แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 787 ดับเบิ้ลจูบแรก
“ฉันอยากทำให้ได้อย่างที่พ่อฉันคาดหวัง ฉันอยากให้ตัวเองกลายเป็นผู้หญิงแกร่งที่เด็ดเดี่ยวเหมือนอย่างคนที่พ่อฉันชอบพูดถึงบ่อยๆ ทุ่มเทให้กับธุรกิจ ผู้หญิงถ้าอยากไปสู่จุดที่สูงก็ต้องแลกมาด้วยบางอย่าง ฉันคิดว่าตัวเองก็สามารถทำได้ แต่ฉันกลับควบคุมความเสียใจไม่ได้…ฉันทำให้พ่อผิดหวังใช่ไหม
“เด็กโง่ ใครบอกกันว่าผู้หญิงแกร่งจะมีครอบครัวที่ไม่มีความสุข” เสี่ยวเชี่ยนเช็ดน้ำตาให้เธอ
“ฉันวิเคราะห์เอาเอง ผู้หญิงเก่งๆที่พ่อยกตัวอย่างมาถ้าไม่หย่าก็เป็นโสด จะมีผู้ชายสักกี่คนที่ยอมรับเรื่องที่ผู้หญิงเก่งกว่าตัวเอง หาเงินได้มากกว่าตัวเองได้ พองานยุ่งไปถึงระดับหนึ่งก็ไม่มีเวลามานั่งสนใจเรื่องรักๆใคร่ๆ เชี่ยนเอ๋อ เธอเองก็เคยพูดกับฉันว่า ผู้หญิงถ้าถึงจุดที่แข็งแกร่งมากๆก็ไม่จำเป็นต้องง้อผู้ชายแล้ว”
ฉึก อวี๋หมิงหลางเกือบกัดไม้จิ้มฟันหัก เขาหันขวับไปมองเสี่ยวเชี่ยน ผู้หญิงตัวแสบพวกนี้เคยคุยกันเรื่องที่จะทำให้สัตว์โลกสูญพันธุ์ด้วยเหรอ
เสี่ยวเชี่ยนไม่ต้องหันไปก็รู้ว่าอวี๋หมิงหลางจ้องมาอย่างไม่สบอารมณ์ เธอแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วปลอบสุ่ยเซียนต่อ
“ฉันเคยพูดแบบนั้นก็จริง—” นี่ ผู้ชายที่ชอบอาละวาดข้างหลังนั่นน่ะ ฟังให้จบก่อนแล้วค่อยโมโหได้ไหม
“ดูสิ เธอยังยอมรับว่าเคยพูดแบบนี้เลย” สุ่ยเซียนเสียใจหนักกว่าเดิม รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับคำถามที่ต้องเลือกตอบระหว่างจะเลือกธุรกิจหรือครอบครัว
“ฉันเคยพูด แต่นั่นไม่ใช่คำตอบที่แน่นอนเสมอไป ผู้หญิงที่แข็งแกร่งจนถึงจุดหนึ่งไม่ต้องง้อผู้ชายได้ก็จริง ยกตัวอย่างแฟนเก่าของหลิวเหมย เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ จิตใจคับแคบ เห็นผู้หญิงเป็นแค่เครื่องมือผลิตลูก มีแฟนแบบนั้นแล้วจะมีไปทำไม แต่ถ้าเป็นแบบเสี่ยวเฉียงของฉัน อย่างจูขี้บ่น มีแต่ข้อดีเข้าอกเข้าใจพวกเรา ผู้ชายที่มีแต่จะส่งเสริมกันและกันแบบนั้นต้องการก็ได้นะ”
ประโยคสุดท้ายของเสี่ยวเชี่ยนเธอมองผู้ชายที่อยู่ด้านหลังสุ่ยเซียนพลางพูด ผู้ชายคนนี้เหงื่อท่วมตัว ยืนหอบพลางมองเสี่ยวเชี่ยนที่กอดสุ่ยเซียนอยู่
ในที่สุดก็มาสักที
เสี่ยวเชี่ยนมองผู้ชายที่อยู่ด้านหลังสุ่ยเซียน แล้วยิ้ม
ตานี่ก็เก่งนะ ตั้งแต่วางสายจนถึงตอนนี้ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีเอง บังคับแท็กซี่ให้รีบบึ่งมาที่นี่สินะ
ด้านหลังสุ่ยเซียนหันไปหาจูขี้บ่น เธอจึงไม่เห็น เธอยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นระบายความอัดอั้นตันใจต่อ
“แต่ฉันให้อะไรเขาไม่ได้เลย ฐานะครอบครัวของเต๋อซีก็ใช้ได้ แล้วเขาจะอยากได้เงินของบ้านฉันทำไม นอกจากเงินแล้วฉันก็ให้อะไรเขาไม่ได้เลย ฉันเป็นแค่ตัวถ่วงอนาคตของเขา ฉันอยากให้ตัวเองเกิดมาในครอบครัวธรรมดาจริงๆ ถ้าเป็นสามีภรรยาที่เข้ากันได้ดีแบบเธอกับหมิงหลางก็คงดี ฉันเองก็อยากตามไปอยู่กับเขา ฉันเองก็อยากเป็นเหมือนผู้หญิงทั่วไปที่ดูแลบ้าน คอยทำกับข้าวรอคนที่รักกลับมาบ้าน แต่ฉันจะทิ้งพ่อได้ยังไง จะทิ้งธุรกิจที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อหลายปีของพ่อได้ยังไง ฉันไม่มีทางทิ้งพ่อได้หรอก พ่อฉันดูแลฉันมาตลอดชีวิต ให้ชีวิตให้ทุกอย่าง ฉันเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนั้นไม่ได้หรอก”
“คุณตามไปอยู่กับผมไม่ได้ งั้นผมจะไปทำธุรกิจกับคุณ คุณไม่มาถามผมแล้วคุณรู้ได้ไงว่าผมไม่แคร์คุณ คุณรู้ได้ยังไงว่าคุณให้อะไรผมไม่ได้เลย”
เสียงนี้ทำให้สุ่ยเซียนหยุดชะงัก ตัวแข็งทื่อไปหมด นี่เธอหูแว่วเหรอ
เสียงที่เคยอยู่ในความฝัน หรือว่า หรือว่า—
“ไอ๊หยา ซึ้งสุดๆไปเลย” หลิวเหมยเช็ดน้ำตา เธอจะร้องไห้แล้วนะ นี่มันละครดราม่าแห่งปี จากความรักอันขื่นขมจนมาถึงจุดเปลี่ยน ยิ่งดูก็ยิ่งซึ้ง
ฟู่กุ้ยยื่นกระดาษทิชชู่ให้เงียบๆ เขารู้สึกว่าเสี่ยวเชี่ยนวิเคราะห์ได้ถูกต้องมาก หลิวเหมยเป็นผู้หญิงที่ภายนอกดูเข้มแข็งแต่ภายในอ่อนไหว จิตใจของเธอไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนภายนอกที่แสดงออก
สุ่ยเซียนตัวแข็งอยู่นานไม่กล้าหันไป เธอกลัวว่าหันไปแล้วทุกอย่างจะกลายเป็นเพียงความว่างเปล่า เป็นแค่ภาพลวงตา
เสี่ยวเชี่ยนให้กำลังใจเธอ
“ไปเผชิญหน้ากับเรื่องที่เธอควรเผชิญเถอะ ธุรกิจกับครอบครัวไม่ใช่เรื่องที่ต้องตัดสินใจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง พ่อบุญธรรมยกแต่ผู้หญิงแกร่งที่ชีวิตคู่ไม่ราบรื่นมาให้เธอเห็น เธอก็เลยคิดว่าผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จต้องสูญเสียคนรัก ฉันไม่ปฏิเสธนะที่ว่าผู้หญิงที่เก่งมากๆจะล้มเหลวในเรื่องชีวิตคู่มากกว่าผู้หญิงทั่วไป ซึ่งมันก็เกี่ยวกับนิสัยของผู้ชายหัวโบราณด้วยแหละ ผู้ชายส่วนหนึ่งเห็นแก่ศักดิ์ศรีของตัวเองเลยยอมรับไม่ได้ถ้าแฟนตัวเองจะเก่งกว่า ผู้ชายบางคนยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อเงิน แต่ก็ยังมีส่วนน้อยที่ไม่อยากได้เงิน ไม่แคร์เรื่องพวกนั้น มีความรักที่บริสุทธิ์”
เสี่ยวเชี่ยนหันไปมองอวี๋หมิงหลาง ทั้งสองคนส่งสายตาอบอุ่นให้แก่กัน เธอรู้ว่าเสี่ยวเฉียงเป็นผู้ชายแบบนั้น
“ผู้ชายแบบนี้น้อยจริงๆ เขาต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง เขาต้องเข้าอกเข้าใจภรรยา ต้องใจกว้าง ต้องมีความมั่นใจในตัวเอง ไม่เอาเรื่องเงินทองเป็นตัวชี้วัดความรัก หันไปสิ ผู้ชายแบบนี้ยืนอยู่ข้างหลังเธอ ฉันว่าเธอควรคุยกับเขาเองนะ”
เสี่ยวเชี่ยนดันตัวสุ่ยเซียนให้หันไป จูขี้บ่นเข้ามากอดสุ่ยเซียนทันที
ไม่เจอกันตั้งนาน ดูเหมือนเขาจะผอมไปเล็กน้อย แล้วก็ดูเหมือนมีบางอย่างเปลี่ยนไป…ทันใดนั้นสุ่ยเซียนก็พบว่าเขาใส่ชุดลำลอง
รู้จักกันมานานขนาดนี้น้อยครั้งที่จะเห็นเขาใส่ชุดแบบคนทั่วไป ถ้าไม่ใส่เครื่องแบบทหารก็ใส่ชุดลายพราง
“One รีบพาคนของพวกนายออกไป เรื่องระหว่างเราไว้ค่อยกลับไปคิดบัญชี” จูเต๋อซีสั่งโดยไม่หันไปมอง
อวี๋หมิงหลางรีบหยิบเบียร์สองขวดพร้อมกับคว้าเนื้อย่างบนเตาไปทั้งหมด “ไปๆๆ ได้เวลาถอยแล้ว”
“ฉันยังอยากดูต่อ…” หลิวเหมยถูกฟู่กุ้ยลากตัวไปในสภาพที่ไม่อยากกลับ
ฉากความรักฟ้าหลังฝนแบบนี้ร้อยปีจะมีสักครั้ง น่าเสียดายจัง
“ถ้าเธออยากดูกลับไปพี่จะสารภาพรักกับเธอร้อยครั้ง อย่าอยู่ต่อเลย รูปร่างแบบพี่สู้พวกทหารไม่ได้หรอกนะ” ฟู่กุ้ยพูดไปตามความเป็นจริง
จากการสังเกตของคนเป็นนักนิติจิตวิทยา สภาพอารมณ์ของจูเต๋อซีในเวลานี้พร้อมท้าชนกับทุกคน ถ้าเป็นระหว่างชายหญิงก็อาจจะสารภาพรักแล้วจูบดูดดื่มได้เลย แต่ถ้าเป็นระหว่างผู้ชายด้วยกัน มีหวังต่อยให้ตายกันไปข้าง
“งั้นฉันไปหาพี่ชายกับพี่สะใภ้” หลิวเหมยผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวจะเดินไปหาเสี่ยวเชี่ยน
ฟู่กุ้ยดึงเธอกลับมา “อย่าไปรบกวนพวกเขา พี่เธอร้ายกาจแค่ไหนเธอไม่รู้เหรอ
ใครก็มองออกเห็นอวี๋หมิงหลางถือเบียร์ลากเสี่ยวเชี่ยนไปหลบหลังก้อนหินตรงริมทะเลแบบนั้นเพื่อไปทำอะไร ใครที่ไม่ดูตาม้าตาเรือเข้าไปขัดจังหวะเดี๋ยวได้โดนจับโยนลงทะเล
“เอ๊า งั้นพวกเราไปไหนดีล่ะ” หลิวเหมยหันกลับไปมอง ไม่รู้ว่าจูขี้บ่นกับสุ่ยเซียนคุยอะไรกัน
ไม่รู้พี่สะใภ้กับพี่ชายเธอไปหลบหลังก้อนหินทำอะไรด้วย
“เดี๋ยวพี่ขับรถพาเธอกลับ”
“อ่อ…” หลิวเหมยผิดหวัง จะให้กลับทั้งแบบนี้เหรอ
รถจอดอยู่ข้างทาง ทั้งสองคนขึ้นรถเก่าๆของฟู่กุ้ย
“เดี๋ยวกลับไปพี่จะเปลี่ยนรถ ครั้งหน้าจะไม่ให้เธอนั่งรถที่ไม่สบายแบบนี้อีก” ฟู่กุ้ยใช้รถคันนี้มาหลายปีแล้ว เขาคิดมาตลอดว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรถจนกระทั่งมาเจอเธอ
“ไม่ต้องหรอกค่ะ มันก็ยังใช้ได้ไม่ใช่เหรอคะ พี่เพิ่งจะซื้อบ้านไป ใช้เงินไปไม่น้อยแล้วไม่ใช่เหรอคะ” หลิวเหมยเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงเรื่องมาก
ทันใดนั้นฟู่กุ้ยก็ยืดตัวขึ้นแล้วโน้มตัวเข้าไปหาเธอ หลิวเหมยใจเต้นตึกตัก อยู่ๆก็นึกถึงจูบตอนเล่นเกม หรือวันนี้จะเป็นดับเบิ้ลจูบแรก