เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 186: ซื้อจักรยาน
เฉินเยี่ยนไม่ได้ดูถูกหม่าเหลียนเพราะเธอเป็นแม่หม้าย เดิมทีเป็นผู้หญิงก็ลำบากอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าหม่าเหลียนคนนี้ดูแล้วจะผอมไปนิด หน้าตาก็ไม่นับว่าแย่ แค่เจอก็รู้ว่าเป็นคนอารมณ์ดี เป็นคนอ่อนโยน คนแบบนี้ไม่เรื่องมาก อีกทั้งคนในหมู่บ้านนอกจากจะบอกว่าเธอควบคุมความรู้สึกตัวเองไม่ได้ นอกนั้นก็ไม่ได้ว่าเธอเรื่องอื่น
แล้วยังบอกว่าเธอเก่งมาก หลังไม่มีสามีแล้ว งานบ้านงานไร่เธอทำหมด ไม่เคยร้องลำบาก และไม่เคยได้ยินว่าเธอกับผู้ชายคนนั้นมีเรื่องฉาวอะไร นิสัยถือว่าไม่แย่เลย เฉินเยี่ยนได้ชิมอาหารที่เธอทำ เทียบกับคนทั่วไปแล้วมีรสชาติกว่าเยอะ โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวน้ำที่เธอทำ เฉินจงที่มาชิมยังกินไปตั้งสามชามใหญ่ รสชาติดึงดูดคนขนาดนี้ ดังนั้นเฉินเยี่ยนจึงให้หม่าเหลียนมาเป็นคนงานทำอาหารที่โรงงาน
วันที่สิบห้าวันนั้นเฉินเยี่ยนและเฉินจงให้คนงานหยุดหนึ่งวัน ก่อนหน้าหนึ่งวันเฉินเยี่ยนยังไปหอบโคมไฟกลับมาจากในอำเภอหลายอัน เอามาแจกให้คนงานในโรงงาน ให้พวกเขาเอากลับไปให้เด็กที่บ้าน
พูดถึงแบกเอาโคมไฟกลับมา เฉินเยี่ยนยังสร้างความฮือฮา ไม่ใช่เพราะโคมไฟ แต่เพราะเฉินเยี่ยนขี่จักรยานกลับมา
ก่อนวันที่สิบห้าเฉินเยี่ยนไปคอมมูนในหมู่บ้านมาสองครั้ง ทำไม? เพื่อไปเอาตั๋วจักรยาน
ตอนแรกหัวหน้าคอมมูนจะไม่ให้เฉินเยี่ยน แต่สุดท้ายคิดไปคิดมาที่เฉินเยี่ยนพูดก็มีเหตุผล โรงงานม้วนบุหรี่ทำเงินให้คอมมูนไม่น้อย ดูออเดอร์ปีนี้ทั้งปีจะทำเงินได้มากกว่าอีก ไม่ง่ายเลยที่ในหมู่บ้านจะมีอุตสาหกรรมที่หาเงินได้ขนาดนี้ เธอต้องการตั๋วจักรยานหนึ่งใบทำไมจะไม่ได้?
อีกอย่างโรงงานม้วนบุหรี่พวกเขาไม่ได้ลงทุนอะไรมากมาย ตอนนี้กลับมีชื่อเสียงถึงในเมืองแล้ว ครั้งที่แล้วไปประชุมในเมือง เขายังได้รับคำชมเชยอยู่เลย นี่เป็นสิ่งที่โรงงานม้วนบุหรี่ให้เขา ถ้าเขาจะให้รางวัลก็ควรจะให้ตั๋วจักรยานคันหนึ่งใช่ไหม?
หัวหน้าโรงงานม้วนบุหรี่ออกจากบ้านยังต้องอาศัยสองเท้าเดินอยู่ดูไม่ค่อยดี ดังนั้นหัวหน้าเลยตกลง ให้ตั๋วจักรยานหนึ่งคันกับเฉินเยี่ยน
มีตั๋วแล้ว แน่นอนเฉินเยี่ยนไปซื้อรถจักรยานกลับมา ยี่ห้อนกพิราบบิน เป็นแบบเฟรมตั้งตรง ค่อนข้างใหญ่ เดิมทีมีแบบจักรยานจ่ายตลาดของผู้หญิง แต่เฉินเยี่ยนไม่มีตั๋ว ถึงแม้จะดูดี แต่แบบใหญ่นี้แข็งแรงกว่า ไม่ว่าจะใส่ของเท่าไร ก็ไม่เป็นไร ใช้ประโยชน์ได้ดี
หัดขี่จักรยานไปมาเฉินเยี่ยนก็ขี่เป็นแล้ว เธอมีพื้นฐานอยู่ ไม่ยากเท่าไร
จนเธอขี่จักรยาน ตอนที่ขี่จักรยานคันใหม่เอี่ยมพร้อมแขวนโคมไฟกลับมา ในโรงงานเล็กๆ นั้นก็เป็นที่ฮือฮากัน เพราะยุคนี้จักรยานถือว่าเป็นของหายาก
“นี่อีกหน่อยจะเป็นของเราหรือ?”
เฉินจงอึ้งไป เขาคิดไม่ถึงว่าลูกสาวออกจากบ้านสองรอบถึงกับขี่จักรยานกลับมา
“แน่นอนสิ พ่อ หนูสอนพ่อขี่เอง อีกหน่อยพ่อจะออกจากบ้าน ก็ขี่รถไป ทั้งเร็วและประหยัดแรง ถ้าหนูมีธุระ หนูก็จะขี่เหมือนกัน พวกเราใช้คันเดียวก่อน เดี๋ยวจะดูช่วงนี้จะหาตั๋วมาอีกใบ พวกเราจะได้ขี่คนละคัน”
เฉินเยี่ยนก็ดีใจมาก อีกหน่อยออกจากบ้านจะสะดวกกว่านี้มาก เธอคิดว่าตอนนี้เธอขี่จักรยานแบบนี้ก็เท่มากแล้ว ครั้งต่อไปจะได้ขี่ไปพร้อมกับซินห้าวแล้ว
“ได้ แต่คันนี้ถือเป็นของโรงงานหรือเป็นของเราเอง?”
เฉินจงคิดว่าควรจะถามให้ชัดเจน
“ต้องเป็นของเราสิคะ ตั๋วรถนี่หนูหามา หนูใช้เงินซื้อ ไม่ใช่ของโรงงาน”
เฉินเยี่ยนพูดชัดเจน ถ้าเป็นของโรงงานอีกหน่อยจะไม่ใช่ของพวกเขา
“ดี ดี”
เฉินจงพยักหน้า และดีใจมาก
“เมื่อไรพวกเราจะมีจักรยานบ้างนะ”
คนงานบางคนถอนใจ
เฉินเยี่ยนตื่นเต้น ยิ้มบอก “ทุกคนต้องตั้งใจทำงาน ถึงปลายปีพวกเราจะให้คะแนนคนงานดีเด่นสามอันดับแรก อันดับแรกจะให้ตั๋วรถจักรยานเป็นรางวัล อันดับที่สอง อันดับที่สามก็มีรางวัลให้ ถึงตอนนั้นใครจะได้ ก็ขึ้นอยู่กับตัวพวกคุณเองแล้ว”
เฉินเยี่ยนประกาศรางวัล
คำพูดเฉินเยี่ยนพูดออกไป คนงานแต่ละคนต่างตื่นเต้นดีใจ ขยันขันแข็ง ไม่ต้องให้เฉินเยี่ยนพูดอีกรอบ แต่คนต่างเป็นฝ่ายเข้าไปหางาน
เฉินจงก็ไม่เป็นห่วง ในเมื่อลูกสาวเอ่ยปากแล้ว ก็หมายความว่าเธอมีวิธี ถ้าถึงเวลาแล้วลูกสาวทำไม่ได้ เขาก็แค่เข้าไปช่วยเท่านั้นเอง
“ลูกสาว ไป ลูกสอนพ่อขี่ เดี๋ยวพ่อขี่ได้แล้ว จะพาลูก พาแม่ขี่วนสักสองรอบ ให้แม่ลูกดีใจหน่อย”
เฉินจงถูมือ ดูท่าทางแล้ว อยากจะรีบขี่เสียเดี๋ยวนี้เลย
เฉินเยี่ยนเผลอหัวเราะออกมา พ่อมีข้อดีจุดนี้ เขาจริงใจกับแม่ รูปร่างภายนอกของพ่อทิ้งแม่ขาดเลย ตอนนี้มีคนบอกว่าแม่ไม่คู่ควรกับพ่อ บอกว่าแม่โชคดีที่ได้แต่งงานกับพ่อ อยู่กับพ่อถือเป็นโชคดี เฉินเยี่ยนก็คิดว่าแม่โชคดี พ่อมีใจให้แม่มาตลอด
เฉินเยี่ยนสอนเฉินจงไม่นานเฉินจงก็ขี่ได้แล้ว เขาขายาว แขนก็มีกำลัง เพียงแค่ทรงตัวให้ดีก็พอ ดังนั้นเลยหัดเป็นเร็ว
เฉินจงขี่พาเฉินเยี่ยนกลับมาบ้าน เห็นแผ่นหลังกว้างของพ่อแล้วเฉินเยี่ยนรู้สึกมั่นคง
คนมากมายบอกว่าถ้าไม่มีเธอ บ้านเฉินก็ไม่มีชีวิตที่ดีขนาดนี้ แต่เธอรู้ว่าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ทั้งหมด ถ้าเธอเกิดใหม่มาอยู่กับครอบครัวอื่น พ่อแม่ไม่ให้ความสำคัญกับเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะมีความคิดอะไรก็ไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้
วันนี้เธอทำสำเร็จ เดินมาถึงขั้นนี้ พูดตามตรง การสนับสนุนของเฉินจงก็มีส่วนด้วย
ในยุคนี้ เฉินจงถือว่าเป็นพ่อส่วนน้อยที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเพศชายแล้วดูถูกเพศหญิง ไม่ได้เอาลูกสาวมาเป็นเครื่องมือหาเงิน เอะอะก็ด่าก็ตี ตอนที่เฉินเยี่ยนยังไม่มีอะไร เธอให้เฉินจงไปแจ้งเรื่องสุสานโบราณ เฉินจงก็ไป ต่อมาเธอจะทำผัก เฉินจงก็สนับสนุนเธอ ไม่ว่าเธอจะทำอะไร เป็นเฉินจงที่คอยสนับสนุนเธออยู่เงียบๆ ในยามที่ต้องการเขา เขาก็เดินออกมาอยู่ข้างหน้าลูกสาว ไม่ต้องการเขา เขาก็คอยยืนอยู่ข้างหลังลูกสาว ไม่พูดอะไร แอบสนับสนุนลูกสาวอยู่เงียบๆ
พูดได้ว่า ในใจเฉินเยี่ยน เฉินจงเป็นภูเขาลูกใหญ่ สามารถให้เธอพักพิงได้ เพราะเธอรู้ ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไงพ่อก็ยังอยู่ เธอสามารถทำอะไรที่เธอคิดตัดสินใจจะทำได้ ไม่ต้องกลัวล้มเหลว ก็แค่เริ่มต้นใหม่ พ่อจะไม่โทษเธอ ดังนั้นเฉินจงกลายเป็นเสาหลักของเฉินเยี่ยนโดยไม่รู้ตัวไปแล้ว
เฉินเยี่ยนเอนศีรษะลงบนหลังเฉินจง ตัวเฉินจงเกร็งเล็กน้อย คนหมู่บ้านเกษตรกร ไม่ว่าพ่อกับลูกสาว พี่ชายน้องสาวจะสนิทกันขนาดไหน น้อยครั้งที่จะแสดงความรักต่อกัน ในยุคหลังที่กอดกันพวกนี้ สำหรับพวกเขาแล้วมันไม่มีอยู่เลย ดังนั้นการกระทำนี้ของเฉินเยี่ยนทำให้เฉินจงนึกไม่ถึง
แต่เฉินจงก็ยิ้ม เขารู้ว่านี่คือการแสดงออกของลูกสาวที่ดีกับเขา แสดงออกว่าใกล้ชิดกับเขา แค่นี้ก็พอแล้ว
ตอนหวางนิวนั่งซ้อนท้ายจักรยาน จะได้ยินหวางนิวร้องตกใจเป็นบางครั้ง เฉินเยี่ยนอดขำไม่ได้ เธอรู้ว่านอกจากแม่ตื่นเต้นตกใจที่ได้นั่งจักรยานครั้งแรกแล้ว เธอร้องเสียงดังแบบนี้ก็เพื่อจะเรียกร้องความสนใจ อยากจะให้คนมามองดูเยอะๆ รู้ว่าอยากจะเป็นที่อิจฉาของคนอื่น
“แต่เร็วจัง นั่งอยู่ข้างบนใจฉันสั่นไหวไปมา อีกหน่อยกลับไปที่บ้านพ่อแม่ ก็จะได้นั่งรถไปแล้ว นี่เป็นรถของบ้านเราแล้ว ในที่สุดบ้านเราก็มีรถ”
ไม่ต้องพูดถึงความตื่นเต้นของหวางนิว คนทั้งหมู่บ้านรู้กันหมดแล้ว ว่าบ้านเธอมีรถจักรยาน เป็นจักรยานคันแรกของหมู่บ้านเลย แม้แต่หวางต้าหมินหัวหน้าหมู่บ้านยังไม่มีเลย!