แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 842 ใช้แผนสอง
ฟู่กุ้ยนึกไม่ถึงว่าจะเจอไม้นี้ เขาหันไปขอความช่วยเหลือจากเสี่ยวเชี่ยน ตอบไงดี?
เขายอมพูดโกหกเพื่อช่วยเพื่อน แต่เรื่องจดทะเบียนสมรสนั้น…แล้วเสี่ยวเหมยของเขาจะทำไง?
พอได้ยินปลายสายเงียบไป พ่อฉิวฉิวจึงพูดประชด
“ทำไม? ไม่ยอมเหรอ? งั้นก็กลับไปซะ”
“ไม่ค่ะ พวกเรายินดี พวกเราตกลงค่ะคุณลุง พี่ชายหนูดีใจจนอึ้งไป ไม่รู้จะตอบยังไงดี ไม่เชื่อก็ฟังเสียงหัวเราะของเขาสิคะ” เสี่ยวเชี่ยนหันไปส่งซิกให้ฟู่กุ้ย ฟู่กุ้ยจึงหัวเราะแบบแข็งๆ “ฮ่าๆ”
“งั้นก็กลับไปเอาทะเบียนบ้านมา ขอแค่ยอมแต่งงานกัน บ้านเราไม่ต้องการสินสอดอะไรทั้งนั้น แถมยังจะยกบ้านให้หนึ่งหลัง รถดีๆหนึ่งคัน แค่ดูแลลูกสาวฉันให้ดีๆก็พอ”
พวกเสี่ยวเชี่ยนพอได้ฟังคำพูดเหล่านี้ก็ถึงกับพูดไม่ออก
ระหว่างทางที่มายังคิดว่าพ่อที่ยอมใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตลูกจะต้องเป็นพวกล้มเหลวแน่นอน แต่พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ก็รู้สึกปวดใจ
“คุณลุงคะ พวกเราพอมีฐานะคุณลุงไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ค่ะ พี่ชายหนูชอบฉิวฉิวจริงๆ เอาแบบนี้ไหมคะ เดี๋ยวหนูจะให้พ่อแม่ส่งทะเบียนบ้านมาให้ทางไปรษณีย์ คุณลุงให้พวกเราเจอฉิวฉิวก่อนได้ไหมคะ? ไม่เจอเขาหลายวันแล้วพวกเราคิดถึงเขามากจริงๆ”
เสี่ยวเชี่ยนพูดอ้อมๆ
ฟู่กุ้ยเห็นเสี่ยวเชี่ยนส่งสายตามา ด้วยความเข้าตาจนจึงต้องพูดอะไรที่น้ำเน่าออกไป
อย่างเช่น คิดถึงจนนอนไม่หลับ รักจนยากจะลืม แน่นอนว่าเขามองหลิวเหมยขณะที่พูด
เหมยจื่อ เธอต้องเข้าใจพี่นะ ทำไปเพื่อช่วยคนทั้งนั้น พี่จริงใจกับเธอเหมือนเดิม
หลิวเหมยตอบเขาด้วยสายตา ฉันเชื่อใจพี่ค่ะ
พ่อฉิวฉิวได้ฟังก็เริ่มหวั่นไหว ในที่สุดก็ยอมใจอ่อน
“ได้ พวกนายเข้าไปก่อนแล้วกัน พี่ อยู่ตรงนั้นหรือเปล่า?”
“อยู่”
“ดูคนพวกนี้ให้ดีนะ อย่าปล่อยให้เล่นตุกติก”
บนสนทนาของทั้งสองคนทำให้พวกเสี่ยวเชี่ยนมองหน้ากัน
หมายความว่าภายในบ้านหลังใหญ่นี้ยังมีคนอื่นอีก?
ประตูบ้านถูกเปิดออก พวกเสี่ยวเชี่ยนมองข้างในแล้วก็ตกใจ
เมื่อครู่อยู่ข้างนอกคิดว่ามีสุนัขแค่สองสามตัว ตอนนี้พอได้ดู เลี้ยงทิเบตันมาสทิฟฟ์ไว้ตั้งห้าตัว
แต่ละตัวดูดุร้ายถูกขังเอาไว้ในกรง ถ้าถูกกัดขึ้นมาน่ากลัวมาก กัดทีหนึ่งอาจได้ไปนอนโรงพยาบาลแน่
“หมาพวกนี้ตั้งใจซื้อมาโดยเฉพาะ ดุมาก รีโมตเปิดปิดกรงไฟฟ้าอยู่ที่ฉันนี่ ถ้าพูดจาอะไรที่ไม่จำเป็นล่ะก็ ระวังฉันปล่อยหมาออกมากัดก็แล้วกัน”
หญิงชราที่กำลังนำทางไปพูดขึ้น
แม้แต่เทคโนโลยีชั้นสูงก็ถูกนำมาใช้
พวกเสี่ยวเชี่ยนอดไม่ได้ที่จะหวั่นใจ
ซื้อกรงไฟฟ้า เลี้ยงหมานิสัยดุร้าย ติดรั้วตาข่ายเหล็ก พอดูที่ตัวบ้าน หน้าต่างทุกบานมีเหล็กดัด มาตรการเฝ้าระวังของบ้านนี้รัดกุมยิ่งกว่าศูนย์โรคประสาทเสียอีก
ดูท่าทางพ่อของฉิวฉิวจะลงทุนไปไม่น้อยกับการป้องกันไม่ให้ฉิวฉิวหนีและ ‘การรักษา’
ทั้งหมดเดินเข้าไป เสี่ยวเชี่ยนสังเกตดูรอบๆ
“ป้าใหญ่ พวกเขามาทำอะไรกัน?” ผู้ชายรูปร่างใหญ่คนหนึ่งถาม
“คู่หมั้นฉิวฉิวมาหา”
“คู่หมั้น?” ผู้ชายคนนั้นกวาดตามอง
เมื่อเข้าไปในบ้านแล้วก็เห็นผู้ชายร่างกำยำสองคนกำลังดูทีวีอยู่ ป้าใหญ่พาพวกเสี่ยวเชี่ยนเดินขึ้นชั้นบน พวกเสี่ยวเชี่ยนพากันนับจำวนคนในบ้านนี้ จนถึงตอนนี้นับชายฉกรรจ์ได้หกคนแล้ว ไม่รวมป้าใหญ่นี่กับหมาดุข้างนอกนั่นอีก
ถึงทางนนี้จะมีอาข่ากับหลิวเหมยที่เป็นวิชาป้องกันตัว แต่คู่ต่อสู้เป็นชายฉกรรจ์รูปร่างใหญ่ แถมจำนวนคนมากกว่าพร้อมหมาดุร้ายอีกหลายตัว เป็นไปไม่ได้เท่าไรที่จะชนะ
เสี่ยวเชี่ยนส่งสายตาให้อาข่า อาข่ารีบแอบโทรหาไป๋จิ่นที่อยู่ข้างนอก ดังอยู่สามทีก็มีคนรับ แต่ไม่พูด
นี่เป็นโค้ดลับ ความหมายคือ แผนแรกไม่ได้ผลให้ใช้แผนสอง
ฉิวฉิวที่เป็นเป้าหมายของทุกคนเวลานี้คงถูกจับมัดแล้วช็อตไฟฟ้าไปแล้ว
เพราะพี่ใหญ่สืบมาได้ว่า พ่อฉิวฉิวสั่งอุปกรณ์แบบนั้นมาจากเมืองนอก แถมยังไปขอวิธีรักษาจาก ‘ผู้เชี่ยวชาญ’มาด้วย
วินาทีที่ประตูเปิดออกพวกเสี่ยวเชี่ยนต่างไม่กล้ามองกลัวจะได้เห็นภาพที่น่ากลัว
ปรากฏว่า…
“ป้าใหญ่ ใจร้ายกับหนูมากเลยนะ ให้หนูกินหม้อไฟแต่ไม่ให้เนื้อแพะกับเบียร์ได้ไง? มีแต่ผักนี่มันอะไรกัน…-เอ๊ะ? ประธานเชี่ยน?”
ฉิวฉิวที่นั่งขัดสมาธิอยู่พอเห็นว่าใครมาก็ตกใจมาก
พอเห็นท่าทางของฉิวฉิว อีกาที่บินอยู่บนหัวทุกคนก็บินหนีไปหมด
กา กา กา…
ไหนล่ะเครื่องช็อตไฟฟ้า?
ไหนล่ะการทารุณ?
ไหนล่ะวิธีรักษาที่น่ารังเกียจ?
กินหม้อไฟ? พูดว่าหม้อไฟดูเกรงใจไปหน่อย มันคือผักต้มชัดๆ อากาศร้อนๆให้มากินแบบนี้ค่อนข้างใจร้าย
“อย่าบ่นเลยน่า พ่อเราบอกว่าถ้าเราไม่สำนึกก็ไม่ให้ออกไปไหน ถ้ายังไม่เชื่อฟังอีกก็จะเอาเครื่องช็อตไฟฟ้าอะไรนั่นใส่เข้าไป”
“ชิ ขู่เหรอ หนูไม่ได้จะดูถูกพวกป้าหรอกนะที่ซื้อของแบบนั้นมาขู่ ซื้อมาน่ะอ่านภาษาต่างประเทศออกเหรอ ใช้เป็นเหรอ?”
ป้าใหญ่ชี้หน้าฉิวฉิวด้วยความโมโห “พ่อเราบอกแล้วว่า ถ้ายังไม่ทำตัวดีๆอีกก็จะให้กินหม้อไฟผักต้มไปทั้งอาทิตย์ แถมยังไม่ให้เปิดแอร์ไม่ให้เปิดหน้าต่างเอาให้ร้อนตายไปเลย ไม่ให้กินเนื้อแพะเนื้อสัตว์อะไรก็ไม่ให้ทั้งนั้น เอาให้เหงื่อแตกน้ำก็ไม่ให้อาบ อยากเป็นผู้ชายนักไม่ใช่เหรอ? ผู้ชายน่ะตัวเหม็นกันทั้งนั้น เป็นผู้ชายทั้งชาติไปเลยสิ”
เอ่อ…เป็นการลงโทษที่โหดร้ายมาก…
พวกเสี่ยวเชี่ยนพากันอึ้งเข้าไปอีก
ภาพเลวร้ายที่จินตนาการมากันตลอดทาง ไม่มีปรากฏเลยสักนิด
การลงโทษของพ่อฉิวฉิว ไม่รู้ทำไมฟังๆดูแอบมุ้งมิ้ง…
“งั้นก็ปล่อยให้เหม็นตายไปเลย หนูจะกินหม้อไฟ ร้องเพลง เก่งนักก็เอามาเสิร์ฟให้ได้ทุกวัน น้ำซุปจืดๆ ไม่มีน้ำจิ้ม ไม่มีเนื้อสัตว์หนูก็กินได้”
ฉิวฉิวทำหน้าทะเล้นใส่ป้าใหญ่ พอคิดจะถามว่าพวกเสี่ยวเชี่ยนมาได้ยังไง เสี่ยวเชี่ยนก็กระทุ้งฟู่กุ้ย โหมดนักแสดงเจ้าบทบาทก็เริ่มทำงาน
ฟู่กุ้ยหันไปหาหลิวเหมยเพื่อขอความเข้าใจ จากนั้นก็กัดฟันวิ่งเข้าไปกอดฉิวฉิว
“ที่รัก ผมมาหาคุณแล้ว”
“อะไรนะ?” ฉิวฉิวงง
ฟู่กุ้ยสูดลมหายใจ กลิ่นตุๆลอยมาจากตัวฉิวฉิว ฟู่กุ้ยที่เป็นคนรักสะอาดทนไม่ไหว ถอยออกมาเอามือบีบจมูกพลางถาม
“ที่รัก คุณไม่ได้อาบน้ำมากี่วันแล้ว?”
ฉิวฉิวเกาหัวอย่างอายๆ “ก็พวกเขาไม่ให้ฉันอาบนี่นา เอาแต่บอกว่าถ้าอยากอาบน้ำ อยากกินตามปกติก็ต้องแต่งตัวแบบผู้หญิง ไว้ผมยาว”
ต่อให้สองคนนี้กอดกันก็ยังดูเหมือนผู้ชายกอด ไม่ได้ดูเป็นคู่รักเลยสักนิด เสี่ยวเชี่ยนกลัวความจะแตกเลยรีบแก้ไขสถานการณ์
“ฉิวฉิว คู่หมั้นมาหาแล้ว เรื่องแต่งงานของพวกเธอแม่ฉันเห็นด้วยแล้วนะ ไปจดทะเบียนสมรสได้เลย ดีใจไหม?”
“หา?”
คู่หมั้นอะไรวะ?
ฉิวฉิวงงไปหมด ป้าใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างๆถลึงตาจ้อง คอยจับตาว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่
“ที่รัก ถึงคุณจะไม่อาบน้ำ แต่ผมก็ยังรักคุณเหมือนเดิมนะ พ่อคุณเห็นด้วยเรื่องแต่งานของพวกเราสองคนแล้ว รอทะเบียนบ้านถูกส่งมาถึงพวกเราก็จะแต่งงานกัน” เพื่อความแนบเนียนฟู่กุ้ยพยายามเล่นให้สมบทบาทสุดๆแล้ว
ลูกผู้ชายต้องรู้จักปรับตัว