลางวางสาย วินาทีที่เดินออกจากตึกเขาก็เปลี่ยนสีหน้าทันที ความเคร่งขรึมได้สลายไป
สีหน้ายามที่เจอกับพ่อเฮงซวยก็แบบหนึ่ง ตอนอยู่กับลูกเชี่ยนของเขาก็อีกแบบหนึ่ง ไม่ว่าข้างนอกพายุฝนจะหนักแค่ไหน แต่เขาก็จะปกป้องเธอ เหลือเพียงแต่แสงแดดอันอบอุ่นส่องไปที่เธอ
ส่วนเฉินหลินที่คุกเข่าอยู่กับพื้นกำลังตกใจเหงื่อแตกไปทั้งตัว ที่ข้างหูของเขาคล้ายกับยังมีคำพูดสุดท้ายของอวี๋หมิงหลางวนเวียนอยู่
อวี๋หมิงหลางพูดว่า ถ้าเขาเลือกทำงานฟรีสองปีไม่ใช่เอาเสี่ยวเชี่ยนไปขาย เขาก็จะให้พี่ชายหางานที่พอจะทำตลอดช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ได้ และก็รับประกันได้ว่าจะมีชีวิตอยู่อย่างมั่นคง
แต่น่าเสียดายที่มีทางเลือกเยอะแยะแต่เฉินหลินไม่เลือก กลับเลือกที่จะยั่วโมโหอวี๋หมิงหลาง
เสี่ยวเชี่ยนยังคงถือบุหรี่มองสองพ่อลูกเดินไปไกล เธอกำลังค้นหาความทรงจำที่อยู่ไกลแสนไกลของตัวเองว่ามีช่วงเวลาดีๆกับพ่ออยู่บ้างหรือเปล่า
ไม่มี สักนิดก็ไม่มี
อวี๋หมิงหลางเข้าไปแล้วจะทำอะไรบ้างเธอพอจะเดาได้ แต่กลับไม่คิดจะเข้าไปห้ามแม้แต่นิดเดียว
เสี่ยวเฉียงเป็นคนแบบไหนเสี่ยวเชี่ยนรู้ดีแก่ใจ เขาเอาอกเอาใจเธอเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นคนขี้ใจอ่อน ตอนเรื่องอาหญิงเขายังไม่เข้าข้างเลยสักนิด แล้วนับประสาอะไรกับพ่อเฮงซวยของเธอ
แต่ทำไมจิตใจของเธอถึงไม่หวั่นไหวเลยสักนิด เธอไม่รู้สึกสงสารพ่อเฮงซวยเลยแม้แต่น้อย แต่กลับสงสารตัวเอง
“คิดอะไรอยู่น่ะ?”
“อยากกลับไปตอนเด็ก กลับไปกอดเด็กน้อยจิตใจบอบช้ำคนนั้นที่ไม่ว่าจะพยายามสักแค่ไหนก็ไม่ได้รับความรักจากพ่อ”
เสี่ยวเชี่ยนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
มือที่เขี่ยบุหรี่อยู่นอกหน้าต่างรถถูกสัมผัส เสี่ยวเชี่ยนถึงได้สติ เห็นอวี๋หมิงหลางเลิ่กคิ้วมองเธออยู่ ในมือถือบุหรี่ที่แย่งจากมือเธอไป
“เสี่ยวเชี่ยนน้อยไม่จำเป็นต้องให้คุณกอดเองหรอก งานแบบนี้ต้องยกให้ผม เมียจ๋า อยากกอดแบบไหนก็ได้เลย~”
“แล้วนี่แอบสูบบุหรี่เหรอ?” เขาเอาบุหรี่ที่เหลือไปสูบต่อ จากนั้นก็พ่นออกมาเหมือนอยากอ้วก
“ของปลอมนี่ ไปซื้อมาจากไหน ไปเอาเงินคืนเลย”
“เรียบร้อยแล้วเหรอ?”
“อืม คุณไม่ต้องกังวล ต่อไปเขาไม่กล้าแล้วล่ะ”
“ทำหน้าแบบต่อให้ตายก็ไม่แก้สันดานเดิมหรือเปล่า?” เสี่ยวเชี่ยนรู้ทั้งรู้ว่าพ่อเฮงซวยจะมีท่าทางแบบไหน แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“อืม…คุณเดาถูก ผมกะให้เขาเข้าตารางไปสำนึกผิดหน่อย สิ่งที่เขาทำเพียงพอที่จะเข้าไปอยู่ได้หลายวัน”
ตอนอวี๋หมิงหลางเข้าไปก็ได้ตัดสินใจแล้ว ถ้าเฉินหลินยังมีความสำนึกผิดต่อเสี่ยวเชี่ยนอยู่บ้าง เขาก็จะไม่เอาเรื่องจนถึงที่สุด
แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น เฉินหลินยังคงสันดานเดิม ที่เขาขอร้องอวี๋หมิงหลางไม่ใช่เพราะสำนึกผิด แต่เป็นเพราะกลัวอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังอวี๋หมิงหลาง
ยิ่งไปกว่านั้นเฉินหลินยังคิดจะเอาเสี่ยวเชี่ยนไปขายให้ที่แบบนั้น แค่นี้ก็เพียงพอที่จะให้อวี๋หมิงหลางเอาเขาถึงตาย
อวี๋หมิงหลางรู้สึกโชคดีที่ไม่ให้เสี่ยวเชี่ยนเข้าไป ทำให้เธอไม่ต้องไปเห็นด้านทุเรศของสันดานคน คนอย่างเฉินหลินอวี๋หมิงหลางรู้สึกว่าไม่เหมาะจะเป็นพ่อของเสี่ยวเชี่ยนเลยจริงๆ
“ลงโทษเบาไป” เสี่ยวเชี่ยนเกิดความรู้สึกที่พูดไม่ออก แต่ไม่ใช่สงสาร ถ้าจะสงสารเธอคงสงสารตัวเอง
สงสารตัวเองที่เมื่อชาติที่แล้วใช้เวลาถึงสิบแปดปีก็ยังไม่ได้ความรักความอบอุ่นจากเฉินหลิน ในเวลาแบบนี้เธออยากเดินเข้าไปถามมากว่า ทำไมต้องทำกับเธอแบบนั้น เธอผิดตรงไหนกันแน่
แต่เสี่ยวเชี่ยนใช้ความรู้ของจิตแพทย์ปลอบตัวเอง บนโลกนี้คนบางคนก็เลวร้ายเกินไป ถ้าไปถามว่าทำไมเขาก็คงตอบไม่ได้ เพราะในใจของเขานอกจากตัวเองแล้วก็ไม่รักใครอีก โกรธคนแบบนี้ไปก็เปลืองพลังชีวิต
“ผมจะให้คน ‘ดูแล’ เขาตอนอยู่ในคุก ออกมาได้ก็คงไม่กล้าก่อเรื่องแล้ว คิดว่าเขาตายไปแล้วเถอะลูกเชี่ยน คุณจะได้รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย”
รับมือกับคนแบบนี้ก็ต้องตัดเส้นทางรอดทั้งหมดไม่ให้เหลือ พ่อที่พูดออกมาได้ว่าจะส่งลูกสาวไปเป็นเหยื่อแบบนี้ คิดว่าตายไปแล้วยังจะดีกว่า
อันที่จริงในใจของอวี๋หมิงหลางก็เกิดความสงสัย เขาเจอคนแย่ๆมาก็เยอะแต่ไม่เคยเจอพ่อเฮงซวยแบบนี้ ถ้าเฉินหลินทำตัวเลวกับลูกทั้งสองคนก็ว่าไปอย่าง แต่ดูเหมือนจะทำไม่ดีแค่กับเสี่ยวเชี่ยน ดูเหมือนจะยังมีเยื่อใยกับเฉินจื่อหลง นี่แค่รักลูกชายมากกว่าลูกสาวจริงๆเหรอ?
“ตามสบาย ขังไปตลอดชีวิตก็ไม่เกี่ยวกับฉัน” เสี่ยวเชี่ยนพูดอย่างเย็นชา
น้ำเสียงเย็นชาของเธอยามพูดถึงพ่อขัดกับสายตาที่เธอมองครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูกตรงนั้น อวี๋หมิงหลางเห็นแบบนั้นหัวใจก็เหมือนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เด็กสาวที่น่าสงสารคนนี้คงสะเทือนใจมาก
คนอื่นเห็นแต่ด้านที่เข้มแข็งของเธอ แต่เขากลับได้เห็นด้านที่คิดไม่ตกของเธอตอนแก้ไขปัญหา เธอพูดเสมอว่าตัวเองไม่ใช่คนดี แต่ลูกเชี่ยนที่น่าสงสารของเขากลับไม่รู้เลยว่า เธอยังห่างไกลกับคำว่าคนเลวนัก เพราะคนเลวจริงๆนั้นไร้หัวใจ
แต่เธอมี
ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่อวี๋หมิงหลางอยากปกป้องด้วยชีวิต สิ่งที่ทั้งเข้มแข็งและอ่อนแอ สิ่งที่เดินหน้าไปด้วยความกล้าหาญแต่กลับทำร้ายตัวเธอเองโดยไม่รู้ตัว อวี๋หมิงหลางตั้งชื่อให้สิ่งนี้ว่า จิตใจส่วนดีที่จำเป็นต้องเลว
ฟังดูเหมือนขัดแย้งแต่อันที่จริงไม่ขัดแย้ง เธออยากปกป้องในสิ่งที่เธอต้องการก็ต้องโหดบ้างในบางมุม แต่ในขณะที่เธอโหดร้ายกลับทำร้ายตัวเองไปด้วย ดังนั้นทุกครั้งที่เห็นเธอคิดไม่ตกแบบนี้ อวี๋หมิงหลางแทบอยากจะเสกให้เธอตัวเล็กแล้วยัดเข้าไปในใจเขา จากนั้นก็ทำลายคนที่ทำร้ายเธอซะ
“ไปเถอะลูกเชี่ยน พี่จะพาไปที่หนึ่ง”