เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 102: ออกลูกเป็นไข่?
เฉินเยี่ยนคิดถึงความเป็นไปได้ข้อนี้ เธอรู้สึกกลัวผลที่ตามมา ยังดี ตอนนี้ช่างเหลียนยังไม่คิดถึงเรื่องพวกนี้ แต่เฉินเวยต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกช่างเหลียนต่อแน่ ถ้าอย่างนั้นครั้งหน้าช่างเหลียนต้องใช่วิธีการนี้
ตัวเองไม่สามารถให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ ไม่สามารถให้แผนการของเฉินเวยสำเร็จ
เฉินเยี่ยนคิดมาถึงตรงนี้ เธอเหลือบมองเฉินหู่ หันหน้าไปพูดกับเฉินหู่ไม่กี่คำ
“หู่จื่อ ลูกจะไปไหน?”
หวางนิวเห็นหู่จื่อฟังเฉินเยี่ยนแล้วตรงออกไปหน้าประตู เลยถามเสียงดัง
“ผม ผมจะไปเล่นกับพวกโกว่ต้าน พี่สาวทำชุดใหม่ให้ผมแล้ว ผมต้องไปบอกพวกโกว่ต้าน พวกแม่คุยกันเถอะ ยังไงผมก็ฟังไม่รู้เรื่อง และไม่เกี่ยวกับผมด้วย”
เฉินหู่พูดจบก็เหลือบมองช่างเหลียน แววตาเขาดูไม่นิ่ง
“ลูกคนนี้นี่ไม่รู้เรื่องจริงๆ ที่บ้านเกิดเรื่องแบบนี้แล้ว ยังมีใจไปอวดชุดใหม่อยู่อีก ไปเถอะ ไปเถอะ แต่ละคนนี่กังวลใจอะไรเลย เรื่องในบ้านไม่ต้องไปพูดให้คนอื่นฟังนะ”
หวางนิวโบกมืออย่างรำคาญ เธอไม่ให้เฉินหู่ไม่ไปไม่ได้ เหมือนที่เฉินหู่พูด เขายังเด็ก แสดงความเห็นอะไรก็ไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ฟังจริงๆ
เฉินหู่วิ่งไปแล้ว เฉินเวยขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอไม่เชื่อว่าเฉินหู่จะออกไปเล่น เธอคิดว่าเฉินเยี่ยนต้องพูดอะไรกับเฉินหู่แน่นอน แต่เธอไม่ได้ยิน และเธอก็ไม่สามารถรั้งไม่ให้เฉินหู่ไม่ไปได้
“พี่สะใภ้ นี่พี่ยืนมานานขนาดนี้ ท้องไม่เป็นไรใช่ไหม? เดี๋ยวพวกเราพาไปตรวจไหม?”
เฉินเยี่ยนเห็นเฉินหู่วิ่งไปแล้ว ก็ถามช่างเหลียน
“ตรวจอะไร? ไปตรวจที่ไหน?”
ช่างเหลียนไม่เข้าใจ
“ไปสถานีอนามัยไง อย่าให้เด็กเหนื่อยจนเป็นอะไรไปเลย ตรวจดูหน่อยให้สบายใจ”
เฉินเยี่ยนพูด เธอไม่ได้พูดประโยคหนึ่งนั่นคือไปดูจะได้รู้ว่าเธอท้องจริงหรือเปล่า
“ตรวจอะไร! ท้องฉันฉันย่อมรู้ มีอะไรต้องตรวจ ฉันไม่ไปสถานีอนามัย นี่จะปีใหม่แล้วให้ไปสถานีอนามัย เธอจะเอาฉันใช่ไหม ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอไม่ได้หวังดี คิดจะให้ฉันไปสถานีอนามัย เด็กไม่มีแล้ว เธอจะได้สมใจ ฉันไม่ไป ท้องฉันไม่เจ็บ ลูกฉันยังอยู่ดี เธอไม่ต้องมาสนใจ”
ช่างเหลียนส่ายหน้า แต่น้ำเสียงเธอฟังดูไม่หนักแน่น ฟังดูเหมือนขาดความมั่นใจ แต่ยังนับว่าเธอตอบโต้ได้เร็ว หาข้ออ้างเรื่องปีใหม่ ไม่ยอมไปสถานีอนามัย กลัวโชคร้าย
“จริงด้วย นี่จะปีใหม่แล้ว ใครเขาไปสถานีอนามัยกัน กลิ่นอับชื้นจะตาย พี่สะใภ้ลูกบอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไร ลูกเป็นผู้หญิง เรื่องพี่สะใภ้ท้องลูกไม่เข้าใจหรอก ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ตอนแม่ท้องพวกลูกหลายคนนี่ ทำอะไรได้ก็ทำ ไปปลูกพืชในดินอะไรพวกนี้ ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย พวกลูกก็ยังแข็งแรงดีอยู่ไม่ใช่หรือ”
ฝั่งหวางนิวก็เห็นด้วยกับคำพูดลูกสะใภ้
เทพช่วยเหลือมาอีกแล้ว เฉินเยี่ยนแอบส่ายหน้ากับตัวเอง เธอก็รู้ว่าหวางนิวความคิดเรียบง่าย มีอะไรก็พูดอย่างนั้น หวางนิวคิดอย่างนี้จริงๆ แต่ช่างเหลียนไม่แน่ว่าจะใช่
ช่างเหลียนไม่อยากไปก็ช่างเถอะ เฉินเยี่ยนไม่สามารถบังคับให้เธอไปได้
“พี่สะใภ้ไม่ไปก็ไม่ไป ยังไงอีกหลายเดือนท้องพี่สะใภ้ก็โตขึ้นมา ตอนนี้อากาศหนาวถนนไม่ดี อีกหน่อยพี่สะใภ้ออกจากบ้านให้น้อยลงหน่อย ป้องกันหกล้ม”
เฉินเยี่ยนพูดจบก็มองช่างเหลียน สายตาช่างเหลียนเป็นประกาย ใบหน้ากระตุกสองที อีกหลายเดือนท้องเธอต้องใหญ่ขึ้นมาแล้ว แต่เธอจะทำยังไงให้ท้องโต? หรือว่าต้องยัดของ แต่ถึงแม่ท้องจะโต ผ่านไปสิบเดือนเธอจะเอาอะไรมาคลอดล่ะ หรือว่าต้องเอาไข่ไก่มาบอกบ้านเฉินว่า เธอคลอดไข่ออกมาเหมือนแม่ไก่? คนบ้านเฉินจะเชื่อไหม? เฉินกุ้ยต้องเล่นงานเธอแน่
ไม่ได้ เธอต้องให้เฉินกุ้ยรับประกัน รับประกันว่าชีวิตนี้ห้ามทิ้งเธอ ถึงแม้เธอจะดูถูกเฉิกุ้ย ดูถูกบ้านเฉิน แต่เธอไม่มีทางที่ดีกว่านี้แล้ว ทางเลือกที่ดีกว่าคือเธอต้องอยู่บ้านเฉิน ให้บ้านเฉินเลี้ยงดูเธอ ตอนนี้ฝั่งนี้หาเงินได้แล้ว จะให้เธอไป? เธอไม่โง่หรอกนะ เงินของฝั่งนี้ก็ควรเป็นของเธอ อีกหน่อยเธอต้องการมีความสุข เธอจะต้องจับเฉินกุ้ยและคนบ้านเฉินให้อยู่
“เฉินกุ้ย วันนี้คุณต้องบอกฉันให้ชัดเจนต่อหน้าพ่อแม่คุณ คุณคิดจะทิ้งฉันหรือเปล่า? ถ้าคุณคิดจะทิ้งฉันจริง ฉันก็จะไม่รังควานคุณ ฉันจะไปกระโดดบ่อน้ำพร้อมลูกของเรา ฉันไม่อยู่แล้ว คุณมันไม่มีจิตใจ ตอนแรกที่บ้านจนขนาดนั้น เรายังแต่งงานกับคุณเลย ฉันเคยพูดอะไรไหม? ฉันจะแต่งงานยังไงก็ได้ แต่ฉันเลือกคุณ ฉันไม่ได้ใช้ชีวิตที่ดีกับคุณ ตอนนี้ดีแล้ว น้องสาวคุณหาเงินได้แล้ว พวกคุณไม่ต้องการเราแล้ว อยากจะเปลี่ยนสะใภ้คนใหม่ พวกคุณมันไม่มีหัวใจ พวกคุณเห็นฉัน เห็นครอบครัวช่างเป็นอะไร พวกคุณทั้งบ้านมันไม่ใช่คน ฉันจะอยู่ไปทำไม ให้ฉันตายเถอะ เราไม่มีชีวิตที่จะอยู่ต่อแล้ว”
ช่างเหลียนร้องไห้ออกมา โทษว่าเป็นความผิดของเฉินกุ้ยและบ้านเฉิน
ช่างเหลียนเดี๋ยวฉัน เดี๋ยวก็เรา เฉินเยี่ยนรู้ ตรงนี้เรียกเรามาตลอด แต่คนเมืองหรือที่ๆ อยู่ใกล้เมือง บางคนพูดฉัน คนที่พูดฉันก็จะรู้สึกว่าตัวเองสูงส่งขึ้นมาอีกชั้น ช่างเหลียนก็เลียนแบบคนอื่นเขา แต่เธอไม่มีคนสอนตั้งแต่เด็ก เลยเดี๋ยวเรียกฉัน เดี๋ยวเรียกเรา ใช้ไม่คล่องแคล่ว
ตอนนี้เธอเอาความตายมาบีบบังคับเฉินกุ้ย คนบ้านเฉินจะยอมให้เธอตายได้ยังไงโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เธอมีลูกอยู่ในท้อง ถึงแม้จะไม่มีลูก ก็ไม่ได้อยู่ดี ช่างเหลียนอาศัยว่าเฉินกุ้ยและคนบ้านเฉินจิตใจดี ดังนั้นพอร้องไห้โวยวายก็ได้ผลมาก
แต่ว่าไม่รีบ เฉินเยี่ยนมองดูอย่างเยือกเย็น เห็นช่างเหลียนเล่นละคร ขอแค่เสแสร้ง จะต้องมีวันที่หลุดแน่นอน
ช่างเหลียนร้องไห้โวยวาย หวางนิวปลอบ เฉินกุ้ยรู้สึกทำอะไรไม่ถูก ก่อนหน้านี้เขามีความคิดไม่ต้องการช่างเหลียนแล้ว แต่เขาก็ไม่คิดจะให้ช่างเหลียนตายเลย อีกอย่างช่างเหลียนยังท้องลูกของเขาด้วย ช่างเหลียนยังร้องไห้น่าสงสารอย่างนี้อีก ใครก็เคยทำผิดพลาดได้ ขอแค่ช่างเหลียนไม่โวยวา เขาก็จะกลับไปกับช่างเหลียน ใช้ชีวิตที่ดี
เฉินกุ้ยดึงช่างเหลียนที่กำลังจะเปิดปาก เฉินหู่ก็วิ่งเข้ามา พอเข้ามาในบ้านก็ตะโกนร้อง “มาแล้ว มาแล้ว “
“ใครมาแล้ว? นี่ทำไมต้องกระหืดกระหอบมา ลูกไม่ได้ไปเล่นกับพวกโกว่ต้านเหรอ? ทำไมกลับมาอีก?”
หวางนิวถามอย่างไม่พอใจ
เฉินเยี่ยนเข้าใจแล้ว เฉินหู่ไปทำเรื่องที่เธอมอบหมายให้เรียบร้อยแล้ว
“ปู่หกมาแล้ว”
เฉินหู่พูดจบก็มาที่ข้างเฉินเยี่ยน ตอนนี้ข้างหลังเขามาคนหนึ่งเดินเข้ามา คนนี้อายุไม่น้อยแล้ว ดูแล้วอายุน่าจะประมาณห้าสิบกว่า ผิวสีคล้ำ ริ้วรอยยับย่นบนใบหน้าไม่น้อย ที่คางมีหนวดเครา แต่สีหน้าดูไม่แย่เลย
คนนี้ชื่อหวางฮวายซู่ แต่คนอายุน้อยจะเรียกเขาว่าลุงหก ปู่หก เพราะเขาเกดคนที่หก เรียกลุงหกก็จะสนิทหน่อย ไม่ได้เรียกปู่หวาง
ปู่หวางเป็นแพทย์แผนจีน บรรพบุรุษที่บ้านถ่ายทอดมา ฝีมือไม่เลวเลย หลายปีก่อนหน้านี้ลำบาก แต่ต่อมาดีแล้ว เขาเริ่มรักษาอีกครั้ง แต่สองปีนี้เพราะว่าอายุเยอะแล้ว ถ้าไม่ใช่คนในหมู่บ้าน หรือไม่สนิท เขาจะไม่รักษา
เฉินเยี่ยนให้เฉินหู่ไปเรียกปู่หกมาที่บ้าน ไม่ใช่เพราะจะตรวจไข้ แต่เพื่อช่างเหลียน ปู่หกไม่พูดอะไร จับชีพจร ดูว่าช่างเหลียนท้องหรือเปล่า หรือว่าไม่มีปัญหาอะไร
———-