แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 629 หลอกใช้คนตอแหล
เสี่ยวเชี่ยนพูดถึงขนาดนี้แล้ว อวี๋หลิวเหมยทำได้แค่ยอมหยุด
เสี่ยวเชี่ยนเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า สายตากวาดไปที่ใบหน้าคนขี้นินทาทีละคน
คนพวกนี้อาจไม่รู้ว่า ในสายตาของเสี่ยวเชี่ยน สีหน้าท่าทางที่พวกเขาคิดว่าเก็บอาการดีแล้วล้วนไม่พลาดไปจากสายตาเสี่ยวเชี่ยน เธอสะกดความดูถูกในใจเอาไว้ ใบหน้าแสดงความเป็นกันเองแล้วยื่นมือไปให้หลุ่ยเสี่ยวฉา หลุ่ยเสี่ยวฉารีบจับมือเสี่ยวเชี่ยน มือของเธอเย็นเฉียบ
“เสี่ยวฉา เธอไม่มีทางทำเรื่องที่ผิดต่อฉันใช่หรือเปล่า?” การแสดงของเสี่ยวเชี่ยนตบตาสืออวี้ได้
เธอเกือบคิดไปแล้วว่าประธานเชี่ยนไม่ติดใจเอาความ
“ใช่ๆ ประธานเชี่ยนฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆนะ ทุกคนอยู่กลุ่มเดียวกัน บอกว่าจะกินข้าวฉันก็เลยมา ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะเป็นแบบนี้…”
ทำหน้าเศร้าบีบน้ำตาบวกกับน้ำเสียงใสซื่อ แต่ละคำที่พูดออกมาล้วนเหยียบย่ำเพื่อนในกลุ่ม อีกทั้งยังทำให้ตัวเองรอดตัว ตัดขาดจากคนพวกนั้นโดยสิ้นเชิง
เสี่ยวเชี่ยนได้แต่ เหอๆ ในใจ แต่สีหน้ากลับยังนิ่งเหมือนยามปกติ เธอยื่นมืออีกข้างที่ว่างอยู่ไปตบมือหลุ่ยเสี่ยวฉาเบาๆ
“แค่เรื่องเข้าใจผิด ฉันเข้าใจว่ามันไม่เกี่ยวกับเธอ”
“ประธานเชี่ยน เธอดีกับฉันจัง…” หลุ่ยเสี่ยวฉาปาดน้ำตา รีบไปยืนข้างเสี่ยวเชี่ยน สืออวี้กับอวี๋หลิวเหมยถอยออกไปหนึ่งก้าวประหนึ่งเจอคนเป็นโรคระบาด ไม่อยากยืนข้างนกสองหัวหรอกนะ
เสี่ยวเชี่ยนปลอบหลุ่ยเสี่ยวฉา แล้วหันไปหาสาวแสบก้นกับแฟนด้วยสีหน้าอีกแบบหนึ่ง
“ฉันไม่ชอบสร้างศัตรูกับใคร แต่ฉันไม่เคยกลัวการมีเรื่อง ถ้าเรื่องในวันนี้ฉันยอมพอแค่นี้ ต่อไปถ้าเจอฉันในมหาวิทยาลัยก็อยู่ให้ห่างๆฉันไว้ แต่ถ้าเธอไม่ยอม ต่อไปมาหาฉันได้เสมอ—ประเด็นคือ ก็ดูละกันว่าเธอจะยอมรับผลของการกระทำได้หรือเปล่า!”
พูดออกไปด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด สืออวี้เคยเห็นมุมโหดๆของประธานเชี่ยนมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่รู้สึกแปลกใจเท่าไร
เป็นครั้งแรกที่อวี๋หลิวเหมยเห็นเสี่ยวเชี่ยนเล่นบทโหด ถึงแม้จะยังคงเป็นพี่สะใภ้ที่พูดจาหนักแน่นท่าทางอ่อนโยนเหมือนเดิม แต่แต่ละคำดูน่ากลัวอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้คนที่ฟังรู้เลยว่าเอาจริง
ไม่ใช่คุมเกมด้วยการใช้กำลัง แต่คำพูดของเสี่ยวเชี่ยนมีพลังและน่ากลัว เล่นเอาอีกฝ่ายไม่กล้าทำอะไรต่อ รีบหนีไปทันที
“ประธานเชี่ยน โชคดีที่วันนี้เธอรู้ว่าความจริงคืออะไร…ฉันกลัวเธอจะเข้าใจฉันผิดจริงๆนะ อันที่จริงถ้าฉันโดนตบไม่เป็นไรหรอก ฉันกลัวจะเสียเพื่อนอย่างเธอไปมากกว่า…”
หลุ่ยเสี่ยวฉาพยายามพูดแสดงความจริงใจ แต่เสี่ยวเชี่ยนกลับมองเธอด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาพลางตบบ่า
“ระยะทางพิสูจน์ม้า กาล…เวลาพิสูจน์คน ฉันเชื่อว่าเธอไม่มีทางทำให้ฉันผิดหวัง”
สืออวี้แอบคิดในใจ ประธานเชี่ยนหมายถึงกาลเวลาพิสูจน์ธาตุแท้คน?
พูดจบเสี่ยวเชี่ยนก็พาสืออวี้กับอวี๋หลิวเหมยออกจากร้าน ทิ้งหลุ่ยเสี่ยวฉาไว้ที่เดิม หลุ่ยเสี่ยวฉาตบหน้าอกเรียกขวัญกลับมา เกือบถูกตบเข้าแล้ว
ดูท่าข่าวลือในมหาวิทยาลัยจะเป็นเรื่องจริง
หาเรื่องกับใครก็ได้แต่อย่าหาเรื่องจอมเทพเชี่ยน ไม่อย่างนั้นจะได้ตายอย่างเขียด
ข่าวลือแพร่ไปนอกรั้วมหาวิทยาลัย ลูกชายเศรษฐีไม่รู้ไปฟังใครประโคมข่าว บอกว่าในมหาวิทยาลัยมีนางฟ้าที่แสนพิเศษคนหนึ่ง จึงลั่นวาจาออกไปว่าจะนัดเสี่ยวเชี่ยนกินข้าว ถ้าไม่มาจะตัดแขนเสี่ยวเชี่ยนทิ้ง
ปรากฏว่าจอมเทพเชี่ยนก็ออกไปกินข้าวด้วย สามวันผ่านไป ลูกเศรษฐีคนนั้นถูกคนไปเจออยู่ที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล แขนหัก—ก็ซวยเอง ดันไปทำตัวข่มเสี่ยวเชี่ยนตอนเสี่ยวเฉียงมาหา เสี่ยวเฉียงสาบานว่าไม่ได้ออกแรงเท่าไรเลย ใครใช้ให้ไอ้บ้านั่นแขนเปราะเองล่ะ?
ยังมีข่าวลืออีกมากมายที่ไม่สมควรไปหาเรื่องจอมเทพเชี่ยน ถึงแม้เสี่ยวเชี่ยนจะเรียนเก่ง หน้าตาก็ดี แต่ช่วงหลายปีมานี้กลับไม่เคยมีคนตามจีบเลย พูดให้ถูกก็คือไม่มีใครกล้า ต่างพูดกันว่าเธอเป็นผู้หญิงของลูกพี่คนไหนสักคน
ก่อนหน้านี้หลุ่ยเสี่ยวฉายังคิดอยู่ว่านั่นเป็นแค่ข่าวลือ เธอทำงานอยู่กลุ่มเดียวกับเสี่ยวเชี่ยน รู้สึกว่าถึงแม้เสี่ยวเชี่ยนจะไม่ชอบใกล้ชิดกับใคร แต่ก็ไม่ได้ดูร้ายกาจอย่างในข่าวลือ แต่วันนี้พอได้มาเห็น ข่าวลือที่ว่าก็มีส่วนที่เป็นความจริงอยู่
เธอปาดเหงื่อที่ผุดออกมาบนหน้าผากจากความตกใจกลัว เธอมองเสี่ยวเชี่ยนขับรถพาเพื่อนกลับผ่านกระจกของร้านด้วยความรู้สึกสับสน
ทำไมสวรรค์ถึงเอาแต่สิ่งดีๆไปให้เฉินเสี่ยวเชี่ยนหมด?
พอเสี่ยวเชี่ยนออกจากร้านก็รับทิชชู่เปียกที่สืออวี้ยื่นให้แล้วเช็ดมือที่จับมือหลุ่ยเสี่ยวฉามา เช็ดทุกซอกนิ้วอย่างพิถีพิถัน
มีไวรัสชนิดหนึ่งที่เรียกว่าไวรัสตอแหล ถ้าไปโดนเข้าถึงจะไม่ถึงแก่ชีวิต แต่จะทำให้ขยะแขยงสุดขั้วหัวใจ
เสี่ยวเชี่ยนทิ้งทิชชู่เปียกที่ใช้แล้ว สืออวี้ถามด้วยความไม่เข้าใจ
“ประธานเชี่ยนเล่นอะไรอยู่น่ะ รู้อยู่ว่าคนๆนั้นคบไม่ได้ ทำไมยังต้องไปแสดงละครทำดีด้วย?”
เสี่ยวเชี่ยนยื่นมือออกไปเคาะหัวสืออวี้หนึ่งที “ยัยบ๊อง ประธานเชี่ยนจะสอนให้นะ ในโลกของผู้ใหญ่ไม่มีถูกหรือผิด มีแต่ผลประโยชน์เท่านั้น พวกเราไม่ได้อาศัยอยู่แค่ในเซฟโซน แล้วจะเป็นไปได้ไงที่เราจะเจอแต่คนดีๆ?”
ถึงโลกนี้จะมีประชากรไม่น้อย แต่ถ้ามองในมุมจิตวิทยากลับมีคนอยู่แค่ไม่กี่ประเภท ไปที่ไหนก็ย่อมเจอคนที่หน้าไหว้หลังหลอก
วันนี้เจอหลุ่ยเสี่ยวฉา พรุ่งนี้อาจเจอหลี่เสี่ยวฉา หลู่เสี่ยวฉา สารพัดฉา
“งั้นทำไมเธอปล่อยแค่เขา กลับจัดการสองคนนั้นล่ะ?”
“เพราะหลุ่ยเสี่ยวฉายังมีประโยชน์กับฉัน ส่วนสองคนนั้น—ไม่มีค่าให้พูดถึง”
เสี่ยวเชี่ยนเคยมีประสบการณ์ด้านงานบริหาร เคยเจอคนหลากหลาย เธอไม่กลัวคนอย่างยัยแสบก้นที่ทำเป็นอวดดีแต่ไม่มีความสามารถแบบนั้นหรอก พวกที่ประจบคนเก่งกว่าเหยียดคนต่ำกว่าแบบนั้น ตบทีสองทีก็เอาอยู่แล้ว
แต่คนอย่างหลุ่ยเสี่ยวฉาถ้ามาเป็นพนักงานของเสี่ยวเชี่ยน เธอรู้สึกว่าการจะควบคุมได้นั้นต้องเปลืองสมองนิดหน่อย เพราะปิดบังความรู้สึกเก่ง อีกทั้งในใจยังคิดไม่ซื่อ ถ้าเผลออาจโดนแว้งกัดได้
แต่นิสัยหน้าไหว้หลังหลอกใจคิดไม่ซื่อแบบนี้กลับทำให้เสี่ยวเชี่ยนนำมาใช้งานได้พอดี
“เธอไม่ใช่ลูกสาวเศรษฐีติงต๊องอีกแล้วนะ ทำไมยังใช้ทฤษฎีดำขาวตัดสินคนแบบนั้นอยู่อีก? ต่อให้เป็นคนเลวกว่านี้ ถ้าใช้ให้ถูกที่ก็มีประโยชน์ ต่อไปถ้าเธอตามพี่ไปอยู่ที่เมืองQแล้ว ไม่มีฉันอยู่ด้วย เธอต้องระวังให้มากขึ้นเข้าใจไหม—นี่ อย่ามาดราม่าแถวนี้นะ!”
เสี่ยวเชี่ยนเห็นสืออวี้ร้องไห้ก็รีบเอามือเช็ดน้ำตาให้
“ประธานเชี่ยน ฉันไม่อยากไปจากเธอเลย…” อยู่ด้วยกันมาตั้งนานจนผูกพัน พอนึกว่าเรียบจบแล้วต้องแยกย้ายสืออวี้ก็เศร้าใจ
“ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกรา ดังนั้นสิ่งที่ฉันต้องทำก็คือถ่วงเวลาให้งานเลี้ยงยาวไปอีกหน่อย…” เสี่ยวเชี่ยนปลอบสืออวี้พลางคิดแผนต่อไปในใจ
อาจารย์อยากให้เธอไปอยู่กับศาสตราจารย์ชีคนพิลึก เธอไม่ไปหรอก การปรากฏตัวของหลุ่ยเสี่ยวฉาได้สร้างโอกาสให้เสี่ยวเชี่ยนพอดี หวังว่าหลุ่ยเสี่ยวฉาจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง ช่วยเธอให้บรรลุเป้าหมาย