แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 736 ยามศัตรูอ่อนแรงให้รีบซ้ำ
ฟู่กุ้ยออกมาตามหาหลิวเหมยกับเสี่ยวเชี่ยน ไม่นึกว่าจะได้มาเห็นฉากบอกเลิกพอดี เขาจึงพุ่งเข้าไปอย่างไม่ลังเล
เสี่ยวเชี่ยนกับพี่ใหญ่ยังขนลุกไม่หายที่หม่าลุ่ยทำแบบนั้น แล้วนี่อยู่ๆเลี่ยวฟู่กุ้ยก็เข้ามาจับแยกประหนึ่งศึกชิงนาง
พี่ใหญ่ไม่รีบร้อนไปเจอผู้ใหญ่ที่รออยู่อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ละครกำลังสนุก
“หลบไปไอ้สี่ตา”
“หลบหาพ่อเอ็งดิ ทนมานานแล้วโว้ย” ฟู่กุ้ยเหวี่ยงหมัดไปที่หน้าหม่าลุ่ยทันที
พี่ฟู่กุ้ยด่าถึงพ่อเป็นด้วย หลิวเหมยถลึงตามองด้วยความตกใจ วันนี้เขาดูแตกต่างจากปกติ
แต่ฟู่กุ้ยเท่ห์ได้ไม่ถึงสามวิ อย่างไรเสียเขาก็มาสายวิชาการ ถึงจะสู้หมดใจเพื่อช่วยหลิวเหมย แต่หม่าลุ่ยที่ตั้งสติได้แล้วก็ผลักกลับจนฟู่กุ้ยเซถอยหลัง แบบนี้เรียกว่าบัณฑิตเจอนักเลง
หลิวเหมยพอเห็นฟู่กุ้ยถูกผลักก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เอาขาไปสกัดขาหม่าลุ่ยที่เหวี่ยงเข้ามา แล้วตบเข้าไปอีกหนึ่งฉาด หม่าลุ่ยถูกตบเจ็บก็จริง แต่เจ็บกว่าก็คือการที่หลิวเหมยเข้าข้างฟู่กุ้ยไม่ใช่เขา
“พวกเราเลิกกันแล้ว คุณอย่ามาทำกับเพื่อนฉันแบบนี้ ถ้ายังไม่หยุด ก็อย่ามาโทษถ้าฉันจะเอาจริง คุณสู้ฉันไม่ได้อย่าหาเรื่องใส่ตัวเลยดีกว่า”
หม่าลุ่ยเอามือจับหน้าที่ถูกตบพลางมองหลิวเหมยอย่างเจ็บปวด
“ผมคบกับคุณมาสองปีแล้ว พวกเรามีความรู้สึกดีๆให้กันนะ”
ถ้าเสี่ยวเชี่ยนไม่ได้เปิดเผยฐานะที่แท้จริงของหลิวเหมย คำพูดของหม่าลุ่ยในตอนนี้อาจทำให้หลิวเหมยใจอ่อน แต่เวลานี้มีแต่ความรังเกียจ
“ไม่ขยะแขยงตัวเองบ้างเหรอ” ก่อนหน้านี้เพิ่งจะพูดว่าเธอกับครอบครัวเป็นคนไม่ดี ตอนนี้มาพูดว่ามีความรู้สึกดีๆให้ มีตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเธอไม่รู้เลย
ยิ่งไปกว่านั้นยังผลักพี่ฟู่กุ้ยด้วย
“เพราะผมแคร์คุณมากเกินไป เมื่อกี้เลยพูดแรงไปหน่อย จริงๆแล้วผมแคร์คุณมากนะ คุณลองคิดดูสิหลิวเหมย พ่อแม่ผมเดินทางมาตั้งไกล อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว อยู่ๆคุณมาบอกเลิกพวกเขาจะรับไหวเหรอ”
“มียางอายบ้างไหม ไม่ต้องเอาคนแก่มาอ้าง ตอนที่พวกแกเอาเปรียบหลิวเหมยฉันก็เห็นครอบครัวแกออกจะแข็งแรงกันดี ทำไมพอบอกเลิกจะทำเป็นรับไม่ไหวเลยหรือไง” ฟู่กุ้ยออกมาจากด้านหลังหลิวเหมย เขาไม่ชอบหลบข้างหลังผู้หญิง
เสี่ยวเชี่ยนยืนอยู่ด้านข้าง มองดูเหตุการณ์อันดุเดือดตรงหน้า ความเด็ดขาดของหลิวเหมย การฉุดรั้งของหม่าลุ่ย ความเลือดร้อนของฟู่กุ้ย ทั้งหมดนี้สรุปเป็นความจริงออกมาได้ว่า
ผู้ชาย อย่าทำเป็นได้ใจกับความยอมผ่อนปรนของผู้หญิง ถ้าผู้หญิงยังยอมอยู่ก็แสดงว่าเธอยังมีความรู้สึกดีๆให้ผู้ชาย แต่เมื่อความอดทนหมดสิ้น คำบอกเลิกก็เป็นเพียงแค่ประโยคง่ายๆ
แต่ผู้ชายบางคนไม่รู้จักใช้สมอง เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วยังมองไม่เห็นความจริง อย่างเช่นหม่าลุ่ย
“คุณชอบมัน มันดีกว่าผมเหรอ พวกคุณนอนด้วยกันแล้วใช่ไหม คุณถึงได้อยาก—โอ๊ย”
หม่าลุ่ยเป็นคนที่มีความทะนงตนสูง เขาทำวางมาดเป็นคนสุขุมได้ไม่นานก็เปิดเผยธาตุแท้ตัวเอง คำพูดทำร้ายจิตใจยังพูดไม่ทันจบก็ถูกเลี่ยวฟู่กุ้ยเอาแก้วน้ำรูปเพนกวินที่เสี่ยวเชี่ยนยื่นให้ทุบเข้ามาที่หัวของเขา
“ยามศัตรูอ่อนแรงให้รีบซ้ำ เจ็บแล้วจำอย่าให้มันหวนคืนมา”
ใครว่าเรียนเยอะไปไม่มีประโยชน์ มีคนกล้ามาดูถูกผู้หญิงที่เขาชอบ มันก็ต้องเอาคืน
ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ก็ต้องมีคำสอนของท่านผู้นำสอดแทรก แต่เสี่ยวเชี่ยนกับหลิวเหมยรู้สึกว่าเลี่ยวฟู่กุ้ยเท่ห์มาก
แก้วเพนกวินฟู่กุ้ยเป็นคนให้หลิวเหมย ใช้ใส่น้ำได้แค่ครึ่งวันก็ถูกเอามาทุบหัวคน เศษแก้วแตกกระจายบนพื้น ดอกเก๊กฮวยดอกใหญ่บานสะพรั่งสวยงามเหมือนดอกไม้สดนอนแผ่อยู่บนพื้นเช่นกัน คล้ายกับความรู้สึกของหลิวเหมยกับหม่าลุ่ยในตอนนี้ที่ไม่อาจกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“พวกเธอออกไปเถอะ ทางนี้พี่จัดการเอง” พี่ใหญ่รู้สึกว่าคุ้มแล้วที่อยู่ดู แม่กับเมียต้องประทับใจเขาแน่ นี่มันผลงานชิ้นเอกชัดๆ
“ผมจะสู้กับมัน” ฟู่กุ้ยยังไม่ยอม หนุ่มสายวิชาการไม่มีทางยอมถอยเพื่อปกป้องผู้หญิงที่ตัวเองชอบ ต่อให้ต้องตายก็ไม่ถอย
“พี่ข่มเขาไปพอสมควรแล้ว มากกว่านี้เดี๋ยวหมดเท่ห์นะ ท่านผู้นำเคยกล่าวไว้ไม่ใช่เหรอว่า ความขัดแย้งที่ต่างกันต้องใช้ทางแก้ที่ไม่เหมือนกัน ตอนนี้พี่ต้องไปจัดการเรื่องภายใน เข้าใจยัง”
เสี่ยวเชี่ยนห้ามเลี่ยวฟู่กุ้ยพลางส่งสายตาให้เขา ไปเอาหลิวเหมยให้อยู่หมัด จะสนใจไอ้กร๊วกนี่ทำไม
ฟู่กุ้ยเข้าใจแล้ว เขาจับมือหลิวเหมย “เราไปกันเถอะ”
หลิวเหมยเบนความสนใจทั้งหมดไปที่มือ มีจูงมือด้วย
เธอกับแฟนเก่า ก็คือผู้ชายที่ถูกแก้วทุบหัวสภาพน่าสมเพช คบกันได้ปีครึ่งถึงจะจูงมือกัน แล้วนี่พี่ฟู่กุ้ยมาจูงมือเธอทำไม
เสี่ยวเชี่ยนคิดว่าถ้าให้เสียงประกบกับฟู่กุ้ยในตอนนี้ ในใจของฟู่กุ้ยคงกำลังคิดว่า นุ่มจังเลย~
เห็นผู้หญิง ‘ของตัวเอง’ เดินจูงมือไปกับผู้ชายอื่นหม่าลุ่ยก็คิดจะตามไป แต่กลับถูกพี่ใหญ่เรียกบอดี้การ์ดมาขวางไว้
“คุณหม่าครับ เรื่องเนื้อคู่เนี่ยสวรรค์กำหนด ดูท่าน้องสาวผมกับคุณคงไม่ใช่คู่แท้กัน ครอบครัวเราเองก็คงไม่กล้าเข้าไปยุ่งเรื่องนี้”
หม่าลุ่ยดิ้นไม่หลุดจากบอดี้การ์ดส่วนตัวของพี่ใหญ่ ทำได้แค่มองหลิวเหมยเดินจูงมือออกไปกับฟู่กุ้ยอย่างร้อนใจ
“ผมกับหลิวเหมยรักกัน พวกคุณจะมาพรากพวกเราไม่ได้”
“ถ้าผมจำไม่ผิด เมื่อกี้เขาบอกเลิกคุณแล้วนะครับ” พี่ใหญ่วางมาดบอส
“ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณวางแผน ผมกับหลิวเหมยก็จะได้แต่งงานกันแล้ว เพราะคุณ มันเป็นความผิดของคุณ” หม่าลุ่ยมองประธานเชี่ยนด้วยสายตาอาฆาตแค้น
เขาคิดว่าสาเหตุครึ่งหนึ่งที่หลิวเหมยทิ้งเขาเป็นเพราะเสี่ยวเชี่ยน ในที่สุดเขาก็พบว่า คำพูดของเสี่ยวเชี่ยนไม่ใช่แค่หลิวเหมยที่ฟัง เลี่ยวฟู่กุ้ยเองก็ฟัง ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลต่อจิตใจของหลิวเหมยมาก ผู้หญิงคนนี้นี่แหละที่เสี้ยมให้เขาต้องเลิกกับหลิวเหมย
“คุณมีสิทธิ์อะไรมายุ่งเรื่องของพวกเรา มายุ่งกับเถ้าแก่ใหญ่ที่แต่งงานแล้วแบบนี้มีแต่จะพาหลิวเหมยเสียคน”
เสี่ยวเชี่ยนมองตาปริบๆ เธอพอจะเข้าใจแล้ว ตานี่พูดเรื่องระหว่างเธอกับพี่ใหญ่สินะ
“ฉันอยากทำอะไรสามีฉันยังไม่ยุ่งเลย แล้วคุณเป็นใคร” เดิมประธานเชี่ยนคิดเอาไว้ว่าครั้งนี้จะทำหน้าที่แค่เป็นผู้ช่วย คอยยืนดูก็พอ แต่หม่าลุ่ยเล่นสาดโคลนใส่เธอแบบนี้ ถ้าประธานเชี่ยนทนไหวสิแปลก
“คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องผมกับหลิวเหมย”
“ไม่มีสิทธิ์เหรอ หึหึ…”
เสียง หึหึ ของประธานเชี่ยนทำให้พี่ใหญ่เสียวสันหลัง ไอ้หนุ่มนี่รนหาที่ตายชัดๆ ถึงกับกล้าหาเรื่องผู้หญิงที่ร้ายกาจที่สุดในตระกูลอวี๋เลยเหรอ
เดิมพี่ใหญ่กะให้บอดี้การ์ดลากตัวหม่าลุ่ยไปอัดตรงที่ลับตาคน แต่พอเห็นน้องสะใภ้ทำหน้าเอาเรื่องแบบนี้เขาก็วางใจแล้ว ดูท่าคงไม่ถึงกับต้องให้เขาลงมือ
“ชีวิตคู่ไม่ใช่การซื้อของ ตอนที่คุณติดป้ายราคาให้หลิวเหมย คุณก็สูญเสียโอกาสที่จะได้ครอบครองเธอไปแล้ว แน่นอนว่าถ้าคุณอยากจะติดราคาให้กับชีวิตคู่ของคุณน่ะมันก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่ตอนที่คุณประเมินราคาหลิวเหมยก็ต้องคิดดูด้วยว่าตัวเองมีค่าเท่าไร ให้อะไรเธอได้บ้าง ความรักก็ไม่มีให้ เงินทองยิ่งไม่ต้องพูดถึง ความมั่นคงก็ไม่มี หน้าตาก็…จึ๊ๆๆ”
“คุณ” หม่าลุ่ยถูกคำพูดของเสี่ยวเชี่ยนเสียดแทงใจไม่ไหวแล้ว ผู้หญิงคนนี้ปากร้ายเหลือเกิน คำพูดทุกคำล้วนดูหมิ่นศักดิ์ศรีของเขา