เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 185: แข็งแกร่ง
เฉินเวยได้ยินคำพูดเฉินเยี่ยนก็เบะปาก ไม่ได้สงสัยอะไร เธอกรอกลูกตารอบหนึ่งแล้วพูดขึ้นมา “พี่ วันนี้พี่ไม่ได้ไป พี่รู้ไหมวันนี้ลุงฝั่งนั้นโวยวายเป็นเรื่องเลย”
เฉินเยี่ยนไม่ต้องมองเฉินเวยก็รู้ว่าเธอไม่ได้มีเจตนาดี เธอมองหวางนิว สีหน้าหวางนิวดูอึดอัดเล็กน้อย
“ก็ชุนฮวานั่นโวยวายจะให้ตงฮวาโอนสิทธิ์เข้าโรงงานให้เธอให้ได้ ลูกว่าตงฮวานั้นความเป็นอยู่ลำบาก เป็นคนขยันหมั่นเพียร มือไม้ว่องไว ให้เธอได้เข้าไปทำงานในโรงงานดีแค่ไหน แต่ชุนฮวานี่จะต้องเข้าโรงงานให้ได้ แล้วยังว่าตงฮวาต่อหน้าคนมากมาย บอกว่าตงฮวาทำตัวไม่เหมือนพี่สาวคนโต เมื่อก่อนบอกว่าทำเพื่อเธอนั้นเป็นเรื่องหลอกลวง บอกว่าสิทธิ์นี้จะให้บ้านหวาง ตงฮวาไม่ใช่คนบ้านหวางแล้ว มาถือสิทธิ์ได้ยังไง โวยวายจนตงฮวาเสียหน้า ใครห้ามก็ไม่ฟัง จริงๆ เลย”
หวางนิวไม่พอใจหวางชุนฮวามาก
เฉินเยี่ยนเหลือบมองเฉินจง เฉินจงไม่แสดงอาการอะไร เรื่องญาติฝั่งภรรยา เขาพูดอะไรมากไม่ได้
“พี่ สุดท้ายพี่ตงฮวาบอกว่าจะให้สิทธิ์นั้นกับพี่ชุนฮวา หลังปีใหม่พี่ชุนฮวาจะเข้าไปเป็นคนงานในโรงงานแล้ว พี่ดีใจไหม”
สายตาเฉินเวยเป็นประกายมองไปที่เฉินเยี่ยน เธอรู้ว่าเฉินเยี่ยนไม่ชอบหวางชุนฮวา นี่ถ้าหวางชุนฮวาได้เข้าไปในโรงงาน ต้องเป็นตัวถ่วงเฉินเยี่ยนแน่
เฉินเยี่ยนมองหวางนิว หวางนิวยิ้มแบบขอโทษแล้วพูด “เยี่ยนจื่อ ลูกก็รู้จักพี่ตงฮวาคนนี้ เธอนิสัยดี ชุนฮวาโวยวายอย่างนั้น เธอไม่ถอยก็ไม่ได้ เธอทำอะไรไม่ได้ต้องยอมให้สิทธิ์กับชุนฮวา แต่แม่รู้ว่าเธอทุกข์ใจ ตอนไม่มีคนเธอก็ไปแอบร้องไห้ ลูกว่าให้ทั้งชุนฮวาและตงฮวาเข้าไปได้ไหม”
หวางนิวพูดขอร้องแทนหลานสาวทั้งสองคน
เฉินเยี่ยนรู้ว่าแม่ใจอ่อน แต่ทำแบบนี้ไม่ได้
“พ่อ พ่อไม่ได้ตกลงใช่ไหมคะ?”
เฉินเยี่ยนถามเฉินจง ยังไงเฉินจงก็เป็นหัวหน้าโรงงาน
“ยัง พ่อยังไม่ได้พูดอะไร”
เฉินจงส่ายหน้า เฉินเยี่ยนย้ำนักย้ำหนา ไม่ให้เขาตอบตกลงหญิงสาว
“งั้นก็ดีค่ะ แม่ แม่ไปบอกพี่ตงฮวาและชุนฮวา บอกว่าสิทธิ์นี้ไม่สามารถโอนกันไปมาได้ ไม่ใช่เธออยากให้ใครก็ได้ ถ้าพี่ตงฮวาไม่อยากทำ ไม่ต้องการ ก็ช่าง ยังไงก็มีคนอยากทำ คนต้องการอยู่ พวกเราหาคนใหม่ก็ได้! ให้พี่ตงฮวาเข้ามา ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะเธอเป็นลูกสาวของคุณลุง แต่เป็นเพราะนิสัยของเธอ เธอขยันและมีคุณสมบัติ อีกอย่างถึงแม้จะให้เธอเข้ามาในโรงงานก็ต้องทดลองงานหนึ่งเดือน ถ้าไม่ได้ก็ต้องให้ออกไป ส่วนหวางชุนฮวาไม่ได้ หนูไม่เชื่อนิสัยของเธอ โวยวายที่บ้านกับครอบครัวขนาดนี้ ถ้าเข้ามาโวยวายในโรงงานจะเป็นยังไง? ถึงแม้ตงฮวาไม่ทำ หนูก็ไม่ให้เธอเข้ามา ไปบอกกับเธอให้ชัดเจน เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเธอคิดจะทำยังไงก็ได้”
เฉินเยี่ยนพูดตามตรง หวางชุนฮวาเข้ามาแบบนี้ จะทำให้ในโรงงานไม่สงบสุข
“ลูกสาวคนนี้ นี่เป็นญาติกันนะ แล้วเธอทั้งสองคนก็ยินดี ทำไมลูกถึงไม่ยอม ทั้งสองคนเป็นลูกสาวของลุง ลูกให้แม่เลือกข้าง ลูกจะให้แม่พูดยังไง?”
หวางนิวตำหนิ คิดว่าลูกสาวจริงจังเกินไป
“งั้นแม่ไม่ต้องพูดแล้ว หนูจะเก็บสิทธิ์นี้คืน แล้วหาคนใหม่ก็ได้”
เฉินเยี่ยนไม่อ่อนข้อให้ เรื่องหลักการข้อนี้เธอไม่ไว้หน้า จำเป็นต้องหนักแน่น
“ได้ ได้ แม่ไปพูด กลัวลูกแล้ว ไม่รู้ว่าเหมือนใคร”
หวางนิวทำอะไรลูกสาวไม่ได้ ได้แต่ตอบตกลง
“งั้นเสี่ยวเวย…”
หวางนิวคิดแล้วก็ยิ้มพูดกับลูกสาว ระหว่างทางกลับมาเฉินเวยก็โน้มน้าวพูดเรื่องเข้าโรงงาน เธอตัดสินใจจะพูดกับลูกสาวอีกครั้ง
สายตาเฉินเยี่ยนเย็นชาขึ้นมา
“คนพอแล้ว”
เฉินเยี่ยนไม่อยากคุยเรื่องนี้ นี่เพิ่งวันที่สองเอง เธอไม่อยากทะเลาะ เธอเคยแสดงออกอย่างชัดเจนมากๆ แล้วว่าไม่ให้เฉินเวยเข้าโรงงาน ไม่รู้ว่าทำไมแม่ถึงได้ยกขึ้นมาพูดครั้งแล้วครั้งเล่า
หวางนิวได้แต่ถอนหายใจ เฉินเวยกำหมัด เฉินเยี่ยน วันนี้เธอทำกับฉัน พรุ่งนี้ฉันจะเอาคืนเธอสองเท่า!
จนเฉินกุ้ยกับหลัวเหมยกลับมาพวกเขาก็แวะมาหา เอาของทอดจากบ้านภรรยามาให้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ของดีอะไร แต่พวกเขาต้องส่งน้ำใจนี้ให้ได้
หลัวเหมยบอกว่าทุกอย่างราบรื่นดี แต่เฉินกุ้ยแอบบอกกับเฉินจงและหวางนิว ครั้งนี้ที่พวกเขากลับไปบ้านหลัวเหมย แม่หลัวเหมย หรือแม่ยายของเขาลากหลัวเหมยเข้าไปคุยในห้องอยู่นาน ตอนออกมาสีหน้าหลัวเหมยดูไม่ดีเลย คิดว่าแม่ยายกับพี่ชายภรรยาต้องพูดอะไรกับเธอ คำพูดนั้นก็ไม่พ้นให้เขาเอาคนในครอบครัวหลัวเข้าไปในโรงงาน บอกว่าเป็นคนกันเอง ใช้คนกันเองถึงวางใจได้ เงินก็ไม่ต้องเอาไปให้คนนอก คนอื่นจะไม่มีใจจงรักภักดีกับเขา
เขาบอกว่าเขาตัดสินใจไม่ได้ คนที่มาสมัครต้องให้พ่อเขากับน้องสาวเขาเป็นคนตัดสิน หาคนได้แล้ว ยังต้องให้คอมมูนเห็นด้วย ไม่สามารถเอาคนบ้านหลัวเข้าไปได้
คนบ้านหลัวบอกว่าเขาเป็นคนซื่อ ทำไมถึงให้น้องสาวเป็นผู้นำของบ้าน เงินนี้เอาให้คนข้างนอกหมด ต้องเอาเงินเฉินเยี่ยนกลับมา เงินนี้เป็นของบ้านเฉิน ส่วนเฉินเยี่ยนไม่ถือว่าเป็นคนบ้านเฉิน อะไรพวกนี้ ยังไงก็พูดมามากมาย เขาไม่ได้ตอบตกลง
สุดท้ายสีหน้าคนบ้านหลัวดูไม่ดี เขาทำเป็นมองไม่เห็น เขารู้ การแต่งงานครั้งนี้เขาจำเป็นต้องหนักแน่น ไม่อย่างนั้นจะไม่มีวันอยู่อย่างเป็นสุขได้
เพื่อหลัวเหมย เขาไม่สนใจมีบ้านแม่ยายแบบนี้ แต่เขาไม่ได้โง่จนให้คนมาพูดอะไรก็ว่าตาม เขาก็แค่ฟัง สิ่งที่ไม่ถูกเขาก็ทำเป็นไม่ได้ยิน เขาจะไม่หูเบาอีกแล้ว เขาต้องยืนขึ้นมา เขาต้องทำให้ภรรยาของเขามีชีวิตที่ดี ไม่ยอมฝั่งบ้านภรรยา ถ้าบ้านแม่ยายดี เขาก็จะช่วยเหลือ แต่ถ้าในใจคิดดูถูก ก็ขอโทษด้วย
ระหว่างทางเขาถามหลัวเหมย เป็นพ่อแม่ให้หลัวเหมยพาคนบ้านหลัวเข้าโรงงานจริงด้วย พูดชัดเจนกว่าพ่อยายอีก แต่หลัวเหมยไม่ได้ตอบตกลง พ่อแม่ก็เลยด่าหลัวเหมย หลัวเหมยรู้สึกผิด แต่นั่นเป็นครอบครัวเธอ เธอพูดอะไรมากไม่ได้ แต่เธอรู้ เธอจำเป็นต้องหนักแน่น ไม่อย่างนั้นเธอจะสูญเสียความสุขที่ได้มาอย่างลำบาก
ฟังจากเฉินกุ้ยเล่าแล้ว เฉินจงและหวางนิวหยักหน้า ดูเหมือนหลัวเหมยรู้จักแยกแยะ ก็ดีแล้ว
จากเรื่องนี้หวางนิวก็กลับมาคิดถึงตัวเอง เธอคิดว่าเธอควรกลับไปบ้านสักครั้ง ไปพูดให้รู้เรื่อง
ไม่กี่วันต่อมาต้องต้อนรับแขกจากที่ไกล เช่นญาติของเฉินจง จนถึงวันที่แปด โรงงานม้วนบุหรี่ก็เปิด
เดิมทีเฉินเยี่ยนวางแผนจะเปิดงานวันที่สิบห้า โดยปกติในหมู่บ้านเกษตรกรเลยวันที่สิบห้าไปถึงจะถือว่าสิ้นสุดวันปีใหม่ แต่วันที่หกมีคนมาที่บ้านสั่งบุหรี่หนึ่งร้อยแถว ต้องการด่วน เฉินเยี่ยนไม่มีทางเลือก จึงต้องบอกคนงานเปิดงานเร็วขึ้น
คนงานไม่มีความเห็นอะไร ไม่มีใครเป็นศัตรูกับเงิน เปิดงานเร็ว พวกเขาก็ได้เงินมากขึ้น ยังไงอยู่ที่บ้านก็ไม่มีอะไรทำ งั้นก็มาทำงานดีกว่า
คนงานมีกำลังใจทำงาน แต่สองคนที่ทำกับข้าว ป้าคนหนึ่งที่บ้านเกิดเรื่องมาไม่ได้ เฉินเยี่ยนจึงต้องรับสมัครคน รับป้าคนหนึ่งจากหมู่บ้านข้างๆ
เป็นผู้หญิงชื่อหม่าเหลียน เป็นแม่หม้าย ครอบครัวสามีเธอเป็นเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกับโรงงานของเฉินเยี่ยน เข้ามาทำงานได้ปีกว่าสามีก็ตาย แม่สามีก็ตาเสีย ปีที่สามก็เสียชีวิต พ่อสามีก็แขวนคอตายหลังภรรยาเขาเสีย ที่บ้านจึงเหลือเธอคนเดียว เธอไม่มีลูก ตัวเองใช้ชีวิตตามลำพัง เพราะหลายปีนี้ต้องดูแลพ่อแม่สามี ชีวิตเลยค่อยข้างลำบาก
ส่วนเธอ ทำอาหารไม่แย่ ที่บ้านก็ไม่มีภาระไร ดังนั้นตอนรับสมัครเธอเลยมา