เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 162: ฉันเลี้ยงเขาก็ได้
เฉินจงให้หูเฟยและซินห้าวเข้ามาในบ้านอีกครั้ง ทุกคนนั่งลงบนโต๊ะอาหาร แต่บรรยากาศกลับอึมครึม
“อาห้าว เรื่องที่เมื่อกี้เธอพูดนี่จริงหรือ?”
หวางนิวอดทนแล้วอดทนอีก แต่ทนไม่ไหว เธอถามขึ้นมา ถ้าลูกสาวคนโตชอบซินห้าว แล้วท่าทีที่ซินห้าวมีต่อลูกสาวคนโตล่ะ?
ซินห้าวพยักหน้า
“แล้วพ่อแม่เธอรู้เรื่องที่เธอมาบ้านเราหรือเปล่า?”
หวางนิวร้อนรนถามไปหน่อย ถ้าพ่อแม่ซินห้าวรู้ งั้นก็หมายความว่าลูกสาวกับซินห้าวมีความเป็นไปได้?
“คุณป้าวางใจได้ครับ”
ซินห้าวพูดเรียบๆ เขาไม่ได้บอกว่าพ่อแม่เขารู้หรือไม่ เขารู้เพียงแค่ว่าเรื่องที่เขาตัดสินใจแล้วเขาจะยืนหยัดจนถึงที่สุด
“งั้นก็ดี งั้นก็ดี”
ตอนนี้เฉินจงถึงเข้าใจว่าทำไมครั้งที่แล้วลูกสาวถึงบอกว่าไม่ดูตัวแล้ว ดูเหมือนวันนั้นลูกสาวกับซินห้าวได้เจอกัน สองคนน่าจะมีสัญญาอะไรกัน เขามองเฉินเยี่ยน แล้วก็มองซินห้าว ก็ดูเหมาะสมกันดี เดิมทีเขาก็เคยคิด แต่ก็รู้สึกว่าบ้านตัวเองไม่เหมาะสมกับบ้านซิน แต่หลังๆ ซินห้าวช่วยลูกสาวมาตลอด เขาก็คิดอยู่ในใจ แต่คิดไม่ถึงว่าลูกสาวและซินห้าวจะชอบพอกันจริงๆ สำหรับสองคนนี้แล้วเขาเห็นด้วยยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“คุณป้า คุณลุง แม่ผมบอกว่าตอนเด็กคุณปู่เคยหมั้นหมายผมกับเยี่ยนจื่อไว้ ตอนนี้คุณปู่ไม่อยู่แล้ว แม่ผมบอกว่าไม่รู้ว่ายังต้องรักษาคำพูดอยู่หรือเปล่า ถ้ายังถืออยู่ ทั้งสองบ้านจะได้คุยกันต่อ ถ้าไม่ถือก็ไม่เป็นไร”
หูเฟยพูดขึ้นมาอย่างไม่สนใจ แต่ในใจเขาไม่แยแสแบบนี้ที่ไหน เดิมทีมาบ้านเฉินเขาคิดเป็นดาวเด่น เขามีความภูมิใจ ตอนนี้กลายเป็นซินห้าว เขาไม่พอใจอย่างมาก
“พี่เสี่ยวเฟย ก่อนหน้านี้แม่ก็ยังพูดอยู่เลย อยากจะไปหาคุณป้าคุยเรื่องพี่กับพี่สาว น่าจะถือคำพูดอยู่”
เฉินเวยรีบพูดแทรก เธอแทบอยากจะให้เฉินเยี่ยนและหูเฟยตกลงกันเดี๋ยวนี้เลย แบบนี้ซินห้าวจะได้เป็นของเธอ
“แขนไม่เจ็บแล้วเหรอ?”
เฉินเยี่ยนเหลือบมองเฉินเวย ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วยังจะมาก่อกวนอีก
เฉินเวยกัดฟันไม่พูดอะไร แต่ทำสีหน้าโดนรังแก มองหวางนิวด้วยสายตาคาดหวัง หวังจะให้หวางนิวตอบ
หวางนิวรู้สึกอึดอัด เดิมทีเธอชอบพอหูเฟยมาก แต่ตอนนี้มีซินห้าวที่ดีขนาดนี้ อีกอย่างก่อนหน้านี้บ้านหูก็ไม่ยอม ตอนนี้ใจเธอโอนเอียงไปทางซินห้าว
“ซินห้าวใช่ไหม? คุณว่ายังไง?”
หูเฟยเห็นเฉินจงและหวางนิวไม่พูดอะไร เขาหันกลับไปถามซินห้าว สายตาเขาดูพินิจพิเคราะห์ มีแววอิจฉาและเกลียดชัง เหมือนซินห้าวเป็นศัตรูที่ไปแย่งภรรยาเขามา
“เรื่องที่คุณพูดเกี่ยวกับผมหรือ? เยี่ยนจื่อชอบผมก็พอแล้ว”
ซินห้าวรู้สึกว่าหูเฟยคนนี้สมองมีปัญหา เขาและเฉินเยี่ยนต่างชอบกัน พวกเขาจะต้องได้อยู่ด้วยกัน ที่บ้านจัดแจงให้เขาไม่ได้ ถ้าหูเฟยคิดจะใช้เรื่องหมั้นตอนเด็ก คิดจะใช้สัญญาของผู้ใหญ่ ช่างเป็นเรื่องน่าตลกเสียจริง
“เยี่ยนจื่อ เธอว่าไง?”
หูเฟยถามเฉินเยี่ยนอีก
“ไม่เกี่ยวกับฉันนี่ ฉันชอบซินห้าว ไม่มีวันเปลี่ยน”
เฉินเยี่ยนหัวเราะ เรื่องหูเฟยไม่เกี่ยวข้องกับเธอจริงๆ เธอพูดชัดเจนว่าเธอชอบซินห้าว เธอไม่กลัวคนอื่นคิดว่าเธอหน้าไม่อาย ชอบก็ชอบ ถ้าชอบแล้วไม่พูดออกมา แล้วจะทำอะไรได้? เธอประกาศจุดยืนของเธอ แบบนี้ถ้าเฉินเวยลงมืออีก เธอจะให้บทเรียนเฉินเวยอย่างสาสม
หวางนิวอ้าปากไม่พูดอะไร อยากจะว่าลูกสาวคนโตว่าหน้าไม่รู้จักมียางอาย แต่เห็นซินห้าวดูเหมือนดีใจมาก ช่างเถอะ ซินห้าวชอบลูกสาวคนโตก็ดีแล้ว ลูกเขยแบบนี้จะไปหาที่ไหน ตัวเองไม่เข้าไปยุ่งแล้วกัน
หูเฟยรู้สึกว่าอาหารที่กินไปเมื่อกี้อุดอยู่ทำเขาหายใจไม่ออก เฉินเยี่ยนคนนี้ช่างหน้าไม่อาย กล้าพูดว่าชอบผู้ชายต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ แต่เขาก็รู้สึกว่าคนที่เฉินเยี่ยนพูดไม่ได้ดีกว่าตัวเองมากเท่าไร
“ไม่รู้ว่าซินห้าวทำงานอะไร? เป็นคนงานหรือ? โรงงานไหนล่ะ? บอกมาหน่อยไม่แน่ผมอาจจะรู้จักก็ได้นะ”
หูเฟยถามถึงสถานะซินห้าวอีก น้ำเสียงมีแววภาคภูมิใจ เขาคิดว่าซินห้าวไม่ได้เก่งไปกว่าเขาเท่าไร
“ไม่ใช่ ตอนนี้ผมไม่ได้ทำอะไร”
ซินห้าวเข้าใจความหมายของหูเฟย แต่เขาไม่สนใจ
“อยู่บ้านเล่น ไม่ค่อยดีหรือเปล่า? เยี่ยนจื่อไม่เด็กแล้ว ถ้าคุณต้องการจะแต่งกับเธอจริง แล้วคุณจะเอาอะไรมาเลี้ยงเธอ? อย่าบอกว่าเห็นเยี่ยนจื่อห่อบุรี่ได้ แล้วจะให้เยี่ยนจื่อเลี้ยงคุณนะ? ผู้ชายแต่งงานต้องเลี้ยงดูภรรยานี่เป็นเรื่องที่สวรรค์กำหนดมา ถึงแม้ว่าจะเป็นคนงานไม่ได้ ก็ควรหางาน เที่ยวเล่นไปวันๆ ได้ยังไง อาศัยที่ตัวเองหน้าตาดีก็เลยจีบผู้หญิงไปทั่ว นี่มันหลอกลวงกันชัดๆ! คุณว่าคุณเป็นแบบนี้ คุณป้ากับคุณลุงจะวางใจมอบเยี่ยนจื่อให้คุณได้ยังไง”
หูเฟยพูดใส่ซินห้าวด้วยน้ำเสียงแบบสั่งสอน เขากำลังยุยงความสัมพันธ์ของซินห้าวและบ้านเฉิน
เฉินเยี่ยนเหลือบมองหูเฟย ถ้าหูเฟยรู้ว่าซินห้าวซื้อโรงงาน เป็นหัวหน้าโรงงาน ยังจะพูดแบบนี้ไหม? มั่นใจเกินไปไหม?
“เยี่ยนจื่อไม่สนใจ”
ซินห้าวขี้เกียจอธิบาย เพราะหูเฟยคนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขา เขาไม่อยากจะเปลืองสมอง ถ้าไม่ได้อยู่บนโต๊ะอาหารบ้านเฉิน เขาจะไม่สนใจหูเฟยเลย
“ใช่แล้ว ให้ฉันเลี้ยงคุณ ฉันยินดีเป็นอย่างยิ่ง ฉันว่าตกลงกันแบบนี้แหละ อีกหน่อยคุณมากินข้าวกับฉันก็ได้”
เฉินเยี่ยนก็ไม่สนใจ พูดล้อเล่น
สายตาที่ซินห้าวมองเฉินเยี่ยนดูอ่อนโยน ระหว่างทั้งสองคนมีความหวานชื่นสู่กัน
เฉินจงและหวางนิวไม่ได้พูดอะไร หวางนิวไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร เฉินจงรู้ว่าซินห้าวไม่ใช่คนแบบนั้น ส่วนหูเฟยและเฉินเวยแอบไม่พอใจ
“พี่ห้าวครั้งหน้าพี่มาต้องสอนวรยุทธ์ให้ผมด้วยนะ พี่สาวบอกว่าพี่เก่งมากเลย ผมอยากจะเรียนเพื่อใช้ปกป้องพี่สาว อีกหน่อยใครก็มาแกล้งคนในบ้านไม่ได้”
เฉินหู่ไม่รู้สึกอึดอัด เขาคิดมานานแล้ววีพี่สาวคบกับซินห้าวดีที่สุด หน้าตาหล่อ แล้วยังเก่งอีกด้วย พี่เขยแบบนี้สิที่เขาต้องการ
“ไม่มีปัญหา”
ซินห้าวพยักหน้าให้เฉินหู่ เฉินเยี่ยนชอบน้องชายคนนี้ เขาก็รู้สึกว่าเฉินหู่น่ารักจริงๆ เขาก็ชอบ
“พี่ซินก็สอนฉันด้วยได้ไหม? ฉันก็ไม่อยากให้คนอื่นมาแกล้งฉัน”
เฉินเวยพูดโพล่งขึ้นมา ตายังมองซินห้าวด้วยสายตาวิงวอน
“ขอโทษด้วย ผมเห็นผู้หญิงอยู่ใกล้ผมแล้วผมอดไม่ได้จะลงมือ ถึงเวลาตีคุณเจ็บจะไม่ดี”
แม้แต่สายตาซินห้าวก็ไม่มองเฉินเวยเลย หมายความให้เธอออกห่างจากเขา จะได้ไม่ทำร้ายเธอ
เฉินเยี่ยนขำขึ้นมา ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าจะต่อกรกับคนอย่างเฉินเวยต้องทำเหมือนซินห้าว ไม่ไว้หน้าเลย
เฉินจงและหวางนิวส่ายหน้า ลูกสาวคนเล็กนี่จริงๆ เลย ทำไมถึงไม่จำนะ แขนก็ยังเจ็บอยู่เลย แล้วยังจะเข้าไปให้ซินห้าวตีอีก ซินห้าวไม่ได้ชอบเธอเลย ทำเรื่องไม่เหมาะสม
เฉินหู่ก็ไม่สนใจว่าเฉินเวยจะเคอะเขินหรือไม่ ถึงจะเคอะเขินก็เป็นเฉินเวยที่หาเรื่องเอง โทษคนอื่นไม่ได้
เฉินเวยกลับเอาความโกรธและไม่พอใจไปลงที่เฉินเยี่ยน เธอคิดว่าซินห้าวทำไม่ดีกับเธอ ต้องเป็นเพราะเฉินเยี่ยนพูดเรื่องร้ายๆ ของตัวเองมากมาย รอเธอมีโอกาสได้คุยกับซินห้าวก่อนเถอะ ซินห้าวจะรู้ว่าเธอดี ถึงเวลาเธอจะให้ซินห้าวตีเฉินเยี่ยน ดูว่าเฉินเยี่ยนยังจะขำออกไหม!
———————