แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 555 ตกใจกับเม้าท์ซุบซิบ
“ตอนนี้ยังไม่มีบทสรุป ฉันกำลังคอยสังเกตท่าทีของลุงคนนั้นอยู่” ถ้าตาลุงนั่นยอมถอยเพราะเธอขัดขวางล่ะก็ งั้นก็แสดงว่าเขายังชอบแม่เธอไม่มากพอ คนแบบนี้ไม่สมควรจะมาเป็นพ่อเลี้ยงเธอ
“ประธานเชี่ยนฉันรู้สึกโชคดีที่ตัวเองเป็นเพื่อนกับเธอไม่ใช่ศัตรู” ฉิวฉิวพูดจากใจ
ประธานเชี่ยนมีน้ำใจกับเพื่อนและคนในครอบครัวมาก แต่โหดกับคนที่คิดเป็นศัตรูกับเธอ ถ้าไม่เอาคืนอีกฝ่ายจนหมดแรงไม่มีทางเลิกรา
“มีคำถามหนึ่งที่เก็บอยู่ในใจมาตลอด…”
“อะไรเหรอ?” เสี่ยวเชี่ยนมองฉิวฉิว ฉิวฉิวกลืนน้ำลายอึกใหญ่
“เธอไม่ได้เป็นทอมจริงเหรอ?”
รักร่วมเพศที่เป็นหญิงแบ่งออกเป็นสองประเภท ทอมคือผู้หญิงที่มีความเป็นชาย ดี้คือผู้หญิงที่ออกแนวหญิงๆ น่ารักๆ เสี่ยวเชี่ยนให้ความรู้สึกเป็นทอมที่สวย อีกทั้งยังเป็นทอมโหด ใครกล้ามาหาเรื่องเจอดีแน่
เสี่ยวเชี่ยนหรี่ตา “ไม่ใช่ แต่ถ้าวันหนึ่งหมิงหลางกลายเป็นกะเทย ฉันก็ไม่ถือสาที่จะเป็นทอมนะ”
ความรักไม่เกี่ยวกับเรื่องเพศ เธอก็แค่รักผู้ชายที่ชื่ออวี๋หมิงหลางเท่านั้น ถ้าอวี๋หมิงหลางเป็นผู้หญิง บางทีเธออาจจะกลายเป็นรักร่วมเพศหรือเปล่า? เสี่ยวเชี่ยนลองคิดดู
ฉิวฉิวเหมือนถูกทิ่มแทงใจ นี่ เพื่อนเพิ่งอกหักอย่ามาทำเลี่ยนแถวนี้ได้มะ
เสี่ยวเชี่ยนได้รับโทรศัพท์จากแม่อวี๋ก็หลังจากนั้นอีกสองวัน
“คุณน้ามีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“เสี่ยวเชี่ยนจ๊ะ เรื่องนี้น้ากับพี่สะใภ้ใหญ่ปรึกษากันแล้วว่าไม่ปิดบังหนูจะดีกว่า แต่ฟังแล้วก็ใจเย็นๆนะ”
“เรื่องอะไรคะ?”
“เมื่อวานแม่หนูผ่าตัดไส้ติ่ง ทุกอย่างราบรื่นดี แม่หนูอยากปิดไว้แต่น้ากับพี่สะใภ้ใหญ่ต่างคิดว่าให้หนูกลับมาเยี่ยมแม่หน่อยดีกว่า”
“ผ่าตัด?” สมองเสี่ยวเชี่ยนเหมือนโดนระเบิด
แม่เธอเข้ารับการผ่าตัด อีกทั้งยังปิดบังเธอด้วย?
“ใจเย็นๆนะ ราบรื่นทุกอย่าง อีกทั้งยังฟื้นตัวเร็วด้วย พี่สะใภ้ใหญ่กับป้าแม่บ้านที่บ้านน้าผลัดกันไปดูแลอย่างดี แม่หนูก็มีเพื่อนมาเยี่ยม แค่ผ่าตัดเล็กพักไม่กี่วันก็หายจ้ะ แต่น้าคิดว่ามีเพื่อนอยู่ด้วยก็ไม่สู้ลูกสาวมาเฝ้า หนูลากลับมาได้ไหมจ๊ะ?”
ข้อดีของคนบ้านใกล้ก็คือ ในหนึ่งสัปดาห์สามารถกลับบ้านได้สองครั้ง อย่างไรเสียนั่งรถไม่ถึงสองชั่วโมงก็ยังสะดวกอยู่
หลังจากได้รับโทรศัพท์จากแม่อวี๋เสี่ยวเชี่ยนก็รีบกลับบ้านทันที
แม่อวี๋เลิกงานแล้วก็มารอเสี่ยวเชี่ยนอยู่หน้าห้อง
“ผ่าตัดไส้ติ่งเป็นผ่าตัดเล็ก น้าให้เพื่อนเป็นคนผ่าให้ทุกอย่างราบรื่นดีจ้ะ”
ระหว่างทางเสี่ยวเชี่ยนยังกังวลเรื่องแม่ พอได้ยินว่าไม่เป็นไรแต่ในใจกลับมีไฟโกรธปะทุขึ้น
“แต่ก็ยังปิดบังหนู”
แม่เธอเป็นพวกไม่ค่อยมีความคิดเป็นตัวเองไม่ใช่เหรอ เมื่อก่อนแค่ซื้อกับข้าวยังต้องปรึกษาคนอื่นด้วยซ้ำ ตอนนี้ก้าวหน้าเชียว เข้าผ่าตัดก็ยังกล้าไม่บอกเธอ
“เขาคงกลัวหนูเสียการเรียน คนเป็นแม่ทำเพื่อลูกทั้งนั้นเรื่องนี้พอเข้าใจได้ ไปดูเขาหน่อยเถอะ เพื่อนเขาก็อยู่พอดี”
“เพื่อน?”
“หัวหน้าเลี่ยวไงจ๊ะ น้าก็เพิ่งรู้ว่าหัวหน้าเลี่ยวเป็นเพื่อนบ้านแม่หนู เหล่าเลี่ยวเป็นคนโอเคเลยนะ เลิกงานก็มาเยี่ยม พอเขาอยู่แม่บ้านน้าก็แทบไม่ต้องทำอะไรเลย เขายังต้มซุปเอามาให้ด้วย”
“คุณน้ารู้จักเขาด้วยเหรอคะ?”
“ก่อนเมียเขาจะเสียมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลที่น้าอยู่ เมียเขาเป็นโรคเรื้อรังที่ซับซ้อนมาก แทบจะเรียกได้ว่าจ่ายเงินเพื่อยื้อความตายแค่นั้น ถ้าเป็นครอบครัวคนทั่วไปคงยอมแพ้นานแล้ว แต่สองพ่อลูกนี่ใช้เงินเก็บทั้งหมดที่มีมาดูแลจนเสีย ลูกชายเขาก็กตัญญูมาก มีอยู่ช่วงหนึ่งที่แม่เขาความจำเลอะเลือน เขาก็มายืนท่องคติผู้นำอยู่หน้าเตียงแม่ เขาบอกว่าแม่ของเขาเป็นอาจารย์สอนภาษาจีนเด็กมัธยม ชอบท่องคำสอนของผู้นำกับบทประพันธ์โบราณที่มีชื่อเสียง เด็กคนนั้นพอเลิกเรียนก็จะมายืนตรงแล้วท่องให้แม่ฟัง หวังว่าจะช่วยปลุกแม่ให้ตื่นได้ น้าเห็นแล้วก็สงสารสองพ่อลูก นี่ก็ผ่านไปหลายปีแล้ว”
เรื่องที่แม่อวี๋เล่านั้นผ่านมาหลายปีแล้ว แม่ของเลี่ยวฟู่กุ้ยเสียไปนานแล้ว ตอนนั้นเลี่ยวฟู่กุ้ยยังเป็นนักเรียนอยู่
คนทั่วไปถ้าคนในครอบครัวเป็นโรคที่รักษาไม่หายคงถอดใจยอมแพ้นานแล้ว จ่ายเงินเท่าไรก็รักษาไม่ได้ พ่อเลี่ยวดูแลจนถึงวาระสุดท้ายได้ก็เพียงพอที่จะมองนิสัยใจคอออก
เรื่องของพ่อเลี่ยวกับอดีตภรรยาเสี่ยวเชี่ยนก็เคยสืบมาบ้าง แต่สิ่งที่ทำให้เสี่ยวเชี่ยนคาดไม่ถึงก็คือ ที่เลี่ยวฟู่กุ้ยชอบท่องคำสอนของผู้นำเป็นเพราะเหตุผลนี้
เธอไม่ชอบเลี่ยวฟู่กุ้ยส่วนหนึ่งเป็นเพราะเมื่อชาติก่อนเขาชอบขัดเธอ และอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะพอเขาอ้าปากพูดก็เหมือนคนมาอยู่ผิดที่ผิดทาง แต่เธอไม่นึกว่าเบื้องหลังนิสัยของเขาที่เธอไม่ชอบนั้นมีเรื่องราวซ่อนอยู่
“เหล่าเลี่ยวมีอำนาจมากในแวดวงกฎหมายแต่เป็นคนถ่อมตัวเสมอ ดีกับแม่หนูมากด้วย น้าเห็นกับข้าวที่เขาเอามาให้แม่หนูทำกับมือเองเลยนะ ดูแลอย่างดี เป็นถึงหัวหน้าคนแล้วยังมาทำแบบนี้ดูก็รู้ว่าใส่ใจ เห็นน้องชายหนูบอกว่าหนูไม่ค่อยชอบสองพ่อลูกนี่เท่าไร น้าอยากให้มีอะไรก็ไปคุยกับพวกเขาดู แม่หนูวัยขนาดนี้แล้วก็ลำบากเหมือนกันนะ…”
แม่อวี๋ชอบเสี่ยวเชี่ยนว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้จริงๆ ก็เพราะว่าชอบถึงได้เอาเรื่องพวกนี้มาบอก
เสี่ยวเชี่ยนหน้านิ่งพลางคิดในใจว่าไอ้เฉินจื่อหลงตัวดี แม่ป่วยแล้วยังไม่บอกเธอแล้วยังจะไปแฉเธอกับว่าที่แม่สามีอีก ใช้ได้เลยนะ
“เสี่ยวเชี่ยน หนูโกรธหรือเปล่าจ๊ะ?” แม่อวี๋ถามเสี่ยวเชี่ยน
“เปล่าค่ะ คุณน้าช่วยเล่าเรื่องอาเลี่ยวให้ฟังมากกว่านี้ได้ไหมคะ?”
“หนูไม่ไปหาแม่เหรอจ๊ะ?”
เสี่ยวเชี่ยน หึ ออกมา “ตอนนี้แม่มีคนอยู่เป็นเพื่อนแล้ว หนูเข้าไปคงไม่เหมาะมั้งคะ”
เล่นเอาซะเหมือนเธอไปทำลายความรักหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า บาปนี้เธอไม่อยากแบกแล้ว
“ก็ได้จ้ะ พวกเราไปห้องทำงานของพี่สะใภ้ใหญ่กันเดี๋ยวน้าจะเล่าเรื่องเขาให้ฟัง”
แม่อวี๋สมกับเป็นมือฉมังเรื่องข่าวเม้าท์ซุบซิบ คล่องมากเวลาเล่าแต่ละอย่าง แนะนำพ่อเลี่ยวให้เสี่ยวเชี่ยนได้รู้จักอย่างละเอียด
เรื่องบางเรื่องเสี่ยวเชี่ยนสืบมาได้เอง แต่บางเรื่องเธอไม่รู้เลย
เล่าละเอียดตั้งแต่เรื่องนิสัยใจคอ หน้าที่การงาน ไปจนถึงตอนดูแลภรรยาที่ป่วย เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกว่าถ้าอีกหน่อยว่าที่แม่สามีเธอเกษียณไม่เป็นหมอแล้วไปทำงานด้านวิจารณ์บุคคลเชิงลึกก็ได้นะ ตอนแรกยังเล่าเหมือนเป็นเรื่องเล่าธรรมดา หลังๆนี่เหมือนเธอไปอยู่ในเหตุการณ์จริง
ใช้เวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมง ถือว่าเสี่ยวเชี่ยนได้รู้จักพ่อเลี่ยวอย่างทะลุปรุโปร่ง
“เรื่องก็ประมาณนี้แหละจ้ะ ตรงนี้มีแค่เราสองคน น้าขอพูดเปิดอกกับหนูเลยนะ คนวัยกลางคนจะสร้างครอบครัวอีกครั้งไม่ง่าย ถ้าทั้งสองคนรู้สึกดีต่อกันจริงๆ หนูเป็นลูกสาวก็อย่าดื้อเลยนะ”
“คุณน้าคะ เลี่ยวฟู่กุ้ยยังเป็นโสดอยู่เลยนะคะ คุณน้าไม่มีคนที่เหมาะสมแนะนำให้เขาเลยเหรอคะ?”
ตามคาด พอพูดเรื่องนี้แม่อวี๋ก็ดูสดชื่นขึ้นทันที
“เด็กคนนี้เมื่อวานน้าเห็นมาเยี่ยมแม่หนู หน้าตาใช้ได้ ดูสมส่วนดี ตอนนี้เขาทำงานที่ไหนเหรอ?”
เสี่ยวเชี่ยนเล่าโปรไฟล์ของเลี่ยวฟู่กุ้ยให้ฟัง แม่อวี๋ก็จำเอาไว้
“งั้นหนูไปถามเขาดูนะว่าชอบแบบไหน ไว้น้าจะลองไปดูในโรงพยาบาลว่ามีใครเหมาะสมหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ก็ยังมีในแวดวงเพื่อนสมัยเรียน ลูกชายที่เหล่าเลี่ยวอบรมสั่งสอนมาเองต้องใช้ได้แน่นอน—จริงสิ หนูว่าเขากับเสี่ยวซีล่ะโอเคไหม?”
“แค่กๆ” เสี่ยวเชี่ยนสำลัก
“ใครนะคะ?”