แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย - ตอนที่ 887 พี่รองผู้ตกเป็นเป้า
“นั่นก็อีกคนแสบพอกัน เราสองคนน่ะมันหนูกับงูรังเดียวกันชัดๆ วันๆหาแต่เรื่องปวดหัวมาให้” ตอนนี้แม่อวี๋กำลังปวดหัวเรื่องหาคู่ให้ลูกสาวตัวเอง เป็นผู้หญิงหน้าที่การงานฐานะครอบครัวก็ดี แต่ทำไมอายุป่านนี้แล้วยังไม่มีแฟน?
“งูกับหนู ตัวหนึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลาน อีกตัวเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ถ้าดูจากเรื่องพันธุกรรมแล้วไม่มีทางจะมาอยู่รังเดียวกันได้ พ่อจะมียีนสองแบบได้ยังไง…แม่ อย่าตีผมต่อหน้าเมียสิ”
เสี่ยวเฉียงรีบไปหลบหลังเสี่ยวเชี่ยน แม่อวี๋ถึงได้ชักมือกลับ
ไอ้ตัวแสบ ไม่มีอะไรไม่กล้าพูดเลยนะ
“แม่ค่ะ ตอนที่แม่ท้องพี่รอง อารมณ์ไม่ดีบ่อยๆหรือมักมีเรื่องไม่สบายใจไหมคะ?” เสี่ยวเชี่ยนถามอีก
พี่รองตกเป็นเป้าโจมตีเสียอย่างนั้น เขาเงยหน้าด้วยความสงสัย เกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?
ต้าอีเองก็มองเสี่ยวเชี่ยน
“พอหนูพูดขึ้นมาแม่ถึงได้นึกออก ตอนที่ท้องพี่รองน่ะ อาหญิงชอบยั่วโมโหแม่บ่อยๆ ช่วงนั้นแม่สะสมความโกรธไม่น้อยเลยล่ะ”
อาหญิงของอวี๋หมิงหลางตอนนี้ทำตัวเรียบร้อยลงไปมากหลังจากที่ถูกเสี่ยวเชี่ยนจัดการไป ถึงจะยังชอบทำตัวเป็นป้ามหาภัย แต่ก็ไม่กล้ามายุ่งกับครอบครัวของพี่ชายเท่าไรแล้ว ยังหวั่นเกรงเสี่ยวเชี่ยนอยู่
“กะแล้วเชียว”
เสี่ยวเชี่ยนไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิด
“ทำไมหนูถามเรื่องนี้ล่ะจ๊ะ?” แม่อวี๋ถามเสี่ยวเชี่ยน
“หนูนึกถึงรายงานผลสำรวจของต่างประเทศที่หนูเคยอ่านก่อนหน้านี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหญิงตั้งครรภ์กับลูกค่ะ ผลวิจัยบอกว่า ผู้หญิงท้องส่วนหนึ่งหากสภาพอารมณ์ตอนตั้งครรภ์ไม่โอเคจะส่งผลต่อนิสัยของลูก ถึงจะไม่ใช่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นแค่ความเป็นไปได้ แต่เรื่องการดูแลสภาพจิตใจของคนท้องนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ ผู้ชายหลายคนต่างคิดว่าผู้หญิงพอท้องแล้วก็ชอบเอาแต่ใจ เลยพลอยรำคาญผู้หญิงท้องไปด้วย…”
อวี๋หมิงหลางรีบยกมือทำสีหน้าบ้องแบ๊ว
“คุณยังไม่มีไม่ใช่เหรอ? อีกอย่างจะตอนไหนผมก็ไม่กล้ารำคาญคุณทั้งนั้น”
นี่เป็นฮองเฮาของบ้านเขา มีแค่เธอเท่านั้นที่รังแกเขาได้ สร้างเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรมได้ เขากล้าขัดขืนที่ไหนล่ะ
“ฉันก็แค่ยกตัวอย่างให้นายเตรียมใจไว้ก่อน ผู้หญิงพอท้องขึ้นมานิสัยกับอารมณ์จะเปลี่ยนไป คนที่ปกติใจเย็นอย่างเช่นฉันก็อาจกลายเป็นคนอารมณ์เสียง่ายพอมีลูก คนที่เคยใจดีอย่างเช่นต้าอีพอตั้งท้องก็อาจกลายเป็นคนจิตใจเปราะบางเอะอะก็ร้องไห้ คนที่เป็นสามีไม่ต้องหาเหตุผลอะไรมาพูดกับคนท้องทั้งนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรน่าฟังหรอก คอยเอาอกเอาใจเป็นพอ การเปลี่ยนแปลงที่มีสาเหตุจากฮอร์โมนใช่ว่าใครก็ควบคุมได้ ถ้าเก่งนักผู้ชายอย่างพวกนายก็ลองมาอุ้มท้องที่ต้องคอยทะนุถนอมนี่สักสิบเดือนดูสิ”
“พูดอย่างกับว่าตอนนี้คุณไม่อารมณ์เสียง่ายอย่างนั้นแหละ…” เสี่ยวเฉียงบ่นพึมพำเสียงเบา
ผู้หญิงคนนี้ พอไม่ถูกใจก็หยิก ตบ ถีบ บางครั้งพอโมโหมากๆแม้แต่เสี่ยวเฉียงน้อยก็กล้าถีบ โชคดีที่เขาไหวตัวทัน เลยยังปกป้องเสี่ยวเฉียงน้อยเอาไว้ได้
“ว่าไงนะ?” เสี่ยวเชี่ยนยิ้มอย่างอ่อนโยน
อวี๋หมิงหลางรีบนั่งตัวตรง “เมียจ๋ากินอีกไหมจ๊ะ?”
เสี่ยวเชี่ยนกวาดตามองเขา ความหมายคือ ฝากไว้ก่อนเถอะ
พี่รองกับต้าอีฟังที่เสี่ยวเชี่ยนพูดแล้วก็ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่จริงคำพูดที่ดูเหมือนกระทบพวกเขานี้ ทั้งสองคนฟังแล้วก็มีปฏิกิริยาต่างกัน
ต้าอีรีบลองทำอารมณ์ให้เป็นปกติ ไม่ให้ตัวเองหดหู่ ถ้าเธอเกิดท้องจริงจะให้ลูกได้รับผลกระทบไม่ได้
ส่วนพี่รองคิ้วขมวดอยู่นาน ในที่สุดก็เอ่ยปากพูด ทำให้อีกสี่คนที่เหลือถึงกับนั่งลุ้น
“พี่…”
เสี่ยวเฉียงพูดในใจ รีบโอ๋เมียสิวะพี่ ขนาดเรื่องนี้เสี่ยวเฉียงยังดูออก
ขณะที่ทุกคนในบ้านกำลังดีใจเรื่องที่ต้าอีอาจท้อง แต่พี่กลับทำหน้านิ่ง ใครเห็นแล้วไม่ใจแป้วบ้าง? คนเป็นน้องชายยังทนดูไม่ไหวเลย
“นิสัยพี่ มันมีปัญหาตรงไหนเหรอ?” ประเด็นสำคัญที่พี่รองคิดคือเรื่องนี้
โวะ เสี่ยวเฉียงหมดแรง เสี่ยวเชี่ยนถึงกับกุมขมับ พี่รองนี่ช่าง…
พี่รองไม่คิดว่าตัวเองไม่ปกติตรงไหน แถมยังจริงจังกับการแก้คำพูดของเสี่ยวเชี่ยนด้วย
“พี่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องนิสัยแบบที่เธอว่ามาเลยแม้แต่น้อย ทุกปีหน่วยงานพี่จะมีให้ทำแบบทดสอบจิตวิทยา สภาพจิตใจพี่แข็งแรงมาก”
ไม่แข็งแรงแล้วจะขับเครื่องบินได้ยังไง?
ตอนนี้เขาขับเครื่องบินรบเลยนะ เป็นสุดยอดของเหล่าบรรดานักบิน แล้วจะมีปัญหาได้ยังไง?
แม่อวี๋มุมปากกระตุก จากนั้นก็หันไปมองต้าอี ไม่พูดอะไร ตบมือต้าอีเบาๆอย่างเงียบๆ
“เด็กดี ลำบากหนูหน่อยนะ”
นิสัยอึนๆไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดของอวี๋หมิงอี้ มีต้าอีเป็นเมียก็นับว่าบุญแล้ว
ต้าอีกลับส่ายหน้า “พี่รองไม่ได้มีปัญหาค่ะ เขาโอเคดี”
“อืม ต่อให้พี่รองตดต้าอีก็ยังดมอย่างชื่นใจได้” อวี๋หมิงหลางประชด
“โอ๊ก” ต้าอีเอามือปิดปาก อยู่ๆก็รู้สึกอยากอาเจียน
โอ๊ะ อยากอ้วกเหรอ ต้าอีอยากอ้วก
แม่อวี๋พอเห็นท่าทางแบบนี้ก็ดวงตาเป็นประกาย
ต้าอีรู้สึกไม่สบายตัว ลุกขึ้นเอามือปิดปาก
“หนูไปห้องน้ำหน่อยนะคะ”
อวี๋หมิงอี้เองก็ลุกขึ้นเดินตามไปอย่างเงียบๆ หน้าก็ยังนิ่งเหมือนเดิม พอสังเกตดูดีๆ ใบหน้านั้นดูเย็นชากว่าตอนปกติ
“เจ้ารองนี่นะ…” พอสองคนนั้นออกไปแล้วแม่อวี๋ก็ถอนหายใจ
สงสัยเป็นอาการที่ได้มาจากอารมณ์หงุดหงิดตอนท้อง ตารองถึงได้ทำตัวผิดเพี้ยนจากคนทั่วไปแบบนี้ แต่สมองกลับฉลาด
“พ่านพ่านจ๊ะ ย่าคีบปลาให้กินดีไหม กินปลาแล้วฉลาดที่สุดเลย” แม่อวี๋ลูบหัวพ่านพ่าน
“ผมจะมีน้องแล้วเหรอฮะ?” พ่านพ่านที่นั่งเงียบมาตลอดอยู่ๆก็ถามขึ้น
บรรยากาศในห้องอาหารเข้าสู่ความเงียบขึ้นมาทันที
เสี่ยวเฉียงถึงกับจนปัญญากับพี่ตัวเอง
เรื่องที่ขนาดเด็กอนุบาลยังดูออกเลย แต่พี่รองกลับไม่เข้าใจ หรือว่าแกล้งโง่กันแน่?
แม่อวี๋ทำตัวไม่ถูก ไม่คิดว่าพ่านพ่านจะถามแบบนี้
เด็กคนนี้วันๆพูดอยู่ไม่กี่ประโยค แต่ไอคิวกลับสูงผิดปกติ เนื่องจากก่อนหน้านี้เกือบมีอาการเป็นออทิสติก เสี่ยวเชี่ยนเคยเตือนทุกคนในบ้านแล้วว่า ถึงเด็กคนนี้จะฉลาดแต่จิตใจอ่อนไหวง่ายมาก ห้ามพูดอะไรที่ทำให้เด็กคนนี้รู้สึกเหมือนขาดความรักเป็นอันขาด
ครอบครัวคนทั่วไปใช่ว่าจะยินดีกับการมีลูกคนที่สองไปเสียหมด ตอนนี้ส่วนใหญ่มีลูกกันแค่คนเดียว เด็กที่เป็นลูกคนเดียวส่วนใหญ่ค่อนข้างที่จะอ่อนไหวหากพ่อแม่มีลูกอีกคน
แม่อวี๋ไม่รู้จะตอบอย่างไร เธอกลัวว่าถ้าตอบไม่ดีจะทำร้ายจิตใจพ่านพ่าน
“อาจจะมี และก็อาจจะไม่มี ยังต้องรอดูอีกทีจ้ะ” เสี่ยวเชี่ยนตอบแทนแม่อวี๋
“งั้นถ้าผมมีน้องผมจะเป็นไงฮะ?”
“ถ้ามี วันที่แม่คลอดน้องหนูก็จะได้รับของขวัญ พ่านพ่านอยากได้อะไรมากที่สุดจ๊ะ?” เสี่ยวเชี่ยนถาม
“อยากได้ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ฮะ อย่างเช่นมอเตอร์ หรือพวกวัสดุพิเศษ”
“จะเอาไปทำอะไรเหรอ?”
“ผมอยากทำโมเดลเครื่องบินเอง แบบที่ร้านขายของเล่นประกอบสำเร็จมามันง่ายเกินไป ไม่น่าสนใจ”
อวี๋หมิงหลางกระพริบตาปริบๆ ดูซิลูกที่พี่รองเลี้ยงมามีความเป็นเด็กตรงไหน แก่แดดจริงๆ
“เราพิ่งจะอายุเท่าไรทำเองเป็นเหรอ?”
“อยากลองดูฮะ” พ่านพ่านตอบนิ่งๆ