บัลลังก์พญาหงส์ - บทที่ 576 แผนเบี่ยงเบน
ตอนที่ถาวซินหลันอาเจียนออกมา คนของตระกูลเฉินก็มาถึงพอดี บ่าวหญิงได้รับเรื่องมาจากคนเฝ้าประตู ก็เดินเข้ามารายงาน
ถาวจวินหลันกลับไม่ทันได้สนใจคนตระกูลเฉิน ประคองถาวซินหลันพลางถามอย่างเป็นห่วง “เป็นอะไรไป?”
ถาวซินหลันกำลังจะตอบ แต่คิดไม่ถึงว่าจะสำรอกออกมาอย่างรุนแรงอีกครั้ง ไม่เพียงแค่สำรอกเอาแป้งทอดออกมา ของที่กินไปก่อนหน้านี้ก็พาลสำรอกออกมาด้วย หลังจากนั้นก็สำรอกออกมาเป็นน้ำทั้งหมด
กลิ่นของอาเจียนนั้นไม่น่าดมอย่างยิ่ง แต่ไม่มีใครติดใจเรื่องนี้ ถาวจวินหลันย่อมไม่เอาเรื่อง ด้วยเพราะนางกำลังร้อนใจและเป็นห่วง
กลับเป็นถาวซินหลันที่ใส่ใจเรื่องนี้ รีบดันถาวจวินหลันออก “ท่านพี่ออกไปรอก่อนเถิดเจ้าค่ะ” ตรงนี้สกปรกขนาดนี้ ถาวจวินหลันอยู่แล้วจะไม่สบายเอา
ถาวจวินหลันได้ยินเช่นนั้นก็ลุกออกไป แต่ก็เรียกให้คนประคองถาวซินหลันเดินตามมา
ตอนที่อาเจียนได้กลิ่นพวกนี้ย่อมรู้สึกไม่ดีเป็นแน่ หากยิ่งไปกระตุ้นให้อยากอาเจียนออกมาอีกจะยิ่งไม่ดีเข้าไปใหญ่
พออาการของถาวซินหลันดีขึ้นแล้ว ถาวจวินหลันถึงได้นึกว่าต้องเชิญหมอหลวงมาดู
แต่เดิมนั้นถาวซินหลันคิดจะห้าม แต่พอคิดถึงความรู้สึกทรมานของตนเมื่อครู่นี้ จึงไม่ได้ห้ามไว้
ตอนนี้ไม่มีใครคิดถึงคนที่ตระกูลเฉินส่งมารับถาวซินหลันกลับไป ยังรออยู่ที่หน้าประตู แม้แต่บ่าวที่มารายงานก็ลืมเช่นเดียวกัน
ดังนั้นคนตระกูลเฉินรออยู่หน้าประตูกว่าครึ่งชั่วยามก็ยังไม่มีคนมาถามอะไร จนทำให้รู้สึกกระวนกระวายว่าตระกูลถาวคงโมโห จนไม่ยอมให้สะใภ้รองกลับมา
พอคิดเช่นนี้คนตระกูลเฉินย่อมไม่กล้ารีรอ รีบกลับไปรายงาน
เพราะว่าถือป้ายจวนตวนชินอ๋อง ดังนั้นหมอหลวงจึงมาอย่างรวดเร็ว
หมอหลวงก็จับชีพจรเสร็จ ถาวจวินหลันรีบถามว่า “ข้าเป็นอะไรหรือ? ร้ายแรงหรือไม่?”
หมอหลวงมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า ลุกขึ้นมาแสดงความยินดี “ยินดีด้วย ตั้งครรภ์แล้วขอรับ เกือบจะสามเดือนแล้ว อาเจียนก็ด้วยแพ้ท้อง ไม่ได้เป็นอะไรรุนแรง”
ข่าวนี้เหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก ความจริงแล้วถาวจวินหลันท้องมาสองครั้ง ตอนที่นางเห็นถาวซินหลันอาเจียนก็แอบคิดว่าคงแพ้ท้อง แต่พอคิดว่าสามีภรรยาสองคนนี้อยู่ห่างกันนานเพียงใดแล้ว? แล้วจะตั้งครรภ์ได้อย่างไร? ดังนั้นถึงได้ปัดตกไป
ดังนั้นในพอได้ยินข่าวนี้ ถาวจวินหลันก็นิ่งอึ้งตะลึงไปครู่ใหญ่ถึงได้สติกลับมา จากนั้นก็หัวเราะดีใจ “นี่เป็นเรื่องดี หมอหลวงควรได้เงินรางวัล แต่ท่านช่วยบอกข้าก่อนว่าครรภ์เป็นอย่างไรบ้าง? มีอะไรจะต้องระวังหรือไม่?”
หมอหลวงหัวเราะพลางพูดว่า “ชีพจรดีมาก ครรภ์ก็มั่นคงแล้ว เป็นเช่นนี้ต่อไปจะคลอดเด็กแข็งแรงแน่นอน อีกทั้งสามเดือนแรกผ่านไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลอีก ต่อจากนี้ต้องระวังหน่อย และกินของบำรุงให้มากก็พอแล้ว”
ถาวจวินหลันถึงได้วางใจ จากนั้นก็ให้บ่าวส่งหมอหลวงกลับไป เรื่องน่ายินดีเช่นนี้ ย่อมต้องมีเงินรางวัลมอบให้หมอหลวง
พอหมอหลวงออกไปก็ไม่มีคนนอกแล้ว ถาวจวินหลันถึงได้ถลึงตามองถาวซินหลัน “ท้องจะสามเดือนแล้วเจ้ากลับไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย มัวทำอะไรอยู่? หมัวหมัวและบ่าวรับใช้ข้างกายของเจ้าเล่า?”
ถาวซินหลันรู้เรื่องนี้ก็นิ่งอึ้งไป พอได้ยินถาวจวินหลันถาม ก็รีบตอบว่า “ข้าเองก็ไม่รู้เจ้าค่ะ เดือนที่แล้วยังมีประจำเดือน แม้จะบอกว่ามาน้อย แต่ก็ยังมา หลังจากนั้นข้ากับเฉินฟู่ก็ไม่ได้พบหน้ากันอีก ไฉนเลยจะคิดว่า… อีกอย่าง ประจำเดือนของข้าก็มาไม่ค่อยตรงมาตลอดเจ้าค่ะ”
เรื่องทั้งหมดนี้รวมเข้าด้วยกัน ก็ทำให้คนมองข้ามเรื่องตั้งครรภ์ไปไม่ใช่หรืออย่างไร?
ถาวจวินหลันไม่พูดตำหนิอีก แต่กลับรู้สึกเจ็บปวดใจ ที่ประจำเดือนของถาวซินหลันมาไม่ปกติก็เพราะตอนที่มาครั้งแรก ไม่ได้มีการบำรุงให้ดี ในตอนนั้นพวกนางยังอยู่ที่หน่วยซักล้าง มือแช่อยู่ในน้ำเย็นทั้งวัน แล้วยังสวมเสื้อผ้าบางไป ย่อมสะสมความเย็นเอาไว้ในร่างกาย พอเป็นเช่นนี้ประจำเดือนจึงมาไม่ปกติตลอด นี่เป็นความผิดของพี่สาวอย่างนางที่ดูแลน้องสาวได้ไม่ดี
“ในเมื่อวันนี้รู้แล้ว ก็เริ่มบำรุงให้ดีเสียเถิด” เมื่อคิดว่าวันนี้ถาวซินหลันลงมือลงไม้กับคนอื่น ถาวจวินหลันก็เริ่มกลัวลึกๆ น้ำเสียงเคร่งขรึมและจริงจังพูดว่า “ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องระวังไว้ เอาอะไรเข้าปากตามใจชอบไม่ได้ แล้วก็ห้ามโกรธโมโหอีก”
ถาวซินหลันหวนคิดถึงสถานการณ์ในวันนี้ก็กลัวมาก ถึงขั้นที่กุมท้องของตนเองตามสัญชาตญาณ ป้องกันเอาไว้อย่างแน่นหนา พอถาวจวินหลันเอ่ยกำชับ นางก็รีบพยักหน้าในทันที
สองพี่น้องเริ่มเรื่องตั้วครรภ์จากความหวาดกลัว จากนั้นก็รู้สึกยินดีและตื่นเต้น สุดท้ายแล้วถาวจวนหลันก็นึกขึ้นมาได้ว่า “จริงสิ ควรส่งคนไปแจ้งตระกูลเฉิน ใต้เท้าเฉินและเฉินฮูหยินรู้เรื่องนี้คงดีใจมาก”
ถาวจวินหลันตั้งใจไม่พูดถึงเฉินฟู่ ตอนนี้เฉินฟู่ยังไม่กลับมา พูดถึงเฉินฟู่ไปก็ทำให้ถาวซินหลันเป็นห่วงและลำบากใจเท่านั้นเอง
พูดถึงตระกูลเฉิน บ่าวหญิงก็นึกขึ้นได้ว่าคนตระกูลเฉินยังรออยู่ที่หน้าประตู จึงรีบไปรายงานเรื่องนี้ทันที
ทันใดนั้นถาวจวินหลันก็ขมวดคิ้ว ปล่อยให้รออยู่ตั้งนาน หากทางตระกูลเฉินเข้าใจผิดแล้วจะทำอย่างไร? นางจึงรีบให้ไปเชิญเข้ามา และให้เตรียมรถม้าเพื่อไปด้วยตนเองสักครั้ง
อย่างแรกคือส่งถาวซินหลันกลับไป อย่างที่สองก็เพราะไปช่วยสนับสนุนถาวซินหลัน อย่างที่สามเพื่ออธิบายว่าไม่ได้จงใจรั้งถาวซินหลันเอาไว้ แต่เพราะมีเรื่องเข้ามาขัด
ทางด้านตระกูลเฉินกลับจริงใจ แม้ว่าจะถูกปล่อยให้คอยเก้อ แต่ก็ยังให้คนรอต่อไป
ถาวจวินหลันย่อมไม่อาจอธิบายกับบ่าวได้ ให้คนบังคับรถม้าไปยังบ้านตระกูลเฉิน จะอธิบายก็ย่อมต้องอธิบายกับเฉินฮูหยิน
ตระกูลเฉินยังคงต้อนรับและกระตือรือร้นเหมือนเดิม ไม่มีใครแสดงท่าทีอย่างอื่นออกมา
แต่ถาวจวินหลันสังเกตเห็นท่าทีของสะใภ้คนโตของตระกูลเฉิน หรือสะใภ้ใหญ่ตระกูลเฉินที่ไม่ได้ออกมาพร้อมเฉินฮูหยิน มีเพียงสะใภ้รองตระกูลเฉิน สะใภ้รองตระกูลเฉินยังมีเด็กเล็กต้องดูแล ในตอนนี้ออกมาก็ถือว่าให้เกียรติมากพอแล้ว
เฉินฮูหยินเห็นถาวจวินหลัน ก็หัวเราะขมขื่นออกมา “ให้เจ้าเห็นเรื่องตลกเสียแล้ว” พูดจบก็กวักมือเรียกถาวซินหลัน พูดว่า “เจ้าเองก็เจ้าอารมณ์ คราวหน้าอย่าทำเช่นนี้อีก ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ควรรอข้ากลับมาก่อน”
เฉินฮูหยินไม่ได้พูดออกมาอย่างเด็ดขาดเรื่องถาวซินหลันอารมณ์ขึ้นจนลงไม้ลงมือ หรือว่าพูดเรื่องที่ถาวซินหลันถูกสะใภ้ใหญ่ไล่ออกจากบ้านไป
ถาวจวินหลันคิดว่าน่าจะเป็นอย่างหลัง แน่นอนว่าหตุผลข้างหน้าก็น่าจะมีส่วน แต่ก็เพียงแค่รู้สึกจนปัญญาเท่านั้น นางรู้สึกว่าเฉินฮูหยินน่าจะรู้ความเป็นมา อีกทั้งยังเข้าข้างถาวซินหลัน
นางก็อดทอดถอนใจไม่ได้ เฉินฮูหยินเอ็นดูถาวซินหลันจริง นี่เป็นโชคดีที่ถาวซินหลันสั่งสมมาในชาตินี้
ที่จริงแล้วหลังจากแต่งงานไปสิ่งที่จัดการได้ยากที่สุดไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา แต่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีลูกสะใภ้ เวลาที่อยู่ด้วยกันกับสามี พูดตามจริงแล้วไม่ได้เยอะไปกว่าเวลาที่ต้องใช้ชีวิตกับแม่สามี แน่นอนว่าราชวงศ์นั้นย่อมเป็นข้อยกเว้น แต่คนส่วนใหญ่ทั่วไปแล้ว ไม่ว่าจะร่ำรวยหรือไม่ล้วนเป็นเช่นนั้น เวลาที่อยู่กับแม่สามีจะมากกว่าสามีเป็นปกติ
หากมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับแม่สามี กับสามีเองก็ไม่อาจเรียกเรื่องดีอะไรได้ สะใภ้ส่วนใหญ่มีใครบ้างที่ไม่ถูกแม่สามีรังแก? เพราะว่าถาวซินหลันโชคดี มิเช่นนั้นไฉนเลยจะมีโชคเช่นนี้?
เมื่อเฉินฮูหยินพูดเช่นนี้ ถาวจวินหลันก็ยิ่งรู้สึกระอาแก่ใจ รีบพูดว่า “ท่านเองก็อย่างตามใจนางเกินไปเลยเจ้าค่ะ นางถูกตามใจจนเสียคนแล้ว ถึงได้กล้าทำเรื่องเช่นนี้ ถ้าจะให้ข้าพูด ควรสั่งสอนนางเสียหน่อยนะเจ้าคะ”
อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ ถาวซินหลันย่อมไม่กล้าแผลงฤทธิ์ เพียงแค่ยอมรับผิดอย่างว่าง่าย “เป็นความผิดของข้าเองเจ้าค่ะ ตอนนั้นข้าโมโหถึงได้บุ่มบ่ามเช่นนั้น ไม่รู้พี่สะใภ้ใหญ่เป็นอย่างไรบ้าง”
ตอนนี้สะใภ้รองก็หัวเราะพลางพูดว่า “ซินหลันวางใจเถิด แรงเท่านั้นของเจ้ายังทำให้คนอื่นเจ็บตัวได้อีกหรือ? เพียงเสียหน้าเท่านั้นเอง”
จากนิสัยของสะใภ้ใหญ่แล้ว เกรงว่าคงไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปโดยง่ายแน่นอน อีกทั้งไม่ชอบออกไปไหนอีกแน่นอน
เฉินฮูหยินถอนหายใจ “ลูกสะใภ้ข้า ข้าเข้าใจดี ใครถูกใครผิด ข้าพอรู้อยู่แก่ใจ แต่ซินหลันก็ต้องแก้ไขนิสัยบุ่มบ่ามเช่นกัน แบบนี้ไม่เหมาะสมนัก”
สุดท้ายแล้วก็เป็นผู้ใหญ่ และเฉินฮูหยินก็เป็นคนที่พูดจาเป็น คำพูดนี้จึงไม่ได้ทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจ แต่กลายเป็นรู้สึกผิด ถาวจวินหลันก็ถอนหายใจเช่นเดียวกัน “เรื่องนี้สุดท้ายแล้วก็เป็นความผิดของซินหลัน แต่นางเองก็ไม่ได้รับความยุติธรรม ท่านรู้ข้าก็จะไม่พูดมากเจ้าค่ะ เชื่อว่าท่านจะต้องคืนความยุติธรรมให้เป็นแน่เจ้าค่ะ”
เงียบไปครู่หนึ่ง ก็คิดถึงเรื่องที่ถาวซินหลันตั้งครรภ์ได้ จึงหัวเราะและพูดว่า “พูดไปแล้ว ข้ามีข่าวดีต้องบอกท่าน ซินหลันตั้งครรภ์เกือบสามเดือนแล้วเจ้าค่ะ!”
เฉินฮูหยินย่อมอึ้งตะลึง จากนั้นพอได้สติกลับมาก็อ้าปากค้างหุบไม่ลงทันที รีบมองไปที่ท้องของถาซินหลัน ยิ้มพลางดึงมือของถาวซินหลันเข้ามา ตื่นเต้นจนพูดจาซ้ำไปซ้ำมา สุดท้ายก็พูดคำว่าดีติดๆ กัน
“นางเป็นแม่คนแล้วยังไม่รู้สึกตัวมาตลอด วันนี้ยังกล้าลงไม้ลงมืออีก” ถาวจวินหลันถอนหายใจ “คิดดูแล้วก็น่ากลัวนัก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ท่านจะต้องเตือนนางให้มากหน่อยถึงจะดีเจ้าค่ะ เรื่องเหล่านี้นางไม่ได้เรื่องเลยแม้แต่น้อย”
เมื่อพูดเช่นนี้เฉินฮูหยินก็หวาดกลัวเป็นที่ยิ่ง รีบพูดว่า “ตั้งแต่วันนี้ นอกจากตอนนอนข้าไม่อนุญาตให้เจ้าหายไปจากสายตาของข้า”
เฉินฮูหยินเป็นห่วงถาวซินหลันจริง
สะใภ้รองก็ยิ้ม พูดร่วมวง “กลับไปข้าจะไปจดข้อควรระวังตอนที่ข้าเพิ่งตั้งครรภ์มาให้เจ้าค่ะ นางจะได้มั่นใจมากขึ้น”
เฉินฮูหยินย่อมมีความสุขกว่าเดิม
สะใภ้รองคนนี้ไม่ได้มีชาติกำเนิดสูงนัก แต่อยู่เป็น ทั้งยังใจกว้าง ดูแล้วใช้ได้ทีเดียว ถาวจวินหลันอดพยักหน้าชื่นชมไม่ได้
ในตอนนี้ตามจริงแล้วบรรยากาศจะต้องสมัครสมาน แม้แต่ถาวจวินหลันมาทำไมตนเองก็ลืมไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะได้ยินเสียงหัวเราะเยาะ นางเองก็คงจำไม่ได้
คนที่เยาะเย้ยคือสะใภ้ใหญ่ “ตระกูลถาวน่าสนใจเสียจริง แค่ตั้งครรภ์แล้วจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างนั้นหรือ? วางแผนมาดีจริงๆ”
สะใภ้ใหญ่พูดตำหนิตระกูลถาว คล้ายจะบอกว่าถาวซินหลันตั้งใจใช้เรื่องในวันนี้มาเบี่ยงเบนตั้งแต่แรก