เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 190: น้ำตาแห่งความยินดี
“ขอบคุณค่ะ ฉันกำลังอยากได้อยู่พอดีเลย”
เฉินเยี่ยนขอบคุณซินห้าว ตอนนี้ซื้ออะไรก็จำเป็นต้องใช้ตั๋ว ไม่มีตั๋วมีเงินอยากซื้อก็ซื้อไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาฝั่งนี้มีตลาดที่พวกเกษตรกรตั้งกันขึ้นมาเอง ซื้อของในตลาดไม่จำเป็นต้องใช้ตั๋ว และสามารถเอาของมาแลกได้ ถือว่าได้ผลประโยชน์ที่ตัวเองต้องการ แต่ของที่ตลาดมีไม่มาก อยากจะซื้อของดี ของชิ้นใหญ่ จำเป็นต้องไปสหกรณ์ นั่นก็ต้องใช้ตั๋ว
ตอนนี้ที่บ้านเธอไม่ขาดตั๋ว แต่พวกตั๋วสินค้าที่ขาดแคลนในตลาด เช่นตั๋วจักรยาน ตั๋วทีวี นั่นจำเป็นต้องใช้เส้นสาย มีเส้นก็สามารถเอามาได้
“เกรงใจผมทำไม!”
ซินห้าวลูบผมเฉินเยี่ยน แล้วพูดขึ้นมาอีก “ผมซื้อบ้านในเมืองแล้ว ในอำเภอก็ดูที่ไว้แล้ว ในหมู่บ้านปู่ผมบอกว่าให้ผมไปหัวหน้ากลุ่มแบ่งเขตที่ดิน ไม่มีปัญหา จัดการบ้านในเมืองและในอำเภอสักหน่อย ผมว่าอีกสองสามเดือนก็เสร็จ ครึ่งปีหลังผมจะได้มาสู่ขอคุณแล้ว เยี่ยนจื่อ คุณดีใจไหม?”
ซินห้าวพูดมาจนสุดท้ายสายตาเขามีความคาดหวัง เหมือนเด็กที่ทำอะไรแล้วต้องการคำชมเชยและการยอมรับ
“ดีใจ ซินห้าว ฉันดีใจค่ะ”
เฉินเยี่ยนเงยหน้ามองซินห้าว ยิ้มออกมาโดยไม่ลังเลเลย ในสายตาของซินห้าวเธอดูเคลิบเคลิ้ม ชาติที่แล้วเธอแทบจะไม่แสดงความรู้สึกแบบนี้ของตัวเองออกมา เธอคิดว่าไม่จำเป็น แต่เธอรู้แล้วว่าเธอผิด เหมือนตอนนี้ เธอแสดงความรู้สึกตัวเองออกมา คำตอบเธอทำให้สายตาของซินห้าวยิ่งอ่อนโยน ทำให้เขารู้ว่าเขาไม่ได้ยุ่งอยู่เพียงลำพัง สิ่งที่เขาทุ่มเทลงไปมีรางวัลตอบแทน เธอและเขามีใจให้เหมือนกัน
หลังซินห้าวได้ยินก็พอใจเป็นอย่างมาก ออกแรงกอดเฉินเยี่ยนแน่น แอบสาบานในใจ ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน เขาจะต้องโน้มน้าวแม่เขาให้ได้ จะต้องแต่งงานกับเฉินเยี่ยน
จนเฉินเยี่ยนและซินห้าวไปที่โถงบ้าน สายตาเฉินเวยมองไปที่เฉินเยี่ยนดั่งไฟเผาหน้าเฉินเยี่ยนจนเป็นรู เธออยากจะเข้าไปลากเฉินเยี่ยนออกมา แล้วตัวเองยืนอยู่ข้างซินห้าวแทน เพราะมีเพียงเธอที่คู่ควรกับซินห้าว
“อาห้าว เธอกับเยี่ยนจื่อคุยกันเสร็จแล้วหรือ? เมื่อไรจะมาสู่ขอล่ะ?”
หวางนิวทนไม่ไหว ในที่สุดก็ถามขึ้นมา
“คุณป้า อีกเดือนสองเดือนนี้ผมจะมาสู่ขอ คุณป้าวางใจได้ครับ”
ซินห้าวไม่ได้เจาะจงวันที่ แต่ไม่ได้ทำให้หวางนิวหมดหวัง
“งั้นก็ดี ป้าจะรอ ใช่แล้ว อาห้าว โรงงานเธอคือโรงงานอะไร อยู่ที่ไหนล่ะ”
หวางนิวถามต่ออีก
เฉินเยี่ยนเหลือบมองเฉินเวย เกรงว่าเฉินเวยอยากจะรู้ล่ะสิ
ซินห้าวมองเฉินเยี่ยน
“แม่ โรงงานซินห้าวบอกไปแม่ก็ไม่รู้จัก แม่ไม่ต้องถามหรอก รอให้หมั้นหมายเรียบร้อยค่อยว่ากัน ไม่อย่างนั้นเหมือนพวกเราจะวางแผนอะไรกับเขาเลย”
เฉินเยี่ยนเอ่ยปากพูดแล้ว เธอไม่ให้ซินห้าวพูด เฉินเวยจะได้ไม่ต้องมายุ่มย่าม
หวางนิวพยักหน้า
เฉินเวยรีบดึงเสื้อหวางนิว แต่หวางนิวไม่สนใจเธอ มองแต่ซินห้าว ยิ่งมองก็ยิ่งดีใจ
ตอนที่เฉินจงพาหวางจวนกลับมาก็เห็นภรรยาตัวเองมองซินห้าวแล้วยิ้มออกมา เขาส่ายหน้าทำอะไรไม่ได้รู้ว่าภรรยามองเขาแบบแม่ยายมองลูกเขย ยิ่งมองก็ยิ่งชอบใจ
จนเจ้าอ้วนบอกเรื่องขอแต่งงานกับหวางจวนแล้ว หวางจวนแสดงความตกใจปนดีใจ จากนั้นนัยน์ตาเธอแดง แล้วส่ายหน้า พูดขึ้นมา “ฉันไม่ตกลง ฉันไม่แต่ง”
จากนั้นเธอวิ่งกลับเข้าไปในห้อง
คนในบ้านอึ้งกันหมด คิดไม่ถึงว่าหวางจวนจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ เฉินเวยกลับถอนหายใจยาวออกมา มองเจ้าอ้วนอย่างสะใจที่โดนปฏิเสธ สมน้ำหน้า! เป็นแบบนี้ทั้งชีวิตก็ไม่ได้แต่งงานหรอก
เจ้าอ้วนเบิ่งตาโต ถูมือไปมา แต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร ได้แต่มองซินห้าว ซินห้าวก็มองเฉินเยี่ยน
“ฉันไปดูให้ พวกคุณนั่งกันก่อน”
เฉินเยี่ยนบอกให้ทุกคนอย่าเพิ่งตกใจ แล้วเธอก็เข้าไปในห้องหวางจวน
หวางจวนกำลังร้องไห้
“จวนเอ๋อร์ เธอไม่ได้ชอบเจ้าอ้วน?”
เฉินเยี่ยนนั่งลงข้างหวางจวน
“ไม่ใช่ พี่ เจ้าอ้วนเขาเป็นคนดี ฉันทำร้ายเขาไม่ได้ ฉันเป็นแบบนี้ เขาสู่ขอไป คนอื่นจะหัวเราะเยาะเขา ฉันทำให้เขาขายหน้าไม่ได้”
หวางจวนรีบอธิบาย เสียงสั่นเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าเธอเสียใจ
“มีอะไรน่าขายหน้า? เธอรู้มาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือว่าตัวเองเป็นคนใช้ชีวิต ตอนที่เธอยังไม่กลับมาฉันถามเจ้าอ้วนแล้ว เธอรู้ไหมว่าเขาพูดยังไง?”
เฉินเยี่ยนเพิ่งรู้ว่าหวางจวนยังไม่หลุดพ้นจากปมในจิตใจ
หวางจวนเงยหน้ามองเฉินเยี่ยน ใบหน้ามีน้ำตาอยู่ แต่แววตาข้างในกลับมีประกายแห่งความหวัง ชัดเจนแล้วว่าเธอไม่ได้ไม่อยากแต่งงานจริงๆ แต่กลัวคนรังเกียจเธอ
เฉินเยี่ยนเล่าคำพูดของเจ้าอ้วนให้หวางจวนฟัง หวางจวนปิดหน้าร้องไห้
“จวนเอ๋อร์ ถ้าเธอชอบเจ้าอ้วน เธอก็ต้องมีความกล้า หาคนที่ใช่มันไม่ง่าย ชีวิตเป็นของตัวเอง ขอแค่เธอดีกับเจ้าอ้วน ไม่สนว่าคนอื่นจะมองยังไง ทั้งหมู่บ้านนี้ คิดว่าอีกหน่อยคงไม่ได้เจอใครที่จริงใจกับเธอแบบนี้อีกแล้ว ถ้าใจเธอไม่ได้มีเขา พี่ก็จะไม่พูดมาก พวกเราไปตอบเขากัน”
เฉินเยี่ยนคิดว่าพูดโน้มน้าวมากพอแล้ว หวางจวนน่าจะเข้าใจ
“อย่า พี่ ฉัน ใจฉันมีเขาอยู่”
หวางจวนหน้าแดงเล็กน้อย แต่ยังพูดออกมา
“ได้ งั้นเธอไปบอกเจ้าอ้วนด้วยตัวเอง เขาเป็นคนตรงๆ ถ้าเธอไม่บอกเขาเอง ฉันกลัวว่าเขาจะไม่เชื่อ”
เฉินเยี่ยนตบบ่าหวางจวน เธอหวังจะให้หวางจวนได้มีความสุข
หวางจวนดูเลิ่กลั่กก่อน แต่ต่อมาก็พยักหน้า หลังเธอพยักหน้า สีหน้าเธอก็ดูมั่นใจขึ้นมา หลังตั้งตรง เธอกำหมัด ความสุขอยู่ในมือเธอ เธอต้องไขว่คว้าด้วยตัวเอง
หวางจวนตามเฉินเยี่ยนออกมาจากห้องมาที่โถงบ้าน
“เจ้าอ้วน”
หวางจวนตะโกนเรียก น้ำตากลั้นไม่อยู่ร่วงลงมา
“จวนเอ๋อร์ อย่าร้องไห้ ฉันสงสาร ถ้าเธอชอบไม่ชอบฉัน เธอแค่บอกฉันมา อย่าทำร้ายตัวเอง อีกหน่อยฉันจะเป็นเธอเป็นแค่น้องสาว ใครมารังแก ฉันก็จะช่วยเธอ”
เจ้าอ้วนมองหวางจวนด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย สีหน้ายังมีความสงสาร
หวางจวนทนไม่ไหวสะอื้นออกมา มีคนเป็นห่วงเธอ ความรู้สึกที่ออกหน้าแทนเธอนี้ช่างดีจริง
“เจ้าอ้วน ฉันตกลง ฉันไม่ได้ไม่ชอบเธอ ให้ชัดเจน
“ฉันจะรังเกียจเธอได้ยังไง ฉันคิดว่าเธอดีมาก ดีเหมือนพี่เยี่ยนจื่อเลย”
เจ้าอ้วนพูดจบยังหัวเราะออกมาอย่างจริงใจ
หวางจวนเห็นเขาแบบนี้แล้วอดขำไม่ได้ ยิ้มทั้งน้ำตา เป็นยิ้มแห่งความสุข
“ดี พวกเธอสองคนตกลงกันได้ก็ดีแล้ว เรื่องนี้ถือว่าเป็นอันตกลง เรื่องต่อไปพวกเราคุยกันแล้ว ฝั่งเจ้าอ้วนไม่มีใคร ไม่ได้เรียกร้องอะไร มีเพียงแต่ฝั่งหวางจวน จะไปบอกฝั่งบ้านเธอสักหน่อยไหม?”
หวางนิวดีใจกับพวกเขา แต่คิดถึงบ้านหวาง เธอก็เป็นกังวล เธอคิดว่าฝั่งนั้นต้องก่อเรื่องแน่
“คุณป้า ฝั่งนั้นหนูไปพูดเอง แต่ คุณป้าคะ ถึงเวลาหนูขอแต่งงานที่นี่ได้หรือไม่คะ?”
หวางจวนคิดว่าที่นี่เป็นบ้านมาตั้งนานแล้ว
“ทำไมจะไม่ได้ เธอก็เป็นลูกสาวของป้า วางใจได้ แค่เธอยอม ก็แต่งที่นี่ล่ะ ป้าดีใจนะ”
หวางนิวตอบตกลงอย่างดีอกดีใจ
เฉินจงก็ยิ้มพยักหน้า หวางจวนน่าจะแต่งงานโดยเร็วที่สุด เขาจะส่งเจ้าสาวเสมือนเธอเป็นลูกสาว
หวางจวนมองเจ้าอ้วน มองคนบ้านเฉิน เธอรู้สึกได้ถึงความสุขอย่างไม่เคยมีมาก่อน ที่แท้หลุดพ้นจากเรื่องนั้น เธอก็มีวันที่มีความสุขเหมือนกัน เธอไม่ต้องไปอิจฉาเยี่ยนจื่อและซินห้าวแล้ว เธอก็มีคนของเธอแล้ว ชีวิตนี้ สวรรค์มีเมตตากับเธออยู่