เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 182: ปีใหม่
ผ่านวันที่ 29 ไปจนมาถึงวันที่ 30 วันที่ 30 เฉินเยี่ยนลงมือเข้าครัวด้วยตัวเอง หวางจวน หวางนิวและหลัวเหมยมาช่วยในครัว หลัวเหมยเห็นความสามารถของเฉินเยี่ยน ชำนาญมากทั้งต้มผัดแกงทอด เธอทำอาหารมากมายที่ตัวเองยังไม่เคยเห็นมาก่อนและไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ เธอคิดว่าเธอมีลาภปาก
คนทั้งบ้านล้อมโต๊ะกันกินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา หวางนิวสนุกสนานมากเป็นพิเศษ ให้เฉินจงและเฉินกุ้ยกินเหล้ากันไม่หยุด บอกว่าพวกเขาลำบากมาทั้งปี วันนี้ควรจะสนุกหน่อย
ที่หวางนิวดีใจแบบนี้มีสาเหตุ ตอนนี้ใครบ้างที่ไม่รู้จักสามีเธอ ลูกสาวเธอมีความสามารถ เดินออกไปใครไม่เงยหน้าขึ้นมามองเธอบ้าง ตอนนี้ที่บ้านไม่มีอะไรขาดแคลน เธอฝันไปก็สามารถตื่นอยากมีความสุข
มื้อนี้กินข้าวไปเกือบสองชั่วโมง เฉินจงและเฉินกุ้ยดื่มมากไปแล้ว ทั้งสองคนไม่ถึงขั้นเมามายไร้สติ ต่างล้มลงนอนแล้ว
ตอนคนที่เหลือกำลังพูดคุยกันอยู่มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา เฉินหู่ไปดูที่ประตู ได้ยินเสียงเป็นแม่หวางจวน พี่สะใภ้แล้วยังมีพี่ชายเธอ เฉินหู่ไม่เปิดประตู ให้พวกเขากลับไป
ได้ยินเสียงเรียกอยู่หน้าประตู หวางจวนเงียบ คนบ้านหวางมาหาเธอ ตั้งแต่เริ่มสร้างโรงงานม้วนบุหรี่ เธอเข้าโรงงานไปเป็นคนงาน เดิมทีเธอไม่คิดจะไป แต่พี่เยี่ยนจื่อทำงานของเธอ เธอมีความคิดแบบนี้ เธอเลยไปทำ เธอไม่สามารถที่จะไม่ติดต่อกับผู้คนได้ตลอด บาดแผลนั้นค่อยๆ ฟื้นฟูแล้ว เทียบกับตอนที่เพิ่งเกิดเรื่องตอนนี้เธอสงบลงแล้ว ไม่มีความรู้สึกหวาดกลัวเจอคนเหมือนตอนแรกแล้ว เธอรู้สึกว่าเธอมีพัฒนาการ
แต่เธอเป็นคนงานแล้ว คนที่บ้านก็เริ่มมาหาเธอ หาที่บ้านเฉินไม่เจอ ก็ไปหาที่โรงงาน ตอนแรกยามให้พวกเขาเข้าไป ปรากฏว่าพี่สะใภ้มาขอเงินเธอ แล้วยังบอกให้เธอเอาสิทธิ์คนงานมาให้ด้วย โวยวายเป็นชุด จากนั้นยามก็ไม่ให้พวกเขาเข้ามาอีก
แต่แบบนี้พวกเขาก็ยังไม่ยอมเลิกรา มาหาเธอบ่อยๆ บางครั้งมาหาที่บ้านเฉิน บางครั้งแวะดักเธอบนถนน ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ก็เหมือนพวกเขาไม่ได้ยิน คิดจะให้เธอเอาค่าแรงให้บ้านหวาง คิดจะให้เธอทำให้บ้านหวางเข้าไปในโรงงาน เธอไม่ตอบรับ พี่สะใภ้ก็ด่าเธอ เธอไม่อยากติดต่อกับคนที่บ้านจริงๆ แต่เธอกลับสะบัดไม่หลุด
คนบ้านหวางมาโวยวายสักพัก เห็นบ้านเฉินไม่เปิดประตูจริงๆ พวกเขาเลยไป
หลัวเหมยเห็นหวางจวนก็แอบถอนใจ เธอได้ยินเรื่องหวางจวนแล้ว เป็นคนที่น่าสงสาร มีหลายครั้งพวกเขาทำอะไรไม่ได้ โชคดีที่หวางจวนออกจากบ้านนั้นมา แล้วเธอก็มีความกล้าที่จะทำเพื่อตัวเอง ไม่อย่างนั้นเรื่องที่ตามมาพวกเธอไม่อยากจะคิดเลย
เฉินเยี่ยนตบบ่าหวางจวน เธอเข้าใจอารมณ์เธอดี ยังไงก็ยังเป็นคนครอบครัวเธอ หวางจวนทำเรื่องโหดร้ายกว่านี้ไม่ได้ ทำได้เพียงเท่านี้
อยู่คืนก่อนปีใหม่จนถึงเช้า เฉินจงและหวางนิวแจกอั่งเปาให้ทุกคน ถึงแม้ว่าเฉินกุ้ยจะมีภรรยาแล้ว เฉินเยี่ยนและหวางจวนหาเงินได้แล้ว แต่เฉินจงและหวางจวนยังให้เงินพวกเขาอยู่ แล้วยังมีหลัวเหมย ไม่ว่าเท่าไร นี่ก็เป็นความตั้งใจของพ่อแม่
ส่วนเฉินกุ้ย ให้หลัวเหมยแจกอั่งเปาให้เฉินหู่ เฉินหู่ดีใจมาก เขาไม่ได้สนใจว่าเงินเท่าไร แต่เป็นน้ำใจ สะใภ้คนก่อนอย่าว่าแต่ปีใหม่แจกอั่งเปาเลย ยังมาขอที่เขาอีก ถ้าสะใภ้คนนี้ดี เขาก็ดีใจแทนพี่ชายด้วย
เฉินเวยหรี่ตา เฉินกุ้ยและหลัวเหมย เฉินเยี่ยนแหละหวางจวนต่างแจกอั่งเปาให้เฉินหู่ มีแค่เธอไม่ได้ให้ แต่พวกเขาหาเงินได้ ตัวเธอยังไม่ได้หาเงิน ทำไมเฉินกุ้ยและเฉินเยี่ยนถึงให้แต่เฉินหู่ไม่ให้เธอ?
เฉินเวยกำเงินสองเหรียญอยู่ในมือในใจโกรธแค้น นี่มาน้อยแค่นี้ ปีใหม่ให้เธอมาสองเหรียญ เห็นเธอเป็นอะไร! เฉินจงให้เงินหวางนิว หวางนิวเอาไปกกไข่หรือไง? พูดอะไรว่ารักตัวเอง ทำไมไม่ให้ตัวเองหนึ่งร้อยล่ะ ลับหลังก็ไม่ได้บอกว่าจะให้ตัวเองเพิ่ม รักบ้าอะไร!
เฉินเวยไม่พอใจอย่างมาก แต่เธอหลุบตาลงซ่อนความไม่พอใจในแววตาไว้ เธอลืมไปว่าเฉินจงและหวางนิวปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียม ลูกทุกคนพวกเขาให้เท่ากัน เธอก็ไม่อยากจะคิดเรื่องนี้แล้ว
เฉินหู่ก็เหลือบมองเฉินเวย พ่อแม่ พี่ชายพี่สาวต่างให้เงินเขา มีพี่สาวคนรองที่ไม่ให้ พี่รองไม่พูดอะไรทำเหมือนมองไม่เห็นเขา เฉินหู่ส่ายหน้า ช่างเถอะ ยังไงเขาก็ไม่เสียดายเงินของพี่รอง
อันที่จริงถ้าเฉินเวยให้เงินเฉินหู่สักสตางค์ เฉินหู่ก็ซาบซึ้งแล้ว เพราะพี่สาวยังคิดถึงเขา เขาสนใจน้ำใจนี้ ไม่ใช้จำนวนเงินมากน้อย ถ้าอั่งเปาที่เขาได้รับ เฉินเยี่ยนพี่สาวได้ใช้ เขาจะเอาเงินให้พี่สาวโดยไม่ลังเลยแม้แต่นิดเดียว เขารู้ว่าเป็นของดี แต่เขาให้ความสำคัญกับน้ำใจมากกว่า ส่วนเฉินเวยกลับไม่รู้ถึงข้อนี้เลย และเป็นเพราะว่าเฉินเวยไม่ใช่คนที่มีน้ำใจตั้งแต่แรก ดังนั้นเธอเลยไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้
ผ่านวันที่สามสิบมาวันที่หนึ่ง วันที่หนึ่งเป็นวันเที่ยว เฉินเยี่ยนเดินออกจากบ้านไปคนเดียว คนมากมายต่างมารวมตัวกัน บางคนนั่งพูดคุยกัน บางคนก่อกองไฟกัน ทุกคนต่างมีรอยยิ้ม นานๆ ทีจะพักผ่อน
เฉินเยี่ยนมาสวนผลไม้ ในสวนผลไม้ไม่มีคนนั้นที่เธอคิดถึง มองดูถนนที่ว่างเปล่า คนนั้นไม่ได้มาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังเธอเหมือนแต่ก่อน
ลมพัดมา เฉินเยี่ยนรู้สึกหนาว เธอรู้ว่าไม่เจอกันที่นี่ วันนี้ซินห้าวก็จะไม่ปรากฏตัวที่นี่แล้ว เฉินเยี่ยนนั่งลงในสวนผลไม้ด้วยความผิดหวังแต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือความคิดถึง เบื้องหน้าเธอเหมือนมีภาพครั้งที่แล้วที่เธอและซินห้าวอยู่ด้วยกันในสวนผลไม้แวบขึ้นมา
เฉินเยี่ยนอดไม่ได้ยิ้มออกมา แต่หลังจากยิ้มแล้วในสวนผลไม้ก็ไม่มีคนนั้น เฉินเยี่ยนถึงรู้ว่า ที่แท้มีอีกคนหนึ่งเพิ่มขึ้นมามันอบอุ่นเพียงใด
วันที่สอง เฉินจงและหวางนิวพวกเขาไปบ้านหวางนิวกัน เฉินกุ้ยและหลัวเหมยก็ไปแล้ว ปีนี้เป็นปีแรกของพวกเขา หวางนิวเตรียมของไม่น้อย อีกอย่างเฉินเยี่ยนยังให้บุหรี่ที่ผลิตจากโรงงานหนึ่งแถวกับเฉินกุ้ยด้วย นี่ถือว่าเป็นการให้หน้าเฉินกุ้ย
หลัวเหมยซาบซึ้งใจมาก ของที่บ้านเฉินเตรียมทำให้เธอกลับไปเยี่ยมบ้านได้อย่างมีหน้ามีตา คนในหมู่บ้านมีแต่อิจฉา ไม่มีนินทา เธอสามารถเงยหน้าเงยตาในหมู่บ้านได้แล้ว
ส่วนฝั่งนี้ เฉินเยี่ยนไม่ได้ตามไปด้วย เธอไม่อยากไปบ้านลุง เพราะเธอรู้ว่าถ้าเธอตามไป หวางชุนฮวาลูกพี่ลูกน้องจะต้องขุดเรื่องเดิมมาคุยแน่นอน เธอไม่อยากต่อกร ไม่อย่างนั้นถ้าหวางชุนฮวางี่เง่าขึ้นมา หวางนิวจะเสียหน้าเอาได้
ส่วนเฉินเวย เดิมทีไม่คิดจะไป แต่เธอก็เปลี่ยนความคิด เห็นบนตัวเธอสวมชุดสีชมพูบานเย็นชุดใหม่ เธอเชิดหน้าเชิดตาได้ เธออยากให้หวางชุนฮวาเห็นว่าเธอเฉินเวยสวมใส่ชุดใหม่นั้นงดงามเพียงใด ดูว่าเธอยังจะกล้าหัวเราะเยาะว่าเธอไม่มีเสื้อผ้าใหม่ใส่ เหมือนคนแก่อีกไหม!
แล้วยังได้ยินมาว่าหวางชุนฮวาอยากจะเข้าโรงงานแต่โดนเฉินเยี่ยนปฏิเสธ ครั้งนี้เธอจะไปหัวเราะเยาะหวางชุนฮวา ดังนั้นเธอเลยจะตามไปบ้านหวางด้วย
เฉินจง หวางนิว เฉินเวยและเฉินหู่ไปแล้ว หวางจวนก็ไปแล้ว หวางจวนกลับไปบ้านหวาง วันนี้พี่ชายพี่สะใภ้เธอก็ไปบ้านของพี่สะใภ้ เธออยากจะกลับไปหาพ่อแม่ คุยกับพ่อแม่ให้รู้เรื่อง อีกหน่อยไม่ต้องมาบ้านเฉินแล้ว เธอไม่อยากให้บ้านเฉินลำบากเพราะเธอไปด้วย เธอจำเป็นต้องแข็งกร้าวขึ้นมา ไม่อย่างนั้นบ้านหวางจะมาก่อเรื่องไม่จบไม่สิ้นไปตลอด
เธอไม่ให้เฉินเยี่ยนตามไป เพราะเธออยากจะจัดการด้วยตัวเอง นี่เป็นเรื่องที่เธอควรทำ ไม่ใช่เฉินเยี่ยน