เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 115: หมดใจแล้ว
ช่างเหลียนได้ยินเฉินเยี่ยนพูดถึงกระเป๋า เธอรีบปิดบังส่วนเอวเธอไว้ จนเธอรู้สึกตัว เธอก็รีบปล่อยมือ ตะโกนเสียงดัง “ฉันไม่ได้เอาไป พวกเธอปรักปรำฉัน ฉันไม่อยู่แล้ว ฉันจะกลับบ้านแม่!”
ตอนนี้ทุกคนไม่ค่อยเข้าใจ
สีหน้าเฉินกุ้ยเขียว มือหนึ่งดึงช่างเหลียนไว้ อีกมือหนึ่งดึงเสื้อกันหนาวผ้าฝ้ายเข้ามา จะล้วงที่เอวช่างเหลียน
ช่างเหลียนไม่ปล่อย ขัดขืนเฉินกุ้ย แต่เธอถ้าจะตีจริงๆ เธอเป็นคู่ปรับกับเฉินกุ้ยเสียที่ไหน จนเฉินกุ้ยล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าตรงเอวออกมา เห็นเงินในผ้าเช็ดหน้าเฉินกุ้ยโกรธจนตัวสั่น ลุกขึ้นมา
“นี่เงินของฉัน เงินที่แม่ให้ฉัน ให้ฉันเอาไปซื้อยา นี่ไม่ใช่ของเฉินเยี่ยน ฉันไม่ได้เอาเงินเธอไปจริงๆ พวกคุณปรักปรำฉัน”
หวางนิวโกรธแทบตาย ลูกสะใภ้มาขโมยเงิน ครอบครัวนี้ไม่ใช่ว่าเลี้ยงขโมยอยู่เหรอ? แม่จะเข้าไป เฉินกุ้ยไม่ได้ห้าม มือเขาลองเขย่านับดู เงินในผ้าเช็ดหน้าไม่มากไม่น้อย สิบแปดเหรียญเจ็ดสิบสองสตางค์พอดี
“เธอใส่ร้ายฉัน เฉินเยี่ยนเธอมันน่าไม่อาย คนอย่างเธอไม่มีใครต้องการ เธอใส่ร้ายฉัน ไม่ตายดีแน่”
ช่างเหลียนรู้ว่าเรื่องแดงแล้ว เธอไม่สามารถแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ได้อีก แต่เธอไม่คิดว่าเธอผิด กลับยังด่าเฉินเยี่ยนอยู่
หวางนิวจะเข้าไปด่าช่างเหลียน แต่เฉินจงเข้ามาในบ้านดึงเธอไว้ ตอนนี้ด่าอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ วันนี้เรื่องนี้จำเป็นต้องคุยให้รู้เรื่อง
ลูกสะใภ้ที่เป็นขโมยใช้ไม่ได้ ถ้าลูกชายยังไม่ยอมตัดสินใจหย่ากับช่างเหลียน งั้นเขาจะคุยกับเฉินกุ้ยให้ชัดเจน ต่อไปนี้จะตัดขาดกับฝั่งนั้นโดยสิ้นเชิง ไม่ใช่เขาไม่รักลูกชาย แต่ลูกสะใภ้แบบนี้ใครจะรู้วันหลังจะก่อเรื่องอะไรอีก พวกเขาบ้านเฉินไม่เคยมีคนนิสัยแบบนี้
“ทำไม?”
เฉินกุ้ยถามช่างเหลียน แววตาเย็นชาและผิดหวัง พักหลังนี้ช่างเหลียนปฏิบัติกับเขาดี ดังนั้นเขาจึงคิดว่าถ้าช่างเหลียนสามารถทำแบบนี้ต่อไปได้ ก็ไม่ต้องหย่าแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าช่างเหลียนไม่ได้เปลี่ยนตัวเองเลย ยังกลับขโมยเงินอีก นี่เป็นนิสัยส่วนบุคคล คนบ้านเฉินมีแต่คนจิตใจดีและซื่อตรง ช่างเหลียนกลับมาเป็นขโมย เฉินกุ้ยไม่อยากคิดว่าถ้ามีคนรู้ บ้านเฉินจะทำตัวยังไง
“ทำไมอะไร? เป็นเพราะนังหน้าด้านเฉินเยี่ยนทำร้ายฉัน ฉันเอาเงินมาแล้วจะทำไม? เงินนี่ฉันก็มีส่วนแบ่ง! เธอหาเงินได้มากขนาดนี้ ทำไมไม่ให้ฉัน? คุณอายุมากกว่า เงินนี่ก็ควรเป็นของเรา ฉันเอามาไม่ถึงยี่สิบเอง เธอควรจะให้พวกเราอีกห้าสิบ ฉันไม่สน ถ้าวันนี้เฉินเยี่ยนไม่เอาเงินให้ฉัน ฉันจะไม่ยอมจบเรื่องนี้”
ไหนๆ แล้วช่างเหลียนเลยยอมรับไปเลย ในเมื่อกระชากหน้ากากออกมาแล้ว เธอก็ไม่เสแสร้งแล้ว ยังไงเฉินกุ้ยก็ไม่เลิกกับเธอ เธอเอาเงินมา อย่างมากก็แค่เอาใจเฉินกุ้ยไม่กี่วันก็ได้แล้ว
“เยี่ยนจื่อ เงินนี่ถือว่าพี่ขอยืมเธอก่อนได้ไหม?”
เฉินกุ้ยมองช่างเหลียนอยู่นาน เขาไม่พูดกับช่างเหลียนแล้ว แต่พูดกับเฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนมองออกว่าเฉินกุ้ยผิดหวัง เธอพยักหน้าให้เฉินกุ้ย
“ยืมอะไร? เงินนี่ควรเป็นของเราอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะคุณขี้ขลาด ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อแม่ลำเอียง เงินนี่ก็เป็นของพวกเรานานแล้ว อีกหน่อยพวกเราจะกินข้าวที่นี่ ฝั่งนั้นไม่ทำกับข้าวแล้ว เฉินเยี่ยนเธอต้องเอาเงินมาให้ฉัน ฉันต้องซื้อยาบำรุงร่างกาย ฉันเป็นสะใภ้ใหญ่ของบ้านนี้ อีกหน่อยฉันจะเป็นผู้นำครอบครัว”
ช่างเหลียนเบะปาก หลายวันนี้แกล้งทำเป็นคนดีเธอแกล้งจนเหนื่อย เวลานี้ได้กลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง เธอคิดดีแล้ว เธอจะเป็นหัวหน้าครอบครัวเฉิน เหมือนเมื่อก่อน
“พวกเรายังไม่ตายนะ เธอคิดจะเป็นหัวหน้าครอบครัว ฝันไปเถอะ!”
หวางนิวโกรธจนทนไม่ไหวแล้ว อุทานใส่ช่างเหลียน
เฉินกุ้ยไม่พูดอะไร เอาเงินยัดให้ช่างเหลียน
“เงินนี่ให้คุณ พรุ่งนี้พวกเราไปยืนยันกับพรรค ไปอำเภอดำเนินเรื่อง ผมจะส่งคุณกลับบ้าน”
ประโยคนี้ของเฉินกุ้ยพูดออกมาต้องใช้พลังมหาศาล เขารู้สึกเสียใจในใจเขาโหวงๆ แต่ก็มีความรู้สึกโล่งใจอยู่
“คุณ! คุณพูดอะไร! คุณจะไม่อยู่กับฉันแล้วหรือ? เฉินกุ้ย ฉันทำอะไรผิดอีก คุณถือดียังไงไม่ต้องการฉัน ฉันทำเพื่อคุณนะ!”
ช่างเหลียนอึ้งไป เธอคิดว่าที่เธอขโมยเงินเฉินเยี่ยนไปไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเลย ไม่ใช่เรื่องผิด เธอยังคิดจะเอาสิทธิ์ควบคุมทรัพย์สินในบ้านมาอีกด้วย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเฉินกุ้ยถึงทำแบบนี้กับเธอ
“ช่างเหลียน ตอนแรกคุณแต่งงานกับผม ผมรู้สึกชอบ ถึงแม้ตอนหลังคุณจะไม่ทำอะไรเลย มีนิสัยเสียอย่างนั้นอย่างนี้ ผมก็ไม่เคยคิดว่าไม่ต้องการคุณ คุณเป็นภรรยาผม ชีวิตนี้ผมจะดีกับคุณ แต่ชีวิตแบบนี้อยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว ผมคนนี้ไม่มีตัวตนแล้ว ผมไม่ขออะไรมาก ขอแค่กลับมาจากทำงานที่นาข้างนอก กลับบ้านมามีข้าวกิน กลางคืนมีภรรยาคอยอุ่นที่นอนให้ ขอแค่ภรรยาไม่หาเรื่องทะเลาะ ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุข ให้ผมทำอะไรผมก็ทำทั้งนั้น ผมคิดว่าคุณเปลี่ยนตัวเองแล้ว คิดว่าเป็นแบบนี้ก็แล้วกันไป แต่คุณไม่เลย ผมรู้ คุณดูถูกบ้านผม คุณดูถูกผมมาแต่แรก คุณไม่ต้องลำบาก ผมก็ไม่อยากอยู่แบบนี้ต่อไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะโสดไปทั้งชีวิต ผมก็ไม่ต้องหาภรรยาแบบคุณแล้ว”
เฉินกุ้ยพูดตรงมาก นี่คือความคิดในใจเขาจริงๆ
หวางนิวดึงแขนเสื้อเฉินจงมาเช็ดน้ำตา ครอบครัวสามัคคีกันก็พากันรุ่งเรือง ใครไม่อยากจะให้ครอบครัวตัวเองสามัคคีกลมเกลียวกัน แต่ที่บ้านมีลูกสะใภ้แบบนี้ ชีวิตจะไปมีความสุขได้ยังไง
เฉินเยี่ยนหลุบตาลง คำพูดเฉินกุ้ยทำให้เธอรู้สึกเสียใจ เรื่องวันนี้ถึงแม้เธอจะมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เธอก็แค่อยากให้เฉินกุ้ยเลิกกับช่างเหลียนเร็วขึ้น ถึงไม่มีเรื่องวันนี้ ช้าเร็วช่างเหลียนกับเฉินกุ้ยก็ต้องเลิกกันอยู่ดี เพราะอย่างที่เฉินกุ้ยว่า เขาแค่อยากจะมีชีวิตที่สงบสุข ต้องการภรรยาที่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ ความต้องการง่ายๆ แค่นี้ แต่ช่างเหลียนก็ให้เขาไม่ได้
ใจช่างเหลียนไม่เคยอยู่ที่เฉินกุ้ยเลย เธอแค่อยู่ไปเรื่อยๆ ยิ่งทียิ่งทำให้บ้านเฉินขัดแย้งกันมากขึ้น สู้ให้เฉินกุ้ยเห็นธาตุแท้ของช่างเหลียนเร็วหน่อย รู้ว่าเธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เลิกกันเร็วยิ่งดี
แน่นอนช่างเหลียนไม่ยอม เธอร้องไห้โวยวายใหญ่ ทำอยู่นานมาก แต่เฉินกุ้ยใจตายด้านไปแล้ว และใจแข็งด้วย ไม่ว่าช่างเหลียนจะทำยังไงเขาก็จะไม่เปลี่ยนใจ
ช่างเหลียนและเฉินกุ้ยไปแล้ว ตอนที่ไปช่างเหลียนยังหยิบเงินสิบแปดเหรียญเจ็ดสิบสองสตางค์ที่เธอขโมยเฉินเยี่ยนขึ้นมาจากพื้นเอาไปด้วย เธอดูเห็นแก่เงินมาก
เฉินเวยมองเฉินเยี่ยน เธอรู้ว่าเรื่องวันนี้ต้องเป็นแผนของเฉินเยี่ยนแน่นอน ไม่อย่างนั้นทำไมเฉินเยี่ยนถึงบังเอิญไม่ล็อคประตู แล้วช่างเหลียนก็เข้าไปขโมยเงินเฉินเยี่ยนพอดี? แต่เธอพูดแทนช่างเหลียนไม่ได้ เพราะช่างเหลียนขโมยเงินไปจริง ช่างเหลียนนี่ก็โง่เหลือเกิน มาขโมยเงินตอนนี้ได้ยังไง? บอกเธอไปแล้ว หลายวันนี้ต้องทำตัวมีคุณธรรม นี่มาตายน้ำตื้น เฉินเวยถอนหายใจออกมา เธอก็จะกลับแล้ว
คืนวันที่สิบห้า มีเพียงเฉินหู่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรถือโคมไปออกไปเล่นกับเพื่อนในหมู่บ้าน แล้วโคมไชเท้าที่สนามบ้านเฉินส่องแสงสว่างระยิบระยับอยู่ คืนนี้ไม่มีใครนอนหลับสนิทเลย
—————